เนื่องจากผมได้มีโอกาสไปเที่ยวยุโรปกับเพื่อนรวมทั้งหมด 6 คน เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน-ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา เลยจะมาเล่าประสบการณ์ในการขอ Tax Refund ที่สนามบินแฟรงเฟิร์ต

ทริปนี้ผมบินลงที่อัมสเตอร์ดัมและบินกลับไทยจากแฟรงเฟิร์ต โดยประเทศที่ไปมี Netherlands-Belgium-Luxembourg-Germany โดยหลาย ๆ ท่านอาจจะรู้วิธีการอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นสนามบินยอดนิยม ตัวผมเคยทำ refund ที่ปารีส และอิตาลีมาก่อนแล้ว แต่ครั้งนี้ผมจะขอเล่าเป็นประสบการณ์ในส่วนที่ได้เจอให้อ่านกัน เนื่องจากก่อนวัน refund ผมลองหาข้อมูลในพันทิพและ google ยังเป็นข้อมูลเก่าและไม่ละเอียดมาก

บริษัทที่ทำ Refund ในยุโรปทริปที่ผมไปมีอยู่ สองเจ้าคือ Global Blue และ Premier Tax free อยู่ที่ว่าร้านนั้นผูกไว้กับบริษัทอะไร ถึงแม้จะเป็น shop ยี่ห้อเดียวกันก็อาจจะต่างบริษัทก็ได้

เมื่อไปช็อปปิ้งซื้อของ เราก็ต้องบอกพนักงานด้วยว่าต้องการ  Tax Refund ซึ่งเค้าจะมีขั้นต่ำในการซื้อบอก ไม่เท่ากันแต่ละประเทศ โดยเอกสารที่เราจะได้จากร้านมีสองอย่างและห้ามหายคือ
1.ใบเสร็จ
2.เอกสารแบบฟอร์มที่ใช้ refund โดยเอกสารนี้ร้านอาจจะพิมพ์กรอกมาให้เหลือแค่เราเซ็นชื่อ หรือเราอาจจะต้องกรอกข้อมูลเองทั้งหมด

เมื่อไปถึงสนามบินแฟรงเฟิร์ต สิ่งที่ควรทำอันดับแรกคือเช็คอินก่อน ถ้ามีของอยู่ในกระเป๋าก็ต้องบอกจนท.ด้วยว่าจะเอากระเป๋าไป refund เค้าก็จะชั่งน้ำหนักกับติด Tag กระเป๋าให้ก่อน แล้วเราค่อยเอามาโหลดลงที่ Customs หรือศุลกากร ถ้าเรามีกระเป๋าเดินทางสองใบ แต่มีของที่จะรีฟันอยู่ในกระเป๋าแค่ใบเดียว จนท.ก็จะให้กระเป๋าเราออกมาหนึ่งใบ ส่วนอีกใบก็โหลดไปตรงเช็คอินเลย ถ้าไม่เช็คอินก่อน เจ้าหน้าที่ตรงศุลกากรก็จะให้กลับมาเช็คอินอยู่ดี ดังนั้นควรไปเช็คอินตั้งแต่เนิ่น ๆ

สิ่งที่ต้องทำอันดับที่สองคือ นำสิ่งของ ใบเสร็จ เอกสารแบบฟอร์ม refund จากร้าน พาสปอร์ต และบอร์ดดิ้งพาส ไปที่เคาน์เตอร์ศุลกากรเพื่อปั๊มตรา โดยเคาน์เตอร์ศุลกากรที่ผมไปจะอยู่บริเวณ หน้าทางเข้า โซนของ gate B และบริษัทที่ refund ทั้งสองบริษัทก็จะอยู่ที่ตรงข้าม ศุลกากรพอดี ห่างกันประมาณ 10 ก้าว ซึ่งหลังจากสำแดงของและปั๊มตราเสร็จเค้าก็จะให้โหลดกระเป๋าตรงนั้นเลย จะ carry on ไม่ได้ ถ้า carry on ต้องไปปั๊มตราข้างในหลังผ่านตม.อีกที
***ข้อเสนอแนะ ในเพื่อนที่ไปด้วยกันทั้งหมด 6 คนของผม บางคนต้องเปิดกระเป๋าออกมาดู บางคนแค่บอกว่าของอยู่ข้างใน บางคนดูแค่ถุง บางคนขอจับดูสินค้า ซึ่งอยู่ที่ดวงแต่ละคนด้วย ดังนั้นใครจะ Wrap กระเป๋าไม่แนะนำอย่างยิ่ง ถ้ามีของที่ต้องสำแดงข้างในกระเป๋าเดินทาง อย่างของเพื่อนผมมีเสื้อซาร่าที่ซื้อมาในกระเป๋าแต่เค้าจะดูให้ได้ สุดท้ายก็ไม่เอา refund เพราะได้คืนไม่คุ้มกับค่า wrap ใหม่  แต่ที่สำคัญที่ควรรู้คือ ที่ข้างนอกจะต้องเป็นของที่ Load ใต้ท้องเครื่องเท่านั้น ถ้าเป็นของที่ Carry on ต้องไปสำแดงที่ศุลกากรข้างในหลังผ่านตม.แล้ว และที่สำคัญมาก ๆ ๆ ๆ คือกระเป๋า Chanel ต้องไปปั๊มตราข้างในหลังจากผ่านตม.เท่านั้น!!! จริง ๆ อาจจะมียี่ห้ออื่นอีกแต่ผมไม่รู้ ส่วนถ้าใครซื้อกระเป๋าเดินทางจากที่นู่นแล้วทำรีฟันก็ลากไปจะใส่ของข้างในเค้าก็ไม่ว่า แค่เอาไปให้ดูแล้วก็โหลดที่นั่นเลย

สิ่งที่ต้องทำอันดับสามคือ เดินไปฝั่งตรงข้ามจะเห็นบริษัท refund อยู่ทั้งสองบริษัท เราก็แยกเอกสารและใบเสร็จแล้วไปยื่นให้เรียบร้อย อยู่ที่ว่าจะเอาคืนแบบไหน เงินสดหรือบัตรเครดิต โดยที่ถ้าขอเป็นเงินสดจะมีค่าธรรมเนียมดังนี้
- 0-1.5 EUR only credit card
- 1.51-5.00 EUR คิด 1.5 EUR
- 5.01-50 EUR  คิด 3 EUR
- 50.01-100 EUR คิด 5 EUR
- 100.01-500 EUR คิด 5%
- > 500.01 EUR คิด 25 EUR
โดยค่าธรรมเนียมจะคิดต่อ 1 ใบเสร็จ ไม่ได้คิดจากยอดรวม ดังนั้นถ้ายอดคืนไม่มากอาจจะได้ไม่คุ้มถ้ารับเป็นเงินสด
ตอนผมไปขอรีฟันช่วงนั้นคนไม่เยอะ รอไม่นานไม่มีปัญหาอะไร เค้าเตอร์เปิดเยอะ แต่ถ้าเจอทัวร์อาจจะช้า

สิ่งที่ต้องทำอันดับสี่คือ กรณีมีของ Carry on ที่ต้องไปสำแดงและปั๊มตราข้างใน หลังจากผ่านตม.ไปแล้ว เราก็ต้องเดินหาศุลกากรข้างในซึ่งอยู่แถว ๆ Gate B41 จะเป็นซอกเข้าไปแคบ ๆ เหมือนทางเข้าห้องน้ำ เป็นห้องในสุด โดยในห้องมีสองเคาน์เตอร์ หน้าทางเข้าซอกแคบ ๆ ก็จะเห็นเคาน์เตอร์ Global blue ก่อน ข้างในที่ผมไปคนไม่เยอะแต่เจ้าหน้าที่ที่ผมเจอจะขอดูของทุกชิ้น เรียงใบเสร็จ แล้วให้เราโชว์ แต่ไม่ได้ให้โชว์ของ แค่โชว์ถุงที่ใส่ ส่วนเพื่อนผมต้องถอดถุงใส่และขอดูสินค้า พอดูเสร็จแต่ละชิ้นก็ปั๊มเป็นใบ ๆ ข้างในผมว่า strict กว่าข้านอกพอควร อาจจะเพราะคนน้อย เวลาเลยเยอะ

สิ่งที่ต้องทำอันดับสุดท้ายคือ ไปเคาน์เตอร์บริษัท refund โดย Global blue จะอยู่ปากทางออกจากซอกพอดี ส่วนของ Premier tax free จะเป็นซุ้มตรงกันข้าม global blue ซึ่งจะไม่ได้ใช้ชื่อ Premier Tax free แต่เค้าจะเขียนป้ายว่า Tax refund here ลักษณะเหมือนเค้าจะฝากให้ refund กับตู้แลกเงินของ Travelex สีแดงน้ำเงิน process ทุกอย่างทำเหมือนข้างหน้าเป๊ะ ***แต่!!!.....ถ้าใครต้องรีฟันของ premiere tax free แล้วขอเป็นเงินสด คุณอาจจะได้เป็นเงินดอลล่าแทน โดยไม่เปลี่ยนอัตราแลก เช่น เราต้องได้ refund คืน 80 ยูโร แต่ premier tax free จะให้เราเป็น 80 ดอลล่าสหรัฐ เค้าจะให้เหตุผลว่าเพราะเป็นเงินปริมาณมาก เงินยูโรไม่พอ???  ซึ่งขาดทุนมาก ๆ แนะนำเอาเข้าบัตร ส่วน Global blue ได้เป็นยูโรปกติไม่มีปัญหาอะไร และที่สำคัญมาก ๆ อีกอย่างคือ Chanel ต้องเป็นใบเสร็จจริงเท่านั้นห้ามเป็น copy ซึ่งถ้าเราไปซื้อของบางครั้งใบเสร็จที่เค้าเย็บกับฟอร์มขอ refund จะเป็น copy โดยแยกตัวจริงเอาไว้ให้เรา ปกติถ้าเป็นร้านอื่นไม่มีปัญหา ยกเว้น Chanel ถ้าไม่ได้ตัวจริงจะไม่ได้ refund เลย

สุดท้ายจะขอแนะนำว่า
- ไปถึงสนามบินให้เร็ว เพราะถึงคนไม่เยอะ แต่ Process ค่อนข้างนาน ยิ่งหลายใบเสร็จยิ่งนาน
- ถ้าเป็นของโหลดได้ก็ทำให้เสร็จตั้งแต่ข้างหน้าดีกว่า ไปข้างในคนน้อย process กว่า และอาจจะได้ดอลล่าแทนยูโร
- เก็บใบเสร็จและเอกสารให้เรียบร้อยแยกบริษัทให้ชัดเจน กรอกให้เสร็จตั้งแต่ก่อนไปสนามบิน
- เอาเป็นเงินสดหรือเอาเข้าบัตรเครดิตแล้วแต่คนชอบ เพราะมีความเสี่ยงแตกต่างกันไป
- การขอดูสินค้าของจนท.แล้วแต่ดวง แล้วแต่คน ถึงแม้ของเล็ก ๆ อย่างเสื้อหรือช็อกโกแลตไม่กี่ยูโร ถ้าเค้าจะดูแล้วไม่มีให้ดู พูดยังไงก็ไม่ได้ refund
- ระวังเรื่องน้ำหนักของ carry on เพราะบางสายการบินสุ่มชั่งก่อนขึ้นเครื่อง
- ถ้าเทียบกับปารีส ที่นี่คนน้อยกว่าเยอะ แต่ถามว่าเร็วกว่ามั้ย ผมไม่แน่ใจ เพราะผมใช้เวลาไปทั้งหมดเกือบ 2 ชม. โดยผมมี 5 ใบเสร็จ เป็นของจุบจิบ
- ข้อสังเกตคือจนท.ส่วนใหญ่เค้าจะดูยี่ห้อสินค้าก่อน โดยที่เค้าจะไม่ได้ดูรายละเอียดว่าสินค้าคืออะไร คือถ้ายกถุงมาก็จบ ยกเว้นของแพงมาก ๆ หรือพวกกระเป๋าแพง ๆ
- จนท.ใจดี อัธยาศัยดี อธิบายละเอียด แต่.....เคร่งพอควร
- มีอีกเรื่องคือ สิ่งที่ผมเจอจากการแยกโหลดกระเป๋าที่เคาน์เตอร์เช็คอินกับศุลกากรคือ กระเป๋าผมและเพื่อนดีเลย์เหมือนกันคนละใบ ซึ่งเกิดจากเครื่องดีเลย์จากต้นทาง พอถึงประเทศ Transit บอร์ด flight ที่กลับไทยไม่ทัน เลยต้องเปลี่ยน flight  กลายเป็นว่า ใบที่ Load  ตรงเช็คอินไม่ถึงไทย แต่ที่โหลดกับศุลกากรถึงพร้อมผม เพื่อนก็เป็น แต่ยังดีที่เค้าส่งมาให้ถึงบ้านตอนตีหนึ่ง (จนท.ก็อุตส่าห์โทรหาตอนตีหนึ่ง)

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบ  ผมตั้งกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกไว้ เผื่ออนาคตไปเที่ยวจะได้กลับมาอ่านเองอีกครั้ง