refer link :
https://cleantechnica.com/2018/09/09/tesla-model-3-becomes-1-best-selling-car-in-the-us/
ทำไมคนอเมริกาถึงเปลี่ยนใจมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า Tesla กันเยอะ
บทความนี้ เป็น version ฝึกเขียนน่ะครับ ผิดถูกอย่างไรก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ยินดีรับฟังทุกคำติชมครับ
ผมจะลองจำแนกแยกออกมาเป็นข้อๆ น่ะครับ
1. low maintenance cost - รถยนต์ที่ใช้น้ำมันนั้นอย่างที่รู้ว่า เรื่องบำรุงซ่อมรักษาต่อปีนี้แพงมากๆ
ต่อให้ใช้รถที่ดีแค่ไหน อย่างน้อย ก็ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องปีล่ะ 2 ครั้ง
ของเหลวอื่นๆ ทุกๆ 1-2 ปี
แต่ถ้าเป็นรถไฟฟ้าแล้ว ขับไป 1 ปีหรือ 12,000 ไมล์(19,200 กิโลเมตร)แล้วค่อยเข้าศูนย์
Tesla นั้นประกัน battery + motor (เรียกว่าทั้งชุดขับเคลื่อน) เอาไว้ที่ 100,000 ไมล์(160,000 กิโลเมตร)หรือ 8 ปี(standard warranty)
แถมค่าซ่อมหลังหมดประกัน ค่าซ่อมก็พอๆ กันกับ Toyota
ส่วนถ้าจะซ่อมเอง ใน YouTube ก็มีวิดีโอสอนซ่อมหมด(ประมาณว่า ถ้าประกอบ Lego กันเป็น ก็ซ่อมรถ Tesla ได้เพราะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า และ musk แกก็พยายามสร้างรถให้ซ่อมง่ายที่สุด)
วิดีโอ : สอนวิธีซ่อมที่จับประตูรถยนต์ไฟฟ้า tesla model S
ส่วนแบตเตอร์รี่ของตัว tesla model 3 นั้น ราคาอยู่ที่ $7,500(หรือ 220,000 บาท)
ณ ปัจจุบัน ราคา battery อยุ่ที่ $150 / kwh
ซึ่งมีแนวโน้มว่า ราคา ของ battery จะถูกลงไปเรื่อยๆ เพราะมีการผลิตที่ดีขึ้นและเทคโนโลยีที่ดีขึ้น
กราฟ : แนวโน้มราคา แบตเตอรี่ ย้อนหลังจนไปถึง อนาคต (2015-2025)
ถ้าจะมองว่า แพงก็แพงน่ะ ฮ่า ๆ
แต่ถ้าใช้งานรถยนต์ 8 ปีหรือ 160,000 ไมล์แล้ว
ในส่วนตัวผมคิดว่า ค่าบำรุงรถจะแพงกว่านี้แน่นอน
คนอเมริกันฐานะปานกลางเลยเปลี่ยนมาใช้กันเยอะครับ
กราฟ : ค่าบำรุงรักษารถยี่ห้อต่างๆ ที่ต้องจ่ายเป็นรายปี
ส่วน tesla นั้น 8 ปีแรกก็จ่ายแค่ ค่ายาง, ที่ปัดน้ำฝน, ล้างแอร์ จบแระ
2. performance - 0-100 km/h ตัว performance ของ model 3 ตัว top ทำเอาไว้อยู่ที่ 3.3 sec..
เราลองมาดูกันดีกว่าว่า รถอะไรบ้างที่ทำความเร็ว 0-100 km/h ได้ 3.3 วินาที
Mercedes-AMG GT S - 3.7 วินาที(ราคา 16 ล้านบาท)
2015 Aston Martin V12 Vantage S - 3.7 วินาที (ราคา 20 ล้านบาท)
2015 Ferrari California T - 3.3 วินาที (ราคา 20 ล้านบาท ที่ไทย)
2011 Lamborghini Gallardo LP550-2 Bicolore - 3.4 วินาที (ราคา 11 ล้านบาท ที่ไทย)
2016 Lamborghini Huracan LP 580-2 - 3.2 วินาที (ราคา 25 ล้านบาท ที่ไทย)
ลองเอามาเปรียบเทียบกับพวกที่ราคาใกล้เคียงกันบ้างดีกว่า
2017 Audi RS Q3 Performance - 4.4 วินาที(ราคา 2.4 ล้านบาท ที่ยูโรป)
2017 BMW M3 Competition M Performance Package Sedan - 3.8 วินาที(7 ล้านบาท)
2019 Mercedes-AMG® C 63 S Coupe - 4.4 วินาที (ราคาที่ไทย 10 ล้านบาท)
ปล. tesla model 3 performance ราคาประมาณ 64,000 เหรียญหรือ 2 ล้านบาท(ถ้าซื้อแล้ว รัฐบาลจ่าย tax incentive ให้อีก 7,500 เหรียญคืนกลับมาปลายปีอีก)
ปล2. อันนี้เป็น การเทียบ performance แบบคร่าวๆ น่ะครับ แน่นอนว่า ถ้าเอามาอัดกันจริงๆ tesla model 3 performance คงจะสู้พวกพี่ๆ supercar ไม่ได้ ก็แน่นอนล่ะ ใครบ้างจะเอารถที่ราคาเท่ากับ toyota camry ไปสู้ super car ในทุกรูปแบบ
clip : tesla model 3 ซัดกับ BMW M3
3. technology - ทุกวันนี้เรียกได้ว่า tesla model 3 เป็นรถที่ hi-tech ที่สุดในโลกแล้ว
มีระบบ auto-pilot ซึ่ง update ทุกคืนๆ ที่กลับเข้ามาบ้าน(the-air updates)
แถมยังทำการ update firmware ในทุกๆ เดือนจากศูนย์ผ่าน ระบบ 4G LTE free น่ะจ๊ะ
ระบบ internet LTE ที่ tesla ให้มากับรถนั้นเป็นแบบ basic คือ ใช้งานเพื่อ upload - download ข้อมูลจากศูนย์เท่านั้น
ถ้าใครอยากได้ internet เพื่อใช้ฟังเพลงหรือดูหนัง ก็จ่ายเพิ่มเดือนล่ะ 10 เหรียญจ่าาาา
4. สิ่งแวดล้อม (environment)
คนที่อนุรักษ์นิยมในอเมริกานั้นเยอะมาก
แต่ผมมองว่า ประชาชนคนไหน เค้าก็อยากให้เมืองตัวเองเป็น green city ทั้งนั้น
การใช้รถยนต์ไฟฟ้านั้นเป็นผลดีกับเมืองของพวกเค้าเพราะการปล่อยมลภาวะทางอากาศ จำพวก คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ก็จะน้อยลง
5. fuel หรือ เชื้อเพลิง
tesla driver ทุกคนสามารถชาร์จไฟรถได้จากที่บ้านตัวเอง
การชาร์จ 1 ครั้งเสียเงินประมาณ 10 เหรียญหรือ 330 บาท(คิดจากค่าไฟ หน่วยล่ะ 4 บาท)
แต่อเมริกาเค้ามีโปรโมชั่นใช้ไฟฟ้าฟรีน่ะครับ
ยกตัวอย่างรัฐที่ผมอยู่ texas
เค้ามีโปรให้ใช้ไฟฟ้าฟรีตั้งแต่ 3 ทุ่มถึง 6 โมงเช้า
ดังนั้นผมเชื่อว่า tesla driver หลายคนก็ตั้ง schedule(เวลา)ในการชาร์จรถไปตอนหลัง 3 ทุ่มกันทั้งนั้น
ส่วนจะ charge รถยนต์ไฟฟ้า tesla เวลาอื่น ก็ตกหน่วยล่ะ 4 บาท(12.3 cent) ดังนั้นต่อให้ชาร์จรถตอนเช้าก็เสียเงินไม่ถึง 10 เหรียญแน่นอน
อัตราการชาร์จโดยใช้งานที่ชาร์จแต่ล่ะประเภท
ส่วนระยะเวลาในการชาร์จจาก 1% ไปถึง 100% นั้นก็ใช้ระยะเวลาประมาณ 12 ชั่วโมง(ชาร์จที่บ้าน) หรือ เกือบๆ 2 ชั่วโมง(ชาร์จที่ super charger)
แต่ใครจะใช้รถยนต์ไฟฟ้าวันนึงถึง 300 ไมล์(หรือ 480 กิโลเมตร) ในทุกๆ วันแหละครับ
ส่วน 0-80 % นั้นใช้ระยะเวลาประมาณ 5 ชั่วโมงครึ่งหรือ 44 นาที (ชาร์จที่ super charger)
คำนวณจากอัตราการชาร์จที่ 46 miles per hour(เครื่องชาร์จที่บ้าน 220v 48 amp)
หมายเหตุ : ส่วนใหญ่คนที่ใช้ tesla ที่นี่ จะชาร์จรถตัวเองให้แบตเตอรี่ถึง 80% เพราะเป็นการยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ life-cycle ของมันก็จะยาวนานยิ่งขึ้นครับ
ปล. อันนี้ กระทู้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมน่ะครับ
ผมยังมีความเชื่อว่า หลายๆ ประเทศ ยังไม่พร้อมมมมมมมมมมมมมม ที่จะนำรถคันนี้เข้ามาขายน่ะครับ
เพราะรัฐบาลหรือคนที่บริหารประเทศยังมองว่า
ไม่จำเป็น ครับ
ผมเพิ่งได้ข้อมูลมาจากความเห็นที่ 3 และ 4 ว่า
ที่ไทยมีรถยนต์ไฟฟ้า tesla วิ่งกันนานแล้ว
และรัฐบาลไทยก็ยินดีที่จะยกเว้นภาษีให้อีกด้วย
ใครมีข้อมูลเพิ่มเติม หรืออยากแนะนำอะไรก็comment ข้างล่างนี้ด้วยน่ะครับ
UPDATE : วันที่ 14 ตุลาคม 2561
เข้ามา update ยอดขายรถยนต์ ของประเทศอเมริกา เดือน กันยายนครับ
Top 20 Cars in USA September
ยอดขายรถที่ขายดีที่สุด 20 คัน ในประเทศอเมริกา ณ เดือนกันยายน
ยอดขายรถที่ขายดีที่สุด 20 คันในรุ่น Luxury car
Update Sale เดือนกันยายน
ยอดขายรถยนต์ทั้งหมดของสหรัฐอเมริกา
ทำไมคนอเมริกาถึงเปลี่ยนใจมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า Tesla กันเยอะ
refer link : https://cleantechnica.com/2018/09/09/tesla-model-3-becomes-1-best-selling-car-in-the-us/
ทำไมคนอเมริกาถึงเปลี่ยนใจมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า Tesla กันเยอะ
บทความนี้ เป็น version ฝึกเขียนน่ะครับ ผิดถูกอย่างไรก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ยินดีรับฟังทุกคำติชมครับ
ผมจะลองจำแนกแยกออกมาเป็นข้อๆ น่ะครับ
1. low maintenance cost - รถยนต์ที่ใช้น้ำมันนั้นอย่างที่รู้ว่า เรื่องบำรุงซ่อมรักษาต่อปีนี้แพงมากๆ
ต่อให้ใช้รถที่ดีแค่ไหน อย่างน้อย ก็ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องปีล่ะ 2 ครั้ง
ของเหลวอื่นๆ ทุกๆ 1-2 ปี
แต่ถ้าเป็นรถไฟฟ้าแล้ว ขับไป 1 ปีหรือ 12,000 ไมล์(19,200 กิโลเมตร)แล้วค่อยเข้าศูนย์
Tesla นั้นประกัน battery + motor (เรียกว่าทั้งชุดขับเคลื่อน) เอาไว้ที่ 100,000 ไมล์(160,000 กิโลเมตร)หรือ 8 ปี(standard warranty)
แถมค่าซ่อมหลังหมดประกัน ค่าซ่อมก็พอๆ กันกับ Toyota
ส่วนถ้าจะซ่อมเอง ใน YouTube ก็มีวิดีโอสอนซ่อมหมด(ประมาณว่า ถ้าประกอบ Lego กันเป็น ก็ซ่อมรถ Tesla ได้เพราะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า และ musk แกก็พยายามสร้างรถให้ซ่อมง่ายที่สุด)
วิดีโอ : สอนวิธีซ่อมที่จับประตูรถยนต์ไฟฟ้า tesla model S
ส่วนแบตเตอร์รี่ของตัว tesla model 3 นั้น ราคาอยู่ที่ $7,500(หรือ 220,000 บาท)
ณ ปัจจุบัน ราคา battery อยุ่ที่ $150 / kwh
ซึ่งมีแนวโน้มว่า ราคา ของ battery จะถูกลงไปเรื่อยๆ เพราะมีการผลิตที่ดีขึ้นและเทคโนโลยีที่ดีขึ้น
กราฟ : แนวโน้มราคา แบตเตอรี่ ย้อนหลังจนไปถึง อนาคต (2015-2025)
ถ้าจะมองว่า แพงก็แพงน่ะ ฮ่า ๆ
แต่ถ้าใช้งานรถยนต์ 8 ปีหรือ 160,000 ไมล์แล้ว
ในส่วนตัวผมคิดว่า ค่าบำรุงรถจะแพงกว่านี้แน่นอน
คนอเมริกันฐานะปานกลางเลยเปลี่ยนมาใช้กันเยอะครับ
กราฟ : ค่าบำรุงรักษารถยี่ห้อต่างๆ ที่ต้องจ่ายเป็นรายปี
ส่วน tesla นั้น 8 ปีแรกก็จ่ายแค่ ค่ายาง, ที่ปัดน้ำฝน, ล้างแอร์ จบแระ
2. performance - 0-100 km/h ตัว performance ของ model 3 ตัว top ทำเอาไว้อยู่ที่ 3.3 sec..
เราลองมาดูกันดีกว่าว่า รถอะไรบ้างที่ทำความเร็ว 0-100 km/h ได้ 3.3 วินาที
Mercedes-AMG GT S - 3.7 วินาที(ราคา 16 ล้านบาท)
2015 Aston Martin V12 Vantage S - 3.7 วินาที (ราคา 20 ล้านบาท)
2015 Ferrari California T - 3.3 วินาที (ราคา 20 ล้านบาท ที่ไทย)
2011 Lamborghini Gallardo LP550-2 Bicolore - 3.4 วินาที (ราคา 11 ล้านบาท ที่ไทย)
2016 Lamborghini Huracan LP 580-2 - 3.2 วินาที (ราคา 25 ล้านบาท ที่ไทย)
ลองเอามาเปรียบเทียบกับพวกที่ราคาใกล้เคียงกันบ้างดีกว่า
2017 Audi RS Q3 Performance - 4.4 วินาที(ราคา 2.4 ล้านบาท ที่ยูโรป)
2017 BMW M3 Competition M Performance Package Sedan - 3.8 วินาที(7 ล้านบาท)
2019 Mercedes-AMG® C 63 S Coupe - 4.4 วินาที (ราคาที่ไทย 10 ล้านบาท)
ปล. tesla model 3 performance ราคาประมาณ 64,000 เหรียญหรือ 2 ล้านบาท(ถ้าซื้อแล้ว รัฐบาลจ่าย tax incentive ให้อีก 7,500 เหรียญคืนกลับมาปลายปีอีก)
ปล2. อันนี้เป็น การเทียบ performance แบบคร่าวๆ น่ะครับ แน่นอนว่า ถ้าเอามาอัดกันจริงๆ tesla model 3 performance คงจะสู้พวกพี่ๆ supercar ไม่ได้ ก็แน่นอนล่ะ ใครบ้างจะเอารถที่ราคาเท่ากับ toyota camry ไปสู้ super car ในทุกรูปแบบ
clip : tesla model 3 ซัดกับ BMW M3
3. technology - ทุกวันนี้เรียกได้ว่า tesla model 3 เป็นรถที่ hi-tech ที่สุดในโลกแล้ว
มีระบบ auto-pilot ซึ่ง update ทุกคืนๆ ที่กลับเข้ามาบ้าน(the-air updates)
แถมยังทำการ update firmware ในทุกๆ เดือนจากศูนย์ผ่าน ระบบ 4G LTE free น่ะจ๊ะ
ระบบ internet LTE ที่ tesla ให้มากับรถนั้นเป็นแบบ basic คือ ใช้งานเพื่อ upload - download ข้อมูลจากศูนย์เท่านั้น
ถ้าใครอยากได้ internet เพื่อใช้ฟังเพลงหรือดูหนัง ก็จ่ายเพิ่มเดือนล่ะ 10 เหรียญจ่าาาา
4. สิ่งแวดล้อม (environment)
คนที่อนุรักษ์นิยมในอเมริกานั้นเยอะมาก
แต่ผมมองว่า ประชาชนคนไหน เค้าก็อยากให้เมืองตัวเองเป็น green city ทั้งนั้น
การใช้รถยนต์ไฟฟ้านั้นเป็นผลดีกับเมืองของพวกเค้าเพราะการปล่อยมลภาวะทางอากาศ จำพวก คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ก็จะน้อยลง
5. fuel หรือ เชื้อเพลิง
tesla driver ทุกคนสามารถชาร์จไฟรถได้จากที่บ้านตัวเอง
การชาร์จ 1 ครั้งเสียเงินประมาณ 10 เหรียญหรือ 330 บาท(คิดจากค่าไฟ หน่วยล่ะ 4 บาท)
แต่อเมริกาเค้ามีโปรโมชั่นใช้ไฟฟ้าฟรีน่ะครับ
ยกตัวอย่างรัฐที่ผมอยู่ texas
เค้ามีโปรให้ใช้ไฟฟ้าฟรีตั้งแต่ 3 ทุ่มถึง 6 โมงเช้า
ดังนั้นผมเชื่อว่า tesla driver หลายคนก็ตั้ง schedule(เวลา)ในการชาร์จรถไปตอนหลัง 3 ทุ่มกันทั้งนั้น
ส่วนจะ charge รถยนต์ไฟฟ้า tesla เวลาอื่น ก็ตกหน่วยล่ะ 4 บาท(12.3 cent) ดังนั้นต่อให้ชาร์จรถตอนเช้าก็เสียเงินไม่ถึง 10 เหรียญแน่นอน
อัตราการชาร์จโดยใช้งานที่ชาร์จแต่ล่ะประเภท
ส่วนระยะเวลาในการชาร์จจาก 1% ไปถึง 100% นั้นก็ใช้ระยะเวลาประมาณ 12 ชั่วโมง(ชาร์จที่บ้าน) หรือ เกือบๆ 2 ชั่วโมง(ชาร์จที่ super charger)
แต่ใครจะใช้รถยนต์ไฟฟ้าวันนึงถึง 300 ไมล์(หรือ 480 กิโลเมตร) ในทุกๆ วันแหละครับ
ส่วน 0-80 % นั้นใช้ระยะเวลาประมาณ 5 ชั่วโมงครึ่งหรือ 44 นาที (ชาร์จที่ super charger)
คำนวณจากอัตราการชาร์จที่ 46 miles per hour(เครื่องชาร์จที่บ้าน 220v 48 amp)
หมายเหตุ : ส่วนใหญ่คนที่ใช้ tesla ที่นี่ จะชาร์จรถตัวเองให้แบตเตอรี่ถึง 80% เพราะเป็นการยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ life-cycle ของมันก็จะยาวนานยิ่งขึ้นครับ
ปล. อันนี้ กระทู้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมน่ะครับ
ผมยังมีความเชื่อว่า หลายๆ ประเทศ ยังไม่พร้อมมมมมมมมมมมมมม ที่จะนำรถคันนี้เข้ามาขายน่ะครับ
เพราะรัฐบาลหรือคนที่บริหารประเทศยังมองว่า ไม่จำเป็น ครับ
ผมเพิ่งได้ข้อมูลมาจากความเห็นที่ 3 และ 4 ว่า
ที่ไทยมีรถยนต์ไฟฟ้า tesla วิ่งกันนานแล้ว
และรัฐบาลไทยก็ยินดีที่จะยกเว้นภาษีให้อีกด้วย
ใครมีข้อมูลเพิ่มเติม หรืออยากแนะนำอะไรก็comment ข้างล่างนี้ด้วยน่ะครับ
UPDATE : วันที่ 14 ตุลาคม 2561
เข้ามา update ยอดขายรถยนต์ ของประเทศอเมริกา เดือน กันยายนครับ
Top 20 Cars in USA September
ยอดขายรถที่ขายดีที่สุด 20 คัน ในประเทศอเมริกา ณ เดือนกันยายน
ยอดขายรถที่ขายดีที่สุด 20 คันในรุ่น Luxury car
Update Sale เดือนกันยายน
ยอดขายรถยนต์ทั้งหมดของสหรัฐอเมริกา