แค่เพราะเหมือนร่างกายขาดการนอนเต็นท์ เดือนสองเดือนที่ผ่านมาเกือบลืมวิธีกางเต็นท์ไปแล้ว (ฮา...) พอมีเวลาว่างแป๊บปลายเดือนกันยายน เลยอยากหาสถานที่กางเต็นท์แบบง่ายๆ เดินทางสะดวก ไปคนเดียวไม่ต้องง้อใครสักหน่อย กวาดตาดูแล้วเห็นจะมีที่ไหนเพอร์เฟกต์เท่าอุทยานแห่งชาติเอราวัณอีกแล้วล่ะ
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ หรือน้ำตกเอราวัณ กาญจนบุรี เดินทางง่าย สิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสำหรับคนอยากแคมปิ้งสบายๆ ใกล้ธรรมชาติ แม้กระทั่งรถส่วนตัวก็ไม่จำเป็นต้องมีเพราะมีรถโดยสารสาธารณะเข้าถึง
ถ้าเปิดกูเกิ้ลเสิร์ชหารีวิวคงขึ้นข้อมูลมาเพียบชนิดผมไม่ต้องเล่าอะไรสักอย่าง แต่เพราะมันเป็นรีวิวคนอื่นนี่นะไม่ใช่รีวิวผม เลยขอเขียนอะไรๆ เอาไว้ในสไตล์ของตัวเองสักหน่อยแล้วกัน
ใจจริงอยากนั่งรถไฟไปครับ แต่ด้วยเวลาเดินทางไม่อำนวยเลยต้องขึ้นรถตู้ที่หมอชิต มาลง บขส. กาญจนบุรี รถโดยสาร กาญจนบุรี – เอราวัณ อยู่ช่องแรกสุดซ้ายมือถ้าเดินเข้าทางด้านหน้า รถออกประมาณชั่วโมงละคันตามกำหนดเวลา ถ้าตอนบ่ายจะยืดออกไปเป็นชั่วโมงหน่อยๆ
ขึ้นรถแล้วเลือกที่นั่งตามชอบ แนะนำนิดคือรถวิ่งขึ้นทิศเหนือ มาก่อนเที่ยงแดดส่องทางขวา มาบ่ายแดดส่องทางซ้าย การคำนวณทิศทางรถวิ่งเพื่อเลือกที่นั่งให้ถูกฝั่งเป็นทักษะที่ควรมีในการเดินทางครับ (ฮา...)
แค่นั้นแหละครับ ที่เหลือก็รอเวลารถออก นั่งไปสักพักโชเฟอร์จะหยุดรถมาทำหน้าที่เป็นกระเป๋าเดินเก็บค่าโดยสาร ไปน้ำตกเอราวัณควักจ่ายคนละ 50 บาทขาดตัว
กินลมชมวิวไปเรื่อยๆ สัปหงกบ้างว่ากันไป ผ่านโน่น ผ่านนี่ ผ่านนั่น ผ่านเขื่อนท่าทุ่งนา ประมาณชั่วโมงครึ่งก็จะถึงตลาดตำบลเอราวัณ อำเภอศรีสวัสดิ์ แล้วเลี้ยวเข้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ช่วงผ่านด่านเก็บเงินก็จ่ายค่าธรรมเนียมให้เรียบร้อย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
แล้วสุดท้ายรถจะแล่นพาเรามาจอดตรงนี้ ลานจอดรถหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งขากลับเรามารอรถตรงนี้เช่นกัน
ลานจอดรถมีร้านค้าเพียบ คาเฟ่ห้องแอร์เย็นๆ ก็ยังมี เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวอดตาย ร้านส่วนใหญ่จะเปิดแปดโมงเช้าถึงห้าโมงเย็นเศษๆ ใครไม่ได้มาทำอาหารกินเองพอใกล้เย็นก็ออกมาซื้อเตรียมไว้ได้สบายมาก ราคาแพงกว่าทั่วไปนิดหน่อยเป็นเรื่องปกติ ราดข้าว 50 บาท น้ำขวดใหญ่ 20 บาท ประมาณนั้น
ผมนั่งพักกินกาแฟที่คาเฟ่สักแป๊บ ก็ได้เวลาติดต่อเรื่องที่นอนที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ถ้าเป็นบ้านพักเดี๋ยวนี้ระเบียบอุทยานฯ ให้จองล่วงหน้าทางเว็บไซต์ แต่ถ้าเป็นการกางเต็นท์ไม่ต้องจองอะไร วอล์คอินติดต่อเมื่อมาถึงได้เลย
พักกี่คืน เช่าอุปกรณ์อะไรบ้าง เต็นท์ หมอน ถุงนอน เตาถ่าน ติดต่อตรงนี้ เงินยังไม่ต้องจ่ายแค่ลงทะเบียนและทิ้งบัตรประชาชนไว้ก่อน ขากลับค่อยมาจ่ายตอนเอาบัตรคืน ค่าธรรมเนียมเข้าพัก 30 บาท ต่อคน ต่อคืน ส่วนเต็นท์ก็ตามราคาหลังเล็กหลังใหญ่ ตั้งแต่ 150 บาท ถึงสัก 400 บาท อันนี้สอบถามกันเองนะ อช.เอราวัณ โทร. 034574222, 034574234
ติดต่อเสร็จแล้วก็เดินไปกางเต็นท์กันดีกว่า ข้ามสะพานแขวนห้วยม่องไล่ ลานกางเต็นท์ที่นี่สวยและเป็นระเบียบร่มรื่นดี มีโซนติดริมน้ำแควใหญ่ด้วย ห้องน้ำแยกชาย-หญิงสองจุด (แค่งงนิดว่าสร้างห้องน้ำใหญ่โตมีห้องน้ำยี่สิบกว่าห้องแต่ทำไมดันมีห้องอาบน้ำห้องเดียวซะงั้น) ตรงศาลาอเนกประสงค์มีปลั๊กไฟให้ชาร์ตไฟกัน
แต่ก่อนจะลงมือกางเต็นท์ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ที่อาคารเสียก่อน ใครเช่าของอะไรไว้ก็มาเบิกกันตรงนี้
หลังจากนั้นก็เลือกทำเลได้เลย ผมน่ะเจตนาไม่ได้มาเที่ยวน้ำตกหรอก แค่อยากหาที่กางเต็นท์นอนเล่นเฉยๆ ดังนั้นขอวิวสวยๆ ริมแม่น้ำแล้วกัน
กางเต็นท์เสร็จไม่ทันไรปรากฏว่าฝนตกลงมาโครมใหญ่ ดีเหมือนกันเพราะจะได้มุดเต็นท์เข้าไปหลับสักงีบ เสียงฝนเปาะแปะคอยกล่อม แค่นี้ก็ฟินแล้วล่ะ
ฟ้าหลังฝนไม่สดใสเสมอหรอกครับ แต่บรรยากาศหลังฝนในอุทยานแห่งชาติน่ะสดชื่นเสมอเชื่อขนมกินได้ เพราะป่าเจอฝนมันย่อมสดชื่นและมีชีวิตชีวาอยู่แล้ว พอฝนหยุดโผล่ออกมานอกเต็นท์ สิ่งที่เห็นคือความปลอดโปร่งโล่งใจเหนือคำบรรยาย สูดอากาศดีๆ เข้าไปซะให้เต็มปอด
ผมเดินถ่ายรูปเล่นมาถึงตรงศาลาชมวิว เจอเพื่อนใหม่แฮะ ลูกหมาจรสามตัววิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามาหา แม่มันอยู่ไหนไม่รู้มองหาไม่เจอ เล่นกับมันได้ไม่นานก็กลายเป็นพ่อบุญธรรมมันแล้วล่ะ (ฮา...)
ก่อนจะเย็นเกินก็เดินออกไปร้านค้า ซื้อข้าว ซื้อน้ำมาเตรียมไว้ คืนนั้นรวมผมแล้วมีนักท่องเที่ยวทั้งหมดสามเต็นท์ ประมาณเจ็ดแปดคน บรรยากาศสบายๆ
อ้อ... ที่นี่มีข้อเสียนิดหน่อยคืออีกฝั่งแม่น้ำเป็นถนน มีรถวิ่งผ่านไปผ่านมา ช่วงหัวค่ำจะมีเสียงแว๊ดไปแว๊ดมาบ่อยๆ พอดึกๆ ก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ เอง อยู่นอกเขตอุทยานฯ ทำอะไรไม่ได้
[CR] นั่งรถหวานเย็น ไปนอนเต็นท์เล่นๆ ที่เอราวัณ
แค่เพราะเหมือนร่างกายขาดการนอนเต็นท์ เดือนสองเดือนที่ผ่านมาเกือบลืมวิธีกางเต็นท์ไปแล้ว (ฮา...) พอมีเวลาว่างแป๊บปลายเดือนกันยายน เลยอยากหาสถานที่กางเต็นท์แบบง่ายๆ เดินทางสะดวก ไปคนเดียวไม่ต้องง้อใครสักหน่อย กวาดตาดูแล้วเห็นจะมีที่ไหนเพอร์เฟกต์เท่าอุทยานแห่งชาติเอราวัณอีกแล้วล่ะ
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ หรือน้ำตกเอราวัณ กาญจนบุรี เดินทางง่าย สิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสำหรับคนอยากแคมปิ้งสบายๆ ใกล้ธรรมชาติ แม้กระทั่งรถส่วนตัวก็ไม่จำเป็นต้องมีเพราะมีรถโดยสารสาธารณะเข้าถึง
ถ้าเปิดกูเกิ้ลเสิร์ชหารีวิวคงขึ้นข้อมูลมาเพียบชนิดผมไม่ต้องเล่าอะไรสักอย่าง แต่เพราะมันเป็นรีวิวคนอื่นนี่นะไม่ใช่รีวิวผม เลยขอเขียนอะไรๆ เอาไว้ในสไตล์ของตัวเองสักหน่อยแล้วกัน
ใจจริงอยากนั่งรถไฟไปครับ แต่ด้วยเวลาเดินทางไม่อำนวยเลยต้องขึ้นรถตู้ที่หมอชิต มาลง บขส. กาญจนบุรี รถโดยสาร กาญจนบุรี – เอราวัณ อยู่ช่องแรกสุดซ้ายมือถ้าเดินเข้าทางด้านหน้า รถออกประมาณชั่วโมงละคันตามกำหนดเวลา ถ้าตอนบ่ายจะยืดออกไปเป็นชั่วโมงหน่อยๆ
ขึ้นรถแล้วเลือกที่นั่งตามชอบ แนะนำนิดคือรถวิ่งขึ้นทิศเหนือ มาก่อนเที่ยงแดดส่องทางขวา มาบ่ายแดดส่องทางซ้าย การคำนวณทิศทางรถวิ่งเพื่อเลือกที่นั่งให้ถูกฝั่งเป็นทักษะที่ควรมีในการเดินทางครับ (ฮา...)
แค่นั้นแหละครับ ที่เหลือก็รอเวลารถออก นั่งไปสักพักโชเฟอร์จะหยุดรถมาทำหน้าที่เป็นกระเป๋าเดินเก็บค่าโดยสาร ไปน้ำตกเอราวัณควักจ่ายคนละ 50 บาทขาดตัว
กินลมชมวิวไปเรื่อยๆ สัปหงกบ้างว่ากันไป ผ่านโน่น ผ่านนี่ ผ่านนั่น ผ่านเขื่อนท่าทุ่งนา ประมาณชั่วโมงครึ่งก็จะถึงตลาดตำบลเอราวัณ อำเภอศรีสวัสดิ์ แล้วเลี้ยวเข้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ช่วงผ่านด่านเก็บเงินก็จ่ายค่าธรรมเนียมให้เรียบร้อย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
แล้วสุดท้ายรถจะแล่นพาเรามาจอดตรงนี้ ลานจอดรถหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งขากลับเรามารอรถตรงนี้เช่นกัน
ลานจอดรถมีร้านค้าเพียบ คาเฟ่ห้องแอร์เย็นๆ ก็ยังมี เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวอดตาย ร้านส่วนใหญ่จะเปิดแปดโมงเช้าถึงห้าโมงเย็นเศษๆ ใครไม่ได้มาทำอาหารกินเองพอใกล้เย็นก็ออกมาซื้อเตรียมไว้ได้สบายมาก ราคาแพงกว่าทั่วไปนิดหน่อยเป็นเรื่องปกติ ราดข้าว 50 บาท น้ำขวดใหญ่ 20 บาท ประมาณนั้น
ผมนั่งพักกินกาแฟที่คาเฟ่สักแป๊บ ก็ได้เวลาติดต่อเรื่องที่นอนที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ถ้าเป็นบ้านพักเดี๋ยวนี้ระเบียบอุทยานฯ ให้จองล่วงหน้าทางเว็บไซต์ แต่ถ้าเป็นการกางเต็นท์ไม่ต้องจองอะไร วอล์คอินติดต่อเมื่อมาถึงได้เลย
พักกี่คืน เช่าอุปกรณ์อะไรบ้าง เต็นท์ หมอน ถุงนอน เตาถ่าน ติดต่อตรงนี้ เงินยังไม่ต้องจ่ายแค่ลงทะเบียนและทิ้งบัตรประชาชนไว้ก่อน ขากลับค่อยมาจ่ายตอนเอาบัตรคืน ค่าธรรมเนียมเข้าพัก 30 บาท ต่อคน ต่อคืน ส่วนเต็นท์ก็ตามราคาหลังเล็กหลังใหญ่ ตั้งแต่ 150 บาท ถึงสัก 400 บาท อันนี้สอบถามกันเองนะ อช.เอราวัณ โทร. 034574222, 034574234
ติดต่อเสร็จแล้วก็เดินไปกางเต็นท์กันดีกว่า ข้ามสะพานแขวนห้วยม่องไล่ ลานกางเต็นท์ที่นี่สวยและเป็นระเบียบร่มรื่นดี มีโซนติดริมน้ำแควใหญ่ด้วย ห้องน้ำแยกชาย-หญิงสองจุด (แค่งงนิดว่าสร้างห้องน้ำใหญ่โตมีห้องน้ำยี่สิบกว่าห้องแต่ทำไมดันมีห้องอาบน้ำห้องเดียวซะงั้น) ตรงศาลาอเนกประสงค์มีปลั๊กไฟให้ชาร์ตไฟกัน
แต่ก่อนจะลงมือกางเต็นท์ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ที่อาคารเสียก่อน ใครเช่าของอะไรไว้ก็มาเบิกกันตรงนี้
หลังจากนั้นก็เลือกทำเลได้เลย ผมน่ะเจตนาไม่ได้มาเที่ยวน้ำตกหรอก แค่อยากหาที่กางเต็นท์นอนเล่นเฉยๆ ดังนั้นขอวิวสวยๆ ริมแม่น้ำแล้วกัน
กางเต็นท์เสร็จไม่ทันไรปรากฏว่าฝนตกลงมาโครมใหญ่ ดีเหมือนกันเพราะจะได้มุดเต็นท์เข้าไปหลับสักงีบ เสียงฝนเปาะแปะคอยกล่อม แค่นี้ก็ฟินแล้วล่ะ
ฟ้าหลังฝนไม่สดใสเสมอหรอกครับ แต่บรรยากาศหลังฝนในอุทยานแห่งชาติน่ะสดชื่นเสมอเชื่อขนมกินได้ เพราะป่าเจอฝนมันย่อมสดชื่นและมีชีวิตชีวาอยู่แล้ว พอฝนหยุดโผล่ออกมานอกเต็นท์ สิ่งที่เห็นคือความปลอดโปร่งโล่งใจเหนือคำบรรยาย สูดอากาศดีๆ เข้าไปซะให้เต็มปอด
ผมเดินถ่ายรูปเล่นมาถึงตรงศาลาชมวิว เจอเพื่อนใหม่แฮะ ลูกหมาจรสามตัววิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามาหา แม่มันอยู่ไหนไม่รู้มองหาไม่เจอ เล่นกับมันได้ไม่นานก็กลายเป็นพ่อบุญธรรมมันแล้วล่ะ (ฮา...)
ก่อนจะเย็นเกินก็เดินออกไปร้านค้า ซื้อข้าว ซื้อน้ำมาเตรียมไว้ คืนนั้นรวมผมแล้วมีนักท่องเที่ยวทั้งหมดสามเต็นท์ ประมาณเจ็ดแปดคน บรรยากาศสบายๆ
อ้อ... ที่นี่มีข้อเสียนิดหน่อยคืออีกฝั่งแม่น้ำเป็นถนน มีรถวิ่งผ่านไปผ่านมา ช่วงหัวค่ำจะมีเสียงแว๊ดไปแว๊ดมาบ่อยๆ พอดึกๆ ก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ เอง อยู่นอกเขตอุทยานฯ ทำอะไรไม่ได้
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้