คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
จากที่ทำมาหากินกับงานพวกนี้นะครับบอกได้เลยว่า
ไม่จำเป็นเลย บางช่อง ฉลาดสลัดเป็ดเลย เอามือถือต่อไวร์เลสนี่แหละหากินได้ตอนละแสน ผมแบกของไปเพียบขายได้ตกตอนละไม่กี่หมื่น
หลังจากนั้น เริ่มเห็นสัจธรรม การทำงานสื่อเหล่านี้ ตีโจทย์ให้แตก แยกโจทย์ให้ถูก
งานบางแบบ มือถือทำได้ดีกว่า สะดวกกว่า ภาพอาจไม่สวยเท่า แต่ความต่างไม่มากพอ
งานบางงานอย่างไรก็ต้องกล้อง กล้องไม่พอ ต้องเลนส์ดี รูรับแสงกว้าง ต้องมีไฟจัดให้เต็ม มูลค่าสูงๆขายความสวยของงาน
งานบางงาน โกโปรตัวเดียว เสียงไม่ต้องใช้ไมค์เพราะอยู่บนยอดเขาสูงไม่มีอะไรกวน
โจทย์คือเนื้อหา การนำเสนอคือวิธีการสื่อสาร อุปกรณ์คือทางเดินไปหาผลลัพธ์ ถ้ามันไม่จำเป็น ก็คือไม่จำเป็น
แล้วมือถือสมัยนี้มันฉลาด ถ่ายสวยขึ้น แสง สี การรับแสง นอยส์ ทำได้ในระดับน่าพอใจ ทำงานสัมภาษณ์ง่ายๆ เดินถ่าย จ่อไมค์คุย ณ เวลานี้ ผมเลือกมือถือและไฟซักดวง กัสั่นในตัวมันนั่นแหละ พอเพียงแล้ว
ยกเว้นงานขายลูกค้ามาเป็นแสนเป็นล้าน อุปกรณ์ต้องครบ เต็ม ไม่ใช่เพราะผลลัพธ์นะ เพราะลูกค้าสมัยนี้รู้มาก ขืนให้มาเห็นเอามือถือถ่ายง่ายๆ เค้าก็จะด่าบรรพบุรุษเราได้ว่า ไม่โปร ทำไมไม่ใช่นั่น นี่ โน่น
ออฟฟิศพี่มีหมดทั้ง Sony Canon Gopro Garmin Ronin DJI แต่. ไปออกงานส่วนใหญ่นะครับ ทำคลิปนะครับ มือถือ กล้องแอ็คชขั่น
ท่องไว้
ทุนต่ำสุดที่ได้ผลงาน คือทางสว่าง
พวกต้องหน้าใหญ่ลงทุนเยอะ นั่นมันไดโนเสาร์ เดี๋ยวนี้เค้าเช่าเอาหมดแล้ว บริษัทมหาชนสะสมอุปกรณ์ สร้างสตูฯ เจ๊งกันระนาว ซื้อวันนี้ปัหน้าราคาร่วง ยังไม่คืนทุนเลย รุ่นใหม่ออกมาแล้ว แล้วจะซื้อมาเพื่อ??
ปล. ยกเว้นอยากฝึกหัด ฝึกฝีมือ อันนั้นถือว่าลงทุนเพื่อการศึกษา เห็นด้วยครับ แต่อย่างไรเสียก็ควรฝึกกับของที่มีไปจนชนเพดานความสามารถของมันก่อน เรียกว่ารีดกันให้สุดๆไปก่อน ค่อยขยับไปอีกอย่าง ไม่งั้นต่อให้ตอนนี้เอากล้องใหญ่ใส่โรนินให้น้องเอาไปเล่น แถมไฟอีกชุด พี่ก็ว่ายังเอาไปทำอะไรไม่ได้มาก
แนะนำเลยครับ ถ้าทำช่องได้แล้ว
สิ่งที่ควรหัดลำดับต่อไปคือ
เสียง หาความรู้เรื่องระบบเสียงดีๆ แบบต่างๆ
แสงสว่าง จัดไฟทั้งแสงธรรมชาติและประดิษฐ์
งานตัดต่อ การสื่อสารด้วยการลำดับภาพ
แล้วค่อยหากล้องใหม่ เพราะกล้องใหม่มา เลนส์ติดกล้องมา มันไม่ได้เปิดโลกหรอก ไม่ได้ทำได้ดีกว่าเดิมเท่าไหร่
ไม่จำเป็นเลย บางช่อง ฉลาดสลัดเป็ดเลย เอามือถือต่อไวร์เลสนี่แหละหากินได้ตอนละแสน ผมแบกของไปเพียบขายได้ตกตอนละไม่กี่หมื่น
หลังจากนั้น เริ่มเห็นสัจธรรม การทำงานสื่อเหล่านี้ ตีโจทย์ให้แตก แยกโจทย์ให้ถูก
งานบางแบบ มือถือทำได้ดีกว่า สะดวกกว่า ภาพอาจไม่สวยเท่า แต่ความต่างไม่มากพอ
งานบางงานอย่างไรก็ต้องกล้อง กล้องไม่พอ ต้องเลนส์ดี รูรับแสงกว้าง ต้องมีไฟจัดให้เต็ม มูลค่าสูงๆขายความสวยของงาน
งานบางงาน โกโปรตัวเดียว เสียงไม่ต้องใช้ไมค์เพราะอยู่บนยอดเขาสูงไม่มีอะไรกวน
โจทย์คือเนื้อหา การนำเสนอคือวิธีการสื่อสาร อุปกรณ์คือทางเดินไปหาผลลัพธ์ ถ้ามันไม่จำเป็น ก็คือไม่จำเป็น
แล้วมือถือสมัยนี้มันฉลาด ถ่ายสวยขึ้น แสง สี การรับแสง นอยส์ ทำได้ในระดับน่าพอใจ ทำงานสัมภาษณ์ง่ายๆ เดินถ่าย จ่อไมค์คุย ณ เวลานี้ ผมเลือกมือถือและไฟซักดวง กัสั่นในตัวมันนั่นแหละ พอเพียงแล้ว
ยกเว้นงานขายลูกค้ามาเป็นแสนเป็นล้าน อุปกรณ์ต้องครบ เต็ม ไม่ใช่เพราะผลลัพธ์นะ เพราะลูกค้าสมัยนี้รู้มาก ขืนให้มาเห็นเอามือถือถ่ายง่ายๆ เค้าก็จะด่าบรรพบุรุษเราได้ว่า ไม่โปร ทำไมไม่ใช่นั่น นี่ โน่น
ออฟฟิศพี่มีหมดทั้ง Sony Canon Gopro Garmin Ronin DJI แต่. ไปออกงานส่วนใหญ่นะครับ ทำคลิปนะครับ มือถือ กล้องแอ็คชขั่น
ท่องไว้
ทุนต่ำสุดที่ได้ผลงาน คือทางสว่าง
พวกต้องหน้าใหญ่ลงทุนเยอะ นั่นมันไดโนเสาร์ เดี๋ยวนี้เค้าเช่าเอาหมดแล้ว บริษัทมหาชนสะสมอุปกรณ์ สร้างสตูฯ เจ๊งกันระนาว ซื้อวันนี้ปัหน้าราคาร่วง ยังไม่คืนทุนเลย รุ่นใหม่ออกมาแล้ว แล้วจะซื้อมาเพื่อ??
ปล. ยกเว้นอยากฝึกหัด ฝึกฝีมือ อันนั้นถือว่าลงทุนเพื่อการศึกษา เห็นด้วยครับ แต่อย่างไรเสียก็ควรฝึกกับของที่มีไปจนชนเพดานความสามารถของมันก่อน เรียกว่ารีดกันให้สุดๆไปก่อน ค่อยขยับไปอีกอย่าง ไม่งั้นต่อให้ตอนนี้เอากล้องใหญ่ใส่โรนินให้น้องเอาไปเล่น แถมไฟอีกชุด พี่ก็ว่ายังเอาไปทำอะไรไม่ได้มาก
แนะนำเลยครับ ถ้าทำช่องได้แล้ว
สิ่งที่ควรหัดลำดับต่อไปคือ
เสียง หาความรู้เรื่องระบบเสียงดีๆ แบบต่างๆ
แสงสว่าง จัดไฟทั้งแสงธรรมชาติและประดิษฐ์
งานตัดต่อ การสื่อสารด้วยการลำดับภาพ
แล้วค่อยหากล้องใหม่ เพราะกล้องใหม่มา เลนส์ติดกล้องมา มันไม่ได้เปิดโลกหรอก ไม่ได้ทำได้ดีกว่าเดิมเท่าไหร่
แสดงความคิดเห็น
ขอพ่อแม่ซื้อกล้องยังไงดี