กรณีพระตีระฆังรบกวนชาวบ้านจะทำอย่างไร?
จากกรณี เจ้าอาวาสวัดไทร ย่านพระราม ๓ กรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า ประชาชนแจ้งเรื่องร้องทุกข์ได้รับความเดือดร้อน กรณีที่ทางวัดไทร ทำการตีระฆัง ส่งเสียงดังรบกวน ตั้งแต่เวลา ๐๓.๓๐ น. – ๐๔.๐๐ น. เป็นประจำทุกวัน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้พักอาศัยบนคอนโดที่อยู่ติดวัด โดยเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่พักอยู่ในคอนโด Star View จึงเกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ขึ้น วิธีแก้ปัญหามีดังนี้
องค์ทะไลลามะ (達賴喇嘛) เป็นองค์ที่ ๑๔ ชื่อ เทนซิน เกียตโซ (Tenzin Gyatso) ประมุขหัวหน้าคณะสงฆ์ในพุทธศาสนานิกายมหายานแบบทิเบตเกลุก (นิกายหมวกเหลือง) เป็นผู้นำทางด้านจิตวิญญาณสูงสุดของชาวทิเบต บอกว่าการทำดีอย่าไปรบกวนคนอื่น แล้วคนก็ตั้งปุจฉาว่า แล้วพระตีระฆังตอนเช้าไม่เป็นการรบกวนชาวบ้านเหรอ?
ท่านองค์ทะไลลามะ (Dalai Lama) ตอบว่า การตีระฆังช่วงเช้านั้นไม่ถือว่าเป็นการรบกวนเพราะว่าสาธุชนเขาอนุมัติ เขายินดี เขาอนุญาต
สิ่งที่เกิดปัญหาอย่างนี้ก็เหมือนกัน ประชาชนในชุมชนนั้นต้องมาประชุมปรึกษาหารือกัน
สมมติว่าในคอนโด มีแต่เพียงเราคนเดียว หรือเป็นคนส่วนน้อย เราก็ต้องยอมรับมติของคนส่วนรวม เพราะว่าทุกคนอนุญาต และเขายังถือว่าเป็นเสียงมงคลซะด้วย
ผู้หญิงคนนี้ควรที่จะแก้ไขอย่างไร?
ก็ต้องมาถามว่า ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงมีมุมมองว่าเสียงระฆังจากวัดเป็นสิ่งที่ไม่ดี แสดงว่าข้างในจิตใจของเรามี อิมเมจ (Images) ที่ไม่ดี มุมมองที่ไม่ดี ใครครอบงำเราอยู่ ใครบอกว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ดี
ถ้าหากถามว่า เราหลับแล้วทำให้หลับไม่สนิท ก็ต้องมาถามว่า แล้วทำไมคนอื่นเขาไม่เป็นกัน
ถ้าอย่างนั้นเราจะสอนจิตของเราในการรับเสียงระฆังยังไง?
เราก็ต้องไปดูที่จิตใจของเราว่าติดค้างอะไรไว้ แล้วเวลานี้เราเป็นอะไร ตกอยู่ในภาวะอะไร
เราต้องมาเปลี่ยนที่ฐานจิตว่า เป็นเสียงกล่อม เป็นเสียงที่ดี เป็นเสียงมงคล เป็นเสียงที่เราต้องการ เมื่อก่อนจิตเราบอกว่าเป็นเสียงที่ไม่ดีเราไม่ต้องการ จิตของเราก็จะสั่งว่าเป็นเสียงรบกวน
วิธีแก้ของผู้หญิงคนนี้ก็คือให้เปลี่ยนฐานจิตใหม่ ตามที่กล่าวมานี้
แล้วเจ้าอาวาส พระภิกษุสามเณรในวัด จะรับเรื่องอย่างนี้ด้วยปัญญาอย่างไร?
ในเมื่อเราได้รับฉันทานุมัติจากชาวบ้าน ว่าเขาอนุญาตไหม ถ้าอนุญาตให้เราตีต่อเราก็ตีต่อ หรือจะตีเบาลงก็ได้ เราเอาตามมติฉันทานุมัติของชุมชนเป็นว่า เพราะว่าวัดเป็นคนกลาง
เจ้าอาวาสต้องบอกในใจของตนเองว่า เราไม่ใช่เจ้าของวัดนะ เพียงแต่มาทำหน้าที่ดูแลวัด ทุกคนเป็นเจ้าของ มีมติยังไงก็ว่ากัน
แล้วชาวบ้านจะทำอย่างไรดี เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้?
ก็ไม่มีอะไร ก็ต้องคุยกับผู้หญิงคนนี้ว่าเป็นเพราะฐานจิตของเราไหม? เราต้องเปลี่ยนแปลงอะไร สอนให้ธรรมะแก่เขา ทุกอย่างใช้ธรรมะไปแก้ไข ทุกอย่างสันติ
เราต้องใช้วิธีการสันติ ใช้หลักอริยสัจ ๔ ที่ว่าพระท่านตีระฆัง เพราะว่าเป็นฉันทานุมัติ ก็ต้องตีระฆังต่อไป เมื่อบุคคลนี้มีปัญหาเราก็ต้องเคลียร์ที่ปัญหากับบุคคลนี้
"จงระวังนะ ถ้าถูกใจอย่างหนึ่ง แต่ทำบาปอีกหลายอย่างได้"
เครดิตภาพ
https://www.yummun.com/23212
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
กรณีพระตีระฆังรบกวนชาวบ้านจะทำอย่างไร?
จากกรณี เจ้าอาวาสวัดไทร ย่านพระราม ๓ กรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า ประชาชนแจ้งเรื่องร้องทุกข์ได้รับความเดือดร้อน กรณีที่ทางวัดไทร ทำการตีระฆัง ส่งเสียงดังรบกวน ตั้งแต่เวลา ๐๓.๓๐ น. – ๐๔.๐๐ น. เป็นประจำทุกวัน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้พักอาศัยบนคอนโดที่อยู่ติดวัด โดยเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่พักอยู่ในคอนโด Star View จึงเกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ขึ้น วิธีแก้ปัญหามีดังนี้
องค์ทะไลลามะ (達賴喇嘛) เป็นองค์ที่ ๑๔ ชื่อ เทนซิน เกียตโซ (Tenzin Gyatso) ประมุขหัวหน้าคณะสงฆ์ในพุทธศาสนานิกายมหายานแบบทิเบตเกลุก (นิกายหมวกเหลือง) เป็นผู้นำทางด้านจิตวิญญาณสูงสุดของชาวทิเบต บอกว่าการทำดีอย่าไปรบกวนคนอื่น แล้วคนก็ตั้งปุจฉาว่า แล้วพระตีระฆังตอนเช้าไม่เป็นการรบกวนชาวบ้านเหรอ?
ท่านองค์ทะไลลามะ (Dalai Lama) ตอบว่า การตีระฆังช่วงเช้านั้นไม่ถือว่าเป็นการรบกวนเพราะว่าสาธุชนเขาอนุมัติ เขายินดี เขาอนุญาต
สิ่งที่เกิดปัญหาอย่างนี้ก็เหมือนกัน ประชาชนในชุมชนนั้นต้องมาประชุมปรึกษาหารือกัน
สมมติว่าในคอนโด มีแต่เพียงเราคนเดียว หรือเป็นคนส่วนน้อย เราก็ต้องยอมรับมติของคนส่วนรวม เพราะว่าทุกคนอนุญาต และเขายังถือว่าเป็นเสียงมงคลซะด้วย
ผู้หญิงคนนี้ควรที่จะแก้ไขอย่างไร?
ก็ต้องมาถามว่า ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงมีมุมมองว่าเสียงระฆังจากวัดเป็นสิ่งที่ไม่ดี แสดงว่าข้างในจิตใจของเรามี อิมเมจ (Images) ที่ไม่ดี มุมมองที่ไม่ดี ใครครอบงำเราอยู่ ใครบอกว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ดี
ถ้าหากถามว่า เราหลับแล้วทำให้หลับไม่สนิท ก็ต้องมาถามว่า แล้วทำไมคนอื่นเขาไม่เป็นกัน
ถ้าอย่างนั้นเราจะสอนจิตของเราในการรับเสียงระฆังยังไง?
เราก็ต้องไปดูที่จิตใจของเราว่าติดค้างอะไรไว้ แล้วเวลานี้เราเป็นอะไร ตกอยู่ในภาวะอะไร
เราต้องมาเปลี่ยนที่ฐานจิตว่า เป็นเสียงกล่อม เป็นเสียงที่ดี เป็นเสียงมงคล เป็นเสียงที่เราต้องการ เมื่อก่อนจิตเราบอกว่าเป็นเสียงที่ไม่ดีเราไม่ต้องการ จิตของเราก็จะสั่งว่าเป็นเสียงรบกวน
วิธีแก้ของผู้หญิงคนนี้ก็คือให้เปลี่ยนฐานจิตใหม่ ตามที่กล่าวมานี้
แล้วเจ้าอาวาส พระภิกษุสามเณรในวัด จะรับเรื่องอย่างนี้ด้วยปัญญาอย่างไร?
ในเมื่อเราได้รับฉันทานุมัติจากชาวบ้าน ว่าเขาอนุญาตไหม ถ้าอนุญาตให้เราตีต่อเราก็ตีต่อ หรือจะตีเบาลงก็ได้ เราเอาตามมติฉันทานุมัติของชุมชนเป็นว่า เพราะว่าวัดเป็นคนกลาง
เจ้าอาวาสต้องบอกในใจของตนเองว่า เราไม่ใช่เจ้าของวัดนะ เพียงแต่มาทำหน้าที่ดูแลวัด ทุกคนเป็นเจ้าของ มีมติยังไงก็ว่ากัน
แล้วชาวบ้านจะทำอย่างไรดี เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้?
ก็ไม่มีอะไร ก็ต้องคุยกับผู้หญิงคนนี้ว่าเป็นเพราะฐานจิตของเราไหม? เราต้องเปลี่ยนแปลงอะไร สอนให้ธรรมะแก่เขา ทุกอย่างใช้ธรรมะไปแก้ไข ทุกอย่างสันติ
เราต้องใช้วิธีการสันติ ใช้หลักอริยสัจ ๔ ที่ว่าพระท่านตีระฆัง เพราะว่าเป็นฉันทานุมัติ ก็ต้องตีระฆังต่อไป เมื่อบุคคลนี้มีปัญหาเราก็ต้องเคลียร์ที่ปัญหากับบุคคลนี้
"จงระวังนะ ถ้าถูกใจอย่างหนึ่ง แต่ทำบาปอีกหลายอย่างได้"
เครดิตภาพ https://www.yummun.com/23212
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์