คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
Update. หลังจากที่เราได้เล่าเรื่องของเราให้แม่เราฟัง. แม่เราก็ด่าสาดเสียเทเสียเรายกใหญ่ ซึ่งในก็สมควรได้รับแล้ว แต่บางสิ่งที่แม่พูดทำให้เรารู้สึก ว่าปัญหานี้ ไม่ใช่อยู่ที่แม่ผัว แต่คือผัวของเรา.
แม่บอกว่า แม่ผัวกูก็เป็น แต่กูเคยต้องมานั่งทุกข์ใจหรือรู้สึกแย่อย่างไหม. ไม่เลย. เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะผัวกูดี(มีความอวดผัว😒) เขารักกูและใส่ใจความรู้สึกของกู แต่ผัวมิงนี้อะไรเอาแต่แม่พูดแต่ว่าต้องทำอย่างนั้นต้องทำอย่างนี้ให้พ่อแม่เขา. เขาเคยพูดกับพ่อแม่เขามั้ยว่าให้ดูแล ออกจากบ้านมาจะเหงา ลำบากใจ อยู่บ้านก็ไม่ค่อยได้ทำงานบ้านเท่าไหร่ทำแต่งานนอก ขอให้แม่ช่วยคอยบอกคอยสอนเมียผมด้วย ผัวเคยพูดมั้ย. ย่าเคยพูดกับพ่อว่า เลือกมาเลย จะอยู่กับเมียหรือแม่? พ่อเราตอบว่า. "ผมรักแม่นะ แต่ผมมีเมียแล้วก็ต้องรับผิดชอบดูแลลูกเมียผม" พ่อเราก็ออกจากบ้านย่ามาอยู่กับแม่เราข้างนอกสองคน เพราะกลัวแม่ลำบากใจ แต่ก็ยังส่งเงินให้ย่าทุกเดือน. 20ปีผ่าน ตอนนี้ทุกอย่างก็แฮปปี้ ย่าเราก็ไม่ได้เกลียดแม่เพราะเขาก็เห็นแล้วว่าแม่เราดีและรักลูกเขาจริงๆ และย่าเราก็หลงหลาน(เรา)มาก.
คือ ทำไมผัวเราไม่ได้ครึ่งนึงของพ่อเราเลย.
แม่บอกว่า แม่ผัวกูก็เป็น แต่กูเคยต้องมานั่งทุกข์ใจหรือรู้สึกแย่อย่างไหม. ไม่เลย. เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะผัวกูดี(มีความอวดผัว😒) เขารักกูและใส่ใจความรู้สึกของกู แต่ผัวมิงนี้อะไรเอาแต่แม่พูดแต่ว่าต้องทำอย่างนั้นต้องทำอย่างนี้ให้พ่อแม่เขา. เขาเคยพูดกับพ่อแม่เขามั้ยว่าให้ดูแล ออกจากบ้านมาจะเหงา ลำบากใจ อยู่บ้านก็ไม่ค่อยได้ทำงานบ้านเท่าไหร่ทำแต่งานนอก ขอให้แม่ช่วยคอยบอกคอยสอนเมียผมด้วย ผัวเคยพูดมั้ย. ย่าเคยพูดกับพ่อว่า เลือกมาเลย จะอยู่กับเมียหรือแม่? พ่อเราตอบว่า. "ผมรักแม่นะ แต่ผมมีเมียแล้วก็ต้องรับผิดชอบดูแลลูกเมียผม" พ่อเราก็ออกจากบ้านย่ามาอยู่กับแม่เราข้างนอกสองคน เพราะกลัวแม่ลำบากใจ แต่ก็ยังส่งเงินให้ย่าทุกเดือน. 20ปีผ่าน ตอนนี้ทุกอย่างก็แฮปปี้ ย่าเราก็ไม่ได้เกลียดแม่เพราะเขาก็เห็นแล้วว่าแม่เราดีและรักลูกเขาจริงๆ และย่าเราก็หลงหลาน(เรา)มาก.
คือ ทำไมผัวเราไม่ได้ครึ่งนึงของพ่อเราเลย.
แสดงความคิดเห็น
แม่ผัว,ผัว
เรามีแฟนที่คบหาดูใจกันมาสักระยะ. ก่อนแฟนจะพาไปเปิดตัวกับที่บ้านของเขา แรกๆแม่ของแฟน ก็ดูเหมือนชอบเรา พูดจาแบบอยากให้แฟนไปขอเรามาเป็นลูกสะใภ้เลยทันที. แต่มีช่วงระยะเวลาหนึ่ง ที่เราไปอยู่บ้านแฟน เราก็สังเกตุถึงความเป็นตัวตนที่แท้จริงของ แฟนและแม่แฟนมากขึ้น
1. แม่แฟนเรียกเราไปตำหนิ ว่าเราไม่รู้จักทำงานบ้าน เราขออธิบายแบบไม่ได้เข้าข้างตัวเอง งานบ้านตอนที่เราไปอยู่บ้านเขาเราก็ช่วยทำ กวาดบ้านถูบ้านล้างจาน ช่วยทำกับข้าว เราอาจจะทำไม่ได้เนี๊ยบเหมือนแม่บ้านมืออาชีพ เพราะเราก็ไม่ค่อยได้ทำงานบ้านจะเน้นทำงานที่ร้านเก็บของเก่า(ธุรกิจของครอบครัว)เป็นส่วนใหญ่. วันนั้นเป็นวันที่แม่แฟนออกไปข้างนอกซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเขาไปทำอะไรและจะกลับเมื่อไหร่ เรากวาดบ้านถูบ้านเสร็จก็ไปนั่งเฝ้าร้านขายข้าวสารเป็นเพื่อนแฟน. แม่แฟนกลับมาตอนบ่าย โทรมาเรียกแฟนและเราเข้าไปหาที่บ้าน หลังจากนั้นก็เริ่มต่อว่าเรา 'เป็นผู้หญิงแต่ไม่รู้จักทำงานบ้านงานเรือน ทำไมไม่หุงข้าวไว้รอ ผ้าพ่อผัวแม่ผัวก็ไม่เคยซัก' ณตอนนั้นที่เราได้ฟัง เราก็รู้สึกว่าเราอาจจะบกพร่องจริงๆ จึงพยายามทำให้ดีขึ้น
2. พูดถึงพี่ชายเรา ว่าอนาคตถ้าเราแต่งงานกับลูกชายเขาไปกลัวพี่ชายเราจะมาเป็นภาระ. ตอนแรกแฟนเราเป็นคนมาพูดกับเราเรื่องนี้ เราโมโหมากว่าทำไมถึงคิดแบบนี้ ทั้งๆที่กับคนในครอบครัวของเขา เราก็ไม่เคยรังเกียจเดียดฉันท์หรือเก็บมาคิดว่าใครจะมาเป็นภาระ. แต่พออยู่มา แม่แฟนก็มาพูดเรื่องนี้ขึ้น ว่าพี่ชายของเราเขาช่วยเหลือตัวเองได้ไหม แล้วคิดจะทำอะไรไหม เราก็เลยรู้ทันทีว่า แม่ของแฟนคงจะพูดให้แฟนฟัง แล้วแฟนเราก็คิดตาม หรือพูดง่ายๆว่าเชื่อฟังแม่
3. เรากำลังเรียนต่อ ปริญญาโท ซึ่งมีเรียนแค่เสาร์อาทิตย์ ช่วงบ่ายถึงค่ำ. แต่ก็มีปัญหาอีกเพราะอยู่ดีๆแฟนของเราก็มาบอกให้เราเลิกเรียน โดยให้เหตุผลว่าอีกหน่อยก็แต่งงานกันแล้ว จะเรียนไปทำไม. พอสักพัก เราก็มารู้ ว่าความคิดนี้มาจากแม่ของเขา เพราะแม่เขาก็เอามาพูดกับเรา. แต่ไม่ได้พูดแบบต่อว่า พูดจาดีเหมือนกล่อมให้คล้อยตาม.( เราก็อยากจะถามเขานะว่าลูกสาวเขาจะส่งให้เรียนทำไม มันมียังไงมันก็ต้องมีผัว)
4. แฟนเราต้องไปทำธุระ ที่ต่างจังหวัด เรื่องเกี่ยวกับข้าว อะไรสักอย่าง ประมาณครึ่งเดือน แฟนเราก็ฝากให้เรา ช่วยเปิดร้านแทนเขา. เพราะ พ่อของเขาไม่ค่อยสบาย เราก็ช่วยเปิดร้านแทนให้ตลอด อยู่มาได้ประมาณ 10 วัน ทางบ้านของเรามีธุระ แม่เราต้องไปหาหมอตามนัด เราก็บอกล่วงหน้ากับพ่อ,แม่แฟนไปแล้ว. พอใกล้ถึงวัน แม่แฟนก็ให้เราไปเปิดร้านขายข้าวให้. เราก็บอกปัดไปบอกว่าพรุ่งนี้เอ๋ต้องพาแม่ไปหาหมอคะ. แต่แม่แฟนก็ยังพูดกลับมาว่า ไปเปิดให้ก่อนได้ไหมช่วงเช้า พ่อไม่ค่อยสบาย(พ่อแฟนเสี่ยงเป็นเบาหวาน แค่เสี่ยงยังไม่ได้เป็นนะคะ) ไปเช้าคงจะไม่ไหว.
5. เรากลับมาอยู่ที่บ้าน เราต้องการแกล้งแฟนเล่น จึงเข้าไปในระบบกล้องวงจรปิด ภายในบ้านเขา เพื่อจะแกล้งพูดออกไมค์ ให้เขาตกใจ แต่คนที่ตกใจแทนต้องเป็นเรา แฟนเรานั่งกินข้าวอยู่กับแม่ของเขา ก่อนหน้านี้คุยอะไรกันเราไม่รู้เรานั่งฟังอยู่สักพักแล้วก็หมายถึงประโยคที่ว่า เออยากแต่งงานกับอีเอ๋จริงๆหรอลูก แม่ไม่ชอบ แม่ไม่ไปขอให้หรอกนะ แต่ถ้าเป็นลูกสาวร้านทอง เป็นล้านแม่ก็กล้าสู้. แฟนเราก็นั่งเงียบไม่ได้พูดอะไรตอบกลับไป
เราก็มานั่งคิดนะ ว่าจะไปกันได้หรอวะ เราไม่รู้จะพูดกับแฟนเรายังไง เรารักเขานะ แต่เขาเชื่อฟังแม่เขาทุกเรื่องเลย เรารู้สึกว่าเขาไม่แคร์ความรู้สึกเราเลย เราเป็นคนที่จะต้องอยู่กับเขาไปตลอดทั้งชีวิตของเขา รักพ่อรักแม่มันไม่ผิด เชื่อฟังพ่อแม่มันก็ไม่ผิด. แต่เราว่ามันไม่ใช่แบบนี้ พี่สาว พี่ชาย ของเขาก็ต้องเลิกกับแฟนหรือทะเลาะกับสามี-ภรรยาของตน สาเหตุก็มาจากแม่เขา. แล้วอีกอย่างที่อยากรู้แม่เค้า เป็นโรคจิตหรือเปล่า เหมือนยึดติดกับลูกมากเกินไป.
เราอยากขอคำแนะนำ เราอยากจะพูดกับแฟน. แต่เราไม่รู้จะพูดยังไง เราอยากจะลองพูดกับเขาดู ถ้าพูดแล้ว เขา ยังเหมือนเดิมเราจะยอมถอย.