10 กว่าปีก่อน เงินเดือน 10k+ ทำไมรู้สึกสุขใจกว่าตอนนี้ที่เงินเดือน 100k+

..
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
โอนส่วนต่าง  90k มาให้ผมก็ได้
แล้วคุณจะได้ชีวิต 10k คืนมา หัวเราะ
ความคิดเห็นที่ 8
ชีวิตไม่เป็นอิสระเพราะกับดักทางจิตใจครับ อาจเป็นเพราะคุณภาพชีวิตดีขึ้น ต้นทุนสังคมที่สูงขึ้น หรือ เปรียบเทียบกับคนรอบข้างแล้วตัวเองยังไม่ดีพอครับ  ทำให้ตัวเองเหมือนหนูปั่นจักรที่ต้องวิ่งตลอดเวลา

แก้ด้วยคำว่า พอ ครับ คือพออยู่ได้ แล้วแต่คนว่าจะพอแค่ไหน

อยู่กับสิ่งที่มีครับในปัจจุบัน enjoy กับดอกไม้ริมทาง อย่ามัวแต่เร่งเดินไปที่เป้าหมาย แล้วชีวิตจะมีความสุขมากขึ้น

ให้ทานครับ ทานทางปัญญา ทานทางวัตถุ ทรัพย์ในตัว และทรัพย์ที่ทานมีจะมีค่ามากขึ้นทวีคูณ เพราะเงินหนึ่งร้อยของท่าน อาจมีค่ามากว่าหนึ่งร้อยบาทสำหรับคนจน ปัญญาของท่านอาจมีค่าสำหรับคนที่ยังทำมาหากินไม่ได้ครับ พอให้แล้วจิตใจก็เป็นสุขกว่าหาเงินได้เยอะๆอีกครับ
ความคิดเห็นที่ 6
เพราะมาเล่นพันทิพไง อายุ 26 เงินเดือน 256251 น้อยไปไหมคะ  นี่อะไรอะ 30 กว่า เเสนเดียว - -
คงต้องไปนิยามตัวเองว่าความสุขคืออะไร  ถ้ามันคือเเค่อย่างที่คุณบอกมา  มันยากจริงๆเหรอ
ถ้าอยากได้เงินสิบล้าน ก็เเค่หามาสิบล้าน  นี่มันง่ายดายจะตาย
เอ้า  หายไม่มีความสุขละนะ
ความคิดเห็นที่ 33
ยิ่งสูง ยิ่งหนาวไงครับ

รายได้ที่สูงขึ้น มาพร้อมภาระหน้าที่ที่มากขึ้น ความเสี่ยงมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือความกังวล ซึ่งแน่นอนว่ามีส่วนบั่นทอนความสุข ลดความสบายใจ

หากเป็นลูกจ้าง คุณก็ต้องมีลูกน้อง และในฐานะหัวหน้า ก็ต้องรับผิดชอบงานโดยรวม ต้องรับผิดชอบผลสำเร็จตาม KPI ไม่ว่าจะใช้อะไรเป็นตัวชี้วัด

แล้วหากผลงานไม่ดี ย่อมเป็นกังวลเรื่องหน้าที่การงานแระ ถ้าต้องพ้นตำแหน่งที่มีหน้ามีตา แม้จะได้เงินเดือนเท่าเดิม แต่ก็อาจรู้สึกเสียหน้า คิดแค่นี้ก็ไม่สุขอีก

หากทำธุกิจส่วนตัว แม้จะไม่มีหัวหน้า ไม่มีใครปลดได้ แต่ลูกค้ายังมีอำนาจปลดร้านเราออกจากรายชื่อผู้ให้บริการ/คู่ค้าได้ ก็ไม่แตกต่าง

กรณีที่คุณจขกท.ยกมานี้ น่าสนใจ

ในช่วงเริ่มต้นชีวิตการทำงาน ใคร ๆ ก็มองไปข้างหน้า คาดหวังความสำเร็จเป็นหน้าที่การงาน และผลตอบแทน นี้เป็นเรื่องปกติ

จนเมื่อเดินมาได้ตามเป้าหมายที่ว่ามาระดับหนึ่ง จึงตระหนักว่า สิ่งที่ได้มาตามเป้าหมายนี้ ไม่ได้มาฟรี ๆ ต้องแลกมาด้วยอะไรสักอย่าง และบางทีหลาย ๆ อย่าง

หนึ่งในสิ่งที่แลกนั้น คือ ความสุข ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะความสบายใจ ไม่อยู่ในเป้าหมายไง

แล้วเป้าหมายที่ว่าน่ะ มันไม่อาจสำเร็จได้ด้วยตัวเรา ใช่ว่าขยันแล้วจะสำเร็จ ยังมีลูกพี่ ลูกน้อง ลูกค้าอีกล่ะ

พอดีไม่มีลูกเมียเป็นตัวแปรให้เกิดความสำเร็จในงานด้วย บางทีลูกเมียก็เลยถูกมองข้าม แต่ลูกเมียเป็นปัจจัยของความสุขนะ

ลองทบทวนเป้าหมายในชีวิต เป็นความสุขไหมครับ แล้วที่ยากคือนิยามคำว่าความสุขนี้แหละ

ผมทำงานภาคเอกชน หน้าที่การงานไม่ถือว่าประสบความสำเร็จ ไม่เคยเป็น Somebody ในองค์กร ไม่มีลูกน้อง แต่ยังดีที่เงินเดือนก็พอ ๆ กับเพื่อนๆ ที่มีตำแหน่ง มีลูกน้องนั่นแหละ ประมาณว่า ได้แต่ซอง ไม่ได้กล่องเท่าไร รายได้แม้ไม่มากมายแต่เพียงพอเลี้ยงชีวิต เลี้ยงครอบครัว มีสิ่งจำเป็นตามอัตภาพ ส่งลูกเรียนจบป.โท ตปท.ได้ทั้งสองคน ไม่มีหนี้ ก็ตามมาตรฐานของผู้คนปกติทั่ว ๆไปนั่นแหละ ถึงจะทำได้เพียงแค่นี้ ผมก็พอใจ

หน้าที่การงานแม้ไม่ได้ดิบได้ดีเท่าเพื่อน ๆ ก็ไม่รู้ทำไง คิดไปก็ไม่มีความสุข เลยคิดเข้าข้างตัวเองว่า ถึงได้ไปก็รักษาไว้ไม่ได้เหมือน ๆ ทุกสิ่ง ที่วันหนึ่งก็ต้องเป็นอดีต ดังในอดีตที่เขาว่ากัน "ข่าวพาดหัววันนี้ พรุ่งนี้ก็กลายเป็นถุงกล้วยแขก" (แน่ะ !!!! องุ่นเปรี้ยวแล้วไง รู้ทันนะ) บลา ... บลา ... บลา

ลองสำรวจดูไหมครับว่า อะไรทำให้ความสุขลดลง อาจต้องปรับชีวิต ปรับเป้าหมาย เพื่อรักษาสมดุลย์ work life balance ให้ได้ แล้วความสุขจะค่อย ๆ กลับคืนมานะ ผมว่า

แล้วในกระทู้ คุณค่อนข้างจะกล่าวถึงรื่องเงิน อย่างน้อยตอนนี้ คุณคงเห็นแล้วว่า เมื่อถึงจุด ๆ หนึ่ง เงินทองที่พอกพูน ก็อาจไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เกิดความสุขต่อ ๆ ไป งั้นคุณต้องหาเองละว่า ความสุขของคุณอยู่ตรงไหน modelความสุขของใคร ๆ ก็เป็นรูปแบบเฉพาะของคน ๆ นั้น ใครก็มาคิดแทนไม่ได้ คุณว่ามั๊ย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่