สงสัยเรื่องการนำเสนอข่าวของคนข่าว ว่าการเลือกนำเสนอข่าวใช้เกณฑ์อะไรเป็นตัวตัดสิน
เห็นข่าววัดไทร สื่อนำเสนอมาเกือบอาทิตย์นึง ข่าวคนถ้ำด้วย
คหสต.ข่าวแรกเหมือนเป็นเรื่องยิบย่อยของบุคคลและนิติบุคคล(คอนโด)กับวัด
เหมือนจะพอมีประโยชน์ แต่จำเป็นต้องนำเสนอเยอะขนาดนั้นหรอครับ?
สังคมได้ประโยชน์มาก หรือมีผลอะไรกับสังคมมากมายรึเปล่า ถึงต้องเกาะติดจนตำรวจต้องไปดำเนินคดี
เอาจริงๆเนื้อหามันก็เป็นเรื่องเพื่อนบ้านทะเลาะกันธรรมดารึเปล่า หรือคนสื่อไม่เคยเห็นคนบ้านใกล้เรื่อนเคียงทะเลาะกัน
เลยเป็นเรื่องแปลก ให้เขตให้คนในคอนโด ให้วัดให้กรมศาสนาเค้าไปคุยกันเองดีมั้ย จะได้เอาเวลามานำเสนอเรื่องอื่น
ข่าวสองคนถ้ำ มีสาระตรงไหนหรอครับ? หรือเพราะอยู่ถ้ำเลยต้องไปเกาะติด แล้วประเทศนี้มีคนอยู่ถ้ำแค่คนนั้นคนเดียวหรอ
ทำไมไม่ไปลองดูจังหวัดอื่น ตามป่าตามเขาอาจจะมีอีกเยอะก็ได้ อาจจะมีสาวมาติดเยอะกว่าก็ได้ มันน่าเอามานำเสนอหลายๆวันหรอครับ?
สังคมได้อะไรจากการได้ทราบว่ามีคนถ้ำคนนึงมีแฟนเป็นชาวต่างชาติ?
ส่วนข่าวสามเรื่องวาฬ ถ้านักข่าวเกาะติดข่าวนี้ สังคมน่าจะได้อะไรมากกว่าสองข่าวบนนะครับ
อย่างน้อยเราก็น่าจะมีกฎหมายอะไรมาคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลของไทย น่าจะได้อะไรมากกว่าสองข่าวบนนะครับ
ไม่ได้ตำหนิอะไรนักข่าวนะครับ แต่สงสัยมานานว่าสำนักข่าวเอาอะไร มาเป็นตัววิเคราะห์ว่าข่าวไหนควรนำเสนอและข่าวไหนไม่น่านำเสนอ
แล้วแต่ละข่าวควรเกาะติดอะไรขนาดเป็นอาทิตย์หรือเป็นเดือนๆ
ปล.เรื่องที่บอกว่าสังคมสนใจเลยนำเสนอ คงไม่ใช่นะครับ ยกตัวอย่างข่าวกัปตัน ชลธรกับมิ้ง เมื่อก่อน ไม่มีใครรู้จักเลยนะครับว่าสองคนนี้คือใคร
ก็มีสื่อนี่หละตีข่าวจนคนไม่รู้จัก สังคมไม่สนใจ จนคนรู้จักขึ้นมา
แล้วเรื่องท้องก่อนแต่ง ถ้าดูสถิตท้องในวัยเรียนของคนในประเทศนี้ คงไม่น่าจะบอกได้ว่าเป็นเรื่องแปลกนะครับ
ปล.2 เดี๋ยวนี้เห็นบางสื่อพยายามแอบแทรกความรู้ ใส่ความรู้เรื่องภาษา เรื่องสาระ เรื่องการปฐมพยาบาล กฏหมาย ฯลฯ อันนี้ขอชมเชยครับ
สงสัยเรื่องความสำคัญของการนำเสนอข่าว ข่าววัดไทร ข่าวคนถ้ำ ข่าวขึ้นทะเบียนวาฬเป็นสัตว์สงวน
เห็นข่าววัดไทร สื่อนำเสนอมาเกือบอาทิตย์นึง ข่าวคนถ้ำด้วย
คหสต.ข่าวแรกเหมือนเป็นเรื่องยิบย่อยของบุคคลและนิติบุคคล(คอนโด)กับวัด
เหมือนจะพอมีประโยชน์ แต่จำเป็นต้องนำเสนอเยอะขนาดนั้นหรอครับ?
สังคมได้ประโยชน์มาก หรือมีผลอะไรกับสังคมมากมายรึเปล่า ถึงต้องเกาะติดจนตำรวจต้องไปดำเนินคดี
เอาจริงๆเนื้อหามันก็เป็นเรื่องเพื่อนบ้านทะเลาะกันธรรมดารึเปล่า หรือคนสื่อไม่เคยเห็นคนบ้านใกล้เรื่อนเคียงทะเลาะกัน
เลยเป็นเรื่องแปลก ให้เขตให้คนในคอนโด ให้วัดให้กรมศาสนาเค้าไปคุยกันเองดีมั้ย จะได้เอาเวลามานำเสนอเรื่องอื่น
ข่าวสองคนถ้ำ มีสาระตรงไหนหรอครับ? หรือเพราะอยู่ถ้ำเลยต้องไปเกาะติด แล้วประเทศนี้มีคนอยู่ถ้ำแค่คนนั้นคนเดียวหรอ
ทำไมไม่ไปลองดูจังหวัดอื่น ตามป่าตามเขาอาจจะมีอีกเยอะก็ได้ อาจจะมีสาวมาติดเยอะกว่าก็ได้ มันน่าเอามานำเสนอหลายๆวันหรอครับ?
สังคมได้อะไรจากการได้ทราบว่ามีคนถ้ำคนนึงมีแฟนเป็นชาวต่างชาติ?
ส่วนข่าวสามเรื่องวาฬ ถ้านักข่าวเกาะติดข่าวนี้ สังคมน่าจะได้อะไรมากกว่าสองข่าวบนนะครับ
อย่างน้อยเราก็น่าจะมีกฎหมายอะไรมาคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลของไทย น่าจะได้อะไรมากกว่าสองข่าวบนนะครับ
ไม่ได้ตำหนิอะไรนักข่าวนะครับ แต่สงสัยมานานว่าสำนักข่าวเอาอะไร มาเป็นตัววิเคราะห์ว่าข่าวไหนควรนำเสนอและข่าวไหนไม่น่านำเสนอ
แล้วแต่ละข่าวควรเกาะติดอะไรขนาดเป็นอาทิตย์หรือเป็นเดือนๆ
ปล.เรื่องที่บอกว่าสังคมสนใจเลยนำเสนอ คงไม่ใช่นะครับ ยกตัวอย่างข่าวกัปตัน ชลธรกับมิ้ง เมื่อก่อน ไม่มีใครรู้จักเลยนะครับว่าสองคนนี้คือใคร
ก็มีสื่อนี่หละตีข่าวจนคนไม่รู้จัก สังคมไม่สนใจ จนคนรู้จักขึ้นมา
แล้วเรื่องท้องก่อนแต่ง ถ้าดูสถิตท้องในวัยเรียนของคนในประเทศนี้ คงไม่น่าจะบอกได้ว่าเป็นเรื่องแปลกนะครับ
ปล.2 เดี๋ยวนี้เห็นบางสื่อพยายามแอบแทรกความรู้ ใส่ความรู้เรื่องภาษา เรื่องสาระ เรื่องการปฐมพยาบาล กฏหมาย ฯลฯ อันนี้ขอชมเชยครับ