สวัสดีค่ะ แนะนำตัวก่อนนิดนึง เราเรียนคณะบริหารธุจกิจ สาขาบริหารธุรกิจญี่ปุ่น ที่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น เข้ามาในปีการศึกษา 2560 นะคะ เป็น "นักศึกษาทุน 100%" ส่วนที่มาในการตั้งกระทู้นี้ คือการแชร์ข้อมูลสำหรับน้องๆที่อยากเข้าศึกษาต่อที่นี่ค่ะ ตอนแรกเราไป comment แนวข้อสอบคร่าวๆไว้ในโพสของคนอื่น แล้วไม่ค่อยได้ล็อกอินพันทิป พอเปิดมาอีกที มีคนหลังไมค์มาขอแนวข้อสอบหลายคนมาก เลยรู้สึกผิดมากที่เราไม่ได้ตอบ เพราะไม่เห็นข้อความเหล่านั้น วันนี้เลยจะมาตั้งกระทู้ไว้เป็นข้อมูล ว่าควรอ่านหนังสือแนวไหน ข้อสอบเป็นอย่างไรบ้าง
ขอแทนตัวเองว่าพี่นะคะ เพราะ target ของกระทู้นี้น่าจะเป็นน้องๆ ม.ปลาย
พื้นฐานเดิม : จบสายวิทย์-คณิตมาค่ะ ไม่เคยเรียนญี่ปุ่นมาก่อน
เกรด ม.ปลาย 3.93
อัตราส่วนคะแนนการคัดนักศึกษาทุน (ปีการศึกษา2560) : เกรด10% , สอบ 80% , สัมภาษณ์ 10%
ข้อสอบแบ่งออกเป็น 3 วิชา (สำหรับคณะบริหารฯ) : คณิต สังคม อังกฤษ
ปกติแล้วไม่ใช่คนที่อ่านหนังสือเรียนเยอะนะคะ บางคนก็บอกว่าข้อสอบยาก บางคนก็ว่าไม่ยาก ขึ้นอยู่กับพื้นฐานเป็นหลักเลย ว่าตั้งใจเก็บเกี่ยวความรู้ว่ามากน้อยแค่ไหน และพี่จะพูดจากความรู้สึกหรือเกณฑ์ของตัวเอง ซึ่งย้ำไว้ก่อนว่า ความยากของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน!! โอเคมาเริ่มกันเลย
ตัวข้อสอบ : คณิต - สำหรับคณิต เป็นวิชาที่พี่มั่นใจที่สุดในทุกวิชา ข้อสอบเป็นเนื้อหาคณิตพื้นฐานเท่านั้น ไม่มีคณิตเพิ่มเติ่มเลย เพื่อความเท่าเทียมของเด็กทุกสาย (ถ้าสอบวิศวะจะเจอคณิตเพิ่มด้วยนะ แต่ไอทีน่าจะเจอคณิตนี้เหมือนกัน) คณิตมีเนื้อหาใกล้เคียงกับ o-net เป็นเลขทั่วๆไป สามารถฝึกทำโจทย์ o-net ได้ ไม่ได้หนักบทไหนเป็นพิเศษ ออกคละๆกัน เช่น เซต ตรรกศาสตร์ ความน่าจะเป็น ฯลฯ แนะนำให้ทำโจทย์ให้ครบทุกบทในเนื้อหาคณิตพื้น น่าจะช่วยให้ทำข้อสอบได้เกือบเต็ม
สังคม - เน้น "ความรู้รอบตัว" ปีนั้นมีเหตุการณ์อะไรสำคัญ พายุลูกไหนเข้า เหตุการณ์การเมือง เศรษฐกิจ มาหมด น่าจะเจอความรู้รอบตัว10 กว่าข้อได้ ส่วนนอกนั้นเป็นข้อมูลทั่วไป รู้สึกว่าภูมิศาสตร์เยอะ ศาสนาก็มีบ้าง แต่ไม่ได้ลงลึกมาก ข้อยากก็มีบ้าง อ่านหนังสือสรุปสังคมที่ขายทั่วๆไป เพียงพอแล้ว (ตอนนั้นจำได้ว่าอ่านสังคมของ พี่บอล) อ่านหลายๆรอบหน่อยก็ดีนะคะ จะได้จำแม่นๆหน่อย อะไรที่ทำความเข้าใจได้ ก็อ่านให้เข้าใจดีกว่า เช่นภูมิศาสตร์หรือประวัติศาสตร์ ลองจินตนาการแผนที่โลกหรือนึกฉากประวัติศาสตร์ตาม จะจำได้ดีขึ้น 555555
อังกฤษ - เน้น "reading" ใช้เวลาพาร์ทนี้เยอะเพราะมีหลายบทความ ยากบ้างง่ายบ้าง ส่วนพาร์ทศัพท์ **แนะนำ ศัพท์ครูสมศรี ออกในนั้นเยอะมากๆ** แกรมม่าก็ทั่วๆไปที่เรียน ม.ปลาย verb ไหนมักใช้ด้วยกัน ,passive voice อื่นๆ ภาพรวมคล้ายๆ GAT ทำโจทย์ GAT ชดเชยกันได้
สัมภาษณ์ : ไม่จำเป็นต้องทำ portfolio เลิศหรูอลังการ เขาเปิดแค่ผ่านๆ ถามแปปเดียว พี่ทำพอร์ตไปเป็นกระดาษ2แผ่น (หน้าหลัง) ออกแบบคล้ายๆเมนูอาหาร ใส่ข้อมูลตัวเอง ประวัติ ผลงานนิตหน่อย แบบสวยค่ะ เพราะทำเอง ออกแบบเอง (เป็นคนชอบงานออกแบบอยู่แล้ว) แต่เขาเปิดดูแค่ผ่านๆนะ แนวคำถามสัมภาษณ์
-
ทำไมอยากเข้าที่นี่ ? (คนส่วนใหญ่จะตอบว่า เพราะว่า ได้เรียนวิชาคณะ ควบคู่กับญี่ปุ่น ได้เรียนสองอย่าง ไรงี้ เพราะงั้นพยายามสร้างความแต่ต่างให้ตัวเอง ตอบให้สร้างสรรค์แต่ไม่ซ้ำซาก)
-
เคยได้รางวัลเกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่นมั้ย ? (เจอคำถามนี้เพราะสัมภาษณ์ BJ มั้ง) ตอนนั้นตอบไปว่า ไม่เคยค่ะ 55555
-
ลองแนะนำตัวเป็นภาษาญี่ปุ่นสิ ? ตอนนั้นพูดแค่ชื่อ กับอายุ นอกนั้นไม่ได้แล้ว ไม่ได้ทำการบ้านมา 555 เตรียมไปนิดหน่อยก็ดีนะ เรื่องการแนะนำตัวภาษาญี่ปุ่นเนี่ย
-
ถ้าไม่ได้ทีนี่จะทำไง ? ตอนนั้นพี่ตอบไปว่า หนูเรียนมหาวิทยาลัยอื่นอยู่ค่ะ ถ้าไม่ได้หนูก็เรียนที่เดิม (แต่ไม่ต้องตอบท้าทายอำนาจขนาดพี่ก็ได้)
สุดท้ายนี้ก็อยากให้ทุกคนตั้งใจอ่านหนังสือ ทำตามความฝันของตัวเองนะ เพราะการเป็นนักศึกษาทุนมันช่วยเพิ่มโอกาสนู่นนี่ให้กับเราได้ เวลามีงานอะไร เราก็มักจะมีโอกาสได้ทำ ได้ช่วยงานนู่นนี่ เป็นประสบการณ์ที่ดี เวลาอ่านหนังสือก็คิดเสมอว่า พื้นฐานคนเราไม่เท่ากัน ถ้าเราอ่านช้า เราก็ต้องพยายามมากกว่าคนอื่น ขอแค่อย่ายอมแพ้ก็พอ สู้ๆ ถ้าพยายามเต็มที่แล้วไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ทำให้ดีที่สุดก่อน จะได้ไม่เสียใจทีหลัง พี่รอน้องๆมาเป็นรุ่นน้องร่วมสถาบันอยู่นะ ไม่ว่าจะเป็นคณะไหนๆก็ตาม เราอยู่กันเป็นครอบครัว TNI เนอะ
**** ย้ำ!! นี่เป็นเพียงแนวข้อสอบของนักศึกษาปี 2560 (สอบ ธ.ค. ปี 2559) ข้อสอบอาจจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปแบบอื่นได้ ***
ข้อมูลอธิบายเพิ่มเติมสำหรับทุนสถาบัน
ที่1 ของคณะ : ได้ทุนประเภทที่ 1 คือทุน 150% (ฟรีค่าหน่วยกิต แถมค่าครองชีพ)
ที่1 ของสาขา : ได้ทุนประเภทที่ 2 คือทุน 100% (ฟรีค่าหน่วยกิตอย่างเดียว) **นี่คือทุนที่พี่ได้**
คะแนนถัดลงมา : ได้ทุนประเภทที่ 3 คือทุน 50% (ฟรีค่าหน่วยกิตครึ่งนึง) จำนวนคนที่ได้ขึ้นกับจำนวนคนที่สอบ ถ้าสาขาไหนคนสอบเยอะก็จะมีที่นั่งได้ถึง 3 คน แต่ถ้าคนสอบน้องก็อาจจะมีแค่ 1-2 คน
----- สู้น้าาาาาาา มีไรสอบถามเพิ่มเติมได้ ถ้าเข้ามาอ่านจะตอบให้จ้าาาา -----
[แนะแนว] ข้อสอบ ทุนสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น (คณะบริหารธุรกิจ)
ขอแทนตัวเองว่าพี่นะคะ เพราะ target ของกระทู้นี้น่าจะเป็นน้องๆ ม.ปลาย
พื้นฐานเดิม : จบสายวิทย์-คณิตมาค่ะ ไม่เคยเรียนญี่ปุ่นมาก่อน
เกรด ม.ปลาย 3.93
อัตราส่วนคะแนนการคัดนักศึกษาทุน (ปีการศึกษา2560) : เกรด10% , สอบ 80% , สัมภาษณ์ 10%
ข้อสอบแบ่งออกเป็น 3 วิชา (สำหรับคณะบริหารฯ) : คณิต สังคม อังกฤษ
ปกติแล้วไม่ใช่คนที่อ่านหนังสือเรียนเยอะนะคะ บางคนก็บอกว่าข้อสอบยาก บางคนก็ว่าไม่ยาก ขึ้นอยู่กับพื้นฐานเป็นหลักเลย ว่าตั้งใจเก็บเกี่ยวความรู้ว่ามากน้อยแค่ไหน และพี่จะพูดจากความรู้สึกหรือเกณฑ์ของตัวเอง ซึ่งย้ำไว้ก่อนว่า ความยากของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน!! โอเคมาเริ่มกันเลย
ตัวข้อสอบ : คณิต - สำหรับคณิต เป็นวิชาที่พี่มั่นใจที่สุดในทุกวิชา ข้อสอบเป็นเนื้อหาคณิตพื้นฐานเท่านั้น ไม่มีคณิตเพิ่มเติ่มเลย เพื่อความเท่าเทียมของเด็กทุกสาย (ถ้าสอบวิศวะจะเจอคณิตเพิ่มด้วยนะ แต่ไอทีน่าจะเจอคณิตนี้เหมือนกัน) คณิตมีเนื้อหาใกล้เคียงกับ o-net เป็นเลขทั่วๆไป สามารถฝึกทำโจทย์ o-net ได้ ไม่ได้หนักบทไหนเป็นพิเศษ ออกคละๆกัน เช่น เซต ตรรกศาสตร์ ความน่าจะเป็น ฯลฯ แนะนำให้ทำโจทย์ให้ครบทุกบทในเนื้อหาคณิตพื้น น่าจะช่วยให้ทำข้อสอบได้เกือบเต็ม
สังคม - เน้น "ความรู้รอบตัว" ปีนั้นมีเหตุการณ์อะไรสำคัญ พายุลูกไหนเข้า เหตุการณ์การเมือง เศรษฐกิจ มาหมด น่าจะเจอความรู้รอบตัว10 กว่าข้อได้ ส่วนนอกนั้นเป็นข้อมูลทั่วไป รู้สึกว่าภูมิศาสตร์เยอะ ศาสนาก็มีบ้าง แต่ไม่ได้ลงลึกมาก ข้อยากก็มีบ้าง อ่านหนังสือสรุปสังคมที่ขายทั่วๆไป เพียงพอแล้ว (ตอนนั้นจำได้ว่าอ่านสังคมของ พี่บอล) อ่านหลายๆรอบหน่อยก็ดีนะคะ จะได้จำแม่นๆหน่อย อะไรที่ทำความเข้าใจได้ ก็อ่านให้เข้าใจดีกว่า เช่นภูมิศาสตร์หรือประวัติศาสตร์ ลองจินตนาการแผนที่โลกหรือนึกฉากประวัติศาสตร์ตาม จะจำได้ดีขึ้น 555555
อังกฤษ - เน้น "reading" ใช้เวลาพาร์ทนี้เยอะเพราะมีหลายบทความ ยากบ้างง่ายบ้าง ส่วนพาร์ทศัพท์ **แนะนำ ศัพท์ครูสมศรี ออกในนั้นเยอะมากๆ** แกรมม่าก็ทั่วๆไปที่เรียน ม.ปลาย verb ไหนมักใช้ด้วยกัน ,passive voice อื่นๆ ภาพรวมคล้ายๆ GAT ทำโจทย์ GAT ชดเชยกันได้
สัมภาษณ์ : ไม่จำเป็นต้องทำ portfolio เลิศหรูอลังการ เขาเปิดแค่ผ่านๆ ถามแปปเดียว พี่ทำพอร์ตไปเป็นกระดาษ2แผ่น (หน้าหลัง) ออกแบบคล้ายๆเมนูอาหาร ใส่ข้อมูลตัวเอง ประวัติ ผลงานนิตหน่อย แบบสวยค่ะ เพราะทำเอง ออกแบบเอง (เป็นคนชอบงานออกแบบอยู่แล้ว) แต่เขาเปิดดูแค่ผ่านๆนะ แนวคำถามสัมภาษณ์
- ทำไมอยากเข้าที่นี่ ? (คนส่วนใหญ่จะตอบว่า เพราะว่า ได้เรียนวิชาคณะ ควบคู่กับญี่ปุ่น ได้เรียนสองอย่าง ไรงี้ เพราะงั้นพยายามสร้างความแต่ต่างให้ตัวเอง ตอบให้สร้างสรรค์แต่ไม่ซ้ำซาก)
- เคยได้รางวัลเกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่นมั้ย ? (เจอคำถามนี้เพราะสัมภาษณ์ BJ มั้ง) ตอนนั้นตอบไปว่า ไม่เคยค่ะ 55555
- ลองแนะนำตัวเป็นภาษาญี่ปุ่นสิ ? ตอนนั้นพูดแค่ชื่อ กับอายุ นอกนั้นไม่ได้แล้ว ไม่ได้ทำการบ้านมา 555 เตรียมไปนิดหน่อยก็ดีนะ เรื่องการแนะนำตัวภาษาญี่ปุ่นเนี่ย
- ถ้าไม่ได้ทีนี่จะทำไง ? ตอนนั้นพี่ตอบไปว่า หนูเรียนมหาวิทยาลัยอื่นอยู่ค่ะ ถ้าไม่ได้หนูก็เรียนที่เดิม (แต่ไม่ต้องตอบท้าทายอำนาจขนาดพี่ก็ได้)
สุดท้ายนี้ก็อยากให้ทุกคนตั้งใจอ่านหนังสือ ทำตามความฝันของตัวเองนะ เพราะการเป็นนักศึกษาทุนมันช่วยเพิ่มโอกาสนู่นนี่ให้กับเราได้ เวลามีงานอะไร เราก็มักจะมีโอกาสได้ทำ ได้ช่วยงานนู่นนี่ เป็นประสบการณ์ที่ดี เวลาอ่านหนังสือก็คิดเสมอว่า พื้นฐานคนเราไม่เท่ากัน ถ้าเราอ่านช้า เราก็ต้องพยายามมากกว่าคนอื่น ขอแค่อย่ายอมแพ้ก็พอ สู้ๆ ถ้าพยายามเต็มที่แล้วไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ทำให้ดีที่สุดก่อน จะได้ไม่เสียใจทีหลัง พี่รอน้องๆมาเป็นรุ่นน้องร่วมสถาบันอยู่นะ ไม่ว่าจะเป็นคณะไหนๆก็ตาม เราอยู่กันเป็นครอบครัว TNI เนอะ
**** ย้ำ!! นี่เป็นเพียงแนวข้อสอบของนักศึกษาปี 2560 (สอบ ธ.ค. ปี 2559) ข้อสอบอาจจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปแบบอื่นได้ ***
ข้อมูลอธิบายเพิ่มเติมสำหรับทุนสถาบัน
ที่1 ของคณะ : ได้ทุนประเภทที่ 1 คือทุน 150% (ฟรีค่าหน่วยกิต แถมค่าครองชีพ)
ที่1 ของสาขา : ได้ทุนประเภทที่ 2 คือทุน 100% (ฟรีค่าหน่วยกิตอย่างเดียว) **นี่คือทุนที่พี่ได้**
คะแนนถัดลงมา : ได้ทุนประเภทที่ 3 คือทุน 50% (ฟรีค่าหน่วยกิตครึ่งนึง) จำนวนคนที่ได้ขึ้นกับจำนวนคนที่สอบ ถ้าสาขาไหนคนสอบเยอะก็จะมีที่นั่งได้ถึง 3 คน แต่ถ้าคนสอบน้องก็อาจจะมีแค่ 1-2 คน
----- สู้น้าาาาาาา มีไรสอบถามเพิ่มเติมได้ ถ้าเข้ามาอ่านจะตอบให้จ้าาาา -----