เอามาบางส่วน อยากอ่านเต็มไปที่
https://praew.com/people/exclusive-talk/200746.html
หลายคนบอกว่าบีเอ็นเคโฟร์ตีเอตที่ยังสามารถไปได้ต่อเพราะมีเฮดเป็น “กัปตันเฌอปราง”?
“เหมือนหัวหน้าห้อง เขาเป็นตัวแทนวง วันนี้คนก็ไนซ์ กับ BNK เพราะเฌอปราง แล้วเขาเป็นเพอร์เฟ็กต์ชั่นนิส เป็นไอดอลจริงๆ ไม่ว่าจะหน้าตาน่ารัก บุคลิกภาพ รวมถึงความคิด ซึ่งก็อยากให้มีทุกคน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาโดดเด่นที่สุด อีกอย่างเขาเป็นกัปตันด้วย เหมือนกับหัวหน้าห้องที่ย่อมต้องออกงานเยอะอยู่แล้ว แต่จริงๆ เราก็พัฒนาน้องๆ คนอื่นด้วย”
ถ้ามือวางอันดับ 1 เป็นเฌอปราง ใครกันที่เป็นมือวางอันดับถัดมา?
“ก็อย่างที่เคยบอกไปว่า BNK48 มีกลุ่มเทพ ก็คือ เฌอปราง, เจนนิส, ปัญ, อร, โมบาย, เนย ก็จะเป็น 6-7 คนที่อยู่ข้างหน้า เพราะฉะนั้นก็จะออกข้างหน้าเยอะสุด”
ในฐานะครูใหญ่มองไว้ว่าน้องๆ ที่จะสามารถพัฒนาเป็นกลุ่มเทพต้องมีอะไรบ้าง?
“ก็ต้องพยายาม พยายามในที่นี้คือรักษาฐานแฟนคลับ คือมันมีหลายปัจจัยในการเลือกเซ็มบัตสึอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นความสามารถหรือพัฒนาการของเขา ความนิยมก็มีส่วนเหมือนกัน เด็กๆ จะมี Live ของเขา เขามีการสื่อสารกับแฟนคลับ เขาต้องแสดงคาแรคเตอร์ออกมา งานจับมือเขาก็ต้องแสดงคาแรคเตอร์ออกมาให้แฟนคลับได้เห็นเขาและสนับสนุนเขา นี่คือสิ่งที่เขาต้องทำ เพราะฉะนั้นมันก็เลยมีความเครียดและกดดันในกลุ่ม เลยเป็นที่มาของเรื่องการเปรียบเทียบว่าคนนั้นมีแฟนคลับเยอะกว่าคนนี้ เอาจริงๆ
ส่วนตัวน้องๆไม่ได้ซีเรียส แต่แฟนคลับไปเมาท์กันเอง เด็กก็เครียดเพราะเขาเสพสื่อออนไลน์”
บทสัมภาษณ์ครูเอ๊ะจากแพรว (บางส่วน)
หลายคนบอกว่าบีเอ็นเคโฟร์ตีเอตที่ยังสามารถไปได้ต่อเพราะมีเฮดเป็น “กัปตันเฌอปราง”?
“เหมือนหัวหน้าห้อง เขาเป็นตัวแทนวง วันนี้คนก็ไนซ์ กับ BNK เพราะเฌอปราง แล้วเขาเป็นเพอร์เฟ็กต์ชั่นนิส เป็นไอดอลจริงๆ ไม่ว่าจะหน้าตาน่ารัก บุคลิกภาพ รวมถึงความคิด ซึ่งก็อยากให้มีทุกคน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาโดดเด่นที่สุด อีกอย่างเขาเป็นกัปตันด้วย เหมือนกับหัวหน้าห้องที่ย่อมต้องออกงานเยอะอยู่แล้ว แต่จริงๆ เราก็พัฒนาน้องๆ คนอื่นด้วย”
ถ้ามือวางอันดับ 1 เป็นเฌอปราง ใครกันที่เป็นมือวางอันดับถัดมา?
“ก็อย่างที่เคยบอกไปว่า BNK48 มีกลุ่มเทพ ก็คือ เฌอปราง, เจนนิส, ปัญ, อร, โมบาย, เนย ก็จะเป็น 6-7 คนที่อยู่ข้างหน้า เพราะฉะนั้นก็จะออกข้างหน้าเยอะสุด”
ในฐานะครูใหญ่มองไว้ว่าน้องๆ ที่จะสามารถพัฒนาเป็นกลุ่มเทพต้องมีอะไรบ้าง?
“ก็ต้องพยายาม พยายามในที่นี้คือรักษาฐานแฟนคลับ คือมันมีหลายปัจจัยในการเลือกเซ็มบัตสึอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นความสามารถหรือพัฒนาการของเขา ความนิยมก็มีส่วนเหมือนกัน เด็กๆ จะมี Live ของเขา เขามีการสื่อสารกับแฟนคลับ เขาต้องแสดงคาแรคเตอร์ออกมา งานจับมือเขาก็ต้องแสดงคาแรคเตอร์ออกมาให้แฟนคลับได้เห็นเขาและสนับสนุนเขา นี่คือสิ่งที่เขาต้องทำ เพราะฉะนั้นมันก็เลยมีความเครียดและกดดันในกลุ่ม เลยเป็นที่มาของเรื่องการเปรียบเทียบว่าคนนั้นมีแฟนคลับเยอะกว่าคนนี้ เอาจริงๆ ส่วนตัวน้องๆไม่ได้ซีเรียส แต่แฟนคลับไปเมาท์กันเอง เด็กก็เครียดเพราะเขาเสพสื่อออนไลน์”