สุดสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคมกลางฤดูใบไม้ร่วงในอเมริกาเหนือที่ปีนี้มีภาพยนตร์ชั้นถูกส่งลงโรงอย่างมากมาย เริ่มต้นจาก Venom ตัวร้ายชื่อดังจาก Spider-man และ A Star is Born หนังกระแสดีคะแนนวิจารณ์เยี่ยมก็เปิดตัวออกมาฟาดฟันกันตั้งแต่ต้นเดือนเลย สำหรับอุปสรรคของหนังเรื่องต่างๆในสุดสัปดาห์นี้คือ Major League Baseball จะเริ่มเข้าสู่รอบ Play-off กันแล้ว และอย่างที่ทราบกันว่า Baseball 1 เกมนั้นใช้เวลาแข่งนานโขอยู่ อาจจะส่งผลต่อผู้ชมบางส่วนที่ต้องการอยู่บ้านเชียร์ทีมรักหน้าจอทีวีมากกว่า
Venom (Sony)
รายได้ประมาณการ = $60-65 ล้านเหรียญ (มีแนวโน้มลดลง)
Venom คู่ปรับตลอดกาลของไอ้แมงมุมได้โอกาสมีหนังเดี่ยวเป็นของตัวเอง และ Sony ก็หวังจะใช้ Venom เป็นภาพยนตร์เปิดจักรวาลของ Spider-man โดยมีแผนจะสร้างหนังเดี่ยวของตัวละครอื่นๆจากไอ้แมงมุมเพิ่มเติมเรื่อยๆ แรกเริ่มเดิมทีนั้น Venom ถูกออกแบบไว้ให้เป็นหนังเรต R วายร้ายรายนี้จะได้อาละวาดบนจอเงินให้สมใจคอหนังและแฟน Comic ที่เฝ้ารออยู่ ซึ่งตัวหนังเองก็ถ่ายทำมาและโปรโมตตัวเองในฐานะหนังเรต R มาโดยตลอด แต่ไม่รู้มีอะไรมาดลใจผู้บริหารของ Sony คิดว่าก็คงเป็นความโลภนั่นแหละ เกิดเปลี่ยนใจในโค้งสุดท้ายอยากจะให้ Venom ได้เรต PG-13 เพื่อจะได้เปิดทางให้ Spider-man ของ Tom Holland สามารถมาแจมได้ในอนาคตรวมทั้งอยากขยายฐานผู้ชมไปยังกลุ่มเยาวชนด้วย แน่นอนว่ามันก็ต้องมีการปรับแก้กันขนานใหญ่ซึ่งที่สุดแล้ว Venom ก็สามารถคว้าเรต PG-13 มาครองได้จริงๆจากการประกาศของ MPAA เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่แววหายนะก็เริ่มบังเกิดเมื่อล่าสุดเว็บ rottentomatoes ให้อัตรา Tomatometer = 28%, Rating = 4.3 จาก 57 Review ส่วน Metacritic ให้ Metascore = 33 จาก 23 Review ถือว่าต่ำพอสมควร ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นผลจากการพยายามเปลี่ยนแปลงตัวหนังเพื่อให้ได้ PG-13 หรือเปล่า อย่างไรก็ดีคะแนนวิจารณ์ไม่ใช่ตัวตัดสินว่าภาพยนตร์เรื่องนั้นๆจะทำเงินได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง The Nun ซึ่งได้คะแนนวิจารณ์ย่ำแย่ก็ยังพาตัวเองกลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดในจักรวาล Conjure-verse ไปเรียบร้อยแล้ว หรือหนังขวัญใจนักวิจารณ์เมื่อปีที่แล้วอย่าง War for the Planet of the Apes หรือ Blade Runner 2049 ก็ไปแทบไม่เป็นบนตารางหนังทำเงินเช่นเดียวกัน สุดท้ายแล้วคนดูจะเป็นผู้ให้คำตอบถึงความนิยมของหนังนั้นเอง
ล่าสุดยอด Presales ของ Venom นั้นอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า Solo : A Star Wars Story นิดหน่อยซึ่ง Solo นั้นเปิดตัว 3 วันอยู่ที่ $84 ล้านเหรียญ แต่ Solo นั้นเข้าฉายในช่วง Summer และเป็นวันหยุด Memorial Day อีกด้วยจึงทำเงินได้มากกว่าปกติแถมยังแปะยี่ห้อ Star Wars มาอีกด้วย Venom ภาพยนตร์ทุนสร้าง $100 ล้านเหรียญจะเปิดตัวด้วยจำนวน 4,250 โรงฉายทั่วอเมริกาเหนือได้รับการคาดหมายเบื้องต้นว่าจะทำเงิน $60-65 ล้านเหรียญและทำลายสถิติเปิดตัวในเดือนตุลาคมที่ Gravity ทำเอาไว้ $55.7 ล้าน แต่หลังจากบทวิจารณ์ออกมาไม่ค่อยจะดีบวกกับคู่แข่งที่แข็งแรงกว่าที่คิดทำให้หลายสำนักคาดหมายตัวเลขเปิดตัวของ Venom ลดลงไปที่ $55-60 ล้านหรืออาจไม่สามารถทำลายสถิติของ Gravity ก็เป็นได้เพราะคะแนนวิจารณ์อาจดึงให้รายได้ในวันอาทิตย์ร่วงลงพอสมควร ส่วนในตลาดโลกนั้น Venom ปูพรมฉายพร้อมกัน 59 ประเทศ โดยตลาดหลักๆที่จะฉายหลังจากสุดสัปดาห์นี้มีเพียง France (10 ตุลาคม) Japan (2 พฤศจิกายน) และจีนที่ยังไม่มีกำหนดฉายเท่านั้น (รวมทั้งไทยในสัปดาห์หน้าด้วย) ซึ่งรายได้เปิดตัวทั่วโลกนั้นคาดว่าจะอยู่ที่ $160-175 ล้านเหรียญ
A Star is Born (Warner Bros.)
รายได้ประมาณการ = $35+ ล้านเหรียญ (มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น)
ดาราจรัสแสงกับการกลับมา Remake เป็นครั้งที่ 4 แล้วซึ่งในฉบับสุดท้ายเมื่อปี 1976 นั้น ASIB ฮิตถล่มทลายและสามารถทำรายได้ในบ้านไปมากถึง $80 ล้านเหรียญ (ประมาณ $350 ล้านเหรียญตามค่าเงินปัจจุบัน) สำหรับการกลับมาครั้งนี้ ASIB ได้ Bradley Cooper ดาราฝีมือดีมารับบทนำฝ่ายชายและรั้งตำแหน่งผู้กำกับเป็นครั้งแรกอีกด้วย ส่วนบทนำหญิงนั้นก็ได้ Lady Gaga มาแสดงนำบนจอภาพยนตร์เป็นครั้งแรกเช่นกัน A Star is Born (2018) นำร่องฉายในเทศกาลภาพยนตร์ที่ Toronto และได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม ทั้งตัวหนังและ Bradley Cooper ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในตัวเต็งสำหรับรางวัล Oscar ในปีหน้าทันที ส่วนคะแนนวิจารณ์นั้นก็พุ่งทะลุเพดานล่าสุดเว็บ rottentomatoes ให้อัตรา Tomatometer = 94%, Rating = 8.0 จาก 151 Review ส่วน Metacritic ให้ Metascore = 87 จาก 53 Review อุปสรรคเพียงอย่างเดียวคือตัวภาพยนตร์นั้นได้รับเรต R จาก MPAA เช่นเดียวกับฉบับปี 1976 ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงผู้ชมในวงกว้างได้เท่าหนังเรต PG-13
A Star is Born ใช้ทุนสร้าง $36 ล้านเหรียญและจะเข้าฉายกว่า 3,500 โรงทั่วอเมริกาเหนือในสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่ยอด Presales ที่ต่ำกว่า Venom ในตอนแรกแต่ก็ค่อยๆตีตื้นขึ้นมาเรื่อยๆทำให้คาดหมายกันว่ารายได้เปิดตัว $35 ล้านที่ประเมินไว้นั้นยังไงก็ต่ำเกินไปแน่ๆ ตอนนี้เริ่มมีการมองเป้าที่ $40-50 ล้านกันแล้วและไม่แน่ด้วยคะแนนวิจารณ์ด้านบวกสุดๆบางที ASIB อาจจะสร้างปาฏิหารย์แย่งบัลลังก์แชมป์เปิดตัวในสุดสัปดาห์นี้มาจาก Venom ก็เป็นได้ และที่สำคัญหนังเรื่องนี้น่าจะกินรายได้กันยาวๆจนสุดท้ายอาจจะกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินในอเมริกาเหนือสูงสุดของเดือนตุลาคมปีนี้เหนือ Venom และ Halloween ได้ด้วยรวมทั้งไต่ไปถึงระดับ $200 ล้านเหรียญกันเลยทีเดียว ในตลาดโลกนั้น ASIB จะเปิดตัวใน 31 ประเทศสุดสัปดาห์นี้รวมทั้ง UK, Germany, Russia และ France และทำเงินเปิดตัวรวมทั่วโลกในระดับ $55+ ล้าน นอกจากนี้ยังเหลือตลาดหลักอีกเพียบที่จะลงในสัปดาห์หน้า South Korea, Brazil, Spain, Italy, Mexico ส่วน Australia ในวันที่ 18 ตุลาคม Japan วันที่ 21 ธันวาคม ยังไม่มีข่าวเรื่องการเข้าฉายในจีน
Night School (Universal)
Smallfoot (Warner Bros.)
รายได้ประมาณการ = $14-15 ล้านเหรียญ
คู่หูดูโอที่เปิดตัวพร้อมกันในสัปดาห์ที่แล้วได้รับการคาดหมายว่าจะร่วงลงมาอยู่ที่อันดับ 3 และ 4 และทำเงินได้พอๆกันที่ $14-15 ล้าน ทำให้รายได้รวมของทั้งคู่ขยับขึ้นมาอยุ่ที่ $40-50 ล้านเหรียญ สุดสัปดาห์นี้คิดว่าทั้งสองเรื่องคงเงียบๆไปจากการเปิดตัวของ Venom และ A Star is Born รวมทั้งในตลาดโลกด้วยที่ยังต้องหลบให้หนังใหม่ทั้งสองเรื่อง ตลาดสำคัญมีเพียง Italy เท่านั้นที่ Smallfoot จะลงสนาม
The House with a Clock in Its Walls (Universal)
รายได้ประมาณการ = $7 ล้านเหรียญ
The House ยังคงเดินหน้าเก็บรายได้ในบ้านต่อไป สุดสัดาห์ที่ 3 คาดว่าจะเดินเข็มโกยเงินได้อีกราว $7 ล้านเหรียญส่งให้รายได้รวมในบ้านบ้านขึ้นไปอยู่ที่ราว $55 ล้าน ส่วนในตลาดโลก The House with a Clock in Its Walls ก็ต้องหลบให้ Venom และ ASIB เช่นเดียวกันโดยไม่มีการเปิดตัวเพิ่มในตลาดสำคัญๆแต่อย่างใด
[BoxOffice NA] Venom ออกอาละวาด vs การเริ่มต้น World Tour ของ A Star is Born
Venom (Sony)
รายได้ประมาณการ = $60-65 ล้านเหรียญ (มีแนวโน้มลดลง)
Venom คู่ปรับตลอดกาลของไอ้แมงมุมได้โอกาสมีหนังเดี่ยวเป็นของตัวเอง และ Sony ก็หวังจะใช้ Venom เป็นภาพยนตร์เปิดจักรวาลของ Spider-man โดยมีแผนจะสร้างหนังเดี่ยวของตัวละครอื่นๆจากไอ้แมงมุมเพิ่มเติมเรื่อยๆ แรกเริ่มเดิมทีนั้น Venom ถูกออกแบบไว้ให้เป็นหนังเรต R วายร้ายรายนี้จะได้อาละวาดบนจอเงินให้สมใจคอหนังและแฟน Comic ที่เฝ้ารออยู่ ซึ่งตัวหนังเองก็ถ่ายทำมาและโปรโมตตัวเองในฐานะหนังเรต R มาโดยตลอด แต่ไม่รู้มีอะไรมาดลใจผู้บริหารของ Sony คิดว่าก็คงเป็นความโลภนั่นแหละ เกิดเปลี่ยนใจในโค้งสุดท้ายอยากจะให้ Venom ได้เรต PG-13 เพื่อจะได้เปิดทางให้ Spider-man ของ Tom Holland สามารถมาแจมได้ในอนาคตรวมทั้งอยากขยายฐานผู้ชมไปยังกลุ่มเยาวชนด้วย แน่นอนว่ามันก็ต้องมีการปรับแก้กันขนานใหญ่ซึ่งที่สุดแล้ว Venom ก็สามารถคว้าเรต PG-13 มาครองได้จริงๆจากการประกาศของ MPAA เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่แววหายนะก็เริ่มบังเกิดเมื่อล่าสุดเว็บ rottentomatoes ให้อัตรา Tomatometer = 28%, Rating = 4.3 จาก 57 Review ส่วน Metacritic ให้ Metascore = 33 จาก 23 Review ถือว่าต่ำพอสมควร ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นผลจากการพยายามเปลี่ยนแปลงตัวหนังเพื่อให้ได้ PG-13 หรือเปล่า อย่างไรก็ดีคะแนนวิจารณ์ไม่ใช่ตัวตัดสินว่าภาพยนตร์เรื่องนั้นๆจะทำเงินได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง The Nun ซึ่งได้คะแนนวิจารณ์ย่ำแย่ก็ยังพาตัวเองกลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดในจักรวาล Conjure-verse ไปเรียบร้อยแล้ว หรือหนังขวัญใจนักวิจารณ์เมื่อปีที่แล้วอย่าง War for the Planet of the Apes หรือ Blade Runner 2049 ก็ไปแทบไม่เป็นบนตารางหนังทำเงินเช่นเดียวกัน สุดท้ายแล้วคนดูจะเป็นผู้ให้คำตอบถึงความนิยมของหนังนั้นเอง
ล่าสุดยอด Presales ของ Venom นั้นอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า Solo : A Star Wars Story นิดหน่อยซึ่ง Solo นั้นเปิดตัว 3 วันอยู่ที่ $84 ล้านเหรียญ แต่ Solo นั้นเข้าฉายในช่วง Summer และเป็นวันหยุด Memorial Day อีกด้วยจึงทำเงินได้มากกว่าปกติแถมยังแปะยี่ห้อ Star Wars มาอีกด้วย Venom ภาพยนตร์ทุนสร้าง $100 ล้านเหรียญจะเปิดตัวด้วยจำนวน 4,250 โรงฉายทั่วอเมริกาเหนือได้รับการคาดหมายเบื้องต้นว่าจะทำเงิน $60-65 ล้านเหรียญและทำลายสถิติเปิดตัวในเดือนตุลาคมที่ Gravity ทำเอาไว้ $55.7 ล้าน แต่หลังจากบทวิจารณ์ออกมาไม่ค่อยจะดีบวกกับคู่แข่งที่แข็งแรงกว่าที่คิดทำให้หลายสำนักคาดหมายตัวเลขเปิดตัวของ Venom ลดลงไปที่ $55-60 ล้านหรืออาจไม่สามารถทำลายสถิติของ Gravity ก็เป็นได้เพราะคะแนนวิจารณ์อาจดึงให้รายได้ในวันอาทิตย์ร่วงลงพอสมควร ส่วนในตลาดโลกนั้น Venom ปูพรมฉายพร้อมกัน 59 ประเทศ โดยตลาดหลักๆที่จะฉายหลังจากสุดสัปดาห์นี้มีเพียง France (10 ตุลาคม) Japan (2 พฤศจิกายน) และจีนที่ยังไม่มีกำหนดฉายเท่านั้น (รวมทั้งไทยในสัปดาห์หน้าด้วย) ซึ่งรายได้เปิดตัวทั่วโลกนั้นคาดว่าจะอยู่ที่ $160-175 ล้านเหรียญ
A Star is Born (Warner Bros.)
รายได้ประมาณการ = $35+ ล้านเหรียญ (มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น)
ดาราจรัสแสงกับการกลับมา Remake เป็นครั้งที่ 4 แล้วซึ่งในฉบับสุดท้ายเมื่อปี 1976 นั้น ASIB ฮิตถล่มทลายและสามารถทำรายได้ในบ้านไปมากถึง $80 ล้านเหรียญ (ประมาณ $350 ล้านเหรียญตามค่าเงินปัจจุบัน) สำหรับการกลับมาครั้งนี้ ASIB ได้ Bradley Cooper ดาราฝีมือดีมารับบทนำฝ่ายชายและรั้งตำแหน่งผู้กำกับเป็นครั้งแรกอีกด้วย ส่วนบทนำหญิงนั้นก็ได้ Lady Gaga มาแสดงนำบนจอภาพยนตร์เป็นครั้งแรกเช่นกัน A Star is Born (2018) นำร่องฉายในเทศกาลภาพยนตร์ที่ Toronto และได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม ทั้งตัวหนังและ Bradley Cooper ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในตัวเต็งสำหรับรางวัล Oscar ในปีหน้าทันที ส่วนคะแนนวิจารณ์นั้นก็พุ่งทะลุเพดานล่าสุดเว็บ rottentomatoes ให้อัตรา Tomatometer = 94%, Rating = 8.0 จาก 151 Review ส่วน Metacritic ให้ Metascore = 87 จาก 53 Review อุปสรรคเพียงอย่างเดียวคือตัวภาพยนตร์นั้นได้รับเรต R จาก MPAA เช่นเดียวกับฉบับปี 1976 ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงผู้ชมในวงกว้างได้เท่าหนังเรต PG-13
A Star is Born ใช้ทุนสร้าง $36 ล้านเหรียญและจะเข้าฉายกว่า 3,500 โรงทั่วอเมริกาเหนือในสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่ยอด Presales ที่ต่ำกว่า Venom ในตอนแรกแต่ก็ค่อยๆตีตื้นขึ้นมาเรื่อยๆทำให้คาดหมายกันว่ารายได้เปิดตัว $35 ล้านที่ประเมินไว้นั้นยังไงก็ต่ำเกินไปแน่ๆ ตอนนี้เริ่มมีการมองเป้าที่ $40-50 ล้านกันแล้วและไม่แน่ด้วยคะแนนวิจารณ์ด้านบวกสุดๆบางที ASIB อาจจะสร้างปาฏิหารย์แย่งบัลลังก์แชมป์เปิดตัวในสุดสัปดาห์นี้มาจาก Venom ก็เป็นได้ และที่สำคัญหนังเรื่องนี้น่าจะกินรายได้กันยาวๆจนสุดท้ายอาจจะกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินในอเมริกาเหนือสูงสุดของเดือนตุลาคมปีนี้เหนือ Venom และ Halloween ได้ด้วยรวมทั้งไต่ไปถึงระดับ $200 ล้านเหรียญกันเลยทีเดียว ในตลาดโลกนั้น ASIB จะเปิดตัวใน 31 ประเทศสุดสัปดาห์นี้รวมทั้ง UK, Germany, Russia และ France และทำเงินเปิดตัวรวมทั่วโลกในระดับ $55+ ล้าน นอกจากนี้ยังเหลือตลาดหลักอีกเพียบที่จะลงในสัปดาห์หน้า South Korea, Brazil, Spain, Italy, Mexico ส่วน Australia ในวันที่ 18 ตุลาคม Japan วันที่ 21 ธันวาคม ยังไม่มีข่าวเรื่องการเข้าฉายในจีน
Night School (Universal)
Smallfoot (Warner Bros.)
รายได้ประมาณการ = $14-15 ล้านเหรียญ
คู่หูดูโอที่เปิดตัวพร้อมกันในสัปดาห์ที่แล้วได้รับการคาดหมายว่าจะร่วงลงมาอยู่ที่อันดับ 3 และ 4 และทำเงินได้พอๆกันที่ $14-15 ล้าน ทำให้รายได้รวมของทั้งคู่ขยับขึ้นมาอยุ่ที่ $40-50 ล้านเหรียญ สุดสัปดาห์นี้คิดว่าทั้งสองเรื่องคงเงียบๆไปจากการเปิดตัวของ Venom และ A Star is Born รวมทั้งในตลาดโลกด้วยที่ยังต้องหลบให้หนังใหม่ทั้งสองเรื่อง ตลาดสำคัญมีเพียง Italy เท่านั้นที่ Smallfoot จะลงสนาม
The House with a Clock in Its Walls (Universal)
รายได้ประมาณการ = $7 ล้านเหรียญ
The House ยังคงเดินหน้าเก็บรายได้ในบ้านต่อไป สุดสัดาห์ที่ 3 คาดว่าจะเดินเข็มโกยเงินได้อีกราว $7 ล้านเหรียญส่งให้รายได้รวมในบ้านบ้านขึ้นไปอยู่ที่ราว $55 ล้าน ส่วนในตลาดโลก The House with a Clock in Its Walls ก็ต้องหลบให้ Venom และ ASIB เช่นเดียวกันโดยไม่มีการเปิดตัวเพิ่มในตลาดสำคัญๆแต่อย่างใด