รีวิว One Cut of The Dead : วันคัท ซอมบี้งับๆๆๆ
ยกให้เป็นหนังในดวงใจตลอดกาลของเราเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว..
[**No Spoil เนื้อหาสำคัญ..]

หนังดีมากกกกกก สนุกและฮาชิกหายวายป่วงมาก ไม่ได้ขำท้องแข็ง ขำน้ำตาไหลขนาดนี้นานมากแล้ว เอานิ้วมาปาดน้ำตาบ่อยมาก!! ขนาดแอบคาดหวังไว้สูง หนังยังทำได้ดีเกินคาดเอามากๆ

พล็อตเรื่องเฉียบโคตร !! ช่วงแรกของหนังอาจดูแล้วสนุกแบบ WTF !! รู้สึก xxxไรของเนี่ยเป็นพักๆ แต่ช่วงหลังคือที่สุดของความพีค โดยเฉพาะความตลกที่มาแบบไม่ได้หยุดพักเลยทีเดียว ยิ่งใครเดาช็อตล่วงหน้าออกแบบเรา มันจะขำเผื่อล่วงหน้านานมากๆๆๆ


หนังเกี่ยวกับอะไร..?

หน้าหนังบอกเราไว้แค่ กองถ่ายหนังเล็กๆ กองหนึ่งมีความคิดที่จะถ่ายทำหนังซอมบี้แบบ Non Stop เทคเดียวจบ และได้ไปใช้สถานที่แห่งหนึ่งถ่ายทำ ซึ่งมีตำนานเล่าว่า... ที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของการทดลองอะไรสักอย่างทางทหารในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นเหตุให้พวกเขาได้เจอกับ "ซอมบี้" จริงๆ !!

เราเล่าได้แค่นี้จริงๆ เรื่องนี้เป็นรีวิวที่เขียนยากมากที่สุดเรื่องนึง มันมีอะไรอัดอั้นตันใจอยากจะบอกเยอะแยะมาก แต่ก็ต้องมานั่งระวังว่าจะเผลอไปสปอยล์ส่วนสำคัญของหนังหรือไม่.. ใครอยากทราบเรื่องย่อมากกว่านี้ ว่าทำไมตูต้องดูหนังเรื่องนี้ตามด้วย สามารถอ่านได้ในท้ายบทความ ที่เราครอบ SPOIL เอาไว้ให้นะครับ (ซึ่งถึงรู้แล้วก็ยังดูสนุกอยู่แหละ ให้ตัดสินใจเอง)


ความรู้สึกที่อัดอั้นตันใจหลังสดับรับชม

เราชื่นชมอย่างสุดหัวใจ ให้กับพล็อตเรื่องที่ไอเดียบรรเจิดมาก แถมยังใช้ทุนสร้างต่ำไม่ถึง 1 ล้านบาทด้วยซ้ำไป แต่กลับทำเงินไปแล้ว 300 กว่าล้านบาททั่วโลก !! หนังพิสูจน์ว่าคุณไม่จำเป็นต้องมีทุนสูง ไม่ต้องมี CG เทพๆ ไม่มีต้องมีดาราดัง ขอแค่คุณมีไอเดีย มีพล็อตดีๆ มันก็จะเป็นหนังที่ดีและทำเงินได้อย่างมหาศาล ระดับเป็นปรากฏการณ์หนึ่งในวงการภาพยนตร์เลยทีเดียว

หนังเปิดเรื่องมาอย่างสุดคูล ด้วยการถ่ายทำแบบ Non Stop ลองเทคยาว 37 นาที ไม่มีคัต ไม่มีตัด !! เป็นอะไรที่โหดหินท้าทายคนทำงานเบื้องหลังสุดๆ ทุกอย่างต้องใช้บุคลากรที่มีความสามารถสูงมาก เพราะมันจะพลาดหลุดสคริปไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว การออกแบบ "มุมกล้อง" ในเรื่องนี้ทำได้ดีมาก ไม่ใช่แค่ 37 นาทีนี้แรกเท่านั้น แต่พี่โชว์มุมกล้องระดับเทพจนจบเรื่องจริงๆ เป็นอีกจุดที่ทำให้เราหลงรักไปเลย

ในเรื่อง "ความตลก" หนังเอาชีวิตจริงคนทำงานเบื้องหลังกองถ่ายมาขยี้ได้อย่างมีชั้นเชิง เป็นตลกร้ายที่ทั้งตลกและจิกกัดไปในตัว หยิบเอาสถานการณ์ที่เราดูแล้วตลกแทบตาย แต่คนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นเชื่อว่า "พวกเขาไม่ตลกด้วยแน่ๆ" ..

เรื่องนี้ไม่ได้ฮากะโหลกกะลา กระปริบกระปรอยนะคร้าบบบบ หนังผ่านไปยังไม่ถึงครึ่งเรื่องดี แต่พอเข้าโหมดเรียกเสียงฮา มันทำให้เราฮาแบบ Non Stop ยาวพอๆ กับฉากลองเทคต้นเรื่องเลยทีเดียว..

สรุป.. ยอมรับว่าถูกใจและถูกจริตมากขั้นสุด นานๆ ทีจะมีหนังที่เราอยากแนะนำขนาดถึงใช้คำว่า "ต้องไปดู" และเชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะชอบหนังเรื่องนี้แน่ๆ แต่.. ข้อควรระวังโปรดฟังทางนี้

**คำเตือน เรื่องนี้มันไม่ใช่หนังซอมบี้จ๋า จะเรียกว่าไม่ใช่หนังซอมบี้เลยก็ว่าได้ ซอมบี้ในเรื่องนี่จัดว่านักรักเลยแหละ เพราะฉะนั้นใครตั้งใจจะไปดูซอมบี้ไล่กัดแบบลุ้นระทึก อาจต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่เสียก่อนจะไปนั่งนอยในโรงกัน

อีกจุดคือ.. ข้อดีของหนังอย่างฉาก "ลองเทค" มันไม่ใช่ว่าทุกคนจะชอบมุมกล้องแบบนี้ เพราะมันชวนให้มึนหัว เวียนหัวกันไม่น้อย ด้วยภาพที่ได้มาจากการถือกล้องตัวใหญ่ๆ แล้ววิ่งหนีซอมบี้ไปมา..


สุดท้ายแล้ว.. เรื่องนี้เป็นการดูหนังรอบสื่อที่ดูจบแล้วทุกคนปรบมือกันเสียงดังมาก แบบไม่ใช่แค่การปรบมือตามมารยาททั่วๆ ไป แต่เป็นการปรบออกมาจากใจให้ทีมงานว่า #พวกคุณแม่มเจ๋งจริง!!

การันตีด้วยมะเขือ Fresh 100% จาก Rotten Tomatoes !! นาจาาาาาาาาาาา

" รสนิยมการดูหนังแต่ละคน ไม่เหมือนกัน
ถ้าคุณคิดว่าใช่ พิสูจน์ด้วยตาของคุณเองดีที่สุด
แล้วอย่าลืมกลับมาคุยกันนะครับ ^^ "

.
.
.

#ก็แค่คนชอบดูหนัง
#OneCutofTheDead #วันคัทซอมบี้งับๆๆๆ

อยากอ่านก่อน อ่านไวเจอกันในเพจ "ก็แค่คนชอบดูหนัง" ได้นะคร้าบบบ ><
บางเรื่องขี้เกียจลงบอร์ด บางเรื่องขี้เกียจรีวิวเลยก็มี 5555555
https://www.facebook.com/JustAManLikeToWatchMovie



.
.
.

[ Spoil Alert !! ] ส่วนนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนแบบเบาๆ ถึงแนวทางหลักของหนังเรื่องนี้.. ซึ่งถ้ารู้แล้วคุณก็ยังดูหนังได้สนุกอยู่แหละ แต่เราอยากแยกพาร์ทมาให้เพื่อนๆ ได้ตัดสินใจเอาเองว่าจะอ่านหรือไม่ หรือจะไปลุ้นในโรงเอาทีเดียว.. ถ้าพร้อมแล้วก็อ่านข้างล่างกันได้เลยจ้าาา

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จากรีวิวข้างต้น แน่นอนว่านี่มันไม่ใช่หนังซอมบี้เลยด้วยซ้ำ แต่มันเป็นหนังแนว "หนังซ้อนหนัง" เป็นเรื่องราวของกองถ่ายหนังอีกที เหมือนหนังใช้เวลาช่วงกลางเรื่องเป็นต้นไปเผยเบื้องหลังว่า.. หนังซอมบี้แบบ Non-Stop 37 นาทีแรกเนี่ย เขามีวิธีการเตรียมการ วางแผนและถ่ายทำอย่างไร..

การถ่ายทำฉาก "ลองเทค" ต้องเจอกับอุปสรรคอะไรระหว่างถ่ายทำบ้าง แล้วพวกเขามีวิธีด้นสดอย่างไรให้ลื่นไหลดำเนินต่อไปได้ บอกเลยครับว่า ยิ่งถ้าคุณเป็นคนในวงการภาพยนตร์ เป็นคนเบื้องหลังยิ่งต้องดู !! เพราะคุณจะอินกว่าชาวบ้านชาวช่องเขาเยอะเลยทีเดียว ถ้าให้เปรียบเทียบกับหนังเรื่องอื่นที่เคยดู เรานึกถึง Welcome Back Mr. Mcdonald (1997) ที่เปลี่ยนจากละครวิทยุ มาเป็นภาพยนตร์ซอมบี้แทน..

ไปดูเถอะครับสนุกจริงๆ เรายังว่าจะไปดูซ้ำอีกรอบเลย