ในยุคที่มนุษย์ให้ความสำคัญกับคำว่ามิตรภาพและสันติภาพ มากกว่าอำนาจการปกครองแย่งชิงดินแดน นักรบจับดาบต่อสู้กับข้าศึกจึงเป็นอะไรที่แทบจะไม่มีบทบาทเหลือแล้วในสังคม แต่นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยได้ทำให้ภาพนักรบกลับขึ้นมาชัดเจนอีกครั้ง ด้วยการต่อสู้จากทักษะทางด้านกีฬา มันได้แสดงให้เห็นถึงจิตใจที่เปี่ยมล้นไปด้วยความมุ่งมั่น ท่าทางและแววตาที่กระหายในชัยชนะ เกือบจะทำให้ผมกลั้นน้ำตาไว้แทบจะไม่อยู่...
วันนี้นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ลงแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกกับประเทศสหรัฐอเมริกาที่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น การแข่งขันในเซตแรกและเซตที่ 2 ผมเข้าใจว่าทีมงานสต๊าฟโค้ชต้องการออมแรงนักกีฬา เพื่อที่จะไปสู้กับอาเซอร์ไบจานในวันพรุ่งนี้ เพราะเราพักทัดดาวและน้องบีม คะแนนก็ค่อนข้างห่าง คงอยากให้เกมจบไว ๆ นักกีฬาจะได้มีเวลาพักผ่อนเยอะ ๆ เนื่องจากยังไงเราก็ต้องแพ้อเมริกาอยู่แล้ว (ยังแอบบ่นอยู่เลยว่า ถ้าจะพักทำไมไม่พักพี่หน่อง) แต่พอการแข่งขันมาถึงเซตที่ 3 อยู่ ๆ เกมรับทีมไทยก็ทำได้ดีขึ้น อยู่ ๆ เพียวก็ตบหาย ๆ จนสุดท้ายเราได้เซตมา ผมดีใจที่อย่างน้อยไทยก็ได้เซต ไม่น้อยหน้าเกาหลี แต่พอมาถึงเซต 4 มันไม่ใช่แล้ว!!! ผมประมาทผู้เล่นทีมเรามากเกินไป ตัวผู้เล่นเราไม่ได้ฝีมือต่างกันมากขนาดนั้น ทุกตัวที่ลงมาวันนี้มันก็คือตัวจริงนั่นแหละ แค่อยู่ทีว่าวันไหนฝีมือใครจะเข้าฝัก และโชคดีที่วันนี้เป็นวันของกัปตันกิ๊ฟ พี่ปู มลิกา และน้องเพียว โชคดีที่ 3 คนมาพร้อมกัน เกมเราสู้กับอเมริกาได้สูสี จนมาเบียดแซงในช่วงท้ายเกม แต่แล้วสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับทีมของเราที่สุดมันก็เกิดขึ้น หลังจากแต้มที่เราพึ่งจะขึ้นนำอเมริกา 19-18 น้องเพียวก็ข้อเท้าพลิกจากการกระโดดขึ้นบล็อก อารมณ์ตอนนั้นคือ อีกแล้วหรอวะ! บุ๋มบิ๋มพลิก เตยผ่าตัด บีมเจ็บเข่า วันนี้เพียวอีกแล้วหรอวะ!! แล้วเราเหลือใคร? ตอนนั้นคิดแค่นี้จริงๆ ในหัวก็นึก บุ๋มบิ๋มไหวมั้ย ควรจะเสี่ยงรึป่าว ผมยังตัดสินใจไม่ได้ด้วยซ้ำ โค้ชก็เปลี่ยนตัวเอาพี่อรลงไปแทน มันทำให้ผมรู้เลยว่า การทำหน้าที่โค้ชมันไม่ง่ายเลย ต้องตัดสินใจเร็ว และแก้เกมให้ได้ดี ซึ่งผมคงทำไม่ได้แน่ ๆ ภาพตัดมาที่เพียว น้องร้องไห้ ผมเข้าใจความรู้สึกเลย เพราะน้องคงตั้งใจฝึกและรักษาตัวเองมาตลอดทั้งปี ก็เพื่อแข่งรายการนี้ แล้ววันนี้น้องก็ทำหน้าที่ได้ดีมาก อยู่ ๆ มาเจ็บแบบนี้เป็นใครก็เฟลครับ สงสารน้อง สงสารทีม (นี่คือความคิดในหัวตอนนั้น) แต่เกมก็ต้องดำเนินต่อไป บอกตรง ๆ ว่าใจแป้วครับ กลัวเราแพ้ ทั้ง ๆ ที่เตรียมใจว่ายังไงก็แพ้มาอยู่แล้ว พอฟอร์มทีมเราดีแบบนี้มันก็เลยหวังมากไปหน่อย กล้องจับภาพไปที่ผู้เล่นในสนาม ภาพนั้นมันทำให้ผมน้ำตาเอ่อ แต่ดีที่ไม่ล้น (5555) นี่ไงผู้เล่นที่พาเรามาถึงจุดนี้ ก็มันเพราะคนพวกนี้ไม่ใช่เหรอ เราถึงได้มีทีมชาติไทยมาแข่งให้เราได้นั่งเชียร์ในวันนี้ ทำไมเราถึงไม่มั่นใจในศักยภาพ ในหัวใจ ในความตั้งใจของพวกเขา...
วิลาวัณย์ นักกีฬาที่ต่อสู้ด้วยความเร็ว มันสมอง และเป็นศูนย์รวมของทีม ที่สำคัญ หัวใจที่แกร่งเกินใคร ไม่เคยยอมให้ใครง่าย ๆ
ปลื้มจิตร์ นักกีฬาที่ฝีมือเสถียรที่สุดในทีม ไม่ว่าใครจะขึ้นจะลงยังไง เธอคนนี้เป็นคนที่พึ่งพาได้เสมอเมื่อทีมต้องการคะแนน
มลิกา ผู้เล่นบีหลังที่มีการวางบอลที่ยอดเยี่ยม การตีทัชบลอก การตีขนานเส้น เป็นเทคนิคที่เธอถนัดและทำได้ดีมาก
อรอุมา นักกีฬาที่มีพละกำลังมากที่สุดในทีม ผู้เล่นตัวตีที่ดีที่สุดที่ไทยเคยมีมา ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเพราะเธอเป็นกำลังหลักของทีม เราถึงได้มายืนอยู่ตรงจุดนี้
แค่ผมเห็นภาพนั้นความรู้สึกกลัวมันก็หายไป ผมยอมรับว่าฝีมือของพวกเธออาจจะสู้เมื่อหลายปีก่อนไม่ได้ แต่ผมยังมั่นใจ มั่นใจในศักยภาพที่พวกเธอมี ต่อให้วันนี้จะแพ้ ผมก็ไม่เสียใจ จนสุดท้าย เราก็ชนะในเซตนั้น ผมดีใจกว่าที่เราชนะเกาหลีได้ในวันโน้นซะอีก สำหรับผมมันพอแล้ว ไม่ต้องชนะเซต 5 ก็ได้ แค่นี้มันก็เพียงพอแล้ว ผมดีใจมากแล้ว
เหตุการณ์นี้มันเหมือนผมได้เห็นนักรบที่อ่อนแรงจากการกรำศึกมายาวนานจนแทบจะยืนไม่ไหว ปักหลักยืนต่อสู้ท่ามกลางคู่ต่อสู้ที่ถาโถมเข้ามาเป็นชุด ๆ แล้วจู่ ๆ นักรบที่เราฝากความหวังไว้ ก็พลาดเกิดการบาดเจ็บจนไม่สามารถสู้ต่อไปได้ กำลังใจในทีมร่วงหล่น แต่ด้วยความช่ำชองในสนามรบ มันทำให้พวกเธอเอาชนะศัตรูชุดนั้นไปได้อย่างงดงาม แม้ว่าในท้ายที่สุด เราจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่เราก็ได้เห็นความแข็งแกร่งของจิตใจ และความสามารถทั้งหมดที่พวกเธอมี เห็นสิ่งที่พวกเธอทำให้ทั่วโลกได้เห็นอยู่ตลอดเวลา นั่นคือรอยยิ้ม ไม่ว่าจะผิดหวังจะพ่ายแพ้อีกสักกี่ครั้ง นักรบของเราก็ยังคงเป็น “นักรบเปื้อนยิ้ม” แบบนี้ตลอดไป สดุดีนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย
บันทึกความรู้สึกเกม ไทย - อเมริกา วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2018
วันนี้นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ลงแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกกับประเทศสหรัฐอเมริกาที่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น การแข่งขันในเซตแรกและเซตที่ 2 ผมเข้าใจว่าทีมงานสต๊าฟโค้ชต้องการออมแรงนักกีฬา เพื่อที่จะไปสู้กับอาเซอร์ไบจานในวันพรุ่งนี้ เพราะเราพักทัดดาวและน้องบีม คะแนนก็ค่อนข้างห่าง คงอยากให้เกมจบไว ๆ นักกีฬาจะได้มีเวลาพักผ่อนเยอะ ๆ เนื่องจากยังไงเราก็ต้องแพ้อเมริกาอยู่แล้ว (ยังแอบบ่นอยู่เลยว่า ถ้าจะพักทำไมไม่พักพี่หน่อง) แต่พอการแข่งขันมาถึงเซตที่ 3 อยู่ ๆ เกมรับทีมไทยก็ทำได้ดีขึ้น อยู่ ๆ เพียวก็ตบหาย ๆ จนสุดท้ายเราได้เซตมา ผมดีใจที่อย่างน้อยไทยก็ได้เซต ไม่น้อยหน้าเกาหลี แต่พอมาถึงเซต 4 มันไม่ใช่แล้ว!!! ผมประมาทผู้เล่นทีมเรามากเกินไป ตัวผู้เล่นเราไม่ได้ฝีมือต่างกันมากขนาดนั้น ทุกตัวที่ลงมาวันนี้มันก็คือตัวจริงนั่นแหละ แค่อยู่ทีว่าวันไหนฝีมือใครจะเข้าฝัก และโชคดีที่วันนี้เป็นวันของกัปตันกิ๊ฟ พี่ปู มลิกา และน้องเพียว โชคดีที่ 3 คนมาพร้อมกัน เกมเราสู้กับอเมริกาได้สูสี จนมาเบียดแซงในช่วงท้ายเกม แต่แล้วสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับทีมของเราที่สุดมันก็เกิดขึ้น หลังจากแต้มที่เราพึ่งจะขึ้นนำอเมริกา 19-18 น้องเพียวก็ข้อเท้าพลิกจากการกระโดดขึ้นบล็อก อารมณ์ตอนนั้นคือ อีกแล้วหรอวะ! บุ๋มบิ๋มพลิก เตยผ่าตัด บีมเจ็บเข่า วันนี้เพียวอีกแล้วหรอวะ!! แล้วเราเหลือใคร? ตอนนั้นคิดแค่นี้จริงๆ ในหัวก็นึก บุ๋มบิ๋มไหวมั้ย ควรจะเสี่ยงรึป่าว ผมยังตัดสินใจไม่ได้ด้วยซ้ำ โค้ชก็เปลี่ยนตัวเอาพี่อรลงไปแทน มันทำให้ผมรู้เลยว่า การทำหน้าที่โค้ชมันไม่ง่ายเลย ต้องตัดสินใจเร็ว และแก้เกมให้ได้ดี ซึ่งผมคงทำไม่ได้แน่ ๆ ภาพตัดมาที่เพียว น้องร้องไห้ ผมเข้าใจความรู้สึกเลย เพราะน้องคงตั้งใจฝึกและรักษาตัวเองมาตลอดทั้งปี ก็เพื่อแข่งรายการนี้ แล้ววันนี้น้องก็ทำหน้าที่ได้ดีมาก อยู่ ๆ มาเจ็บแบบนี้เป็นใครก็เฟลครับ สงสารน้อง สงสารทีม (นี่คือความคิดในหัวตอนนั้น) แต่เกมก็ต้องดำเนินต่อไป บอกตรง ๆ ว่าใจแป้วครับ กลัวเราแพ้ ทั้ง ๆ ที่เตรียมใจว่ายังไงก็แพ้มาอยู่แล้ว พอฟอร์มทีมเราดีแบบนี้มันก็เลยหวังมากไปหน่อย กล้องจับภาพไปที่ผู้เล่นในสนาม ภาพนั้นมันทำให้ผมน้ำตาเอ่อ แต่ดีที่ไม่ล้น (5555) นี่ไงผู้เล่นที่พาเรามาถึงจุดนี้ ก็มันเพราะคนพวกนี้ไม่ใช่เหรอ เราถึงได้มีทีมชาติไทยมาแข่งให้เราได้นั่งเชียร์ในวันนี้ ทำไมเราถึงไม่มั่นใจในศักยภาพ ในหัวใจ ในความตั้งใจของพวกเขา...
วิลาวัณย์ นักกีฬาที่ต่อสู้ด้วยความเร็ว มันสมอง และเป็นศูนย์รวมของทีม ที่สำคัญ หัวใจที่แกร่งเกินใคร ไม่เคยยอมให้ใครง่าย ๆ
ปลื้มจิตร์ นักกีฬาที่ฝีมือเสถียรที่สุดในทีม ไม่ว่าใครจะขึ้นจะลงยังไง เธอคนนี้เป็นคนที่พึ่งพาได้เสมอเมื่อทีมต้องการคะแนน
มลิกา ผู้เล่นบีหลังที่มีการวางบอลที่ยอดเยี่ยม การตีทัชบลอก การตีขนานเส้น เป็นเทคนิคที่เธอถนัดและทำได้ดีมาก
อรอุมา นักกีฬาที่มีพละกำลังมากที่สุดในทีม ผู้เล่นตัวตีที่ดีที่สุดที่ไทยเคยมีมา ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเพราะเธอเป็นกำลังหลักของทีม เราถึงได้มายืนอยู่ตรงจุดนี้
แค่ผมเห็นภาพนั้นความรู้สึกกลัวมันก็หายไป ผมยอมรับว่าฝีมือของพวกเธออาจจะสู้เมื่อหลายปีก่อนไม่ได้ แต่ผมยังมั่นใจ มั่นใจในศักยภาพที่พวกเธอมี ต่อให้วันนี้จะแพ้ ผมก็ไม่เสียใจ จนสุดท้าย เราก็ชนะในเซตนั้น ผมดีใจกว่าที่เราชนะเกาหลีได้ในวันโน้นซะอีก สำหรับผมมันพอแล้ว ไม่ต้องชนะเซต 5 ก็ได้ แค่นี้มันก็เพียงพอแล้ว ผมดีใจมากแล้ว
เหตุการณ์นี้มันเหมือนผมได้เห็นนักรบที่อ่อนแรงจากการกรำศึกมายาวนานจนแทบจะยืนไม่ไหว ปักหลักยืนต่อสู้ท่ามกลางคู่ต่อสู้ที่ถาโถมเข้ามาเป็นชุด ๆ แล้วจู่ ๆ นักรบที่เราฝากความหวังไว้ ก็พลาดเกิดการบาดเจ็บจนไม่สามารถสู้ต่อไปได้ กำลังใจในทีมร่วงหล่น แต่ด้วยความช่ำชองในสนามรบ มันทำให้พวกเธอเอาชนะศัตรูชุดนั้นไปได้อย่างงดงาม แม้ว่าในท้ายที่สุด เราจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่เราก็ได้เห็นความแข็งแกร่งของจิตใจ และความสามารถทั้งหมดที่พวกเธอมี เห็นสิ่งที่พวกเธอทำให้ทั่วโลกได้เห็นอยู่ตลอดเวลา นั่นคือรอยยิ้ม ไม่ว่าจะผิดหวังจะพ่ายแพ้อีกสักกี่ครั้ง นักรบของเราก็ยังคงเป็น “นักรบเปื้อนยิ้ม” แบบนี้ตลอดไป สดุดีนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย