ชื่อผลิตภัณฑ์นั้นถือได้ว่าเป็นตราสินค้าที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถที่จะทำการจดจำบริษัทได้ครับ สำหรับ Apple นั้นคงไม่มีใครปฎิเสธว่าการนำหน้าชื่อผลิตภัณฑ์ด้วยตัว “i” นั้นเป็นสัญลักษณ์ส่วนหนึ่งของทาง Apple ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถจดจำได้ไปแล้ว

ทว่าล่าสุดนั้นผู้ที่คิดชื่อผลิตภัณฑ์ที่ใช้ตัว “i” นำหน้าของทาง Apple อย่างคุณ Ken Segall ก็ได้ออกโรงส่งสารถึง Apple ครับว่าให้เลิกตั้งชื่อผลิตภัณฑ์แบบแปลกๆ และสร้างความมึนงงกับผู้ใช้งานสักที คุณ Ken Segall จะพูดไว้อย่างไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลยครับ


Ken Segall


ก่อนอื่นขอเท้าความกันก่อนครับ คุณ Ken Segall นั้นเป็นผู้ที่ทำงานอยู่ใน Apple มานานแถมบุคคลผู้นี้นั้นยังทำงานใกล้ชิดกับคุณ Steve Jobs ด้วยอีกต่างหาก คุณ Ken Segall ทำงานอยู่ในแผนกเรื่องการประชาสัมพันธ์สินค้าโดยเขาได้เริ่มใช้ตัวอักษร “i” นำหน้าผลิตภัณฑ์อย่าง iMac และก็กลายเป็นว่าหลังจากนั้นมาแล้ว

นอกเหนือไปจาก MacBook และผลิตภัณฑ์เชื่อมต่อในสายคอมพิวเตอร์ต่างๆ ของทาง Apple นั้นก็ใช้ตัวอัพษร “i” นำหน้ามาโดยตลอดจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของทาง Apple ไปเรียบร้อยแล้วครับ

อย่างไรก็ดีครับ ล่าสุดที่คุณ Ken Segall ออกมาส่งสารถึง Apple นั้นเป็นการส่งสารที่ค่อนข้างจะน่าเจ็บปวดสำหรับ Apple ในปัจจุบันซึ่งคุณ Ken Segall นั้นได้ส่งสารเชิงด่า Apple สรุปใจความออกเป็นข้อๆ ได้ดังต่อไปนี้ครับ

    เลิกใช้ตัวอักษร “S” ตามหลังสักที – คุณ Segall ได้แนะนำว่าการนำเอาตัวอักษร “S” ตามหลังหมายเลขรุ่นในทุกๆ 2 ปีนั้นควรจะสิ้นสุดได้แล้วสำหรับ iPhone เพราะการใช้ตัวอักษร “S” นั้นกลายเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงผู้ใช้ไปแล้วว่า ณ ปีนั้นๆ ที่ iPhone รุ่นที่มีตัวอักษร “S” ตามติดออกมานั้นหมายถึง iPhone รุ่นนั้นๆ เป็นแค่ iPhone รุ่นอัพเกรดไม่ได้มีอะไรพิเศษเพิ่มเติมมากกว่าการอัพเดทฮาร์ดแวร์บางส่วน ซึ่งตามจริงแล้วนั้นในบางปีทาง Apple สามารถที่จะเปลี่ยนชื่อรุ่นของ iPhone ได้เลยอย่างเช่นปีที่มีการเปลี่ยนมาใช้งานหน่วยประมวลผลแบบ 64-bit และปีที่มีการเพิ่ม Touch ID เข้ามาซึ่งการเพิ่มเติมดังกล่าวนี้นั้นถือว่าเป็นก้าวใหม่สำหรับ iPhone มากกว่าการอัพเดทฮาร์ดแวร์แบบธรรมดาครับ

    เลิกใช้ตัวเลขโรมันผสมกับตัวเลขอาราบิค – สำหรับสารในข้อนี้นั้นคุณ Segall ตั้งใจที่จะพูดถึง iPhone X โดยเฉพาะครับ เพราะที่ผ่านมานั้นเราจะเห็นได้ว่า iPhone จะถูกตามด้วยตัวเลขรุ่นแบบอาราบิคมาโดยตลอด พอเปลี่ยนมาใช้ iPhone X นั้นก็ทำให้หลายๆ คนคิดกันว่า X คือตัวเลขโรมันที่มีความหมายว่า 10 แน่นอนว่าด้วยความที่ Apple ก็ไม่ได้ให้ความกระจ่างชัดกับตัวอักษรนี้อย่างชัดเจนทำให้ผู้ใช้หลายๆ คนต่างก็งงกันว่าสรุปแล้ว X จะหมายถึงเลขโรมันว่า 10 หรือว่าเป็นตัวอักษร X กันแน่ แถมด้วย iPhone X รุ่นล่าสุดนั้นก็เพิ่มตัวอักษร S เข้ามาอีกซึ่งนั่นเป็นวิธีการใช้งานตัวเลขโรมันและตัวอักษรร่วมกันที่ผิดหลักและสร้างความมึนงงให้กับผู้ใช้มากเข้าไปอีกครับ(จริงๆ แล้วนั้นตัวอย่างเรื่องการใช้งานเลขโรมัน X หรือความหมายคือ 10 นั้นในเมืองไทยเราเองก็ค่อนข้างจะสับสนครับ ดังจะเห็นได้ว่าสื่อต่างๆ บางสื่อก็ออกเสียงเป็น iPhone 10 บางสื่อก็เป็น iPhone X ครับ)

    ตัวอักษร R มีความหมายว่าอะไร – ในปีนี้นั้น Apple ได้ทำการเปิดตัว iPhone XR ออกมาคู่ด้วยกับรุ่นอื่นๆ ครับ คุณ Segall ได้บอกเอาไว้ว่า iPhone XR นั้นตัวอักษร R นั้นนอกจากจะสร้างปัญหาในการออกเสียง iPhone XR แล้ว ที่หนักไปกว่านั้นก็คือตัวอักษร R ไม่ได้สื่อความหมายอะไรเลย(หรือจริงๆ แล้วอาจจะสื่อแต่ทาง Apple ไม่ได้เผยข้อมูลเอาไว้ก็เป็นได้ครับ

ก็ถือได้ว่าเป็นการแนะนำเรื่องของการประชาสัมพันธ์ชื่อของสินค้าจากผู้ที่เคยอยู่กับคุณ Jobs อย่างใกล้ชิดมาก่อนครับ จริงๆ แล้วนั้นคุณ Segall เองก็ไม่ได้จะพึ่งมาแนะนำ Apple เอาตอนนี้นะครับเนื่องจากในอดีตที่ผ่านมานั้นอย่าง iPhone SE เขาก็ได้ออกมาบอกเอาไว้ว่า SE นั้นไม่รู้ย่อมาจากอะไรและมีความหมายอย่างไร แถมคุณ Segall เองนั้นยังเคยส่งสารถึง Tim Cook ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ Apple ในปัจจุบันอีกด้วยครับว่าให้เลิกผลิตโฆษณาที่สุดแสนจะน่าเบื่อสักทีครับ


ที่มา : cultofmac


https://notebookspec.com/steve-jobs-ad-guru-calls-iphone-names-a-war-against-common-sense/457205/