การวิเคราะห์นี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา ศิลปะวิจารณ์
นางสาว กาญจณา อิ่มทรัพย์ นางสาว กชกร จินโก นางสาว สาวิตรี ภมรกูล
https://www.matichon.co.th/columnists/news_925663
การปรองดองจากอีกแง่มุมหนึ่งจากบทความนี้ทำให้ข้าพเจ้าเกิดประเด็นที่สนใจคือการสร้างความปรองดองด้วยวัฒนธรรมประเพณีเช่นการยกตัวอย่างของผู้เขียนที่ยกวัฒนธรรมประเพณีการเล่นน้ำในประเพณีสงกรานต์ที่เกิดขึ้นของไทยในสมัยใหม่ที่ถนนข้าวสารในความคิดของข้าพเจ้าเหมือนการเกิดวัฒนธรรมใหม่ที่ทำให้เกิดความปรองดองขึ้นจากคนที่ต่าง เชื้อชาติ ศาสนา เเละภาษา แต่เมื่อทุกคนเข้ามาร่วมเล่นน้ำในประเพณีสงกรานต์ทุกคนต่างมีจุดประสงค์เดียวกันที่มารวมตัวจนเกิดความปรองดองโดยที่ทุกคนมีการยอมรับวัฒนธรรมการเล่นน้ำสงกรานต์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถนนข้าวสารที่เเตกต่างจากที่อื่นๆโดยอัตโนมัติ
เเต่การเขียนบทความนี้ไม่ใช่เพียงเเค่การพูดถึงการปรองดองในประเพณีสงกรานต์ที่ถนนข้าวสารเท่านั้นเเต่ยังคงยกตัวอย่างถึงหน่วยความสัมพันธ์ของผู้คนที่เต็มไปด้วยความหลากหลายในสังคมไทย เช่น สำนึกการอยู่ร่วมกัน ว่าคนไทยมีเรื่องที่ต้องเกรงใจเพื่อให้เกิดสำนึกในการอยู่รวมกันเเต่ยังคงอยู่ในวงสังคมที่เป็นวงเเคบเเละเมื่อเกิดความขัดเเย้งก็จะใช้ความรุนเเรงระงับความขัดแย้ง จึงทำให้เกิดคำถามที่ว่า "ทำไมคนไทยจึงไม่สามารถขยายสำนึกอยู่ร่วมกันที่มีอย่างเข้มเเข็งในชุมชน ประเภทต่างๆเข้ามาใช้กับชีวิตในสังคมสมัยใหม่ได้" ในความเห็นของข้าพเจ้ามีความคิดเห็นกับคำถามนี้คือ อาจเกิดจากการถูกปลูกฝั่งในวงสังคมเเคบๆหรืออาจเป็นเพราะการเห็นพฤติกรรมต่างๆที่เป็นเรื่องราวที่พบเห็นได้บ่อยๆจนเห็นว่าเป็นเรื่องปกติไม่เกิดความเดือดร้อนกับใคร จึงทำให้เห็นว่าการมีจิตสำนึกด้านต่างๆดีอยู่เเล้วจึงทำให้การขยายจิตสำนึกไม่สามารถขยายออกไปในวงกว้างได้
การวิเคราะห์ ปรองดองจากอีกแง่มุมหนึ่ง:นิธิ เอียวศรีวงษ์
นางสาว กาญจณา อิ่มทรัพย์ นางสาว กชกร จินโก นางสาว สาวิตรี ภมรกูล
https://www.matichon.co.th/columnists/news_925663
การปรองดองจากอีกแง่มุมหนึ่งจากบทความนี้ทำให้ข้าพเจ้าเกิดประเด็นที่สนใจคือการสร้างความปรองดองด้วยวัฒนธรรมประเพณีเช่นการยกตัวอย่างของผู้เขียนที่ยกวัฒนธรรมประเพณีการเล่นน้ำในประเพณีสงกรานต์ที่เกิดขึ้นของไทยในสมัยใหม่ที่ถนนข้าวสารในความคิดของข้าพเจ้าเหมือนการเกิดวัฒนธรรมใหม่ที่ทำให้เกิดความปรองดองขึ้นจากคนที่ต่าง เชื้อชาติ ศาสนา เเละภาษา แต่เมื่อทุกคนเข้ามาร่วมเล่นน้ำในประเพณีสงกรานต์ทุกคนต่างมีจุดประสงค์เดียวกันที่มารวมตัวจนเกิดความปรองดองโดยที่ทุกคนมีการยอมรับวัฒนธรรมการเล่นน้ำสงกรานต์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถนนข้าวสารที่เเตกต่างจากที่อื่นๆโดยอัตโนมัติ
เเต่การเขียนบทความนี้ไม่ใช่เพียงเเค่การพูดถึงการปรองดองในประเพณีสงกรานต์ที่ถนนข้าวสารเท่านั้นเเต่ยังคงยกตัวอย่างถึงหน่วยความสัมพันธ์ของผู้คนที่เต็มไปด้วยความหลากหลายในสังคมไทย เช่น สำนึกการอยู่ร่วมกัน ว่าคนไทยมีเรื่องที่ต้องเกรงใจเพื่อให้เกิดสำนึกในการอยู่รวมกันเเต่ยังคงอยู่ในวงสังคมที่เป็นวงเเคบเเละเมื่อเกิดความขัดเเย้งก็จะใช้ความรุนเเรงระงับความขัดแย้ง จึงทำให้เกิดคำถามที่ว่า "ทำไมคนไทยจึงไม่สามารถขยายสำนึกอยู่ร่วมกันที่มีอย่างเข้มเเข็งในชุมชน ประเภทต่างๆเข้ามาใช้กับชีวิตในสังคมสมัยใหม่ได้" ในความเห็นของข้าพเจ้ามีความคิดเห็นกับคำถามนี้คือ อาจเกิดจากการถูกปลูกฝั่งในวงสังคมเเคบๆหรืออาจเป็นเพราะการเห็นพฤติกรรมต่างๆที่เป็นเรื่องราวที่พบเห็นได้บ่อยๆจนเห็นว่าเป็นเรื่องปกติไม่เกิดความเดือดร้อนกับใคร จึงทำให้เห็นว่าการมีจิตสำนึกด้านต่างๆดีอยู่เเล้วจึงทำให้การขยายจิตสำนึกไม่สามารถขยายออกไปในวงกว้างได้