https://en.wikipedia.org/wiki/Bike_boom
พอดีอ่านไปเจอบทความนี้ในวิกิ ตรงย่อหน้า ท้ายๆ 20th century 21st century
-US bike boom of 1965–1975: The period of 1965–1975 saw adult cycling increase sharply in popularity
Additional factors contributing to the U.S. bike boom included affordable and versatile 10-speed derailleur-geared racing bicycles becoming widely available,[10] the arrival of many post-World War II baby boomers at adulthood and demanding inexpensive transportation for recreation and exercise, and increasing interest in reducing pollution.[4][10] The 1973 oil crisis, which increased the cost of driving an automobile, making bicycle commuting a more attractive option
-The United Kingdom experienced a mountain bike boom during the 1990s.
-As of 2008 some industry analysts see signs of surging bicycle popularity.[13]
The British press cite 2012 as a bike boom, fuelled by the successes that summer of UK cyclists in the Tour de France and at the London Olympics
-In 2016, Simon Mottram of the cycling clothing brand Rapha traced the boom back to the after-effects of the 7 July 2005 London bombings, which closed parts of the Tube and encouraged many commuters onto bicycles. Two years later, the Tour de France started in London on the anniversary of the attack, and the following year Team GB dominated cycling at the Beijing Olympics. He also credits the financial incentive of the Cycle to Work scheme (introduced in 1999), and the increasing emphasis on health and congestion.[18]" British Cycling, the sport's governing body, claimed that over "two million people across the country now cycle at least once a week, an all-time high".[17] Halfords
-เท่าที่พยายามจับใจความ ในช่วงที่ไม่ห่างไปจากยุคนี่มากนัก บูมแรกๆ ยุคเบบี้บูม เศรษกิจน่าจะดี +น้ำมันแพง ช่วง 1965-1975 ใน US
-ช่วงปี 1990s ภูเขาบูม ยุคนี้ยังทันผมเด็กๆช่วงมัธยม เสือภูเขาเบรคปีกผีเสื้อ+โช็คหน้าแบบยางหุ้มแพร่หลายในบ้านเราด้วย กับจักรยานเหล็กพันกว่าๆ เริ่มติดเกียร SIS ของชิมาโน่ ลามไปถึงจักรยานแม่บ้านเริ่มใส่เกียร์ เป็นยุคที่ได้ยินคนขี่ภูเขาแรงๆแซวเด็กที่บอกว่ารถเขาใช้เกียร deore จอกกว่า เกียร์ที่พิมพ์ยี่ห้อชิมาโน่ ยุคนั้นเริ่มได้ยินเรื่องซี่รียระดับความแพงของเกียรภูเขาชิมาโน่ อย่าง altus deore slx หมอบยังเฉพาะกลุ่มอยู่เห็นน้อย
-2005 ในบ้านเรา พับญี่ปุ่นมือ2 ล้อ 20 16 เริ่มเข้ามาเยอะๆ ที่จำได้ติดตาก็ทรงโช็คหลังเดี่ยว
-ยุคถัดมา 2008 ตามข้างบน อังกฤษ อเมริกาเริ่มบูม บ้านเราน่าจะเงียบ แฮมเบอรเกอร์พอดี แต่ ฟิคเกียรเริ่มก่อตัว จนช่วง 2011-2012 กระแสจักรยานเริ่มมา ภูเขา/ไฮบริด>หมอบ>พับ(เรียงตามจำนวน) เริ่มมีคนพูดถึง ฟิคเกียรเริ่มหาย
2013-2014 ฟิคแบบที่วัยรุ่นชอบขี่นี่แทบหายไปเลย หมอบเริ่มต้นขั้นถูก-ขั้นแพงขายดี(15-30k) จริงๆก็ขายดีกันหมดแต่คนเริ่มงอกหมอบกันมากขึ้น
หลัง 2014บ้านเรา หมอบแพงๆเริ่มขายดี หงิกในตำนานคนเริ่มนิยม จากนั้น กรุงเทพ เริ่มม็อบ เริ่มทำรถไฟฟ้า สายชิลกลางคืนน่าลดลงในกรุง จนมาถึง 2016 ที่เริ่มซึมลง อุบัติเหตุแรงๆเกี่ยวกับจักรยานบนถนนบ่อยขึ้น bike for dad จัดวันธรรมดาเลยพากร่อยพาลจะดราม่ากันระหว่างคนขับรถกับคนขี่จักรยาน skylane ปิดยาว ติดต่อกัน ที่สำคัญ เงินในกระเป๋าคนเริ่มลดลง คนเลิกเยอะ ขายทิ้ง หมอบเริ่มต้นพวก 1หมื่นกลางๆที่แถมเป็นโหลกเหลี่ยม/จีบชุด 8speed ขายแทบไม่ออกเลย หรือลดราคาแบบ 50%ก็ยังซึมๆ
*** ถ้าให้คนกลับมาปั่นเท่ากลับเมื่อก่อนคงจะยากเนื่องจากคนที่ได้สัมผัสมาแล้วแล้วไม่ไปต่อคงยากที่จะกลับมา แต่เศรษฐกิจ เงินในกระเป๋าของคนทั่วไปคงต้องดีขึ้นด้วย จักรยานมันเป็นเรื่องสันธนาการด้วย คนมันต้องมีความสุขบ้างมันถึงจะมีอารมณ์ทำเรื่องแนวนี้ ถนนในกรุง รถไฟฟ้ากับพวกคอนโดที่ชอบๆสร้างกันให้ดินเลอะถนน คงต้องสร้างเสร็จจนเกือบหมด คงจะดีขึ้นบ้าง แล้วถ้าเศรษฐกิจดี น้ำมันขึ้นราคา นี่ยิ่งทำให้คนเลือกปั่นไปทำงานมากขึ้นน่าจะกลับมาเหนี่ยวนำคนให้ปั่นเยอะขึ้น ท่าทางคง 5-6ปี ขึ้นดูจาก วงรอบของการบูมในต่างประเทศ พวกเฟรมปัจจุบันที่ใช้ๆถึงยังไม่หมดอายุ แต่สีน่าจะเริ่มไปหมดพอดีคนที่ขี่น่าจะต้องซื้อใหม่อีกครับ
เคยได้ยิน คำถามราวๆว่า มีโอกาสที่จักรยานกลับมาบูมอีกไหม ผมเดาว่าน่าจะ 5-6ปี+ครับ
พอดีอ่านไปเจอบทความนี้ในวิกิ ตรงย่อหน้า ท้ายๆ 20th century 21st century
-US bike boom of 1965–1975: The period of 1965–1975 saw adult cycling increase sharply in popularity
Additional factors contributing to the U.S. bike boom included affordable and versatile 10-speed derailleur-geared racing bicycles becoming widely available,[10] the arrival of many post-World War II baby boomers at adulthood and demanding inexpensive transportation for recreation and exercise, and increasing interest in reducing pollution.[4][10] The 1973 oil crisis, which increased the cost of driving an automobile, making bicycle commuting a more attractive option
-The United Kingdom experienced a mountain bike boom during the 1990s.
-As of 2008 some industry analysts see signs of surging bicycle popularity.[13]
The British press cite 2012 as a bike boom, fuelled by the successes that summer of UK cyclists in the Tour de France and at the London Olympics
-In 2016, Simon Mottram of the cycling clothing brand Rapha traced the boom back to the after-effects of the 7 July 2005 London bombings, which closed parts of the Tube and encouraged many commuters onto bicycles. Two years later, the Tour de France started in London on the anniversary of the attack, and the following year Team GB dominated cycling at the Beijing Olympics. He also credits the financial incentive of the Cycle to Work scheme (introduced in 1999), and the increasing emphasis on health and congestion.[18]" British Cycling, the sport's governing body, claimed that over "two million people across the country now cycle at least once a week, an all-time high".[17] Halfords
-เท่าที่พยายามจับใจความ ในช่วงที่ไม่ห่างไปจากยุคนี่มากนัก บูมแรกๆ ยุคเบบี้บูม เศรษกิจน่าจะดี +น้ำมันแพง ช่วง 1965-1975 ใน US
-ช่วงปี 1990s ภูเขาบูม ยุคนี้ยังทันผมเด็กๆช่วงมัธยม เสือภูเขาเบรคปีกผีเสื้อ+โช็คหน้าแบบยางหุ้มแพร่หลายในบ้านเราด้วย กับจักรยานเหล็กพันกว่าๆ เริ่มติดเกียร SIS ของชิมาโน่ ลามไปถึงจักรยานแม่บ้านเริ่มใส่เกียร์ เป็นยุคที่ได้ยินคนขี่ภูเขาแรงๆแซวเด็กที่บอกว่ารถเขาใช้เกียร deore จอกกว่า เกียร์ที่พิมพ์ยี่ห้อชิมาโน่ ยุคนั้นเริ่มได้ยินเรื่องซี่รียระดับความแพงของเกียรภูเขาชิมาโน่ อย่าง altus deore slx หมอบยังเฉพาะกลุ่มอยู่เห็นน้อย
-2005 ในบ้านเรา พับญี่ปุ่นมือ2 ล้อ 20 16 เริ่มเข้ามาเยอะๆ ที่จำได้ติดตาก็ทรงโช็คหลังเดี่ยว
-ยุคถัดมา 2008 ตามข้างบน อังกฤษ อเมริกาเริ่มบูม บ้านเราน่าจะเงียบ แฮมเบอรเกอร์พอดี แต่ ฟิคเกียรเริ่มก่อตัว จนช่วง 2011-2012 กระแสจักรยานเริ่มมา ภูเขา/ไฮบริด>หมอบ>พับ(เรียงตามจำนวน) เริ่มมีคนพูดถึง ฟิคเกียรเริ่มหาย
2013-2014 ฟิคแบบที่วัยรุ่นชอบขี่นี่แทบหายไปเลย หมอบเริ่มต้นขั้นถูก-ขั้นแพงขายดี(15-30k) จริงๆก็ขายดีกันหมดแต่คนเริ่มงอกหมอบกันมากขึ้น
หลัง 2014บ้านเรา หมอบแพงๆเริ่มขายดี หงิกในตำนานคนเริ่มนิยม จากนั้น กรุงเทพ เริ่มม็อบ เริ่มทำรถไฟฟ้า สายชิลกลางคืนน่าลดลงในกรุง จนมาถึง 2016 ที่เริ่มซึมลง อุบัติเหตุแรงๆเกี่ยวกับจักรยานบนถนนบ่อยขึ้น bike for dad จัดวันธรรมดาเลยพากร่อยพาลจะดราม่ากันระหว่างคนขับรถกับคนขี่จักรยาน skylane ปิดยาว ติดต่อกัน ที่สำคัญ เงินในกระเป๋าคนเริ่มลดลง คนเลิกเยอะ ขายทิ้ง หมอบเริ่มต้นพวก 1หมื่นกลางๆที่แถมเป็นโหลกเหลี่ยม/จีบชุด 8speed ขายแทบไม่ออกเลย หรือลดราคาแบบ 50%ก็ยังซึมๆ
*** ถ้าให้คนกลับมาปั่นเท่ากลับเมื่อก่อนคงจะยากเนื่องจากคนที่ได้สัมผัสมาแล้วแล้วไม่ไปต่อคงยากที่จะกลับมา แต่เศรษฐกิจ เงินในกระเป๋าของคนทั่วไปคงต้องดีขึ้นด้วย จักรยานมันเป็นเรื่องสันธนาการด้วย คนมันต้องมีความสุขบ้างมันถึงจะมีอารมณ์ทำเรื่องแนวนี้ ถนนในกรุง รถไฟฟ้ากับพวกคอนโดที่ชอบๆสร้างกันให้ดินเลอะถนน คงต้องสร้างเสร็จจนเกือบหมด คงจะดีขึ้นบ้าง แล้วถ้าเศรษฐกิจดี น้ำมันขึ้นราคา นี่ยิ่งทำให้คนเลือกปั่นไปทำงานมากขึ้นน่าจะกลับมาเหนี่ยวนำคนให้ปั่นเยอะขึ้น ท่าทางคง 5-6ปี ขึ้นดูจาก วงรอบของการบูมในต่างประเทศ พวกเฟรมปัจจุบันที่ใช้ๆถึงยังไม่หมดอายุ แต่สีน่าจะเริ่มไปหมดพอดีคนที่ขี่น่าจะต้องซื้อใหม่อีกครับ