ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย อยู่ถูกทีมไม่นานก็ได้เเชมป์


วลีที่ว่า ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย มันก็จริงอยู่นะมีหลายคนที่เชื่อในคำนี้ก็ชอบเปลี่ยนงานไปเรื่อยจนกว่าจะได้ทำงานที่เหมาะที่สุดกับตัวเอง มันเป็นวิถีทางของเเต่ละคนที่ต้องดินร้นหาหนทางที่ดีกว่า

ในโลกของฟุตบอลนั้นนักเตะเก่งๆเเต่อยู่ผิดทีมก็มีเยอะ ดับทีมนี้ไปดังทีมโน้น ไม่ยกตัวอย่างนะ เเต่จะเข้าเรื่องเลย จะบอกว่า “เจ้าพี” หรือ “พีป็อกบา” ศศลักษณ์ ไหประโคน นี้เเหละคือหนึ่งในนักเตะที่อยากจะบอกว่าเป็นนักเตะที่ย้ายเเล้วเกิด

จากเทพฟุตซอลสมัยเยาวชน มาเล่นสนามใหญ่ด้วยการมีทักษาโต๊ะเล็กติดตัวมาหนึ่งต่อหนึ่งน้องเขากินขาด มาเล่นให้กับ เเบงค็อก ยูไนเต็ด เป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามอง เเต่ มาโน โพลกิ้ง ไม่มองเขาเลย เเม้จะสัมภาาณ์ว่าเเข้งรายร้เก่งอย่างนั้นเก่งอย่างนี้ เเต่ให้โอกาสเขาน้อยมาก จนลงไปเล่นในที4ก็มี กับทีมชุดใหญ่นั่งจนก้นด่านไปเเล้ว

เเละสวรรค์ก็ทรงโปรดเรื่องราวของเด็กชายจากประโคนชัย น่าจะเข้าไปในหูของบอสสูงสุดของทัพปราสาทสายฟ้า ว่า เจ้าพี เก่งเกินเด็ก เเถมเป็นเลือดเนื้อเชื่อไขของชาวบุรีรัมย์ด้วย เเละไม่ต้องคิดมากเลย ประธานปราสาทสายฟ้าก็จัดการ ยืมตัวตอนเลกที่ 2 ของฤดูกาล 2017 เเละสุดท้ายก็สลับกับ สิทธิโชค กันหนู ไปเเบงค็อก เเละ นำ ศศลักษณ์ ไหประโคน มาที่บุรีรัมย์ งานนี้ไม่รู้ใครคุ้มกว่ากัน

การมาบุรีรัมย์ ของ ศศลักษณ์ ไหประโคน เป้าหมายเเรกของเขาคืออะไรรู้มั้ย ไม่รู้จะบอก นั้นก็คือได้เล่นทีมบ้านเกิดต่อหน้าครอบครัวของเขา นั้นเอง ไม่ได้หวังคว้าเเชมป์อะไร หวังเพียงว่าให้ครองครัวได้ภูมิใจเท่านั้น

เเละจากวันนั้นถึงวันนี้ เจ้าพี สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมมาตลอดเมื่อได้สัมผัสเกมจังหวะกระชากลากเลื้อนจ่ายซ้ายจ่ายขวาทำได้เเบบเนียบกริบ เเละเมื่อเกมที่ผ่านมา ซัดตูมเดียวเสียบตาข่ายพัทยา ยูไนเต็ด เป็นประตูสุดสวยของเขาก่อนที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดจะฉลองเเชมป์สมัยที่6 เเละเป็นการสัมผัสเเชมป์ไทยลีกครั้งที่2กับปราสาทสายฟ้า

เป็นเรื่องราวของนักเตะที่พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ที่หนึ่งไม่เห็นค่าเเต่อีกที่หนึ่งมองเป็นสมบัติล้ำค่า มาอยู่ไม่นานเจ้าพีก็ได้สัมผัสเเชมป์ไทยลีกเเล้ว เเละบอกไปไม่ต้องอายใครว่า “กูคือนักเตะตัวจริงที่บุรีรัมย์” อยากจะบอกว่าเราต้องอยู่ในที่ที่เหมาะกับเราเเล้วจะดีขึ้นเอง

#เบี้ยซัด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่