http://www.share2trade.com/index.php?route=content/content&path=9&content_id=3659
    แม้ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้น ทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 3 ปี โดยเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา ราคาน้ำมัน WTI อยู่ที่ 73.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent อยู่ที่ 82.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
    หลังกลุ่มโอเปกลดกำลังการผลิต

    ส่งผลกองทุนน้ำมันผลตอบแทนพุ่งพรวด!!!  ย้อนหลัง 9 เดือน (มกราคม-กันยายน 2561) ให้อัตราผลตอบแทนสูงประมาณ 20-28%
    ขณะที่ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ในระดับ 34.50-46.07%
    น่าสนใจเลยทีเดียว...
    แต่ก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน...เพราะกองทุนน้ำมันบ้านเรา เขาลงทุนผ่านกองทุนต่างประเทศที่มีนโยบายลงทุน ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมัน
     การขึ้น-ลง ของหน่วยลงทุน จึงผูกติดกับสัญญาซื้อขายน้ำมันล่วงหน้า
    และอีกความเสี่ยงหนึ่งคือเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน
    นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงในเรื่องของความผันผวนของกองทุนน้ำมัน...เข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย
    จากข้อมูลของ มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) พบว่า ค่าความ “ผันผวน” ของกองทุนน้ำมันย้อนหลัง 3 ปี อยู่ในระดับสูงถึง 21%
    แม้ผลตอบแทนใน 9 เดือนแรก และย้อนหลัง 1 ปี กองทุนน้ำมันจะเป็นบวก
    
    แต่ถ้ามองย้อนหลัง 3 ปีจะพบว่า อัตราผลตอบแทนยังติดลบ 2.08% ส่วนกองทุนที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกอยู่ที่ 3.92%
    และถ้ามองย้อนหลังยาวไป 5 ปี จะพบว่า กองทุนน้ำมันให้ผลตอบแทนติดลบเฉลี่ยประมาณ 13-14%
    ดังนั้น...กองทุนน้ำมัน น่าจะเหมาะกับนักลงทุนประเภทเก็งกำไรระยะสั้น...มากกว่าประเภทถือยาว
    เพราะใครที่ลงตั้งแต่ 5 ปี ที่ผ่านมา ยังไม่สามารถหลุด “ดอย” ได้เลยในเวลานี้

//////////////////
ขอบคุณบทความจาก
www.facebook.com/Share2Trade/
www.share2trade.com