สวัสดีค่าาาา
กระทู้นี้ทำขึ้นเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ แต่ก็ถือเป็นการแชร์ประสบการณ์สำหรับคนที่สนใจแล้วกันนะคะ
Reno,Nevada
ครั้งแรกที่ได้มีโอกาสไปอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศที่ใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กว่าต้องไปเหยียบให้ได้!!
โครงการ work and travel ขอเรียกสั้นๆว่า WAT เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ไปทำงานและท่องเที่ยวในสหรัฐอเมริกา ระยะเวลา 3-4 เดือนในช่วงปิดเทอม เพื่อหาประสบการณ์การทำงานและใช้ชีวิตในประเทศสหรัฐอเมริกา แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับผู้เข้าร่วมโครงการจากทั่วโลก พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ แต่ก่อนที่จะไปได้จะต้องเตรียมตัว(และเตรียมเงิน)หลายขั้นตอนมากๆ
Part1 : ขั้นเตรียมตัว
1)เลือกเอเจนซี่ การไปWAT จะต้องผ่านเอเจนซี่ เขาจะคอยช่วยเหลือเราในเรื่องของเอกสาร หางานให้ (เราเลือกไปกับเอเจนซี่ที่ราคาไม่แพง แต่ผลลัพธ์เป็นยังไงเดี๋ยวมาดูกัน5555555)
2)นัดวันวัดระดับภาษา ผ่านทางโทรศัพท์ (วัดระดับภาษาฟรี ขั้นนี้เราจะยังไม่เลือกเอเจนซี่นี้ก็ได้)
3)เลือกเอเจนซี่ ต้องจ่ายค่าสมัครก่อน 5,000 บาท ไม่รวมในค่าโครงการ (ถ้าสมัครตั้งแต่เนิ่นๆค่าโครงการจะถูก เราสมัครเดือนกันยา ค่าโครงการอยู่ที่ 55,000 บาท)
4)เตรียมเอกสาร อัพลง Dropbox พวกใบรับรองนักศึกษา,ใบรับรองผลการเรียนต่างๆ
Part2 : เลือกงาน(แอบบ่นด้วย แต่ขอให้อ่านเป็นไกด์นะคะ)
ด้วยความที่เราอยากไปอเมริกา เลยไม่ได้มีจุดประสงค์ว่าจะทำงานอะไร ที่ไหน ขอแค่จ่ายเงินเอเจนซี่ก่อนแล้วค่อยว่ากัน ซึ่งก็ไม่ผิดเสมอไปหรอก เพราะบางที ที่ๆเราอยากไปตั้งแต่แรกอาจจะไม่ได้ไปเลยก็ได้ อย่างเราโดนเปลี่ยนงานไป5งาน!!
งานแรกเราเลือกงานล้างจานที่ Lake tahoe เพราะได้เรท 10$ และคิดว่าคงไม่เหนื่อย (แค่คิดนะ) แต่ผ่านไปประมาณ1 อาทิตย์ พี่เอเจ้นท์โทรมาว่าให้เปลี่ยนงานเพราะนายจ้างหาบ้านให้เราไม่ได้จ้าา เราก็อ๋อๆไม่เป็นไรค่ะ เปลี่ยนก็ได้ ขอแค่ได้ไปเมกาก็พอ แล้วตอนนั้นมันมีงานเฮ้าส์ที่ฮาวายเข้ามา เราเลยเลือกงานนั้นไป อีกประมาณ1อาทิตย์คนในกลุ่มWATก็คุยกันเรื่องโดนยกเลิกงาน เราเลยตัดสินใจทักพี่เอเจ้นท์ไป เขาบอกว่านายจ้างเลื่อนสัมภาษณ์ไม่มีกำหนด พี่แนะนำน้องเปลี่ยนงานดีกว่านะค่ะ (พิมนะค่ะจริงๆทุกครั้งที่คุย) เราก็เริ่มรำและ ใจก็คิดว่าเอ้อกุจะได้ไปไหม ตอนนี้งานก็เหลือไม่เยอะแล้วด้วย เราเลยเลือกงานใหม่รัฐอิลลินอยด์ ติดChicago ก็โอเคนัดสัมภาษณ์ สัมภาษณ์ครั้งแรกผ่านสไกป์ ก็ไม่อะไรมาก ถามประมาณ3-4คำถามได้ง่ายๆ สัมภาษณ์ครั้งที่สองเดือนมกราคม อันนี้นายจ้างบินมาสัมภาษณ์โดยตรง คำถามก็ไม่มีอะไรมาก งานเฮ้าส์ก็จะมี ถามว่า ทำไหวไหม ทำไมถึงเลือกงานนี้ ถามวิธีทำความสะอาด เช็ดกระจก ปูเตียง ประมาณนี้ อ่ะพอสัมภาษณ์เสร็จรอผลประมาณ2 อาทิตย์ก็ผ่านได้ Job Offer มาแล้ว เวลาผ่านไปประมาณ2 อาทิตย์ พี่เอเจ้นท์โทรมาบอกว่า นายจ้างใส่Locationงานให้น้องผิดจ้า ให้น้องเลือกงานใหม่ เราก็อ้าวววว!เลือกอีกแล้วหรอพี่ แล้วตอนนั้นช่วงเดือนกุมภาพันธ์คนก็เริ่มทยอยสัมวีซ่ากันแล้ว แล้วชั้นเลือกอะไรได้ไหม~ นั่นแหละค่ะ สรุปเราต้องเลือกงานใหม่ และก็ได้ที่ Harrah Reno,Nevada นี่แหละค่ะ
Part 3 : สัมภาษณ์วีซ่า (ผ่านคน ไม่ผ่านคน)
เมื่อได้งานแล้ว ได้ Job Offer แล้ว ต้องรอใบ DS จากเอเจ้นท์เมกาอี๊กก ถึงจะนัดคิวสัมภาษณ์วีซ่าได้ เวลาล่วงเลยถึงเดือนเมษายน ในที่สุดก็ได้สัมซักที เราสมัครไปกับแฟนเรา ซึ่งคำถามตอนสัมภาษณ์ก็ง่ายๆค่ะ เราโดน3คำถามคือ ไปที่ไหน เรทเท่าไหร่ อ่านเล่มสิทธิหรือยัง อธิบายมาหน่อย แค่เนี้ย ก็ผ่านแล้ววววแต่แฟนเราไม่ผ่าน! เพราะเขาเรียนม.เปิด ท่านกงสุลให้เหตุผลว่าไม่มีเกรดเฉลี่ยและมหาลัยไม่น่าเชื่อถือ และปีนี้ทางสถานทูตเคร่งมาก คนไม่ผ่านเยอะเลย แฟนเราถึงกับบินไปสัมรอบ2ที่เชียงใหม่ ทั้งบนบานศาลกล่าว ไหว้พระ9วัด ก็ไม่ช่วยอะไร เพราะท่านกงไม่ให้ไปต่อ T__T อันนี้อยากจะบอกคนที่เรียนม.เปิดนะคะว่าให้คิดดีๆเพราะ จ่ายค่าโครงการไปเกือบ6หมื่น ถ้าไม่ผ่านจะได้เงินคืนแค่หมื่นกว่าบาทเท่านั้นนะ เสียเงินไม่เท่าไหร่ แต่เสียใจหนักมาก ฉันต้องไปคนเดียววววววววว
Part 4 : เก็บกระเป๋า เตรียมตัว เตรียมตัง เตรียมใจ
กว่าเราจะดำเนินเรื่องเสร็จก็เดือนเมษาแล้วคือมีเวลาแค่1เดือน ตั๋วเครื่องบินราคาก็ขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกเอเจ้นท์โครงการWATบังคับให้จองตั๋วกับเขา แต่เราบินหลายรูท และราคาที่เราหาได้ถูกกว่าราคาของเอเจ้นท์ เลยตัดสินใจจองเอง แต่เราก็เลือกจองกับเอเจ้นท์ขายตั๋วเครื่องบินโดยเฉพาะเพราะราคาดีมาก (ใครอยากรู้หลังไมค์ได้จ้า) ของเราราคาค่าตั๋วไปกลับ 37,000 บาท แวะเที่ยวนิวยอร์คและญี่ปุ่น
สรุปค่าใช้จ่าย
ค่าสมัครโครงการ 5,000
ค่าโครงการ 55,000
ค่าตั๋วเครื่องบิน 37,000
ค่า Pocket Money 30,000
รวม 127,000 บาท
พร้อมแล้วไปกันเล้ยยยยยย
[CR] Once in the lifetime->>work and travel2018 🇺🇸Reno NV.
โครงการ work and travel ขอเรียกสั้นๆว่า WAT เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ไปทำงานและท่องเที่ยวในสหรัฐอเมริกา ระยะเวลา 3-4 เดือนในช่วงปิดเทอม เพื่อหาประสบการณ์การทำงานและใช้ชีวิตในประเทศสหรัฐอเมริกา แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับผู้เข้าร่วมโครงการจากทั่วโลก พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ แต่ก่อนที่จะไปได้จะต้องเตรียมตัว(และเตรียมเงิน)หลายขั้นตอนมากๆ
Part1 : ขั้นเตรียมตัว
1)เลือกเอเจนซี่ การไปWAT จะต้องผ่านเอเจนซี่ เขาจะคอยช่วยเหลือเราในเรื่องของเอกสาร หางานให้ (เราเลือกไปกับเอเจนซี่ที่ราคาไม่แพง แต่ผลลัพธ์เป็นยังไงเดี๋ยวมาดูกัน5555555)
2)นัดวันวัดระดับภาษา ผ่านทางโทรศัพท์ (วัดระดับภาษาฟรี ขั้นนี้เราจะยังไม่เลือกเอเจนซี่นี้ก็ได้)
3)เลือกเอเจนซี่ ต้องจ่ายค่าสมัครก่อน 5,000 บาท ไม่รวมในค่าโครงการ (ถ้าสมัครตั้งแต่เนิ่นๆค่าโครงการจะถูก เราสมัครเดือนกันยา ค่าโครงการอยู่ที่ 55,000 บาท)
4)เตรียมเอกสาร อัพลง Dropbox พวกใบรับรองนักศึกษา,ใบรับรองผลการเรียนต่างๆ
Part2 : เลือกงาน(แอบบ่นด้วย แต่ขอให้อ่านเป็นไกด์นะคะ)
ด้วยความที่เราอยากไปอเมริกา เลยไม่ได้มีจุดประสงค์ว่าจะทำงานอะไร ที่ไหน ขอแค่จ่ายเงินเอเจนซี่ก่อนแล้วค่อยว่ากัน ซึ่งก็ไม่ผิดเสมอไปหรอก เพราะบางที ที่ๆเราอยากไปตั้งแต่แรกอาจจะไม่ได้ไปเลยก็ได้ อย่างเราโดนเปลี่ยนงานไป5งาน!!
งานแรกเราเลือกงานล้างจานที่ Lake tahoe เพราะได้เรท 10$ และคิดว่าคงไม่เหนื่อย (แค่คิดนะ) แต่ผ่านไปประมาณ1 อาทิตย์ พี่เอเจ้นท์โทรมาว่าให้เปลี่ยนงานเพราะนายจ้างหาบ้านให้เราไม่ได้จ้าา เราก็อ๋อๆไม่เป็นไรค่ะ เปลี่ยนก็ได้ ขอแค่ได้ไปเมกาก็พอ แล้วตอนนั้นมันมีงานเฮ้าส์ที่ฮาวายเข้ามา เราเลยเลือกงานนั้นไป อีกประมาณ1อาทิตย์คนในกลุ่มWATก็คุยกันเรื่องโดนยกเลิกงาน เราเลยตัดสินใจทักพี่เอเจ้นท์ไป เขาบอกว่านายจ้างเลื่อนสัมภาษณ์ไม่มีกำหนด พี่แนะนำน้องเปลี่ยนงานดีกว่านะค่ะ (พิมนะค่ะจริงๆทุกครั้งที่คุย) เราก็เริ่มรำและ ใจก็คิดว่าเอ้อกุจะได้ไปไหม ตอนนี้งานก็เหลือไม่เยอะแล้วด้วย เราเลยเลือกงานใหม่รัฐอิลลินอยด์ ติดChicago ก็โอเคนัดสัมภาษณ์ สัมภาษณ์ครั้งแรกผ่านสไกป์ ก็ไม่อะไรมาก ถามประมาณ3-4คำถามได้ง่ายๆ สัมภาษณ์ครั้งที่สองเดือนมกราคม อันนี้นายจ้างบินมาสัมภาษณ์โดยตรง คำถามก็ไม่มีอะไรมาก งานเฮ้าส์ก็จะมี ถามว่า ทำไหวไหม ทำไมถึงเลือกงานนี้ ถามวิธีทำความสะอาด เช็ดกระจก ปูเตียง ประมาณนี้ อ่ะพอสัมภาษณ์เสร็จรอผลประมาณ2 อาทิตย์ก็ผ่านได้ Job Offer มาแล้ว เวลาผ่านไปประมาณ2 อาทิตย์ พี่เอเจ้นท์โทรมาบอกว่า นายจ้างใส่Locationงานให้น้องผิดจ้า ให้น้องเลือกงานใหม่ เราก็อ้าวววว!เลือกอีกแล้วหรอพี่ แล้วตอนนั้นช่วงเดือนกุมภาพันธ์คนก็เริ่มทยอยสัมวีซ่ากันแล้ว แล้วชั้นเลือกอะไรได้ไหม~ นั่นแหละค่ะ สรุปเราต้องเลือกงานใหม่ และก็ได้ที่ Harrah Reno,Nevada นี่แหละค่ะ
Part 3 : สัมภาษณ์วีซ่า (ผ่านคน ไม่ผ่านคน)
เมื่อได้งานแล้ว ได้ Job Offer แล้ว ต้องรอใบ DS จากเอเจ้นท์เมกาอี๊กก ถึงจะนัดคิวสัมภาษณ์วีซ่าได้ เวลาล่วงเลยถึงเดือนเมษายน ในที่สุดก็ได้สัมซักที เราสมัครไปกับแฟนเรา ซึ่งคำถามตอนสัมภาษณ์ก็ง่ายๆค่ะ เราโดน3คำถามคือ ไปที่ไหน เรทเท่าไหร่ อ่านเล่มสิทธิหรือยัง อธิบายมาหน่อย แค่เนี้ย ก็ผ่านแล้ววววแต่แฟนเราไม่ผ่าน! เพราะเขาเรียนม.เปิด ท่านกงสุลให้เหตุผลว่าไม่มีเกรดเฉลี่ยและมหาลัยไม่น่าเชื่อถือ และปีนี้ทางสถานทูตเคร่งมาก คนไม่ผ่านเยอะเลย แฟนเราถึงกับบินไปสัมรอบ2ที่เชียงใหม่ ทั้งบนบานศาลกล่าว ไหว้พระ9วัด ก็ไม่ช่วยอะไร เพราะท่านกงไม่ให้ไปต่อ T__T อันนี้อยากจะบอกคนที่เรียนม.เปิดนะคะว่าให้คิดดีๆเพราะ จ่ายค่าโครงการไปเกือบ6หมื่น ถ้าไม่ผ่านจะได้เงินคืนแค่หมื่นกว่าบาทเท่านั้นนะ เสียเงินไม่เท่าไหร่ แต่เสียใจหนักมาก ฉันต้องไปคนเดียววววววววว
Part 4 : เก็บกระเป๋า เตรียมตัว เตรียมตัง เตรียมใจ
กว่าเราจะดำเนินเรื่องเสร็จก็เดือนเมษาแล้วคือมีเวลาแค่1เดือน ตั๋วเครื่องบินราคาก็ขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกเอเจ้นท์โครงการWATบังคับให้จองตั๋วกับเขา แต่เราบินหลายรูท และราคาที่เราหาได้ถูกกว่าราคาของเอเจ้นท์ เลยตัดสินใจจองเอง แต่เราก็เลือกจองกับเอเจ้นท์ขายตั๋วเครื่องบินโดยเฉพาะเพราะราคาดีมาก (ใครอยากรู้หลังไมค์ได้จ้า) ของเราราคาค่าตั๋วไปกลับ 37,000 บาท แวะเที่ยวนิวยอร์คและญี่ปุ่น
สรุปค่าใช้จ่าย
ค่าสมัครโครงการ 5,000
ค่าโครงการ 55,000
ค่าตั๋วเครื่องบิน 37,000
ค่า Pocket Money 30,000
รวม 127,000 บาท
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้