Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @14mm 1/60 F5.6 ISO100
สวัสดีครับผมกล้องเก่าเรารีวิวตอนเเรกนี้ เราจะมารีวิวกล้อง Olympus E510 IS พร้อมกลับเลนส์ติดกล้อง Olympus 14-42mm FourThird ED Zuiko กับวิวทุ่งนาสวยๆหลังบ้านผมกันครับ
Equipment
Camera : Olympus E510
Lens : Olympus Zuiko 14-42mm FourThird ED
Software : Photoshop & LightRoom
Follow Me
Line : letsmebeyourman
โดยกล้อง Olympus E-510 ตัวนี้ เปิดตัวเมื่อปี 2550 ก็ราวๆ 11-12 ปีมาเเล้ว (ในวันที่เขียน รีวิวคือปี 2018)
เป็นกล้อง DSLR จากค่าย Olympus หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า Olympus ก่อนที่เขาจะมาเริ่มทำกล้อง Mirrorless
Olympus ได้ทำกล้อง DSLR มาก่อน โดยเป็นระบบ FourThird 4/3 โดย Olympus ขายความเล็ก เบา พกพาง่าย เเละมีกันสั่นในตัวด้วย โดยกล้องตัวนี้เป็นรุ่นเเรกที่ใช้ Live MOS ของ Panasonic (รุ่นก่อนๆจะใช้CCDของKodak) โดยใช้ Seneor ขนาด 17.30 × 13.00 mm ให้ทางยาวโพกัส X2 เมื่อเปรียบเทียบกับกล้องFullFrame (เท่ากับกล้อง M4/3 เลยครับ เพราะเจ้าตัวนี้เป็นรุ่นพี่นั่นเอง)
ขนาดภาพ 10 ล้านพิกเซล 3,648 × 2,736 อาจจะถือว่าเล็ก ไปสำหรับปี 2018
เเต่ 10 ล้านนี่อัดภาพ ติดฝาบ้านได้สบายๆครับ ใช้งานได้ไม่ตะขิดตะขวงใจเลย
ไฟล์เล็กก็ดีครับไม่หนัก Harddrive ไฟล์RAW ประมาณ 10MB สบายๆครับ
ISO 100-1600 ถือว่าน้อยไปหน่อย ใช้เเค่ 800 ก็ Noise บานเเล้วครับ (ถ้าเทียบกับกล้องในปี 2018 นะครับ เเต่ก็ถือว่าทำได้ดีครับเมื่อเทียบกับกล้องในสมัยนั้น) กล้องตัวนี้เเนะนำ ถ้าเป็นไปได้ถ่ายกลางวันดีกว่าครับ จะเเพ้กลางคืนหน่อย
ตัวนี้ใช้ MEM เเบบ CFCard ก็จะมีราคาเเพงหน่อย เเต่ข้อดีคือ ทนมาก
จุดโพกัส 3 จุด ถ่ายต่อเนื่อง 3FPS ชัตเตอร์ไวสุด 1/4000 วินาที
จอ 2.5นิ้ว ความละเอียด 230000 Pixel ใน Live View ให้พร้อม
ตัวกล้อง มี DataPort ให้ช่องเดียว สามารถต่อกับคอมเอารูปออกได้ หรือ ว่าจะต่อกับรีโมทชัตเตอร์ เพื่อถ่ายพวก Time Lapse หรือถ่ายภาพตัวเองก็ได้ ก็ได้
ฟังชี่นอาจจะดูธรรมดาๆ ถ้าเทียบกับทุกวันนี้
เเค่กล้อง Mirrorless ระดับเริ่มต้นเช่น Olympus EPL-8 ก็รัวเฟรมได้เกือบ 10 FPS เเล้วครับ ISO เป็นหลายหมื่น จอก็ละเอียดกว่ามาก ฟังชั่นเยอะกว่ามาก เเถมเบากว่าสะดวกกว่า ถ่าย Video ได้ด้วย
เเต่รู้ไหมว่าสมัยนั้น กล้องตัว E510 นี้ก็ล้ำ พอสมควรเลย
ราคาเปิดตัวตอนนั้น ปกศ ก็ 27000-29000บาท คู่เเข่งสมัยนั้นก็จะมี Canon 400D กับ NikonD40x
E510ตัวนี้ผมได้มาที่ราคา บอดี้ 1500 บาทครับผม (ต่อราคามาจาก 1750 บาท) ตอนเเรกไม่มีความรู้ เกี่ยวกับกล้อง Olympus DSLR นี้หรอกครับ เเต่เห็นว่าถูกๆดีก็เลยซื้อมาครับ ของที่เจ้าของเก่าให้มาก็มี CD มีสายเคเบิ้ล สายคล้องคอ ที่ชาร์ต เเต่ไม่มีเเบตนะครับ ผมก็ไม่รู้ว่าจะใช้ได้ไหมจริง เเต่เจ้าของเก่า เขาบอกเคยซื้อของจากร้านผมเหมือนกัน เลยได้พูดคุยกัน เอาเป็นว่าเชื่อใจเลย จัดมาเลย เจ้าของเก่าเขาเเนะนำว่าให้หา Adapter เเล้วเล่นกับเลนส์ M42 ดีกว่า (ซึ่งตอนเเรกผมได้ซื้อมาลองเล่น เเต่เลนส์ M42 ที่มีก็จะระยะมีเเต่ 50mm คูณทางยาวไป 2 ก็ = 100mm ซึ่งถือว่า เทเลไปไม่เหมาะกับผม เพราะกล้องตัวนี้ ตามจริงอยากได้เอามาติดรถไว้ เผื่อขับผ่าน วิวสวยๆก็จะได้เเวะถ่ายไป เลยอยากได้เลนส์ Kit ติดกล้องมากกว่า)
เเล้วก็ซื้อเเบตเทียบ 350 บาท
CF มีอยู่เเล้ว ไม่ต้องซื้อ
Tape พันสายไฟ 20 บาท มาDIYนิดหน่อย กล้องตัวนี้มีตำหนิตรงที่ ฝาปิด CF ปิดไม่เเน่น ไม่อยากหยอดกาวติด ถาวร เลยเอา Tape พันสายไฟพันเอาครับ ตรา 3M เเล้วเวลาเอารูปออกก็ใช้สาย Data เอา
เลนส์ติดกล้อง14-42mmหาอยู่นานเลยครับ เพราะคนมีไม่ค่อยปล่อย กันครับ สภาพสวยก็หายากหน่อย ตอนเเรกก็เจอตัว 2500 คนขายบอกว่าสวยเลยต่อราคามาได้ 2200 ผมถามย้ำเลยนะครับว่าไม่มีราฝ้าใช่ไหม เพราะตัวนี้ผมเอามาใช้เอง คนขายก็บอกว่าไม่มี
เเต่พอได้เลนส์มา แอบผิดหวังนิดหน่อย เพราะเอามาส่องๆกับไฟ เเล้ว มีฝ้าที่ชิ้นท้ายเป็นวงๆ เเล้วก็ราเล็กน้อย เลยได้เจรจาขอคืนสินค้ากับคนขาย หรือขอลดราคาได้ไหม ก็ได้ปิดราคา มาที่ 1500 บาทครับ
เพราะฉะนั้นภาพที่ได้จากกระทู้นี้จะมาจากเลนส์ติดฝ้าหน่อยนะครับ
ถ้าคนไหนมีเลนส์ 14-42mm สภาพสวยๆอยากขายสัก 2000-2500 ติดต่อมาได้เลยนะครับ
สรุปต้นทุนก็
บอดี้1500+เเบต350+เทปพันสายไฟ20+เลนส์14-42mm1500 = 3370 บาท
ถ้าถามผมคุ้มไหม ถ้าเทียบกับประโยชน์ ที่ใช้กับเเบบเป็นกล้องติดรถ จะอยู่บนรถตลอด ติดรถตลอด ไปไหนไปกัน เเทบจะไม่ได้เอาลง (เพราะตัวนี้เเบตเเอบอึดมาก) ก็ถือว่าโครตคุ้มเลยครับ
เเต่ถ้าเทียบกับกล้อง Mirrorless Olympus ระดับเริ่มต้น EPL-8 ซึ่งราคาตอนเขียนบทความนี้ มือหนึ่งประมาณ 13000-14000 บาท ประกันร้าน ถ้าหากมีงบหน่อยเเนะนำของใหม่ดีกว่าจะคุ้มกว่าครับ
สำหรับผม 3370 กับกล้องติดรถตัวนี้ถือว่าคุ้มมากครับ
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @28mm 1/125 F7.1 ISO100
สถานที่ทดสอบ ไปไม่ไกลครับ เป็นทุ่งนาหลังบ้านผมนี่เองครับ ผมจะพาเพื่อนๆไปท่องเที่ยว นั่งเล่น สัมผัสธรรมชาติชิวๆ กับวิวงามๆหลังบ้าน (บ้านนอกพอสมควรเลย) ไปถ่ายช่วง อาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าครับ สักช่วง 16.00-17.30 ช่วงนี้ใกล้เข้าหน้าหนาวเเล้วพระอาทิตย์จะตกไวหน่อยมีเวลาถ่ายเวลาชิวไม่มากเท่าไร
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @14mm 1/100 F6.3 ISO100
(ที่เห็นเขียวๆสวยๆในมือผมไม่ใช่ข้าวนะครับเเต่เป็นหญ้านะครับ 55555+ สมบูรณ์มากๆ)
โหมดที่ตั้งในกล้องนั้นต้อนไปถ่าย นี่ไม่ใช่โหมด โปร PASM นะครับ เเต่เป็นโหมด ภูเขาเลยครับผม
เรียกว่าผมให้กล้องนี่คิดให้ทุกอย่างเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น ShutterSpeed ISO รูปรับเเสงพี่ก็จัดมาให้เลยครับ (ถ้าไม่สวยก็โทษกล้องนะแฮร่ๆ) ตัวกล้อง Olympus นี่ก็ยังถือว่ามีข้อดีอยู่นะครับ ในพวกโหมด Auto นี้ คือเราสามารถ เลือกถ่ายเป็นไฟล์ RAW ได้ เเละสามารถ เลือกจุดโฟกัสได้ กำหนด ISO ได้ ปรับชดเชดเเสงบวกลบได้ ซึ่งกล้องบางรุ่นหรือบางเเบรนนี้ปรับไม่ได้นะครับ บางตัวถ้าเข้าโหมด Auto เเล้วกล้องก็จะถ่ายเเต่ JPEG ให้อย่างเดียวเลย ปรับอะไรไม่ได้เลย
เรียกว่าเจ้าตัวนี้ ก็ยังสามารถให้เราปรับได้ตามใจชอบได้นิดหน่อยครับ
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @14mm 1/100 F7.1 ISO100
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @14mm 1/100 F6.3 ISO100
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @14mm 1/160 F8.0 ISO100
(อันนี้ต้นข้าวเเล้วนะครับ ไม่ใช่ต้นหญ้าเเล้วนะ)
การได้เอามือไปสัมผัสธรรมชาติใกล้ๆเเบบนี้ผมบอกได้เลยครับ เป็นอะไรที่ชิว ฟิน เเละมีความสุขโครตๆเลยครับ
มาต่อเรื่องกล้องครับ ตัวกล้องเมื่อปรับไปโหมด ภูเขา เเล้ว มันจะชดเชยเเสงไปทางสว่าง ยังไงก็ไม่รู้ ผมไม่รู้ว่าระบบวัดเเสงมันเสีย หรือมันเป็นเเบบนี้อยู่เเล้ว เพราะกล้องอาจจะเก่า ระบบวัดเเสงอาจจะไม่ ดีเหมือนสมัยนี้เลยทำให้วัดเเสงติดไปทาง Over เยอะเลยครับ เเต่ยังดีครับ ที่ตัวกล้องสามารถให้ปรับชดเชยเเสงได้ เลยชดเชยมาทางลบสัก -1.0 ถึง -1.3 ก็ใช้งานได้ปกตีไม่มีปัญหาอะไร
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @14mm 1/320 F11 ISO100
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @14mm 1/80 F6.3 ISO100
(เราเป็นดอกหญ้า อาจจะไม่สวยเหมือนดอกกุหลาบ เเต่เราจะติดตามเธอไปทุกที่ เพราะเราจะเกาะขากางเกงเธอไป หญ้าเจ้าชู้หน่ะครับเกาะดีมาก)
รูปที่ถือดอกหญ้านี้ถ่ายที่ 14mm F6.3 นะครับ ถือว่าละลายหลังได้ ok เลย ไม่น่าเกลียด สำหรับเซ็นเซอร์ Fourthird
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @31mm 1/40 F5.1 ISO100
ตัวกล้องยังมีฟังชั่น กันสั่นในตัวด้วยนะครับ ผมลองเเล้วก็ ok พอสมควรเลย
สีสัน ถือว่าให้ความสดสวยมากเลยครับ ใน stlye olympus ในยุคนั้นเลย
กับกล้องตัวนี้ผม set picture profile เเล้วต่างๆนาๆ ก็ยัง สดอยู่ครับ
ถือว่าความสีสดเป็นเอกลักษณ์ ของเขาเลยในยุคนั้น
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @14mm 1/60 F5.0 ISO100
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @14mm 1/80 F5.6 ISO100
ที่จับนั่นตันหญ้าอีกเเล้วนะครับ อุดมสมบูรณ์มาก
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @14mm 1/800 F11 ISO100
มาลองเป็นย้อนเเสงกันเเรงๆ ทดสอบการเก็บรายเละเอียด Shadow Highlight บ้างครับ ตามสเปคในเว็บ DXO Mark ที่วัดไว้ เจ้า E510 มี Dynamic Range ที่ 10 Stop ครับ ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับกล้องปัจจุบัน เวลาดึงพวก Shadow & Highlight เเล้ว Noise มาบานเลยครับ
เเต่ดึงได้ขนาดนี้ก็ถือว่า โหดมากเเล้วครับ กับกล้องอายุ 11-12 ปีขนาดนี้ ได้เเค่นี้ผมก็ปลื้มเเล้ว
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @14mm 1/80 F6.3 ISO100
อันนี้เวลา ห้าโมงครึ่ง เเสงก็เริ่มหมดเเล้วครับยุงเริ่มจะหามเเล้วครับ กลับกันดีกว่า
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @42mm 1/160 F7.1 ISO100
ลากันไปด้วยภาพนี้เเล้วกันนะครับ การที่นานๆทีได้มาดูพระอาทิตย์ตก เเถวท้องนานี่มันรู้สึกดีจริงๆครับ
หวังว่า ใครที่กำลัง หาข้อมูลเกี่ยวกับกล้องรุ่นนี้อยู่ หรือ อยากรู้ว่า กล้องเก่าๆนั้น สามารถทำอะไรได้มากเเค่ไหน จะถ่ายสวยไหม สามารถเอาเป็นข้อมูลอ้างอิงได้นะครับ
สำหรับกล้องตัวนี้ ก็ถือว่า OK เลยครับเมื่อเทียบกับราคาที่ได้มะ ผมให้สัก 8/10 เหมาะกับเอาไว้ติดรถมาก เเล้วกัน
เเล้วเดี๋ยววันหลังมีกล้องหรือเลนส์อะไรอีก จะมารีวิวให้ฟังใหม่นะครับ
ติดตามกันได้ที่ Line : letsmebeyourman
ทางผู้จัดทำหวังว่ารีวิวฉบับนี้จะให้ความรู้ และเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่านนะครับ ไม่มากก็น้อย หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยนะที่นี้ด้วย ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันมาจนจบนะครับ
ชอบมิชอบเเล้วเเต่จะโปรด
สวัสดีครับ >/\<
[CR] กล้องเก่าเรารีวิว ตอนที่ 1 Olympus E510 + Olympus 14-42mm ท่องเที่ยวนั่งเล่น สัมผัสธรรมชาติชิวๆ กับ วิวงามๆหลังบ้าน
สวัสดีครับผมกล้องเก่าเรารีวิวตอนเเรกนี้ เราจะมารีวิวกล้อง Olympus E510 IS พร้อมกลับเลนส์ติดกล้อง Olympus 14-42mm FourThird ED Zuiko กับวิวทุ่งนาสวยๆหลังบ้านผมกันครับ
Equipment
Camera : Olympus E510
Lens : Olympus Zuiko 14-42mm FourThird ED
Software : Photoshop & LightRoom
Follow Me
Line : letsmebeyourman
โดยกล้อง Olympus E-510 ตัวนี้ เปิดตัวเมื่อปี 2550 ก็ราวๆ 11-12 ปีมาเเล้ว (ในวันที่เขียน รีวิวคือปี 2018)
เป็นกล้อง DSLR จากค่าย Olympus หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า Olympus ก่อนที่เขาจะมาเริ่มทำกล้อง Mirrorless
Olympus ได้ทำกล้อง DSLR มาก่อน โดยเป็นระบบ FourThird 4/3 โดย Olympus ขายความเล็ก เบา พกพาง่าย เเละมีกันสั่นในตัวด้วย โดยกล้องตัวนี้เป็นรุ่นเเรกที่ใช้ Live MOS ของ Panasonic (รุ่นก่อนๆจะใช้CCDของKodak) โดยใช้ Seneor ขนาด 17.30 × 13.00 mm ให้ทางยาวโพกัส X2 เมื่อเปรียบเทียบกับกล้องFullFrame (เท่ากับกล้อง M4/3 เลยครับ เพราะเจ้าตัวนี้เป็นรุ่นพี่นั่นเอง)
ขนาดภาพ 10 ล้านพิกเซล 3,648 × 2,736 อาจจะถือว่าเล็ก ไปสำหรับปี 2018
เเต่ 10 ล้านนี่อัดภาพ ติดฝาบ้านได้สบายๆครับ ใช้งานได้ไม่ตะขิดตะขวงใจเลย
ไฟล์เล็กก็ดีครับไม่หนัก Harddrive ไฟล์RAW ประมาณ 10MB สบายๆครับ
ISO 100-1600 ถือว่าน้อยไปหน่อย ใช้เเค่ 800 ก็ Noise บานเเล้วครับ (ถ้าเทียบกับกล้องในปี 2018 นะครับ เเต่ก็ถือว่าทำได้ดีครับเมื่อเทียบกับกล้องในสมัยนั้น) กล้องตัวนี้เเนะนำ ถ้าเป็นไปได้ถ่ายกลางวันดีกว่าครับ จะเเพ้กลางคืนหน่อย
ตัวนี้ใช้ MEM เเบบ CFCard ก็จะมีราคาเเพงหน่อย เเต่ข้อดีคือ ทนมาก
จุดโพกัส 3 จุด ถ่ายต่อเนื่อง 3FPS ชัตเตอร์ไวสุด 1/4000 วินาที
จอ 2.5นิ้ว ความละเอียด 230000 Pixel ใน Live View ให้พร้อม
ตัวกล้อง มี DataPort ให้ช่องเดียว สามารถต่อกับคอมเอารูปออกได้ หรือ ว่าจะต่อกับรีโมทชัตเตอร์ เพื่อถ่ายพวก Time Lapse หรือถ่ายภาพตัวเองก็ได้ ก็ได้
ฟังชี่นอาจจะดูธรรมดาๆ ถ้าเทียบกับทุกวันนี้
เเค่กล้อง Mirrorless ระดับเริ่มต้นเช่น Olympus EPL-8 ก็รัวเฟรมได้เกือบ 10 FPS เเล้วครับ ISO เป็นหลายหมื่น จอก็ละเอียดกว่ามาก ฟังชั่นเยอะกว่ามาก เเถมเบากว่าสะดวกกว่า ถ่าย Video ได้ด้วย
เเต่รู้ไหมว่าสมัยนั้น กล้องตัว E510 นี้ก็ล้ำ พอสมควรเลย
ราคาเปิดตัวตอนนั้น ปกศ ก็ 27000-29000บาท คู่เเข่งสมัยนั้นก็จะมี Canon 400D กับ NikonD40x
E510ตัวนี้ผมได้มาที่ราคา บอดี้ 1500 บาทครับผม (ต่อราคามาจาก 1750 บาท) ตอนเเรกไม่มีความรู้ เกี่ยวกับกล้อง Olympus DSLR นี้หรอกครับ เเต่เห็นว่าถูกๆดีก็เลยซื้อมาครับ ของที่เจ้าของเก่าให้มาก็มี CD มีสายเคเบิ้ล สายคล้องคอ ที่ชาร์ต เเต่ไม่มีเเบตนะครับ ผมก็ไม่รู้ว่าจะใช้ได้ไหมจริง เเต่เจ้าของเก่า เขาบอกเคยซื้อของจากร้านผมเหมือนกัน เลยได้พูดคุยกัน เอาเป็นว่าเชื่อใจเลย จัดมาเลย เจ้าของเก่าเขาเเนะนำว่าให้หา Adapter เเล้วเล่นกับเลนส์ M42 ดีกว่า (ซึ่งตอนเเรกผมได้ซื้อมาลองเล่น เเต่เลนส์ M42 ที่มีก็จะระยะมีเเต่ 50mm คูณทางยาวไป 2 ก็ = 100mm ซึ่งถือว่า เทเลไปไม่เหมาะกับผม เพราะกล้องตัวนี้ ตามจริงอยากได้เอามาติดรถไว้ เผื่อขับผ่าน วิวสวยๆก็จะได้เเวะถ่ายไป เลยอยากได้เลนส์ Kit ติดกล้องมากกว่า)
เเล้วก็ซื้อเเบตเทียบ 350 บาท
CF มีอยู่เเล้ว ไม่ต้องซื้อ
Tape พันสายไฟ 20 บาท มาDIYนิดหน่อย กล้องตัวนี้มีตำหนิตรงที่ ฝาปิด CF ปิดไม่เเน่น ไม่อยากหยอดกาวติด ถาวร เลยเอา Tape พันสายไฟพันเอาครับ ตรา 3M เเล้วเวลาเอารูปออกก็ใช้สาย Data เอา
เลนส์ติดกล้อง14-42mmหาอยู่นานเลยครับ เพราะคนมีไม่ค่อยปล่อย กันครับ สภาพสวยก็หายากหน่อย ตอนเเรกก็เจอตัว 2500 คนขายบอกว่าสวยเลยต่อราคามาได้ 2200 ผมถามย้ำเลยนะครับว่าไม่มีราฝ้าใช่ไหม เพราะตัวนี้ผมเอามาใช้เอง คนขายก็บอกว่าไม่มี
เเต่พอได้เลนส์มา แอบผิดหวังนิดหน่อย เพราะเอามาส่องๆกับไฟ เเล้ว มีฝ้าที่ชิ้นท้ายเป็นวงๆ เเล้วก็ราเล็กน้อย เลยได้เจรจาขอคืนสินค้ากับคนขาย หรือขอลดราคาได้ไหม ก็ได้ปิดราคา มาที่ 1500 บาทครับ
เพราะฉะนั้นภาพที่ได้จากกระทู้นี้จะมาจากเลนส์ติดฝ้าหน่อยนะครับ
ถ้าคนไหนมีเลนส์ 14-42mm สภาพสวยๆอยากขายสัก 2000-2500 ติดต่อมาได้เลยนะครับ
สรุปต้นทุนก็
บอดี้1500+เเบต350+เทปพันสายไฟ20+เลนส์14-42mm1500 = 3370 บาท
ถ้าถามผมคุ้มไหม ถ้าเทียบกับประโยชน์ ที่ใช้กับเเบบเป็นกล้องติดรถ จะอยู่บนรถตลอด ติดรถตลอด ไปไหนไปกัน เเทบจะไม่ได้เอาลง (เพราะตัวนี้เเบตเเอบอึดมาก) ก็ถือว่าโครตคุ้มเลยครับ
เเต่ถ้าเทียบกับกล้อง Mirrorless Olympus ระดับเริ่มต้น EPL-8 ซึ่งราคาตอนเขียนบทความนี้ มือหนึ่งประมาณ 13000-14000 บาท ประกันร้าน ถ้าหากมีงบหน่อยเเนะนำของใหม่ดีกว่าจะคุ้มกว่าครับ
สำหรับผม 3370 กับกล้องติดรถตัวนี้ถือว่าคุ้มมากครับ
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @28mm 1/125 F7.1 ISO100
สถานที่ทดสอบ ไปไม่ไกลครับ เป็นทุ่งนาหลังบ้านผมนี่เองครับ ผมจะพาเพื่อนๆไปท่องเที่ยว นั่งเล่น สัมผัสธรรมชาติชิวๆ กับวิวงามๆหลังบ้าน (บ้านนอกพอสมควรเลย) ไปถ่ายช่วง อาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าครับ สักช่วง 16.00-17.30 ช่วงนี้ใกล้เข้าหน้าหนาวเเล้วพระอาทิตย์จะตกไวหน่อยมีเวลาถ่ายเวลาชิวไม่มากเท่าไร
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @14mm 1/100 F6.3 ISO100
(ที่เห็นเขียวๆสวยๆในมือผมไม่ใช่ข้าวนะครับเเต่เป็นหญ้านะครับ 55555+ สมบูรณ์มากๆ)
โหมดที่ตั้งในกล้องนั้นต้อนไปถ่าย นี่ไม่ใช่โหมด โปร PASM นะครับ เเต่เป็นโหมด ภูเขาเลยครับผม
เรียกว่าผมให้กล้องนี่คิดให้ทุกอย่างเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น ShutterSpeed ISO รูปรับเเสงพี่ก็จัดมาให้เลยครับ (ถ้าไม่สวยก็โทษกล้องนะแฮร่ๆ) ตัวกล้อง Olympus นี่ก็ยังถือว่ามีข้อดีอยู่นะครับ ในพวกโหมด Auto นี้ คือเราสามารถ เลือกถ่ายเป็นไฟล์ RAW ได้ เเละสามารถ เลือกจุดโฟกัสได้ กำหนด ISO ได้ ปรับชดเชดเเสงบวกลบได้ ซึ่งกล้องบางรุ่นหรือบางเเบรนนี้ปรับไม่ได้นะครับ บางตัวถ้าเข้าโหมด Auto เเล้วกล้องก็จะถ่ายเเต่ JPEG ให้อย่างเดียวเลย ปรับอะไรไม่ได้เลย
เรียกว่าเจ้าตัวนี้ ก็ยังสามารถให้เราปรับได้ตามใจชอบได้นิดหน่อยครับ
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @14mm 1/100 F7.1 ISO100
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @14mm 1/100 F6.3 ISO100
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @14mm 1/160 F8.0 ISO100
(อันนี้ต้นข้าวเเล้วนะครับ ไม่ใช่ต้นหญ้าเเล้วนะ)
การได้เอามือไปสัมผัสธรรมชาติใกล้ๆเเบบนี้ผมบอกได้เลยครับ เป็นอะไรที่ชิว ฟิน เเละมีความสุขโครตๆเลยครับ
มาต่อเรื่องกล้องครับ ตัวกล้องเมื่อปรับไปโหมด ภูเขา เเล้ว มันจะชดเชยเเสงไปทางสว่าง ยังไงก็ไม่รู้ ผมไม่รู้ว่าระบบวัดเเสงมันเสีย หรือมันเป็นเเบบนี้อยู่เเล้ว เพราะกล้องอาจจะเก่า ระบบวัดเเสงอาจจะไม่ ดีเหมือนสมัยนี้เลยทำให้วัดเเสงติดไปทาง Over เยอะเลยครับ เเต่ยังดีครับ ที่ตัวกล้องสามารถให้ปรับชดเชยเเสงได้ เลยชดเชยมาทางลบสัก -1.0 ถึง -1.3 ก็ใช้งานได้ปกตีไม่มีปัญหาอะไร
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @14mm 1/320 F11 ISO100
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @14mm 1/80 F6.3 ISO100
(เราเป็นดอกหญ้า อาจจะไม่สวยเหมือนดอกกุหลาบ เเต่เราจะติดตามเธอไปทุกที่ เพราะเราจะเกาะขากางเกงเธอไป หญ้าเจ้าชู้หน่ะครับเกาะดีมาก)
รูปที่ถือดอกหญ้านี้ถ่ายที่ 14mm F6.3 นะครับ ถือว่าละลายหลังได้ ok เลย ไม่น่าเกลียด สำหรับเซ็นเซอร์ Fourthird
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @31mm 1/40 F5.1 ISO100
ตัวกล้องยังมีฟังชั่น กันสั่นในตัวด้วยนะครับ ผมลองเเล้วก็ ok พอสมควรเลย
สีสัน ถือว่าให้ความสดสวยมากเลยครับ ใน stlye olympus ในยุคนั้นเลย
กับกล้องตัวนี้ผม set picture profile เเล้วต่างๆนาๆ ก็ยัง สดอยู่ครับ
ถือว่าความสีสดเป็นเอกลักษณ์ ของเขาเลยในยุคนั้น
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @14mm 1/60 F5.0 ISO100
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @14mm 1/80 F5.6 ISO100
ที่จับนั่นตันหญ้าอีกเเล้วนะครับ อุดมสมบูรณ์มาก
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @14mm 1/800 F11 ISO100
มาลองเป็นย้อนเเสงกันเเรงๆ ทดสอบการเก็บรายเละเอียด Shadow Highlight บ้างครับ ตามสเปคในเว็บ DXO Mark ที่วัดไว้ เจ้า E510 มี Dynamic Range ที่ 10 Stop ครับ ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับกล้องปัจจุบัน เวลาดึงพวก Shadow & Highlight เเล้ว Noise มาบานเลยครับ
เเต่ดึงได้ขนาดนี้ก็ถือว่า โหดมากเเล้วครับ กับกล้องอายุ 11-12 ปีขนาดนี้ ได้เเค่นี้ผมก็ปลื้มเเล้ว
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @14mm 1/80 F6.3 ISO100
อันนี้เวลา ห้าโมงครึ่ง เเสงก็เริ่มหมดเเล้วครับยุงเริ่มจะหามเเล้วครับ กลับกันดีกว่า
Olympus E510 + Olympus 14-42mm F3.5-5.6 ED @42mm 1/160 F7.1 ISO100
ลากันไปด้วยภาพนี้เเล้วกันนะครับ การที่นานๆทีได้มาดูพระอาทิตย์ตก เเถวท้องนานี่มันรู้สึกดีจริงๆครับ
หวังว่า ใครที่กำลัง หาข้อมูลเกี่ยวกับกล้องรุ่นนี้อยู่ หรือ อยากรู้ว่า กล้องเก่าๆนั้น สามารถทำอะไรได้มากเเค่ไหน จะถ่ายสวยไหม สามารถเอาเป็นข้อมูลอ้างอิงได้นะครับ
สำหรับกล้องตัวนี้ ก็ถือว่า OK เลยครับเมื่อเทียบกับราคาที่ได้มะ ผมให้สัก 8/10 เหมาะกับเอาไว้ติดรถมาก เเล้วกัน
เเล้วเดี๋ยววันหลังมีกล้องหรือเลนส์อะไรอีก จะมารีวิวให้ฟังใหม่นะครับ
ติดตามกันได้ที่ Line : letsmebeyourman
ทางผู้จัดทำหวังว่ารีวิวฉบับนี้จะให้ความรู้ และเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่านนะครับ ไม่มากก็น้อย หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยนะที่นี้ด้วย ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันมาจนจบนะครับ
ชอบมิชอบเเล้วเเต่จะโปรด
สวัสดีครับ >/\<
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้