เงินเดือนหมื่นห้าใช้ชีวิตยังไงกลางกรุงเทพแบบแฮปปี้ตามฉบับของเราจ้า

สวัสดีค่าทุกคน วันนี้เรามาตั้งกระทู้เป็นครั้งแรกเลย และอาจหาญมาในเรื่องของ “เงิน” ใช่ค่ะ เงิน เงินเดือน เงินเก็บ เงินค่าขนมต่างๆนาๆของเรา ถูกรวบรวมมาแจกแจงอยู่ในกระทู้นี้แล้วค่ะ ตัวเราเองเข้ามาในวังวนชีวิตการทำงานได้ร่วมๆ สองปีแล้วค่ะ ตอนนี้การเงินของเราค่อนข้างจะอยู่ในเกณฑ์ที่เข้าที่เข้าทางพอสมควรแล้วสำหรับเรานะคะ เราก็เลยอยากมาแชร์การเก็บเงิน การแบ่งเงินใช้จ่ายของเราในเต่ละเดือนค่ะ เผื่อว่าใครที่เงินเดือนหมื่นห้าเหมือนเราจะได้ลองดูเผื่อไว้เป็นแนวทาง แล้วก็เผื่อใครมีแนวทางน่าสนใจก็สามารถแนะนำเราได้เลยนะคะ  

***ต้องบอกก่อนว่าสำหรับเรา เราทำวิธีนี้แล้วเรามีความสุข เงินพอมีพอใช้ ไม่ตึงไม่หย่อนมากจนเกินไปค่ะ เรารู้สึกว่าตั้งแต่ชีวิตเราเป็นระเบียบทางด้านการเงินมากขึ้น ก็ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยน้อยลงเวลาทำงานค่ะ เพราะเงินที่เราได้มาทุกบาททุกสตางค์ เราได้ใช้มันอย่างคุ้มค่าสมกับความเหนื่อยของเราแล้วค่ะ 55555

ฐานเงินเดือนของเราอยู่ที่ 15,000 บาทค่ะ ตอนเงินเดือนออก เราจะแบ่งเงินออกเป็น 3 ส่วน


ส่วนที่หนึ่ง 40 % เป็นค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายทุกเดือนค่ะ อาทิเช่น ค่าหอพัก น้ำ ไฟ ค่าโทรศัพท์ (6,000 บาท)
ส่วนที่สอง 40% เป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อาทิเช่น ค่าข้าว ค่าขนม นมเนย ต่างๆ (6,000 บาท)
ส่วนที่สาม 20% เงินออม ในที่นี้เรามีลงทุนซื้อสลาก ซื้อกองทุนบ้างค่ะ (3,000 บาท)

ส่วนที่ 1 คือส่วนที่ต้องจ่ายทุกเดือนค่ะ เราจะแยกเป็น

-ค่าโทรศัพท์ 300 บาท  
-ค่าที่พักรวมค่าน้ำค่าไฟประมาณ  4,000 บาท
-อุปโภค เครื่องสำอาง ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว 1,500 บาท

มาดูกันว่างบ1,000-1,500 บาท ผู้หญิงคนนึงจะซื้อข้าวของเครื่องใช้อะไรได้บ้างสำหรับ 1 เดือน อันนี้ไม่ได้มารีวิวจริงจังนะคะ เดือนนี้เราช้อปปิ้งมา เราเลยอยากแนะนำว่าเราซื้ออะไรบ้างในงบที่เรามี พอเรามีงบจำกัดแล้วเนี่ย เราก็ต้องลงทุนในสิ่งที่มันคุ้มค่าจริงๆค่ะ ลองดูกันนะคะว่าเราซื้ออะไรมาบ้าง ใช้แล้วเป็นยังไง เผื่อจะเป็นประโยชน์ค่ะ


ยาสีฟัน ใช้ประจำจะเป็นยาสีฟันเทพไทย รสมิกซ์ฟรุ๊ต ของยี่ห้อนี้ใช้แค่เม็ดถั่วเขียวจริงๆ รสชาติดี หอมผลไม้ ใช้แล้วก็ช่วยเรื่องกลิ่นปากได้ดีด้วยค่ะ ราคาไม่แรงจนเกินไป ได้สนับสนุนของคนไทยด้วย
ราคา 105 บาท ใช้ได้ 2 เดือนกว่า

สบู่ เราจะซื้อ 2 ก้อนค่ะ บอกตามตรงว่าสบู่แบบนี้มันค่อนข้างละลายง่ายนิดนึง เดือนนึงเราก็จะใช้ประมาณ 2 ก้อนค่ะ เราจะเลือกเป็นสบู่ที่ฟอกได้ทั้งหน้าและตัว เป็นความชอบของเราเอง ใครชอบสบู่เหลวก็สามารถเลือกใช้เป็นสบู่เหลวได้จ้า ที่เราชอบและซื้อประจำก็จะเป็นสบู่โพรเทคส์ไทยเทอราพี แล้วก็ซิตร้า จริงๆสบู่ที่ราคาเบาๆกว่านี้ก็มีใหเลือกใช้ แต่เราว่าบางยี่ห้ออาจจะทำให้ผิวแห้งไปหน่อยค่ะ สองยี่ห้อนี้ไม่แห้งตึงมากเกินไป
ราคา ก้อนละ 48 บาท เป็นเงิน 96 บาท

แชมพู+ครีมนวด เราไม่ได้มีปัญหาเส้นผมอะไร ก็เลยเลือกใช้ยี่ห้ออะไรก็ได้ค่ะ สูตรไหนน่าสนในเราก็เลือกซื้อสูตรนั้น เดือนนี้เราซื้อเป็นของ Loreal ราคาไม่แพง ใช้แล้วผมนุ่ม กลิ่นหอมดีค่ะ ไม่คันหนังศีรษะด้วย ขวดใหญ่ใช้ได้นาน
ราคา ขวดละ 99*2 เป็นเงิน 198 บาท

เกลือขัดผิว เราใช้หลายยี่ห้อสลับกันไปค่ะ แต่ที่ถูกใจที่สุดตอนนี้ ราคาถูกและใช้ดี เรายกให้เกลือขัดผิว A Bonne ค่ะ เกลือละเอียด ขัดแล้วไม่บาดผิว ทำให้รอยดำจางลง ผิวตัวเนียนนุ่มขึ้นเยอะเลย มีหลายสูตรให้เลือกใช้นะคะ เผื่อใครเบื่อๆ ลองใช้สูตรพวกวิตามิน หรือโยเกิร์ตบ้างก็ดีเหมือนกันค่ะ
ราคา 38 บาท

โลชั่นทาผิว อันนี้ใช้ดีค่ะมีกันแดดในตัวด้วยของ Vaseline เราว่าใช้แล้วชุ่มชื้น ไม่เหนียวเกินไป แล้วรู้สึกว่าผิวขาวขึ้นด้วย อย่างช่วงแดดแรงๆใครตามหากันแดดราคาไม่แพง บำรุงผิวแล้วก็กันแดดได้ในตัว ขวดใหญ่ใช้ได้นานสุดๆ ถ้าเบื่อๆเราถึงเปลี่ยนยี่ห้อค่ะ แต่อันนี้ใช้เดือนนึงก็ยังไม่หมดนะคะ ประมาณ 2 เดือนได้เลย คุ้มค่า ใช้ดีด้วย
ราคา 259 บาท ใช้ได้ 2 เดือนขึ้นไป

คลีนซิ่ง อันนี้เราก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆตามที่อยากลองเหมือนกันค่ะ อย่างของเดือนนี้ก็จะเป็น Loreal Gentle Cleansing Milk เพราะอยากลองเนื้อใหม่ๆดูบ้างนอกจากแบบน้ำ เดือนนี้ก็เลยลองเป็นเนื้อน้ำนมค่ะ อันนี้ทำความสะอาดได้ดีเลย ไม่แสบหน้า ไม่ทำให้หน้าแห้งตึงด้วย ใช้คู่กับสำลี เช็ดได้สะอาดมากๆ มีกลิ่นหอมด้วยนะ
ราคา 200 บาท ใช้ได้ 1-2 เดือน

สำลี ของร้าน Watsons อันนี้คุณภาพตามราคาค่ะ แต่เราไม่ซีเรียสนะคะ ใช้แล้วทิ้ง อาจจะไม่ได้นุ่มที่สุด มีเป็นขุยบ้าง แต่ใช้งานได้ค่ะ เราใช้มาหลายต่อหลายห่อแล้ว มีโปรโมชั่นบ่อยมากด้วย
ราคา 69 บาท + 1 บาท โปรชิ้นที่สองหนึ่งบาทค่า ใช้ได้นานอีกแล้ว ตุนๆ


ครีมบำรุงผิวหน้า เรามักจะใช้ครีมซองค่ะ เพราะราคามันไม่แรง ซื้อใช้ได้ต่อเนื่อง เดือนนี้เราลองเป็นเซรั่มน้ำนมของ Beauty Buffet ค่ะ ปกติเราจะซื้อครีมซองเดือนละ 3 ซอง ใช้ทาได้ทั้งเช้าเย็น 3 ซองนี่ทาได้ประมาณ 30 วัน แอบรีวิวนิดนึงเพราะลองใช้แล้วชอบเลยค่ะ ตัวนี้ทาแล้วหน้านุ่ม ซึมง่าย ชุ่มชื้น รู้สึกว่าผิวแข็งแรงมากขึ้น ใช้มาอาทิตย์กว่าหน้าแอบขาวขึ้นด้วย คิดว่าจะซื้อมาใช้ซ้ำเรื่อยๆค่ะ
ราคา ซองละ 49*3 = 147 บาท

ครีมกันแดด เราเป็นแบบซองของ KA อันนี้ก็ดีเลยค่ะเป็นเหมือนเบสปรับสภาพผิวไปในตัว ค่ากันแดดก็สูงด้วย แต่ถ้าใครผิวมันอาจจะต้องไปลองหาแบบเจล หรือแบบที่ช่วยควบคุมมันได้ค่ะ แต่คนผิวธรรมดาตัวนี้ใช้ได้ดีในงบที่จำกัด รู้มั้ยคะการทากันแดดช่วยเรื่องการเกิดฝ้า กระต่างๆ ให้ไม่เกิดที่หน้าของเรา ถ้าใส่ใจตรงนี้นิดนึง จะได้ไม่ต้องเสียเงินไปเลเซอร์หน้าอีกที555
ราคา ซองละ 29*2 = 58 บาท


ลิปมัน อันนึงนี่ใช้ได้นานเลยค่ะ ตอนนี้ที่เราใช้แล้วชอบรู้สึกคุ้มค่าก็จะเป็นของ Vaseline เนื้อเค้าดีเลยแหละ ทาแล้วไม่เหนียวปากมาก ชุ่มชื้นโอเค ราคาถูกมาก หาซื้อไม่ยาก ระดับเงินเดือนเราเนี่ย ยอมรับเลยว่าทำให้เราสรรหาของดีๆ ในราคาถูกอยู่เสมอ
ราคา 99 บาท ใช้ได้นานเกิน 3 เดือน

ลิปสติก เดือนนี้เราสอยลิป เพิ่ม 1 แท่งค่ะ เป็นของ Beauty Cottage เราซื้อมาพร้อมเซรั่มนั่นแหละค่ะ ร้านเค้าอยู่ในห้างเดียวกัน อันนี้เบอร์ 9 เป็นสียอดฮิตของเค้าเลย เข้าได้กับทุกสีผิว แท่งนึงใช้ได้นาน ทาได้หลายแบบ คุ้มค่าแก่การลงทุน ถ้าเบื่อๆเราคงไปสอยสีอื่นอีกค่ะ เห็นมั้ยคะ ถ้าเราบริหารเงินให้ดี เราก็จะมีเงินไปซื้อของจุกจิกเพิ่มปริมาณความสุขได้ด้วยนะ แถมของที่ซื้อเราก็หาแต่ของดีๆของขึ้นห้างได้ค่ะ ไม่ใช่ว่าต้องใช้ของก๊อปเสี่ยงหน้าพังปากพังด้วย ต้องวางแผนดูเงินในกระเป๋าและเสาะหาของดีราคาถูกค่ะ
ราคา 345 บาท

          พวกข้าวของเครื่องใช้เราก็มีซื้อสลับเปลี่ยนไปเรื่อยๆค่ะ ครีมซองตัวไหนน่าลองเราก็สอยมาลองบ่อยๆ ถ้าอันไหนใช้ดีเราก็จะใช้ซ้ำอยู่แบบนั้น ตอนแรกคิดว่าผิวเราจะสวยได้ยังไงถ้าเราไม่มีเงินซื้อของแพงๆ ใช่ค่ะในวันนี้เราอาจจะยังไม่มีเงินซื้อของแพงๆ แต่เราซื้อของดีๆด้วยเงินที่เรามีได้นี่นา ก็จัดไปค่ะ อันไหนใครว่าถูกและดีก็ซื้อมาลอง มีของหลายอย่างที่ใช้ได้มากกว่า 1 เดือน เงินมันเลยมีเหลือบ้างค่ะ ก็เก็บๆออมเอาไว้ เดือนไหนอะไรหมดก็ซื้อสิ่งนั้นมาเติมเต็ม ตอนนี้เลิกนิสัยซื้อตุนมาพักนึงแล้วค่ะ เมื่อก่อนนี่ตุนได้ตุนดี สุดท้ายหมดอายุ หนูแทะบ้างไรบ้าง ตอนนี้เอาเท่าที่ใช้ก็พอแล้วค่า5555


          แล้วยังมีพวกผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาถูพื้นต่างๆ และข้าวของอื่นๆ ที่เราต้องซื้อตุนไว้ใช้ตลอด แต่โดยรวมก็ไม่เกิน 1500 บาท ที่จัดสรรเอาไว้ค่ะ แต่ไม่ได้รีวิวเพราะพวกนี้ส่วนใหญ่เราซื้อตามโปรโมชั่นตลอดค่ะ ตามท๊อปส์ โลตัส บิ๊กซี ของลดราคาเยอะเลย5555

ส่วนที่ 2 ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน


เราแบ่งเงินไว้ใช้วันละ 200 บาท แยกใส่ซองหยิบใช้วันละซองเลย
วิธีนี้ทำให้เรามือเติบน้อยลงแล้วระลึกถึงเงินในกระเป๋าได้มากขึ้น ไม่ค่อยใช้เงินเกินตัวเหมือนแต่ก่อนค่ะ พอทำไปซักพักเกินคาดมากๆ เรามีเงินเหลือแทบทุกวันเลยนะ อาจจะมีใช้เกินบ้างแต่พอรับได้ค่ะไม่สะเทือนในส่วนอื่นมากเกินไป หลักๆเราจะควบคุมไว้ประมาณนี้ค่ะ

มีทริคเพิ่มมาฝากกันค่ะ
-  ถ้าเงินเราเหลือเราจะหยอดกระปุกทันที มันทำให้เราเหมือนชาเล้นจ์ตัวเอง ว่าสิ้นเดือนเงินจะเหลือเท่าไหร่ ฝึกให้เป็นนิสัยในการออมเงินค่ะ ไม่ว่าจะเหลือวันละ บาทสองบาท เราจะหยอดตลอดค่ะ
-  อีกทริคที่เห็นเงินเป็นก้อนเลยก็คือ การเก็บแบงค์ 50 ค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าเดือนนึงก็ได้หลายร้อยอยู่นะเอ้อ555
-  หากวันไหนใช้เกิน เราจะไปหักลบจากวันถัดๆไปค่ะ แต่จะพยายามเลี่ยงการใช้เกินจากที่เตรียมเอาไว้ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ในข้อนี้ส่วนใหญ่เรามักใช้ไม่เกินค่ะ อิอิ


อันนี้เป็นอาหารการกินของเราค่ะ เป็นประมาณนี้เลย เราไม่ได้ถ่ายไว้ทุกมื้อนะคะ บางมื้อมันก็อาจจะเป็นพวกแกงถุง หรือข้าวตามสั่งค่ะ แค่จะบอกว่าเราไม่ได้ลำบากอะไร ใช้เงินเท่านี้ก็ยังกินได้อิ่มหนำค่ะ บางมื้อก็หารกับเพื่อน บางมื้อก็ทำกินเอง มีมาม่าบ้างบางมื้อตามประสาคนชอบกินมาม่า หรือบางทีเก็บเงินไปซื้ออย่างอื่น5555. คือถ้าให้เล่ากลับไปก่อนที่เราจะจริงจังกับการบริหารการเงินเมื่อก่อนเราเคยฟุ่มเฟือยกว่านี้มาก และกลัวมาตลอดว่าถ้าเราประหยัดมากๆ แล้วเราจะได้กินอะไรมั้ย เราจะอดของอร่อยรึเปล่า แต่พอมาทำจริงๆ คือเราก็ได้กินอาหารดีๆ อาหารอร่อย ได้กินอาหารหลากหลายอยู่นะ มีมื้อพิเศษกับเพื่อน มื้อประหยัด อะไรก็คละๆกันไปค่ะ


เงินที่เราเก็บได้ในแต่ละวันรวมกับเงินที่เหลือจากส่วนอื่นๆ ก็ไว้พาครอบครัวไปกินข้าว กินขนม ดูหนังกันบ้างไปเที่ยวบางโอกาสค่ะ หรือบางทีก็มีซื้อเสื้อผ้าข้าวของที่อยากได้  หรือทำกับข้าวกินเองกับที่บ้าน แฮปปี้ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่