ก่อนอื่นต้องขอทักทายแบบไทยๆ คือการกล่าว "สวัสดี" ในภาษาจีนจะพูดว่า "หนี่ ห่าว" นี่เป็นการรีวิวท่องเที่ยวแดนมังกร กระทู้แรก หากผิดพลาดประการใด ทางผู้เขียนขอกราบอภัยมา ณ ที่นี้ สามารถติชมเพื่อพัฒนาการเขียนได้ ทางผู้เขียนจะน้อมรับและจะปรับปรุงในกระทู้ต่อไป.......


วันนี้ผู้เขียนอยากจะเล่าประสบการณ์ที่ได้เดินทางเยือนแดนมังกร ครั้งที่ได้เดินทางไปยังเมืองคุนหมิง - ตาหลี่ - ลี่เจียง ซึ่งเป็นดินแดนที่ไม่ห่างจากประเทศไทยเท่าไหร่ เป็นเมืองที่ทำเกษตรกรรม และบรรยากาศเงียบสงบ ในตอนที่ผู้เขียนได้เดินทางไปท่องเที่ยวนั้น เป็นช่วงเดือนเมษายน 2561 (เทศกาลสงกรานต์) แต่ตอนที่ไปเที่ยวนั้นเมืองคุนหมิงอากาศ ประมาณ 16 - 6 องศา ซึ่งถือว่าหนีเมืองร้อนมาหาเมืองเย็นเลยก็ว่าได้


การเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้ ผู้เขียนได้บินสายการบินไทย ซึ่งคิดว่าเป็นสายการบินชั้นประหยัดที่อำนวยความสะดวกมากที่สุด และอาหารบนเครื่องสไตล์คนไทยแน่นอน !!!

วันแรก เมื่อมาถึงสนามบินเราก็จะมุ่งหน้าไปยังเมืองต้าหลี่ เพื่อปรับร่างกายเตรียมพร้อมขึ้นภูเขามังกรหยกที่ลี่เจียง ซึ่งจากคุนหมิงเรานั่งรถใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง เนื่องจากถ้าเป็นรถนักท่องเที่ยวในประเทศจีนจะจำกัดความเร็ว เพื่อความปลอดภัย ตลอด 2 ข้างทางนั้นก็จะเป็นแปลงเกษตร เช่น ข้าว ผลไม้



เมื่อเรานั่งรถมาได้ประมาณ 4 ชั่วโมง เราก็แวะทานข้าว เพื่อเติมพลังก่อนการเดินทาง ซึ่งร้านอาหาร (จำชื่อไม่ได้) แต่รายการอาหารก็มีประมาณนี้ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าอาหารที่เมืองจีน มันมาก ถ้าเผ็ด ก็เผ็ดอย่างเดียว ซึ่งรสชาติจะไม่ค่อยโอเคกับคนไทยเท่าไหร่ (หรือผู้เขียนอาจจะเรื่องมาเรื่องการกินนิดหน่อย) สำหรับผู้เขียนแล้วไข่เจียวอร่อยสุด ถึงจะออกด้านๆไปมากก็ตาม ซึ่งทางที่ดีควรพกน้ำพริก เช่น น้ำพริกนรก หรือ น้ำพริกเผา มาพร้อมความอร่อยก็ตามใจชอบ


หลังจากที่เราอิ่มจากการกินไข่เจียวไปแล้วนั้น เราก็ออกเดินทางต่อไปยังโรงแรมที่พัก คืนแรกเรานอนที่ต้าหลี่ เพื่อเตรียมตัว นั่งรถต่อไปยังลี่เจียง ซึ่งคืนแรกเราก็พักที่โรงแรม ประมาณ 3 ดาว ซึ่งโรงแรมนี้ ถ้าใครชอบกินมาม่าตอนกลางคืนอย่างผู้เขียน แนะนำสำหรับคนที่ไม่กินเนื้อจะต้องเตรียมมาม่าไปเอง เพราะที่โรงแรมนี้มีแต่มาม่าเนื้อทั้งหมด


วันที่ 2 หลังจากที่เราได้พักผ่อนไปแล้ว เราก็จะออกเดินทางไปยัง ลี่เจียง เพื่อวันรุ่งขึ้นจะไปขึ้นเขาหิมะมังกรหยก ปะทะความหนาวเย็นในหน้าร้อนของไทย ซึ่งเราก็ได้แวะชมสถานที่ต่างๆ ก็จะเก็บภาพบรรยากาศมาไม่เยอะ เพราะร่างกายของผู้เขียนแพ้อากาศเย็น เลยมีอาการปวดหัว และอาหารไม่ย่อย







วันที่ 3 เราก็ได้ออกเดินทางไปยัง ภูเขามังกรหยก ซึ่งต้องนั่งกระเช้าขึ้นไป (หากเรามาสาย เราจะโดนทัวร์จีนลงและรอเวลานานกว่าจะได้ขึ้นกระเช้า และที่สำคัญอย่าแตกแถวต้องเดินเป็นกลุ่มกับคณะที่มากับเรา ไม่นั้นอาจจะหลงได้)



หลังจากที่เราขึ้นไปชมภูเขาหิมะมังกรหยกแล้ว เราก็จะไปชมการแสดง Impossible วึ่งสวยงามมาก ข้างหลังเป็นวิวของภูเขาหิมะมังกรหยกที่เมื่อช่วงเช้าเราก็ได้ขึ้นไปสัมผัสอากาศเย็นนั้นเอง การแสดงโชว์แบบ Out Door หากมีฝนตกจะไม่มีการแสดง







หลังจากนั้นเราก็ไดเ้เดินทางกลับประเทศไทย......

ปล.กระทู้นี่เป็นกระทู้แรกสำหรับการเขียนแบบเล่าเรื่อง สัญญาว่าครั้งหน้าจะปรับปรุงการเขียนให้ดีขึ้นกว่านี้ โปรดฝากติดตามการท่องเที่ยวแดนมังกรครั้งต่อไปด้วยนะค่ะ และขอขอบคุณที่เสียสละเวลาอ่านในการแบ่งปันความสวยงามใหม่ๆค่ะ