ขอเกริ่นก่อนนะคะ ถ้าถามว่าทุกคนรู้จักผ้าอนามัยแบบไหนกันบ้าง
โดยทั่วไปคนส่วนใหญ่ก็จะรู้จักอยู่ 2 ประเภท คือ แบบแผ่น และแบบสอด
และล่าสุดที่รู้จักกันก็คือกางเกงอนามัย(ลักษณะคล้ายๆผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูป) แต่ที่ยังใหม่และยังไม่แพร่หลายสำหรับสาวชาวไทยเลยก็คือผ้าอนามัยแบบซักได้(สาวชาวญี่ปุ่นชอบใช้กัน) และผ้าอนามัยแบบถ้วย หรือที่เรียกกันว่า
“ถ้วยอนามัย” นั่นเองค่ะ!!!
ซึ่งในที่นี้จะพูดเกี่ยวกับถ้วยอนามัยที่เจ้าของกระทู้ใช้นะคะ โดยส่วนตัวทุกครั้งที่มีประจำเดือนเราใช้ผ้าอนามัยแบบแผ่นค่ะ ไม่เคยใช้แบบอื่นเลย! แต่ถ้าถามว่าทำไมข้ามขั้นมาใช้ถ้วยอนามัยก่อนใช้ผ้าอนามัยแบบสอดล่ะ? คำตอบคือจขกท.กลัวค่ะ...(ตลกกลัวแล้วมาใช้แบบถ้วย555) ก็ตอนนั้นที่ไม่ใช้แบบสอดก็เพราะกลัวว่ามันสอดเข้าไปแล้วจะเจ็บ แล้วเราก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ด้วยเพราะเราไม่ได้ต้องว่ายน้ำ หรือเน้นความคล่องตัวของร่างกายเท่าไหร่ และอีกเหตุผลก็คือแพงกว่าแบบแผ่นด้วย(ความงกคือเหตุผลหลักนั่นเอง...)
เอาล่ะๆ เข้าเรื่องๆ ถ้วยอนามัยคืออะไร?...
มันคือสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างนึงที่ออกแบบมาเพื่อรองรับปจด.ของเราค่ะ โดยวิธีใช้คือการสอดใส่เข้าไปในช่องคลอด มีลักษณะหลากหลายรูปแบบดังรูปด้านล่างค่ะ
รูปจาก PUTACUPINIT.COM
ทำไมถึงเลือกมาใช้ถ้วยอนามัยแทนผ้าอนามัยแบบแผ่นที่ใช้อยู่เหมือนเดิม เพราะจขกท.เห็นข้อดีของมันเยอะค่ะ 5555 ดูจากข้อมูลความคิดเห็นส่วนตัวของจขกท.ด้านล่างกันเลยนะคะ
ข้อดี
-ประหยัดมาก = เพราะสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เป็น 10 ปี
-ราคาถูก = ถ้าคิดถึงความคุ้มค่าที่ได้กับราคา จะรู้เลยว่ามันคุ้มค่ามากๆที่จะใช้
-เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม = เนื่องจากนำกลับมาใช้ได้ จึงช่วยลดขยะที่เกิดจากผ้าอนามัยที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งได้มากเลยทีเดียว
-ใส่ได้นาน = สามารถใส่ได้ถึง 12 ชม. โดยไม่ต้องเปลี่ยน
-กักเก็บปจด.ได้มาก = หลายๆคนอาจกังวลว่ามาเยอะแล้วจะล้นถ้วยมั้ย? ยืนยันเลยค่ะว่าไม่ล้น เราลองแล้ววันมามากสุดของเราก็แค่ครึ่งถ้วยเอง
-ความสะดวก = เนื่องจากใส่ได้นานและกักเก็บได้ปริมาณมาก จึงไม่จำเป็นต้องคอยพกไปเปลี่ยน
-ความคล่องตัว = คล่องตัวสุดๆ รู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่ สามารถออกกำลังกายต่างๆ เต้น ว่ายน้ำ ฉีกแข้งฉีกขาได้เต็มที่ ปจด.ไม่ออกมาแน่นอน
-ไม่รั่วซึม = กักเก็บได้ดีสุดๆค่ะ ไม่มีเลอะกางเกงในเลยทุกครั้งที่ใส่
-ไร้กลิ่น = เพราะมีถ้วยอนามัยผิดกั้นไว้ เลยไม่มีกลิ่นออกมาค่ะ
-ไม่มีความเหนอะหนะ = เพราะมันอยู่ในช่องคลอดเราจึงไม่อับแล้วไม่เหนอะหนะเลย
ข้อเสีย
-ใส่ และถอดยาก = อันนี้คือความรู้สึกส่วนตัวนะคะ อาจเป็นจขกท.ไม่เคยด้วยแหละค่ะ
-เสียเวลา = ตอนใส่เนี่ยแหละค่ะที่ทำให้เสียเวลา เพราะจขกท.กลัวด้วย ไม่กล้าดัน555
-ความสะอาด = ที่บอกความสะอาดนี้คือไม่ใช่ใช้แล้วไม่สะอาดนะคะ แต่ต้องคอยดูแลล้างทุกครั้งที่นำมาใช้ใหม่ค่ะ เลยอาจทำให้เสียเวลาในการล้างให้สะอาดนิดนึง
-เยื่อพรหมจรรย์ = คืออันนี้ไม่มีหลักฐานที่แน่นอนนะคะว่าใส่แล้วมันจะขาด แต่ถ้าใครกังวลมากเราแนะนำว่าไม่ต้องใช้แบบนี้หรอกค่ะ แต่อยากให้รู้ไว้เยื่อพรหมจรรย์เนี่ยบางทีมันก็ขาดโดยที่เราไม่จำเป็นต้องสอดใส่อะไรเข้าไปหรอกนะคะ แต่ขาดเพราะการฉีกขา การออกกำลังกาย หรือปัจจัยอื่นๆอีกหลายอย่าง ตั้งแต่เรายังเด็กก็ได้
-เสี่ยงติดเชื้อ = เพราะเป็นการใส่เข้าไปในช่องคลอด หากดูแลความสะอาดไม่ดี อาจทำให้ติดเชื้อได้
มาเข้าสู่ประสบการณ์การใช้ถ้วยอนามัยครั้งแรกของจขกท.กันเลยค่า
อย่างที่บอกไปว่าจขกท.ไม่เคยใช้แบบสอดและเป็นสาวบริสุทธิ์ เอาตรงๆก็คือยังไม่เคยมีอะไรเข้าไปในช่องคลอดตั้งแต่เกิดค่ะ จขกท.ก็อ่านเว็บไปเรื่อยๆแล้วก็เจอเข้าเจ้าถ้วยอนามัยเข้าก็เลยสนใจ หาข้อมูลต่างๆมากมายทั้งในเว็บและดูตามคลิปในยูทูปค่ะ สุดท้ายก็ตัดสินใจสั่งซื้อมาผ่านช่องทางขายของทางออนไลน์ โดยเลือกถ้วยอนามัยที่เป็นซิลิโคนทางการแพทย์ได้รับการรับรองต่างๆค่ะ ในที่นี้ถ้าใครสนใจ จะเลือกซื้อแบบไหน ราคาใดแล้วแต่ความสะดวกเลยค่ะ แต่ขอให้ดูความปลอดภัยแล้วได้รับการรับรองทางการแพทย์เป็นหลักนะคะ เพราะมันจะใส่เข้าไปในร่างกายของเรา เอาที่มั่นใจว่าปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าค่ะ แล้วถ้วยอนามัยแบบไหนเหมาะกับเราก็ให้อ่านให้เลือกให้ดี ที่เจอส่วนใหญ่จะมี 2 แบบ คือ แบบสำหรับผู้หญิงที่ไม่เคยคลอดลูกหรืออายุน้อยกว่านี้ กับแบบที่เคยคลอดหรืออายุตั้งแต่เท่านี้ขึ้นไป เลือกให้เหมาะกับตัวเรานะคะ ไม่ต้องกลัวว่าซื้อมาแล้วจะใส่ไม่ได้ มันอาจจะดูใหญ่ แต่เวลาใส่เรามีการพับและม้วนมันเข้าไปค่ะ ถามว่าทำไมต้องมี 2 แบบ เพราะปริมาณปจด.แล้วก็ขนาดถ้วยที่แตกต่างกันด้วยค่ะ ของเราที่ซื้อเป็นแบบแรกจะเล็กกว่าแบบสองเนื่องจากแบบแรกสำหรับที่ยังไม่เคยคลอดลูก ช่องคลอดก็จะเล็กกว่าแบบที่สองที่เคยคลอดลูกแล้ว ที่ต้องเลือกให้เหมาะก็เพราะความกระชับตัว ป้องกันการรั่วซึมออกมาจากถ้วยค่ะ
อันนี้ถ้วยที่จขกท.ใช้
ขนาดของถ้วยค่ะ ตัวถ้วยประมาณ 2 นิ้วกว่า ก้านประมาณ 1 นิ้ว
ปากถ้วยประมาณ 4 ซม.
วันแรก – ก่อนอื่นต้องบอกก่อนหากได้มา ให้อ่านคู่มือการใช้ให้ดี เขาจะมีบอกไว้ว่าให้ต้มก่อนใช้ประมาณ 5 นาทีขึ้นไป ต้มในน้ำที่เดือดจัด(รอให้น้ำเดือดก่อนค่อยใส่ถ้วยอนามัยลงไปต้ม) เพื่อฆ่าเชื้อโรค ในส่วนครั้งแรกที่ใส่นั้น
.
.
.
ใส่ไม่เข้าค่ะ!
เนื่องจากเป็นเพราะความกลัว ความไม่เคยหรืออะไรก็แล้วแต่... จขกท.ใส่เป็น 10 ครั้ง ใส่เท่าไหร่ก็ไม่ได้(ที่ใส่นี่คือมีการม้วนถ้วยตามรูปแบบต่างๆ ยกขา นั่งยองตามวิธีที่ได้หามานะคะ) แบบมันใส่เข้าไปได้นะคะ แต่แบบมันคาปากช่องคลอดอยู่นะคะ ไม่กล้าดัน กลัวเจ็บ แล้วจขกท.ก็ดันปล่อยถ้วยก่อน(คือคิดว่าปล่อยได้แล้ว)มันก็เลยเจ็บมาก มันเข้าไปนิดเดียวและกางน่ะค่ะ นี่คือความรู้สึกวันแรกที่ลอง สุดท้ายก็เลยล้มเลิกไป ใส่แบบแผ่นไปก่อนละกันวันนี้ หลังจากลองพยายามใส่นะคะรู้สึกเจ็บเลยค่ะ ความรู้สึกแบบฉันเดินแปลกไปมันเจ็บๆที่ช่องคลอด แล้วก็พรหมจรรย์ฉันฉีกรึเปล่าเนี่ยยยยย!! เป็นแบบนี้ตลอดเวลาพอผ่านไปประมาณ 2-3 ชม. ความรู้สึกที่เจ็บจนเดินแปลกก็หายไปค่ะ(อาจคิดมากด้วยแหละว่าเจ็บมาก แต่จริงๆมันไม่ได้มากเท่าไหร่)
วิธีการพับของเรานะคะ
วันที่สอง – เราคิดกับตัวเองในใจค่ะว่าถ้าลองอีกแล้วไม่ได้ก็เอาไว้คราวหน้าเพราะเรารีบเดี๋ยวรถมารับแล้วไม่ทัน ก็เลยลองใหม่ค่ะคราวนี้ เราก็ทำเหมือนครั้งแรกที่เพิ่มมาคือเราเอาทำถ้วยให้เปียกด้วยน้ำเปล่าด้วย(เพิ่มความหล่อลื่น) แล้วเวลาใส่ก็พยายามผ่อนคลายบอกให้ตัวเองทำใจให้สบาย ตอนใส่เรายกขาขึ้นที่สูงข้างนึง เราใช้นิ้วมืออีกข้างแหวกช่องคลอด(ฮึยดูไม่สุภาพ ไม่ว่ากันนะคะ) จากนั้นเราก็ดันมันเข้าไปค่ะที่นี้กล้าดันแล้วเพราะพยายามผ่อนคลาย สูดลมหายใจเข้าเยอะๆ ก็ดันไปแล้วก็ปล่อยถ้วยปุ๊บ...มันก็ยังเจ็บอยู่ ก็กลั้นใจดันต่อไป(กลัวนะคะไม่ใช่ไม่กลัว555) สุดท้าย...มันก็เข้าไปค่ะแบบว่าพอมันเข้าไปในที่ของมันแล้วเราจะไม่รู้สึกเจ็บอีกเลยค่ะ ที่เจ็บเราคิดว่าเพราะมันน่าจะไปกางถ้วยก่อนถึงจุดที่มันควรกางนะคะ แต่ถึงเราปล่อยมันแล้วเราก็สามารถดันมันเข้าไปอีกได้นะคะ แต่อาจจะเจ็บนิดนึง มันนิดเดียวจริงๆค่ะ ไม่ต้องกังวลมาก
ความรู้สึกที่ใส่ในวันนี้ก็คือยังไม่สะดวกเท่าที่ควร
แบบมันใส่ครั้งแรกเนอะ มันเลยยังอาจไม่สุดเวลานั่งบางท่าเราเลยเจ็บบ้าง แต่ที่พีคสุดคือเราปวดท้องจ้า ปวดอึน่ะค่ะ พีคมากพีคจริงๆ ใส่ก็ใส่ครั้งแรก แล้วจะมาปวดท้องทำไมเนี่ย แต่ปวดท้องอึก็ต้องอึน่ะเนอะ ก็คิดในใจเอาวะเดี๋ยวเอามือดันๆไว้ มันไม่ออกมาหรอก ก็ไปจ้าเข้าห้องน้ำ เวลาถ่ายท้องเราก็ต้องเบ่งใช้มั้ยคะ ความพีคไม่จบไม่สิ้นค่ะ มันขยับ! ไอ้เราก็มือดันไว้ๆ เดี๋ยวถ้วยออกๆ สักพักปัสสาวะออกอีกเลยต้องเอามือหลบ กลายเป็นไม่ได้ดันถ้วยแล้ว ต้องเบ่งต่อไป(ปัสสาวะกับปจด.ออกคนละช่องกันนะคะ เผื่อไม่ทราบ) แต่เออแฮะ...ถ้วยออกมาเองไม่ได้นี่หว่า คือเราลองเบ่งแล้วแรงเท่าไหร่ถ้วยก็ไม่ออกมาจากช่องคลอดค่ะ แต่อาจมีขยับให้กังวลบ้าง555 ปล.อายนะเนี่ยไม่ใช่ไม่อาย แต่อยากบอกให้รู้กันนะคะ(เอามาเล่าเพื่อให้เข้าใจว่าไม่ต้องกังวลหากเกิดสถานการณ์แบบนี้ และอยากบอกว่าเรื่องนี้จขกท.อายมากกกกกกกกก+) หากไม่เหมาะสมยังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ
และในส่วนของการรั่วซึมออกมาจากถ้วยนั้นจขกท.ไม่ประสบปัญหาเลยค่า ประทับใจตรงนี้สุดๆ เพราะขนาดใส่แบบแผ่นยังมีเลอะกกน.ได้ แต่ถ้วยอนามัยนั้นไม่มีเลอะออกมาเลย ความคล่องตัวก็ดี๊ดี แห้งโล่งสบายไม่เหนอะหนะ บางทีถ้าไม่นึกก็ไม่รู้สึกว่าใส่อะไรไว้เลย แต่ถ้านึกก็คือเรารู้สึกได้ว่ายังใส่ไว้นะคะ ความรู้สึกคือมีอะไรคาช่องคลอดเราอยู่(บอกไม่ถูกเหมือนกัน มันอารมณ์ว่ามีก็มี จะว่าไม่มีก็ไม่มี) แล้วก็ในเรื่องการหลุดเข้าไปนั้น(เรื่องใหญ่555) รับประกันค่ะว่าไม่มีทางหลุดเข้าไปเลย เพราะเราไม่สามารถดันมันเข้าไปได้เรื่อยๆ มันจะมีจุดของมันซึ่งเราก็บอกไม่ถูกนะ แต่มันไม่หลุดเข้าไปหรอกค่ะ ถ้าผ่านช่วงแคบๆไปมันจะไปกาง คือ...มันรู้สึกได้นะคะ(อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูกเหมือนกัน แต่ตัวเราเองจะรู้สึกของเราได้ค่ะ)
พอมีใส่แล้วก็ต้องมีถอดใช่มั้ยคะ...เอาแล้วๆ เราก็กังวลอีกแล้วจะถอดได้มั้ยเนี่ย มาช่วงถอด ถ้วยอนามัยจะมีก้านยืนออกมาค่ะ(บางยี่ห้ออาจเป็นห่วง หรือรูปแบบต่างๆ) เราก็ใช้การดึงก้านซึ่งในการดึงครั้งแรกนั้น ผลปรากฏว่าไม่ออกค่ะ(อยากจะร้องไห้) ความรู้สึกคือมันคับช่องคลอด พยายามดึงแล้วดึงไม่ได้ ไม่กล้าดึงด้วยค่ะกลัวเจ็บ ก็ลองดึงแต่ก็ไม่ออก พอออกมาหน่อยไม่กล้าดึงอีก ช่องคลอดก็ดี๊ดี พอปล่อยมือหน่อยดันดูดถ้วยกลับเข้าไปเหมือนเดิม...(จ่ะ ดีงามมากเลยน้า) คราวนี้เลยลองใหม่เอาวิธีของพี่อิ๊กคิว(แนะนำวิธีการใช้ถ้วยอนามัย แล้วก็ลักษณะ ข้อดี-ข้อเสีย ไปหาดูได้ในยูทูป) โดยการบีบถ้วยอนามัยก่อนดึงออก เราก็ทำบ้างทีแรกไม่ได้จ้า เครียดดิเครียด555 คราวนี้เลยทำประมาณล้วงเข้าไปนิดนึงแล้วบีบ กลั้นใจดึงออกมา แล้วมันก็ออกมาได้ค่ะ รู้สึกเจ็บนิดๆ ไม่เชิงเจ็บเท่าไหร่ ประมาณว่ามีอะไรผ่านช่องคลอดน่ะค่ะ คงประมาณรู้สึกแปลกๆมั้ง ก็เอาออกมาทำความสะอาดล้างด้วยน้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นให้ดี ล้างทำความสะอาดในส่วนจุดซ่อนเร้นของเราด้วยนะคะ ที่นี้ก็มาถึงการใส่กลับเข้าไปอีกเราก็มีวิธีเพิ่มมาจากการดูคลิปของพี่อิ๊กคิว555 คือการขย่มตัวเวลาใส่ค่ะ(คิดตามแล้วอาจเหมือนติดเรท แต่ขอบอกวิธีนี้ทำให้ใส่ง่ายขึ้นเยอะเลย) มันจะไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่เพราะเราไม่ได้ดันเอง แบบดันไปก็ไม่รู้จะดันยังไง เลยใช้การขย่มตัวโดยให้มันค่อยๆเข้าไปเอง เราว่าวิธีนี้ดีงามมาก ช่วยได้เยอะ
ล้างด้วยน้ำยาล้างจุดซ่อนเร้น ฟอกให้สะอาด หายเหม็นคาว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นี่คือมามากสุดของเราค่ะ ก็ได้แค่ครึ่งถ้วย ใส่เป็นเวลา 12 ชม.
ภาพปจด.ในถ้วยอนามัย ใครกลัวเลือด ไม่อยากเห็น แนะนำว่าอย่าเปิด ปล.เราใช้ฟีลเตอร์เบลอสีไปบ้างแล้ว
วันที่ 3 – หลังจากเมื่อคืนได้ใส่นอนมาผลปรากฏว่าไม่มีเลอะออกมาเลยค่ะ ถ้วยอนามัยกักเก็บดีมาก และก็ดำเนินมาแบบนี้จนถึงวันสุดท้าย เพราะคงไม่มีวีรกรรมใดพีคกว่าการใส่แล้วขับถ่ายทีแรกแล้วล่ะค่ะ
[CR] แชร์ประสบการณ์การใช้ถ้วยอนามัยครั้งแรก สำหรับสาวบริสุทธิ์
โดยทั่วไปคนส่วนใหญ่ก็จะรู้จักอยู่ 2 ประเภท คือ แบบแผ่น และแบบสอด
และล่าสุดที่รู้จักกันก็คือกางเกงอนามัย(ลักษณะคล้ายๆผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูป) แต่ที่ยังใหม่และยังไม่แพร่หลายสำหรับสาวชาวไทยเลยก็คือผ้าอนามัยแบบซักได้(สาวชาวญี่ปุ่นชอบใช้กัน) และผ้าอนามัยแบบถ้วย หรือที่เรียกกันว่า “ถ้วยอนามัย” นั่นเองค่ะ!!!
ซึ่งในที่นี้จะพูดเกี่ยวกับถ้วยอนามัยที่เจ้าของกระทู้ใช้นะคะ โดยส่วนตัวทุกครั้งที่มีประจำเดือนเราใช้ผ้าอนามัยแบบแผ่นค่ะ ไม่เคยใช้แบบอื่นเลย! แต่ถ้าถามว่าทำไมข้ามขั้นมาใช้ถ้วยอนามัยก่อนใช้ผ้าอนามัยแบบสอดล่ะ? คำตอบคือจขกท.กลัวค่ะ...(ตลกกลัวแล้วมาใช้แบบถ้วย555) ก็ตอนนั้นที่ไม่ใช้แบบสอดก็เพราะกลัวว่ามันสอดเข้าไปแล้วจะเจ็บ แล้วเราก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ด้วยเพราะเราไม่ได้ต้องว่ายน้ำ หรือเน้นความคล่องตัวของร่างกายเท่าไหร่ และอีกเหตุผลก็คือแพงกว่าแบบแผ่นด้วย(ความงกคือเหตุผลหลักนั่นเอง...)
เอาล่ะๆ เข้าเรื่องๆ ถ้วยอนามัยคืออะไร?...
มันคือสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างนึงที่ออกแบบมาเพื่อรองรับปจด.ของเราค่ะ โดยวิธีใช้คือการสอดใส่เข้าไปในช่องคลอด มีลักษณะหลากหลายรูปแบบดังรูปด้านล่างค่ะ
รูปจาก PUTACUPINIT.COM
ทำไมถึงเลือกมาใช้ถ้วยอนามัยแทนผ้าอนามัยแบบแผ่นที่ใช้อยู่เหมือนเดิม เพราะจขกท.เห็นข้อดีของมันเยอะค่ะ 5555 ดูจากข้อมูลความคิดเห็นส่วนตัวของจขกท.ด้านล่างกันเลยนะคะ
ข้อดี
-ประหยัดมาก = เพราะสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เป็น 10 ปี
-ราคาถูก = ถ้าคิดถึงความคุ้มค่าที่ได้กับราคา จะรู้เลยว่ามันคุ้มค่ามากๆที่จะใช้
-เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม = เนื่องจากนำกลับมาใช้ได้ จึงช่วยลดขยะที่เกิดจากผ้าอนามัยที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งได้มากเลยทีเดียว
-ใส่ได้นาน = สามารถใส่ได้ถึง 12 ชม. โดยไม่ต้องเปลี่ยน
-กักเก็บปจด.ได้มาก = หลายๆคนอาจกังวลว่ามาเยอะแล้วจะล้นถ้วยมั้ย? ยืนยันเลยค่ะว่าไม่ล้น เราลองแล้ววันมามากสุดของเราก็แค่ครึ่งถ้วยเอง
-ความสะดวก = เนื่องจากใส่ได้นานและกักเก็บได้ปริมาณมาก จึงไม่จำเป็นต้องคอยพกไปเปลี่ยน
-ความคล่องตัว = คล่องตัวสุดๆ รู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่ สามารถออกกำลังกายต่างๆ เต้น ว่ายน้ำ ฉีกแข้งฉีกขาได้เต็มที่ ปจด.ไม่ออกมาแน่นอน
-ไม่รั่วซึม = กักเก็บได้ดีสุดๆค่ะ ไม่มีเลอะกางเกงในเลยทุกครั้งที่ใส่
-ไร้กลิ่น = เพราะมีถ้วยอนามัยผิดกั้นไว้ เลยไม่มีกลิ่นออกมาค่ะ
-ไม่มีความเหนอะหนะ = เพราะมันอยู่ในช่องคลอดเราจึงไม่อับแล้วไม่เหนอะหนะเลย
ข้อเสีย
-ใส่ และถอดยาก = อันนี้คือความรู้สึกส่วนตัวนะคะ อาจเป็นจขกท.ไม่เคยด้วยแหละค่ะ
-เสียเวลา = ตอนใส่เนี่ยแหละค่ะที่ทำให้เสียเวลา เพราะจขกท.กลัวด้วย ไม่กล้าดัน555
-ความสะอาด = ที่บอกความสะอาดนี้คือไม่ใช่ใช้แล้วไม่สะอาดนะคะ แต่ต้องคอยดูแลล้างทุกครั้งที่นำมาใช้ใหม่ค่ะ เลยอาจทำให้เสียเวลาในการล้างให้สะอาดนิดนึง
-เยื่อพรหมจรรย์ = คืออันนี้ไม่มีหลักฐานที่แน่นอนนะคะว่าใส่แล้วมันจะขาด แต่ถ้าใครกังวลมากเราแนะนำว่าไม่ต้องใช้แบบนี้หรอกค่ะ แต่อยากให้รู้ไว้เยื่อพรหมจรรย์เนี่ยบางทีมันก็ขาดโดยที่เราไม่จำเป็นต้องสอดใส่อะไรเข้าไปหรอกนะคะ แต่ขาดเพราะการฉีกขา การออกกำลังกาย หรือปัจจัยอื่นๆอีกหลายอย่าง ตั้งแต่เรายังเด็กก็ได้
-เสี่ยงติดเชื้อ = เพราะเป็นการใส่เข้าไปในช่องคลอด หากดูแลความสะอาดไม่ดี อาจทำให้ติดเชื้อได้
มาเข้าสู่ประสบการณ์การใช้ถ้วยอนามัยครั้งแรกของจขกท.กันเลยค่า
อย่างที่บอกไปว่าจขกท.ไม่เคยใช้แบบสอดและเป็นสาวบริสุทธิ์ เอาตรงๆก็คือยังไม่เคยมีอะไรเข้าไปในช่องคลอดตั้งแต่เกิดค่ะ จขกท.ก็อ่านเว็บไปเรื่อยๆแล้วก็เจอเข้าเจ้าถ้วยอนามัยเข้าก็เลยสนใจ หาข้อมูลต่างๆมากมายทั้งในเว็บและดูตามคลิปในยูทูปค่ะ สุดท้ายก็ตัดสินใจสั่งซื้อมาผ่านช่องทางขายของทางออนไลน์ โดยเลือกถ้วยอนามัยที่เป็นซิลิโคนทางการแพทย์ได้รับการรับรองต่างๆค่ะ ในที่นี้ถ้าใครสนใจ จะเลือกซื้อแบบไหน ราคาใดแล้วแต่ความสะดวกเลยค่ะ แต่ขอให้ดูความปลอดภัยแล้วได้รับการรับรองทางการแพทย์เป็นหลักนะคะ เพราะมันจะใส่เข้าไปในร่างกายของเรา เอาที่มั่นใจว่าปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าค่ะ แล้วถ้วยอนามัยแบบไหนเหมาะกับเราก็ให้อ่านให้เลือกให้ดี ที่เจอส่วนใหญ่จะมี 2 แบบ คือ แบบสำหรับผู้หญิงที่ไม่เคยคลอดลูกหรืออายุน้อยกว่านี้ กับแบบที่เคยคลอดหรืออายุตั้งแต่เท่านี้ขึ้นไป เลือกให้เหมาะกับตัวเรานะคะ ไม่ต้องกลัวว่าซื้อมาแล้วจะใส่ไม่ได้ มันอาจจะดูใหญ่ แต่เวลาใส่เรามีการพับและม้วนมันเข้าไปค่ะ ถามว่าทำไมต้องมี 2 แบบ เพราะปริมาณปจด.แล้วก็ขนาดถ้วยที่แตกต่างกันด้วยค่ะ ของเราที่ซื้อเป็นแบบแรกจะเล็กกว่าแบบสองเนื่องจากแบบแรกสำหรับที่ยังไม่เคยคลอดลูก ช่องคลอดก็จะเล็กกว่าแบบที่สองที่เคยคลอดลูกแล้ว ที่ต้องเลือกให้เหมาะก็เพราะความกระชับตัว ป้องกันการรั่วซึมออกมาจากถ้วยค่ะ
อันนี้ถ้วยที่จขกท.ใช้
ขนาดของถ้วยค่ะ ตัวถ้วยประมาณ 2 นิ้วกว่า ก้านประมาณ 1 นิ้ว
ปากถ้วยประมาณ 4 ซม.
วันแรก – ก่อนอื่นต้องบอกก่อนหากได้มา ให้อ่านคู่มือการใช้ให้ดี เขาจะมีบอกไว้ว่าให้ต้มก่อนใช้ประมาณ 5 นาทีขึ้นไป ต้มในน้ำที่เดือดจัด(รอให้น้ำเดือดก่อนค่อยใส่ถ้วยอนามัยลงไปต้ม) เพื่อฆ่าเชื้อโรค ในส่วนครั้งแรกที่ใส่นั้น
.
.
.
ใส่ไม่เข้าค่ะ! เนื่องจากเป็นเพราะความกลัว ความไม่เคยหรืออะไรก็แล้วแต่... จขกท.ใส่เป็น 10 ครั้ง ใส่เท่าไหร่ก็ไม่ได้(ที่ใส่นี่คือมีการม้วนถ้วยตามรูปแบบต่างๆ ยกขา นั่งยองตามวิธีที่ได้หามานะคะ) แบบมันใส่เข้าไปได้นะคะ แต่แบบมันคาปากช่องคลอดอยู่นะคะ ไม่กล้าดัน กลัวเจ็บ แล้วจขกท.ก็ดันปล่อยถ้วยก่อน(คือคิดว่าปล่อยได้แล้ว)มันก็เลยเจ็บมาก มันเข้าไปนิดเดียวและกางน่ะค่ะ นี่คือความรู้สึกวันแรกที่ลอง สุดท้ายก็เลยล้มเลิกไป ใส่แบบแผ่นไปก่อนละกันวันนี้ หลังจากลองพยายามใส่นะคะรู้สึกเจ็บเลยค่ะ ความรู้สึกแบบฉันเดินแปลกไปมันเจ็บๆที่ช่องคลอด แล้วก็พรหมจรรย์ฉันฉีกรึเปล่าเนี่ยยยยย!! เป็นแบบนี้ตลอดเวลาพอผ่านไปประมาณ 2-3 ชม. ความรู้สึกที่เจ็บจนเดินแปลกก็หายไปค่ะ(อาจคิดมากด้วยแหละว่าเจ็บมาก แต่จริงๆมันไม่ได้มากเท่าไหร่)
วิธีการพับของเรานะคะ
วันที่สอง – เราคิดกับตัวเองในใจค่ะว่าถ้าลองอีกแล้วไม่ได้ก็เอาไว้คราวหน้าเพราะเรารีบเดี๋ยวรถมารับแล้วไม่ทัน ก็เลยลองใหม่ค่ะคราวนี้ เราก็ทำเหมือนครั้งแรกที่เพิ่มมาคือเราเอาทำถ้วยให้เปียกด้วยน้ำเปล่าด้วย(เพิ่มความหล่อลื่น) แล้วเวลาใส่ก็พยายามผ่อนคลายบอกให้ตัวเองทำใจให้สบาย ตอนใส่เรายกขาขึ้นที่สูงข้างนึง เราใช้นิ้วมืออีกข้างแหวกช่องคลอด(ฮึยดูไม่สุภาพ ไม่ว่ากันนะคะ) จากนั้นเราก็ดันมันเข้าไปค่ะที่นี้กล้าดันแล้วเพราะพยายามผ่อนคลาย สูดลมหายใจเข้าเยอะๆ ก็ดันไปแล้วก็ปล่อยถ้วยปุ๊บ...มันก็ยังเจ็บอยู่ ก็กลั้นใจดันต่อไป(กลัวนะคะไม่ใช่ไม่กลัว555) สุดท้าย...มันก็เข้าไปค่ะแบบว่าพอมันเข้าไปในที่ของมันแล้วเราจะไม่รู้สึกเจ็บอีกเลยค่ะ ที่เจ็บเราคิดว่าเพราะมันน่าจะไปกางถ้วยก่อนถึงจุดที่มันควรกางนะคะ แต่ถึงเราปล่อยมันแล้วเราก็สามารถดันมันเข้าไปอีกได้นะคะ แต่อาจจะเจ็บนิดนึง มันนิดเดียวจริงๆค่ะ ไม่ต้องกังวลมาก
ความรู้สึกที่ใส่ในวันนี้ก็คือยังไม่สะดวกเท่าที่ควร แบบมันใส่ครั้งแรกเนอะ มันเลยยังอาจไม่สุดเวลานั่งบางท่าเราเลยเจ็บบ้าง แต่ที่พีคสุดคือเราปวดท้องจ้า ปวดอึน่ะค่ะ พีคมากพีคจริงๆ ใส่ก็ใส่ครั้งแรก แล้วจะมาปวดท้องทำไมเนี่ย แต่ปวดท้องอึก็ต้องอึน่ะเนอะ ก็คิดในใจเอาวะเดี๋ยวเอามือดันๆไว้ มันไม่ออกมาหรอก ก็ไปจ้าเข้าห้องน้ำ เวลาถ่ายท้องเราก็ต้องเบ่งใช้มั้ยคะ ความพีคไม่จบไม่สิ้นค่ะ มันขยับ! ไอ้เราก็มือดันไว้ๆ เดี๋ยวถ้วยออกๆ สักพักปัสสาวะออกอีกเลยต้องเอามือหลบ กลายเป็นไม่ได้ดันถ้วยแล้ว ต้องเบ่งต่อไป(ปัสสาวะกับปจด.ออกคนละช่องกันนะคะ เผื่อไม่ทราบ) แต่เออแฮะ...ถ้วยออกมาเองไม่ได้นี่หว่า คือเราลองเบ่งแล้วแรงเท่าไหร่ถ้วยก็ไม่ออกมาจากช่องคลอดค่ะ แต่อาจมีขยับให้กังวลบ้าง555 ปล.อายนะเนี่ยไม่ใช่ไม่อาย แต่อยากบอกให้รู้กันนะคะ(เอามาเล่าเพื่อให้เข้าใจว่าไม่ต้องกังวลหากเกิดสถานการณ์แบบนี้ และอยากบอกว่าเรื่องนี้จขกท.อายมากกกกกกกกก+) หากไม่เหมาะสมยังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ
และในส่วนของการรั่วซึมออกมาจากถ้วยนั้นจขกท.ไม่ประสบปัญหาเลยค่า ประทับใจตรงนี้สุดๆ เพราะขนาดใส่แบบแผ่นยังมีเลอะกกน.ได้ แต่ถ้วยอนามัยนั้นไม่มีเลอะออกมาเลย ความคล่องตัวก็ดี๊ดี แห้งโล่งสบายไม่เหนอะหนะ บางทีถ้าไม่นึกก็ไม่รู้สึกว่าใส่อะไรไว้เลย แต่ถ้านึกก็คือเรารู้สึกได้ว่ายังใส่ไว้นะคะ ความรู้สึกคือมีอะไรคาช่องคลอดเราอยู่(บอกไม่ถูกเหมือนกัน มันอารมณ์ว่ามีก็มี จะว่าไม่มีก็ไม่มี) แล้วก็ในเรื่องการหลุดเข้าไปนั้น(เรื่องใหญ่555) รับประกันค่ะว่าไม่มีทางหลุดเข้าไปเลย เพราะเราไม่สามารถดันมันเข้าไปได้เรื่อยๆ มันจะมีจุดของมันซึ่งเราก็บอกไม่ถูกนะ แต่มันไม่หลุดเข้าไปหรอกค่ะ ถ้าผ่านช่วงแคบๆไปมันจะไปกาง คือ...มันรู้สึกได้นะคะ(อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูกเหมือนกัน แต่ตัวเราเองจะรู้สึกของเราได้ค่ะ)
พอมีใส่แล้วก็ต้องมีถอดใช่มั้ยคะ...เอาแล้วๆ เราก็กังวลอีกแล้วจะถอดได้มั้ยเนี่ย มาช่วงถอด ถ้วยอนามัยจะมีก้านยืนออกมาค่ะ(บางยี่ห้ออาจเป็นห่วง หรือรูปแบบต่างๆ) เราก็ใช้การดึงก้านซึ่งในการดึงครั้งแรกนั้น ผลปรากฏว่าไม่ออกค่ะ(อยากจะร้องไห้) ความรู้สึกคือมันคับช่องคลอด พยายามดึงแล้วดึงไม่ได้ ไม่กล้าดึงด้วยค่ะกลัวเจ็บ ก็ลองดึงแต่ก็ไม่ออก พอออกมาหน่อยไม่กล้าดึงอีก ช่องคลอดก็ดี๊ดี พอปล่อยมือหน่อยดันดูดถ้วยกลับเข้าไปเหมือนเดิม...(จ่ะ ดีงามมากเลยน้า) คราวนี้เลยลองใหม่เอาวิธีของพี่อิ๊กคิว(แนะนำวิธีการใช้ถ้วยอนามัย แล้วก็ลักษณะ ข้อดี-ข้อเสีย ไปหาดูได้ในยูทูป) โดยการบีบถ้วยอนามัยก่อนดึงออก เราก็ทำบ้างทีแรกไม่ได้จ้า เครียดดิเครียด555 คราวนี้เลยทำประมาณล้วงเข้าไปนิดนึงแล้วบีบ กลั้นใจดึงออกมา แล้วมันก็ออกมาได้ค่ะ รู้สึกเจ็บนิดๆ ไม่เชิงเจ็บเท่าไหร่ ประมาณว่ามีอะไรผ่านช่องคลอดน่ะค่ะ คงประมาณรู้สึกแปลกๆมั้ง ก็เอาออกมาทำความสะอาดล้างด้วยน้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นให้ดี ล้างทำความสะอาดในส่วนจุดซ่อนเร้นของเราด้วยนะคะ ที่นี้ก็มาถึงการใส่กลับเข้าไปอีกเราก็มีวิธีเพิ่มมาจากการดูคลิปของพี่อิ๊กคิว555 คือการขย่มตัวเวลาใส่ค่ะ(คิดตามแล้วอาจเหมือนติดเรท แต่ขอบอกวิธีนี้ทำให้ใส่ง่ายขึ้นเยอะเลย) มันจะไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่เพราะเราไม่ได้ดันเอง แบบดันไปก็ไม่รู้จะดันยังไง เลยใช้การขย่มตัวโดยให้มันค่อยๆเข้าไปเอง เราว่าวิธีนี้ดีงามมาก ช่วยได้เยอะ
ล้างด้วยน้ำยาล้างจุดซ่อนเร้น ฟอกให้สะอาด หายเหม็นคาว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ภาพปจด.ในถ้วยอนามัย ใครกลัวเลือด ไม่อยากเห็น แนะนำว่าอย่าเปิด ปล.เราใช้ฟีลเตอร์เบลอสีไปบ้างแล้ว
วันที่ 3 – หลังจากเมื่อคืนได้ใส่นอนมาผลปรากฏว่าไม่มีเลอะออกมาเลยค่ะ ถ้วยอนามัยกักเก็บดีมาก และก็ดำเนินมาแบบนี้จนถึงวันสุดท้าย เพราะคงไม่มีวีรกรรมใดพีคกว่าการใส่แล้วขับถ่ายทีแรกแล้วล่ะค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้