**********รีวิวเก่ามาลงใหม่ เพราะหายไปแล้ว***********
เมื่อโปร 0 บาท ของแอร์เอเชียมา น้องหมีก็ไม่รีรอ เข้าเว็ปหาวันที่ถูกที่สุดละจองเลยค่ะ ไม่ได้คิดว่าจะไปเมื่อไรตอนไหนยังไง “มือมันลั่น” เห็นราคาดี จองเลย ค่อยจัดทริปทีหลัง และแล้วเราก็ได้ตั๋วเดินทางเชียงใหม่ วันที่ 15-17 พ.ย. 2559 (จองข้ามปี แทบลืมว่าเคยจองไว้)
งั้นมาเริ่มเลยแล้วกัน………. น้องหมีรีวิว แต่พี่หมีขอแจมด้วยสีน้ำเงินครับ ^____^
DAY 1
เช้าวันที่ 15 พ.ย. 2559 เราสามคน (พี่หมี, น้องหมี, และพี่สาวน้องหมี) ออกเดินทางจากสนามินดอนเมือง Flight ด้วย FD 3437 เวลา 6:30 น. ระหว่างรอเครื่อง เราก้แวะไปหาของฟรีที่ BurgerKing ได้กาแฟร้อนมา 1 แก้ว ^^ ตาสว่างเบย (ที่สนามบินมีโปรโมชั่นค่ายโทรศัพท์ รับเครื่องดืมฟรี หลายร้าน เช่น Black canyon , Burger King และ Daily queen เป็นต้น ประหยัดค่าน้ำและเอาไปกินบนเครื่องได้ )
7:30 น. เราก็เดือนเดินทางมาถึงสนามบินเชียงใหม่ ก็มุ่งหน้าไปหา ป้ายรถเมย์เมล์แต่บ่มีจร้า 555 เราก้เดินงงๆ กันยุซักพัก ก็ผู้ใจกล้าเดินไปถามเจ้าหน้าที่ พี่เค้าก็ชี้ไปตรงโน้น ประตู 4 ไม่รีรอ เดินด้วยความรวดเร็ว (แต่มันไม่ไกลกันเท่าไรนะ) พอมาถึงก้งงตับแตกอีกจร้า ไม่มีป้ายรถเมย์ แล้วจะขึ้นรถเมย์ตรงไหน (อยากจะบอกว่านิเมืองไทยนะ ทำไมเรามายืนงง อย่างกะยุต่างประเทศ 555 ) เราก็ยืนงงยุแพพ ก้มีรถสองแถวสีแดงผ่านมา โบกถามเลยค่ะ พี่ไปกาดหลวงไหมค่ะ “ไปครับ” กระโดดขึ้นรถซิค่ะ รอไร……….. (ทริป : พี่หมีมา 3 คน คิดราคาขึ้นเองว่าคนละสัก 20 บาท พี่หมียืนเงินให้ 100 บาท ยืนรอเงินทอนด้วย พี่คนขับบอกพี่ไม่มีเหรียญ 10 เลย สรุปคิดคนละ 30 บาท พี่หมีใจดีไม่เอาตังทอน สรุป 3 คน ค่า 100 บาทจ้าา พี่ศักดิ์เจ้าของวินรถตู้ บอกว่าถูกมว๊ากกก ปกติค่ารถสองแถวจากสนามบินเข้าเมืองจะประมาณ 40-50 บาท/คน สูตรนี้ได้ผล ให้เงินแล้วนิ่งๆ รอเงินทอน หุหุ แท็กซี่เหมาเข้าเมืองประมาณคันละ 150 บาท ถ้าเรียกใช้บริการ แอปพลิเคชั่นจะถูกกว่า)
มาถึงกาดหลวง (ตลาดเสาวรส ตลาดวโรรส) เราก็เดินหาไรกินก่อน เพราะนัดพี่รถตู้มารับตอน 11:40 น. เวลาเหลือเยอะ เดินๆๆๆ เดินไปสักพักก็เจอร้านขายหมูทอด, ใส่อั๋ว, แคบหมู, น้ำพริกหนุ่ม …….ร้าน ดำรงค์ ส่งทั่วราชอาณาจักรนะค่ะ (เบอร์ตามป้าย) แนะนำอร่อยม๊วกกกกก (ก่อนหาอะไรทานเราสำรวจจุดขึ้นรถตู้เเล้วเพื่อความปลอดภัย ^ ^)
ได้หมูทอดจากร้านดำรงค์ มาแล้ว เราก็เดินไปเดินมา จบที่ร้านโจ๊ก-ปาท่องโก้-ข้าวซอยไก่ค่ะ กะจะกินข้าวซอยไก่ซะหน่อย หมดค่ะ….ป้าเจ้าของร้านบอกอยากกินต้องมาตี 3 โอ๋แม่เจ้า นุ๋ยังไม่ตื่นอะ
อิ่มท้อง…..ก็เดินไปรอรถตู้ จุดรอรถตู้ อยู่หลังตลาดเสาวรส ข้างริมแม่น้ำ ตรงสะพานลอยอันแรกเลยนะค่ะ คัยเห็นป้ายนี้ แปลว่า มาถูกที่แล้ว ( ใกล้สะพานลอย และด้านหลังซุ่มขายตั๋วติดกับแม่น้ำ)
แต่นิมันแค่ 9:30 เองอะ ทำไรกันต่อดี น้องหมีก็มีความคิด เราไปน้ำพุร้อนก่อนดีไหม แล้วให้พี่เค้าไปรับที่น้ำพุร้อน จะได้เที่ยวด้วย ไม่รีรอ พี่หมีก็โทรหาพี่รถตู้ คุยอยู่แพพนึง DEAL!!!! ค่ะ ไม่เสียเวลา นั่งรถตู้ เที่ยว 9:40 น.ไปน้ำพุร้อนกันก่อน แล้วที่รถตู้จะมารับเวลา 12:40 น.
( ตามตารางด้านล่าง รถตู้ไป แม่คำปองมีแค่ 2 เวลา ถ้าต้องการใช้บริการรถตู้เเนะนำให้โทรหาพี่จิระศักดิ์ (พี่ศักดิ์) มารู้ที่หลังว่าเป็นเจ้าของวินรถตู้ และเป็นคนขับไปส่งด้วยตัวเอง
ก่อนเดินทางสามารถโทรปรึกษาแกได้ทั้งการเดินทางและการท่องเที่ยว ทัศนคติการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และไม่เอาเปรียบลูกค้าดีเยี่ยม การที่เราได้นั้งรถตู้ราคา ยุติธรรมไปเที่ยวแม่กำปองเป็นเพราะพี่ศักดิ์ยืนยันว่าลูกค้าต้องได้รับการบริการในราคาที่เหมาะสม นักท่องเที่ยวจะได้แนะนำคนและกลับมาเที่ยวอีก ผมเห็นด้วยเเละแนะนำให้ทุกคนไปเที่ยวด้วยรถตู้ของพี่ศักดิ์ครับ โทรจองที่นั้งก่อนเพราะรถอาจจะเต็มได้ )
ถึงแล้ว
แช่น้ำร้อน กินไข่ออนเซน เราใช้เวลายุที่น้ำพุร้อย ประมานเกือบ 2 ชั่วโมง ก็ได้เวลาพี่รถตู้มารับแล้ว
(นั้งเอาเท้าแช่ลงไปในน้ำร้อนสบายมาก ยิ่งใกล้บ่อน้ำพุน้ำยิ่งร้อน แนะนำให้ลองจุ๋มดูที่ละนิด ถ้าตรงที่คุณจะนั้งจุ่มขาไม่มีคนนั้งเลย และ มีสายตาประหลาดจากคนแถวนั้นส่งมาหาคุณ นั้นเป็นสัญญาณบอกใบ้ว่า น้ำตรงนั้นร้อนมากกกก)
พี่ศักดิ์ เจ้าของวินรถตู้สาย เชียงใหม่-น้ำพุร้อนสันกำแพง และ เชียงใหม่-ลำพูน (สายเดียวที่ไปแม่กำปองนะค่ะ สำหรับคนไม่อยากเช่ารถไปนะ อย่างเรา)
(พี่ศักดิ์ใจดีมาก ค่ารถแค่คนละ 100 บาท ขั่นต่ำ 4 คนต่อเที่ยว ถ้าคนน้อยกว่านั้นพี่ศักดิ์คิด 400 ต่อเที่ยว หารจำนวนคน ถือว่าถูกมากท่าเทียบกับ เหมารถทั่วไป เบอร์ติดต่อพี่ศักดิ์ 083-325-4965 เที่ยวนึงไม่เกิน 10 คนนะ จองล่วงหน้าล่ะ)
ถึงแย้ว…….แม่กำปอง ของเรา ^^
(บรรยากาศสองข้างทาง ณ แม่กำปอง)
รถตู้จะมาส่งเราลงหน้า Flight of the Gibbon พวกเราก้เดินๆๆๆไปยังที่พักของเรา บ้านอิงดอย คนแถวนั้นบอกไม่ไกลแค่ 500 เมตร แม้ว (ช๊อตแพพ) ทำเอาเราเหนื่อยเหมือนกันนะ แต่อากาศดีมากบอกเลย
(Flight of gibbon เป็นกิจกรรมการโหนสลิงไปตามต้นไม้ จากฐานนึงไปอีกฐานนึง ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 2.30 ชม รับ เฉพาะเงินสดและจองล่วงหน้า 1 วัน ใครสนใจวางแผนกันเอาเองล่วงหน้านะงับ พี่หมีกับน้องหมีมีเงินไม่พอ เลย บ่ ได้ลองเล่นเบย T T )
บ้านอิงดอย เป็นบ้านพักเล็กๆๆ สไตล์โฮมสเตย์ มีเพียง 6 ห้อง แถมด้วยร้านกาแฟ น่ารักๆๆ ชื่อ Y Life (ไว้ลาย) กาแฟที่ร้านเจ้าของปลูกเอง คั่วเอง หอมอร่อย เมนูแนะนำ ชาเขียวลาเต้ร้อน หอมมากๆๆ
( จากที่พี่หมีคุยกับพี่เชิดเจ้าของบ้านอิงดอย แกบอดว่า แกซื้อเครื่องคั่วของอิตาลี เครื่องเล็กๆมาคั่วกาแฟเอง เรียนรู้ด้วยตัวเอง จนได้กาแฟในแบบของแกเอง ส่วนพี่วุฒิเป็นมือชงกาแฟที่อร่อยมาก ลาเต้อาร์ตรูปหงษ์แกก็เรียนด้วยตัวเอง น่าทึ่งสุดๆกับวิถีการใช้ชีวิตดีๆแบบนี้ น้องหมีบอกว่า กาแฟร้านนี้อร่อยสุดและสำหรับทริปนี้ )
ห้องพักของเรา (ราคาของบ้านอิงดอยไม่แพงเลย ตกคนละ 600 บาท แต่ถ้าสนใจอาหารเย็นก็เพิ่มอีกแค่ 150 บาทต่อคน เป็น 750 บาทเท่านั้นเอง)—-> ห้องพักมีแค่ 6 ห้อง โทรจองกับพี่วุฒิ เบอร์นี้ 0861826660 ครับ
เราใช้เวลาพักผ่อนสักแพพ แล้วก็เดินทาร้าน ชมนกชมไม้ (จุดcheck-point ของที่นี้ ห้ามพลาด) บอกเลยระหว่างทาง เนิน…..ชันกว่า 2 เนินที่เดินมาที่พักซะอีก
Take a time Spend some time กับร้านนี้สักแพพ เพื่อดื่มดำกับบรรยากาศที่สะอาด ปราศจากมลภาวะ เมนูที่เราสั่งก็จะมีชาเขียวร้อน กะเค้กอีกสักหน่อย Blueberry Cheesecake, Brownie, และ Scone ใช้เวลากับพวกมันสักแพพก้หายไปลงไปยุในท้องเป็นที่เรียบร้อย 😛 ( ร้านนี้ไม่ไกลจาก บ้าน อิงดอยสามารถเดิน แต่ขึ้นเนินชันๆนิดหน่อย ถ้านำรถเกียร์ธรรมดามาอาจจะขึ้นยากหน่อย แต่เกียร์ออโต้ไปได้ )
ใกล้เวลา 6 โมง อาหารเย็นของเราจะมาเสริฟแล้ว กลับบ้านไปกินกันดีกว่า (ปล.เราจองมาแบบมีอาหารเย็นนะจ๊ะ ประหยัดแถมได้ลองอาหารแบบบ้านๆ สไตล์คนเหนือ)
เมนูอาหารเย็นวันนี้ ขอเสนอ
ลาบหมู แบบเหนือๆๆ (อันนี้พี่หมีชอบ ขอให้เค้าเก็บไว้ให้กินตอนเช้าอีกมื้อ)
ผัดยอดฝักแม๊วใส่เห็ด
แกงจืดผัดกาดขาวใส่ไส้กรอกกับหมู
เมนูสุดท้าย ราชินีของมือนี้….ไข่ปาม (ไข่เจียวหน้าตาบ้านๆๆจานนี้ ความพิเศษของมันยุที่การนำไปทอด เพราะเค้าทอดบนใบตอง ทำให้มีกลิ่นหอมของใบตองมากๆๆ) —> ไข่ปามคลีนมาก พี่หมีอยากได้น้ำปลากับชูรสซักนิสส
ปล.อาหารเย็นไม่ได้ fix ตายตัว พี่เค้าจะดูว่าในตู้เย็นมีอะไรทำให้เราทานได้มังแล้วก้จะออกมาเปงเมนูง่ายๆ แต่อร่อยแบบคนแม่กำปอง ^^
( น้องหมีกับพี่สาวน้องหมี เหนื่อยและก็ง่วงแย่ว พี่หมีเลยอดนั่งกินเบียร์เบยยย จากที่เห็นที่แม่กำปองมีร้านเล็กๆน่านั้งหลายร้านแต่อาจจะปิดกันเร็วหน่อยนะ ครั้งหน้าไม่พลาด อิอิ)
DAY 2
เราตื่นกันตี 4:30 น. เพื่อเตรียมตัวออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้น บน “ดอยกิ่วฝิ่น” รถมารับเวลา 5:30 น. แต่ที่พิเศษ คือ ผู้ใหญ่บ้านมารับเราไปดูพระอาทิตย์เองเลย ^^
(พ่อหลวงประทีป เค้าใช้เวลาว่างมาให้บริการคนที่อยากจะขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบนดอย หายคัยสนใจ เรามีเบอร์มาให้ด้วยนะ)
(เบอร์ผู้ใหญบ้าน ประทีบ 095-468-7187 พาขึ้นกิ๋วฝื่น 500 บาท ถ้าเกิน 5 คน คิดคนละ 100 บาท ครับ พี่หมีเเนะนำว่าให้คนในหมู่บ้านพาขึ้นเนื่องจาก ถนนมืดมาก ชันมาก ค่อนข้างอันตราย แต่ถ้าต้องการขับขึ้นไปเองแนะนำเกียร์ออโต้ครับ )
สัก 6:30 น. พอพระอาทิตย์ขึ้นแสงแรกของวัน มาแย้ว เราก้อพยพ ย้ายก้นกันลงมา เพราะทนเสียงร้องของท้องที่มันเรียกร้องหาอาหารไม่ไหว ^^ พอมาถึงที่พัก เราก้อาบน้ำ แต่ตัวเตรียมทานอาหารเช้า และออกเดินทางไปจุดหมายต่อไป นั่นคือ The Giant ร้านต้นไม้ยักษ์
(เนื่องจากรถตู้กลับ เชียงใหม่ก็มี 2 เที่ยว น้องหมีจึงคิดว่าเราสามารถนั้งรถตู้พี่ศักดิ์เที่ยวแรก 9.20 ลงไปที่ โครงการหลวงตีนตก และหลังจากไป The Giant ก็กลับรถตู้พี่ศักดิ์รอบ 13.20 ได้ จึงนัดแนะกับพี่ศักดิ์ )
อาหารเช้า “ข้าวต้มปลา” หอมอร่อย
[CR] แม่กำปอง ไปเองไม่ต้องมีรถ ธรรมชาติร่มเย็น ผู้คนน่ารัก - Bearspacker
**********รีวิวเก่ามาลงใหม่ เพราะหายไปแล้ว***********
เมื่อโปร 0 บาท ของแอร์เอเชียมา น้องหมีก็ไม่รีรอ เข้าเว็ปหาวันที่ถูกที่สุดละจองเลยค่ะ ไม่ได้คิดว่าจะไปเมื่อไรตอนไหนยังไง “มือมันลั่น” เห็นราคาดี จองเลย ค่อยจัดทริปทีหลัง และแล้วเราก็ได้ตั๋วเดินทางเชียงใหม่ วันที่ 15-17 พ.ย. 2559 (จองข้ามปี แทบลืมว่าเคยจองไว้)
งั้นมาเริ่มเลยแล้วกัน………. น้องหมีรีวิว แต่พี่หมีขอแจมด้วยสีน้ำเงินครับ ^____^
DAY 1
เช้าวันที่ 15 พ.ย. 2559 เราสามคน (พี่หมี, น้องหมี, และพี่สาวน้องหมี) ออกเดินทางจากสนามินดอนเมือง Flight ด้วย FD 3437 เวลา 6:30 น. ระหว่างรอเครื่อง เราก้แวะไปหาของฟรีที่ BurgerKing ได้กาแฟร้อนมา 1 แก้ว ^^ ตาสว่างเบย (ที่สนามบินมีโปรโมชั่นค่ายโทรศัพท์ รับเครื่องดืมฟรี หลายร้าน เช่น Black canyon , Burger King และ Daily queen เป็นต้น ประหยัดค่าน้ำและเอาไปกินบนเครื่องได้ )
7:30 น. เราก็เดือนเดินทางมาถึงสนามบินเชียงใหม่ ก็มุ่งหน้าไปหา ป้ายรถเมย์เมล์แต่บ่มีจร้า 555 เราก้เดินงงๆ กันยุซักพัก ก็ผู้ใจกล้าเดินไปถามเจ้าหน้าที่ พี่เค้าก็ชี้ไปตรงโน้น ประตู 4 ไม่รีรอ เดินด้วยความรวดเร็ว (แต่มันไม่ไกลกันเท่าไรนะ) พอมาถึงก้งงตับแตกอีกจร้า ไม่มีป้ายรถเมย์ แล้วจะขึ้นรถเมย์ตรงไหน (อยากจะบอกว่านิเมืองไทยนะ ทำไมเรามายืนงง อย่างกะยุต่างประเทศ 555 ) เราก็ยืนงงยุแพพ ก้มีรถสองแถวสีแดงผ่านมา โบกถามเลยค่ะ พี่ไปกาดหลวงไหมค่ะ “ไปครับ” กระโดดขึ้นรถซิค่ะ รอไร……….. (ทริป : พี่หมีมา 3 คน คิดราคาขึ้นเองว่าคนละสัก 20 บาท พี่หมียืนเงินให้ 100 บาท ยืนรอเงินทอนด้วย พี่คนขับบอกพี่ไม่มีเหรียญ 10 เลย สรุปคิดคนละ 30 บาท พี่หมีใจดีไม่เอาตังทอน สรุป 3 คน ค่า 100 บาทจ้าา พี่ศักดิ์เจ้าของวินรถตู้ บอกว่าถูกมว๊ากกก ปกติค่ารถสองแถวจากสนามบินเข้าเมืองจะประมาณ 40-50 บาท/คน สูตรนี้ได้ผล ให้เงินแล้วนิ่งๆ รอเงินทอน หุหุ แท็กซี่เหมาเข้าเมืองประมาณคันละ 150 บาท ถ้าเรียกใช้บริการ แอปพลิเคชั่นจะถูกกว่า)
มาถึงกาดหลวง (ตลาดเสาวรส ตลาดวโรรส) เราก็เดินหาไรกินก่อน เพราะนัดพี่รถตู้มารับตอน 11:40 น. เวลาเหลือเยอะ เดินๆๆๆ เดินไปสักพักก็เจอร้านขายหมูทอด, ใส่อั๋ว, แคบหมู, น้ำพริกหนุ่ม …….ร้าน ดำรงค์ ส่งทั่วราชอาณาจักรนะค่ะ (เบอร์ตามป้าย) แนะนำอร่อยม๊วกกกกก (ก่อนหาอะไรทานเราสำรวจจุดขึ้นรถตู้เเล้วเพื่อความปลอดภัย ^ ^)
ได้หมูทอดจากร้านดำรงค์ มาแล้ว เราก็เดินไปเดินมา จบที่ร้านโจ๊ก-ปาท่องโก้-ข้าวซอยไก่ค่ะ กะจะกินข้าวซอยไก่ซะหน่อย หมดค่ะ….ป้าเจ้าของร้านบอกอยากกินต้องมาตี 3 โอ๋แม่เจ้า นุ๋ยังไม่ตื่นอะ
อิ่มท้อง…..ก็เดินไปรอรถตู้ จุดรอรถตู้ อยู่หลังตลาดเสาวรส ข้างริมแม่น้ำ ตรงสะพานลอยอันแรกเลยนะค่ะ คัยเห็นป้ายนี้ แปลว่า มาถูกที่แล้ว ( ใกล้สะพานลอย และด้านหลังซุ่มขายตั๋วติดกับแม่น้ำ)
แต่นิมันแค่ 9:30 เองอะ ทำไรกันต่อดี น้องหมีก็มีความคิด เราไปน้ำพุร้อนก่อนดีไหม แล้วให้พี่เค้าไปรับที่น้ำพุร้อน จะได้เที่ยวด้วย ไม่รีรอ พี่หมีก็โทรหาพี่รถตู้ คุยอยู่แพพนึง DEAL!!!! ค่ะ ไม่เสียเวลา นั่งรถตู้ เที่ยว 9:40 น.ไปน้ำพุร้อนกันก่อน แล้วที่รถตู้จะมารับเวลา 12:40 น.
( ตามตารางด้านล่าง รถตู้ไป แม่คำปองมีแค่ 2 เวลา ถ้าต้องการใช้บริการรถตู้เเนะนำให้โทรหาพี่จิระศักดิ์ (พี่ศักดิ์) มารู้ที่หลังว่าเป็นเจ้าของวินรถตู้ และเป็นคนขับไปส่งด้วยตัวเอง
ก่อนเดินทางสามารถโทรปรึกษาแกได้ทั้งการเดินทางและการท่องเที่ยว ทัศนคติการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และไม่เอาเปรียบลูกค้าดีเยี่ยม การที่เราได้นั้งรถตู้ราคา ยุติธรรมไปเที่ยวแม่กำปองเป็นเพราะพี่ศักดิ์ยืนยันว่าลูกค้าต้องได้รับการบริการในราคาที่เหมาะสม นักท่องเที่ยวจะได้แนะนำคนและกลับมาเที่ยวอีก ผมเห็นด้วยเเละแนะนำให้ทุกคนไปเที่ยวด้วยรถตู้ของพี่ศักดิ์ครับ โทรจองที่นั้งก่อนเพราะรถอาจจะเต็มได้ )
ถึงแล้ว
แช่น้ำร้อน กินไข่ออนเซน เราใช้เวลายุที่น้ำพุร้อย ประมานเกือบ 2 ชั่วโมง ก็ได้เวลาพี่รถตู้มารับแล้ว
(นั้งเอาเท้าแช่ลงไปในน้ำร้อนสบายมาก ยิ่งใกล้บ่อน้ำพุน้ำยิ่งร้อน แนะนำให้ลองจุ๋มดูที่ละนิด ถ้าตรงที่คุณจะนั้งจุ่มขาไม่มีคนนั้งเลย และ มีสายตาประหลาดจากคนแถวนั้นส่งมาหาคุณ นั้นเป็นสัญญาณบอกใบ้ว่า น้ำตรงนั้นร้อนมากกกก)
พี่ศักดิ์ เจ้าของวินรถตู้สาย เชียงใหม่-น้ำพุร้อนสันกำแพง และ เชียงใหม่-ลำพูน (สายเดียวที่ไปแม่กำปองนะค่ะ สำหรับคนไม่อยากเช่ารถไปนะ อย่างเรา)
(พี่ศักดิ์ใจดีมาก ค่ารถแค่คนละ 100 บาท ขั่นต่ำ 4 คนต่อเที่ยว ถ้าคนน้อยกว่านั้นพี่ศักดิ์คิด 400 ต่อเที่ยว หารจำนวนคน ถือว่าถูกมากท่าเทียบกับ เหมารถทั่วไป เบอร์ติดต่อพี่ศักดิ์ 083-325-4965 เที่ยวนึงไม่เกิน 10 คนนะ จองล่วงหน้าล่ะ)
ถึงแย้ว…….แม่กำปอง ของเรา ^^
(บรรยากาศสองข้างทาง ณ แม่กำปอง)
รถตู้จะมาส่งเราลงหน้า Flight of the Gibbon พวกเราก้เดินๆๆๆไปยังที่พักของเรา บ้านอิงดอย คนแถวนั้นบอกไม่ไกลแค่ 500 เมตร แม้ว (ช๊อตแพพ) ทำเอาเราเหนื่อยเหมือนกันนะ แต่อากาศดีมากบอกเลย
(Flight of gibbon เป็นกิจกรรมการโหนสลิงไปตามต้นไม้ จากฐานนึงไปอีกฐานนึง ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 2.30 ชม รับ เฉพาะเงินสดและจองล่วงหน้า 1 วัน ใครสนใจวางแผนกันเอาเองล่วงหน้านะงับ พี่หมีกับน้องหมีมีเงินไม่พอ เลย บ่ ได้ลองเล่นเบย T T )
บ้านอิงดอย เป็นบ้านพักเล็กๆๆ สไตล์โฮมสเตย์ มีเพียง 6 ห้อง แถมด้วยร้านกาแฟ น่ารักๆๆ ชื่อ Y Life (ไว้ลาย) กาแฟที่ร้านเจ้าของปลูกเอง คั่วเอง หอมอร่อย เมนูแนะนำ ชาเขียวลาเต้ร้อน หอมมากๆๆ
( จากที่พี่หมีคุยกับพี่เชิดเจ้าของบ้านอิงดอย แกบอดว่า แกซื้อเครื่องคั่วของอิตาลี เครื่องเล็กๆมาคั่วกาแฟเอง เรียนรู้ด้วยตัวเอง จนได้กาแฟในแบบของแกเอง ส่วนพี่วุฒิเป็นมือชงกาแฟที่อร่อยมาก ลาเต้อาร์ตรูปหงษ์แกก็เรียนด้วยตัวเอง น่าทึ่งสุดๆกับวิถีการใช้ชีวิตดีๆแบบนี้ น้องหมีบอกว่า กาแฟร้านนี้อร่อยสุดและสำหรับทริปนี้ )
ห้องพักของเรา (ราคาของบ้านอิงดอยไม่แพงเลย ตกคนละ 600 บาท แต่ถ้าสนใจอาหารเย็นก็เพิ่มอีกแค่ 150 บาทต่อคน เป็น 750 บาทเท่านั้นเอง)—-> ห้องพักมีแค่ 6 ห้อง โทรจองกับพี่วุฒิ เบอร์นี้ 0861826660 ครับ
เราใช้เวลาพักผ่อนสักแพพ แล้วก็เดินทาร้าน ชมนกชมไม้ (จุดcheck-point ของที่นี้ ห้ามพลาด) บอกเลยระหว่างทาง เนิน…..ชันกว่า 2 เนินที่เดินมาที่พักซะอีก
Take a time Spend some time กับร้านนี้สักแพพ เพื่อดื่มดำกับบรรยากาศที่สะอาด ปราศจากมลภาวะ เมนูที่เราสั่งก็จะมีชาเขียวร้อน กะเค้กอีกสักหน่อย Blueberry Cheesecake, Brownie, และ Scone ใช้เวลากับพวกมันสักแพพก้หายไปลงไปยุในท้องเป็นที่เรียบร้อย 😛 ( ร้านนี้ไม่ไกลจาก บ้าน อิงดอยสามารถเดิน แต่ขึ้นเนินชันๆนิดหน่อย ถ้านำรถเกียร์ธรรมดามาอาจจะขึ้นยากหน่อย แต่เกียร์ออโต้ไปได้ )
ใกล้เวลา 6 โมง อาหารเย็นของเราจะมาเสริฟแล้ว กลับบ้านไปกินกันดีกว่า (ปล.เราจองมาแบบมีอาหารเย็นนะจ๊ะ ประหยัดแถมได้ลองอาหารแบบบ้านๆ สไตล์คนเหนือ)
เมนูอาหารเย็นวันนี้ ขอเสนอ
ลาบหมู แบบเหนือๆๆ (อันนี้พี่หมีชอบ ขอให้เค้าเก็บไว้ให้กินตอนเช้าอีกมื้อ)
ผัดยอดฝักแม๊วใส่เห็ด
แกงจืดผัดกาดขาวใส่ไส้กรอกกับหมู
เมนูสุดท้าย ราชินีของมือนี้….ไข่ปาม (ไข่เจียวหน้าตาบ้านๆๆจานนี้ ความพิเศษของมันยุที่การนำไปทอด เพราะเค้าทอดบนใบตอง ทำให้มีกลิ่นหอมของใบตองมากๆๆ) —> ไข่ปามคลีนมาก พี่หมีอยากได้น้ำปลากับชูรสซักนิสส
ปล.อาหารเย็นไม่ได้ fix ตายตัว พี่เค้าจะดูว่าในตู้เย็นมีอะไรทำให้เราทานได้มังแล้วก้จะออกมาเปงเมนูง่ายๆ แต่อร่อยแบบคนแม่กำปอง ^^
( น้องหมีกับพี่สาวน้องหมี เหนื่อยและก็ง่วงแย่ว พี่หมีเลยอดนั่งกินเบียร์เบยยย จากที่เห็นที่แม่กำปองมีร้านเล็กๆน่านั้งหลายร้านแต่อาจจะปิดกันเร็วหน่อยนะ ครั้งหน้าไม่พลาด อิอิ)
DAY 2
เราตื่นกันตี 4:30 น. เพื่อเตรียมตัวออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้น บน “ดอยกิ่วฝิ่น” รถมารับเวลา 5:30 น. แต่ที่พิเศษ คือ ผู้ใหญ่บ้านมารับเราไปดูพระอาทิตย์เองเลย ^^
(พ่อหลวงประทีป เค้าใช้เวลาว่างมาให้บริการคนที่อยากจะขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบนดอย หายคัยสนใจ เรามีเบอร์มาให้ด้วยนะ)
(เบอร์ผู้ใหญบ้าน ประทีบ 095-468-7187 พาขึ้นกิ๋วฝื่น 500 บาท ถ้าเกิน 5 คน คิดคนละ 100 บาท ครับ พี่หมีเเนะนำว่าให้คนในหมู่บ้านพาขึ้นเนื่องจาก ถนนมืดมาก ชันมาก ค่อนข้างอันตราย แต่ถ้าต้องการขับขึ้นไปเองแนะนำเกียร์ออโต้ครับ )
สัก 6:30 น. พอพระอาทิตย์ขึ้นแสงแรกของวัน มาแย้ว เราก้อพยพ ย้ายก้นกันลงมา เพราะทนเสียงร้องของท้องที่มันเรียกร้องหาอาหารไม่ไหว ^^ พอมาถึงที่พัก เราก้อาบน้ำ แต่ตัวเตรียมทานอาหารเช้า และออกเดินทางไปจุดหมายต่อไป นั่นคือ The Giant ร้านต้นไม้ยักษ์
(เนื่องจากรถตู้กลับ เชียงใหม่ก็มี 2 เที่ยว น้องหมีจึงคิดว่าเราสามารถนั้งรถตู้พี่ศักดิ์เที่ยวแรก 9.20 ลงไปที่ โครงการหลวงตีนตก และหลังจากไป The Giant ก็กลับรถตู้พี่ศักดิ์รอบ 13.20 ได้ จึงนัดแนะกับพี่ศักดิ์ )
อาหารเช้า “ข้าวต้มปลา” หอมอร่อย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้