บทความโดย Scott McIntyre, FOX Sports



สก็อตต์ แม็คอินไตร์ ให้ความเห็นว่าการขาดหายไปของผู้เล่นทีมชาติไทยที่ค้าแข้งในต่างแดน จะส่งผลต่อทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน ที่กำลังจะมาถึง

แม้ว่าการเรียกตัวผู้เล่นจากโค้ชคนใหม่ ทั้งจากสมาคมฯ และสโมสรต่างๆ ในความเป็นจริงทีมชาติไทยจะขาด 4 ผู้เล่นที่เป็นที่ยอมรับมากที่สุดในศึกซูซูกิ คัพ ครั้งนี้ นั่นหมายความว่ารายการนี้เวียดนามมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ

เหมือนที่ผมเขียนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา การแข่งขันในช่วงแรกของรอบแบ่งกลุ่มไม่ได้ถูกบรรจุในปฏิทินฟีฟ่า นั่นหมายความว่าทีมชาติไทยหมดสิทธิ์ที่จะเรียกตัว 3 ผู้เล่นที่ค้าแข้งในลีกญี่ปุ่นทั้ง ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน และธีรศิลป์ แดงดา

ด้านผู้รักษาประตูอย่าง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่กำลังเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากกับสโมสรโอเอช ลูเวิน ทีมในศึกพร็อกซิมุส ลีก ที่ปัจจุบันรั้งบ๊วยของตารางคะแนน โดยเก็บชัยชนะได้เพียงเกมเดียว จาก 7 เกม และกำลังดิ้นรนเพื่อหนีการตกชั้นสู่ลีกสมัครเล่น

ขณะที่พวกเขาเหล่านี้ไม่มีอะไรต้องพิสูจน์ กับฟุตบอลภายในประเทศแล้ว มันก็คงไม่ต้องสงสัยว่า การไม่มีผู้รักษาประตู, กองหลัง, กองกลาง และกองหน้าที่ดีที่สุด ย่อมส่งผลกระทบต่อทีมอย่างแน่นอน

ทางฝั่ง มิโลวาน ราเยวัช ที่ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของทัวร์นาเมนต์ว่าการขาด 4 ผู้เล่นตัวหลัก ถือเป็นการเปิดประตูให้ผู้เล่นคนอื่นๆ ได้พิสูจน์ตัวเอง เพื่อทำการต่อยอดสู่ทัวร์นาเมนต์ เอเชียนคัพ ในเดือนมกราคมนี้

ถ้าเป็นไปตามคำแนะนำ ผู้เล่นตัวหลักจากทีมชาติไทยชุด U23 ที่เพิ่งจะตกรอบแบ่งกลุ่มในศึกเอเชียนเกมส์ครั้งที่ผ่านมา จะมีชื่อติดมาในทีมชุดนี้ เพื่อเป็นการเปลี่ยนผ่านนักเตะจากทีมเยาวชนสู่ทีมชาติชุดใหญ่

ผมรู้สึกว่า ราเยวัช จะใช้ซูซูกิคัพ เป็นรายการทดลองสำหรับการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย ซึ่งมันคือการตัดสินใจที่ถูกต้อง ดังนั้นคุณคงแปลกใจกับความพยายามที่จะเป็นแบบอย่างให้ชาติอื่นๆ เพื่อสร้างความมั่นใจในทัวร์นาเมนต์ระดับทวีป

โดยระหว่างวันที่ 12-20 พฤจิกายนนี้ ถือเป็นช่วงเวลาปฏิทินฟีฟ่าเดย์ นั่นทำให้ 5 นักเตะไทยที่ค้าแข้งในแดนปลาดิบ มีสิทธิ์กลับมาลงเล่นรอบแบ่งกลุ่ม ในเกมที่จะพบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย แต่โปรแกรมทั้งหมดได้ถูกวางเอาไว้แล้ว พวกคุณต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพราะจะมีเพียงเกมเดียวเท่านั้น ที่พวกเขามีสิทธิ์ลงเล่นได้

และพวกเขาจะกลับมาลงเล่นได้อีกครั้ง ในรอบตัดเชือกเลกที่ 2 ภายหลังจากที่ศึกฟุตบอลเจลีก รูดม่านปิดฉากในวันที่ 1 ธันวาคมนี้

อาจจะเป็นข้อโต้แย้งที่ว่าทั้ง วิสเซล โกเบ และโดยเฉพาะ ซานเฟรชเช ฮีโรชิมา อยากที่จะปล่อยตัวทั้ง ธีราทร และธีรศิลป์ ออกจากทีม บางทีนี่คือโอกาสในการต่อสู้เพื่อคว้าตำแหน่ง 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งคู่

ในขณะเดียวกัน นีล เอเธอริดจ์ ผู้รักษาประตูชื่อดังทีมชาติฟิลิปปินส์ ก็คงไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน ดังนั้นด้วยสถานการณ์เช่นนี้ ทีมชาติไทย ยังดูแข็งแกร่งกว่าชาติอื่นๆ และมีสิทธิ์สูงที่จะการป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ และก็คงมีเพียงไม่กี่ชาติ ที่พร้อมจะท้าชิงในรายการนี้

ทางฝั่งอินโดนีเซีย ที่ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนจากทีมเยาวชนของพวกเขาในภูมิภาคอาเซียน ขณะที่ มาเลเซีย เน้นผู้เล่นที่มีทักษะ ความสามารถเฉพาะตัว สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ และแน่นอนว่า เวียดนาม คือชาติที่มีโอกาส จะได้ชูถ้วยในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้เช่นกัน

การขาดมิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะอย่าง เหงียน ตวน อันห์ จากอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ แต่เฮดโค้ชของเขา ก็ได้ปลดปล่อยทีมชุดนี้จากแท็คติกเดิมๆ โดยเฉพาะแนวกรุกที่มักจะติดๆขัดๆ ในช่วงก่อนที่เขาจะเข้ามาคุมทีม

ด้วยการจัดการที่ดีภายใต้การทำทีมของ พาร์ค ฮัง โซ และผู้เล่นที่เต็มเปี่ยมไปด้วยทักษะ และความสามารถเฉพาะตัว ที่มีมากกว่าชาติอื่นๆ ถ้าพวกเขาปล่อยให้ทีมชาติเวียดนามเล่นได้อย่างอิสระแล้วละก็คงจะเป็นเรื่องยากที่จะหยุดยั้งพวกเขา

ด้าน เหงียน กวาง ไฮ มีบทบาทต่อทีมชุดนี้เฉกเช่น ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในแง่ผู้เล่นที่เป็นดาวจรัสแสงแห่งวงการฟุตบอลอาเซียน พร้อมด้วย เหงียน คอง เฟือง, เลือง ซวน ตรวง และ วู วัน ธันห์ ที่ช่วยสร้างความสมดุลในเชิงเทคนิค การคุมจังหวะ และการเคลื่อนที่ในแดนหน้า

และอดีตชาติที่ยิ่งใหญ่ทั้งสิงค์โปร์ และฟิลิปปินส์ คงยังไม่พร้อมต่อกรในรายการนี้ ดังนั้นเวียดนาม คงเป็นทีมที่จะได้พบกับ อินโดนีเซีย หรือ ไทย ในรอบตัดเชือก และทั้งสิงค์โปร์ และฟิลิปปินส์ คงไม่ให้การสนับสนุนทีมชาติเวียดนามในรอบชิงชนะเลิศ

ทีมชาติไทย เลือกที่จะเสี่ยงโดยการไม่ใช้ผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์ และประตูได้เปิดกว้างสำหรับทีมชาติเวียดนาม เพื่อพิสูจน์ว่าใครจะได้ครองบัลลังก์อาเซียนครั้งที่ 2 ในรอบทศวรรษนี้

แหล่งอ้างอิง : https://www.foxsportsasia.com/football/aff-suzuki-cup-football/945078/missing-thai-stars-hand-aff-boost-to-vietnam/