กินยาต้านไวรัส hiv แล้วผิวขาวใสขึ้นเป็นผลข้างเคียงหรือเปล่าครับ

ตามหัวข้อเลยครับ ผมเพิ่งเริ่มกินยาต้านไวรัส hiv มาได้ประมาณ 4 สัปดาห์แล้วครับ ก่อนที่จะรู้ตัวว่าตัวเองติดเชื้อคือมีอาการตาเหลืองเป็นไข้เบื่ออาหาร สงสัยว่าตัวเองจะเป็นไวรัสตับอักเสบบีเลยไปหาหมอตอนกลางดึก หมอเลยนัดไปตรวจเลือดเพื่อตรวจหาโรคไวรัสตับอักเสบในสัปดาห์ต่อมา พอถึงวันนัดตรวจเลือดก็ไปเจาะเลือดปกติโดยได้งดอาหารตั้งแต่ 20:00 เจาะเลือด 08:00 รอฟังผลตรวจสักพักหมอก็ถามประวัติไปเรื่อยๆ จนหมอถามว่าเวียนหัวมั้ย หน้ามืดรึเปล่า ตอนแรกก็บอกหมอว่าปกติ สักพักเริ่มหน้ามืดแล้วก็สลบไป ฟื้นมาอีกทีก็อยุ่ห้องฉุกเฉินพร้อมกับอาการมึนงง หมอที่ห้องฉุกเฉินเลยเจาะเลือดส่งตรวจทันที ผลที่ออกมาคือเป็นไวรัสตับอักเสบ หมอเลยนัดตรวจเลือดอีกทีสัปดาห์ต่อมา พอมาตามนัดก็ยืนยันว่าเป็นไวรัสตับอักเสบบี แล้วหมอก็เลยส่งตรวจเลือด hiv ก็เลยรู้ว่าติดเชื้อ จากนั้นก็นัดเจาะเลือดตรวจหาค่า CD4 ผลที่ออกมาคือ 271 จึงได้เริ่มกินยาต้าน ช่วง 3-4 วันแรกที่กินคือเวียนหัวมาก ไม่อยากทำอะไรเลย นอนนิ่งๆอยู่เฉยๆ จากนั้นเริ่มปกติเหมือนคนทั่วไป หมอแนะนำว่าให้ดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตรก็ทำตาม จนมีเพื่อนที่เจอกันแทบจะทุกวันทักว่าผิวขาวใสขึ้นหลังจากกินยาต้านไป 3 สัปดาห์ ก็เลยเริ่มสังเกตุตัวเอง ผิวขาวใสขึ้นจริงๆ ขาวแบบเห็นเส้นเลือดชัดมาก สีผิวก็ออกชมพูนิดๆ โดยปกติเป็นคนผิวสีคล้ำๆหน่อย แต่ไม่ขนาดคล้ำจนดำนะ กลัวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายตัวเองจะผิดปกติเพราะที่เคยรู้มาคนที่กินยาต้านไวรัสผิวจะสีดำคล้ำ มีใครพอรู้สาเหตุบ้างครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่