ดิฉันกับสามีตกลงกันว่าจะทำธุรกิจก๋วยเตี๋ยวเรือ คือเราจะต้องออกจากงานแล้วมาทำเต็มตัว เพราะเป็นความฝันเล็กของเราที่จะมีร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเป็นของตัวเอง แต่เอาเข้าจริงๆ ตกลงดูได้สถานที่ชอบแล้ว
สามีก็พยายามพูดเพื่อที่จะดึงเพื่อนมาหุ้นด้วยจาก 3 หุ้นจะให้เป็น 4 หุ้น เรา สามี เพื่อนสามี อีก 2 คน โดยเค้าจะต้องเป็นหุ้นส่วนใหญ่ เราก็เลยคิดว่าถ้าจะมีหลายหุ้นแบบนี้ มันจะคุ้มเหรอที่เราลาออกมา มันไม่มีประโยชน์ที่เราจะออกมาเลย เพราะที่เราคิดคือ เราออกมาทำ มันจะต้องเป็นรายได้หลักของเรา คิดง่ายๆก๋วยเตี๋ยวชามละ 15 บาท วันนึงขายได้ 200ชาม =3000 หาร 4หุ้น ยังไม่หักค่าจิปาถะ ค่าลูกน้องจะเหลือคนละเท่าไหร แต่เค้าให้เหตุผลว่า เผื่อมีอีกร้านจะได้ช่วยกันหมุนเงินทัน กลัวเราทำไม่ไหว พอเราไม่โอเค เพราะว่าจำนวนหุ้นมันมากเกินไป จริงๆแล้วเราอยากจะทำเพื่อให้มันเป็นรายได้หลักของเรา มากกว่าที่จะรับเงินเดือนตามสัดส่วนหุ้น พอพูดก็กลายเป็นทะเลาะ
เราไม่รู้ว่าความคิดของสามีถูก หรือของเราถูก แค่คืดจะเริ่มก็มีปัญหาและ
แค่คิดจะเริ่มธุรกิจก็มีปัญหาทางความคิดและ
สามีก็พยายามพูดเพื่อที่จะดึงเพื่อนมาหุ้นด้วยจาก 3 หุ้นจะให้เป็น 4 หุ้น เรา สามี เพื่อนสามี อีก 2 คน โดยเค้าจะต้องเป็นหุ้นส่วนใหญ่ เราก็เลยคิดว่าถ้าจะมีหลายหุ้นแบบนี้ มันจะคุ้มเหรอที่เราลาออกมา มันไม่มีประโยชน์ที่เราจะออกมาเลย เพราะที่เราคิดคือ เราออกมาทำ มันจะต้องเป็นรายได้หลักของเรา คิดง่ายๆก๋วยเตี๋ยวชามละ 15 บาท วันนึงขายได้ 200ชาม =3000 หาร 4หุ้น ยังไม่หักค่าจิปาถะ ค่าลูกน้องจะเหลือคนละเท่าไหร แต่เค้าให้เหตุผลว่า เผื่อมีอีกร้านจะได้ช่วยกันหมุนเงินทัน กลัวเราทำไม่ไหว พอเราไม่โอเค เพราะว่าจำนวนหุ้นมันมากเกินไป จริงๆแล้วเราอยากจะทำเพื่อให้มันเป็นรายได้หลักของเรา มากกว่าที่จะรับเงินเดือนตามสัดส่วนหุ้น พอพูดก็กลายเป็นทะเลาะ
เราไม่รู้ว่าความคิดของสามีถูก หรือของเราถูก แค่คืดจะเริ่มก็มีปัญหาและ