สิงคโปร์ Trip
** fast times at Singapore
เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน 2 คืน แบบง่ายๆ (เที่ยวสิงคโปร์ครั้งแรก)
โปรแกรมทัวร์ / Holiday Tours ( เที่ยวกับทัวร์ ครึ่งวัน นอกนั้นเที่ยวเอง )
สมาชิก 4 คน / บอย.อชิรญา.พี่ตุ่ม.พี่หยก.พี่มล.พี่แอ๊ด
สถานที่พัก / Hotel Fragrance Selegie
สายการบิน Jetstar
เน็ต / เน็ต SIM2Fly Ais 399
สภาพอากาศ ร้อนชื้นเหมือนกับบ้านเราภาคใต้ มีฝนตกมากบ้างเล็กน้อย
กำหนดการเดินทาง 21-Jul-2018 – 23-Jul-2018
สิ่งที่คาดหวัง เข้าชม GARDEN BY THE BAY ชมโชว์น้ำพุริมอ่าว MARINA , WONDERFUL LIGHT สุดอลังการ ชมแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของสิงคโปร์ ตึกมารีน่า เบย์ แซนด์ โรงแรมหรู+คาสิโนระดับ 6 ดาว ถ่ายรูปคู่เมอร์ไลอ้อน ขอพรเจ้าแม่กวนอิม ช้อปปิ้งออร์ชาร์ด พิเศษ ! ลิ้มรส ข้าวมันไก่ และ SONG FA บักกุ้ดเต๋ ชมวัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic Temple)
เริ่มต้นการเดินทาง โดยย่อ
06.30 น. เราต้องพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิชั้น 4 เคาน์เตอร์ E ประตู 3 อาคารผู้โดยสารขาออกสายการบิน Jetstar Airways (3K) เช็คเอกสารและสัมภาระ
09.25 น. เดินทางสู่ สิงคโปร์ โดยเที่ยวบินที่ 3K512
12.50 น. เดินทางถึง สนามบินชางกีประเทศสิงคโปร์ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองจากนั้นรีบไปรับกระเป๋า (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง) เรารีบไปรับกระเป๋า ให้เร็วที่สุด เพราะจะมีรถตู้มารับที่สนามบิน ไปส่งโรงแรม ตามที่นัดไว้ และเดินทางเข้าสู่ตัว เมืองสิงคโปร์ จากนั้นเข้าสู่ที่พัก Fragrance Selegie ที่มีการจัดผังเมืองอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะอาด ระหว่างทางที่นั่งรถตู้มาที่พัก สวยงามที่พักใกล้ ลิตเติ้ลอินเดีย
13.30 น รีบเช็คอินเพื่อเก็บกระเป๋าเดินทาง และเตรียมตัวที่จะพร้อมเดิน ๆๆๆๆๆ เที่ยว เรามาถึงช่วงบ่ายพอดีและเราก็เริ่มหิว แต่เรามีนัดกับน้อง สาวกับหนุ่มเกาหลี อยู่ ช่วงบ่าย นางบินมาก่อน 1 วันเพื่อรอพาเราเที่ยว เรานั่งแท็กซี่ออกจากที่พัก โดยนางโทรจองรถ GrabTaxi ให้ 2 คัน มารับหน้าโรงแรมเพื่อไปลงจุดที่นางนัดไว้
เรานัดกันที่ ย่านคลากคีย์ (Clarke Quay) เป็นที่ใกล้ที่พักน้อง พักโนโวเทล และที่นี่เป็นย่าน กิน ดื่ม เที่ยว ยามค่ำคืนที่มีชื่อเสียงและคึกคักมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศสิงคโปร์ อยู่ริม 2 ฝั่งของแม่น้ำสิงคโปร์ (Singapore River) พอเราลงรถได้น้องก็มายืนรอ พวกเรา จำได้เราเดินลัดเลาะหลังห้างไปทางริมแม่น้ำแล้วข้ามถนน เพื่อไปร้าน ร้านซองฟา บักกุ๊ดเต๋ (Song Fa Bak Kut Teh) เป็นร้านขายบักกุ๊ดเต๋ เก่าแก่ชื่อดังของสิงคโปร์ พวกเราเปิดเมนูอาหารดูเพื่อสั่ง แต่คงได้ใช้ภาษาจิ้มเอา ถ้าสั่งเอง 555
เมนูแนะนำ
เมนูที่มาแล้วต้องสั่งก็คือ “Pork Ribs Soup บักกุ๊ดเต๋กระดุกหมูแบบต้นตำหรับ” รวมทั้งบักกุ๊ดเต๋เครื่องในหมู บักกุ๊ดเต๋ปลา หรือจะเป็นเมนูบะหมี่ต่างๆ ก็มีให้เลือกหลากหลาย และอย่าลืมสั่งเครื่องเคียง อย่างผัดผักชนิดต่างๆ ต้มเซี่ยงจี้กับตับหมู (อร่อยมาก), ปาท่องโก๋, ขาหมูพะโล้, คะน้าน้ำมันหอย, ฟองเต้าหู้ขาไก่, ถั่วตุ๋น, ผักดอง, ไส้หมูพะโล้ ที่จะช่วยเพิ่มอรรถรสให้มากขึ้น
เครื่องดื่มแนะนำ : น้ำแห้ว, น้ำลูกเดือย, ชามะนาว,น้ำอัดลม,น้ำส้ม
ทางร้านมีบริการเติมน้ำซุปฟรี ถ้าน้ำซุปหมด ขอพนักงานเติมได้ตลอดเลยครับ ทีนี้ก็ซดน้ำซุปกันให้สะใจไปเลย!! แล้วถ้าติดใจอยากซื้อน้ำซุปสำเร็จรูปกลับไปทำเองที่บ้าน ทางร้านก็มีขายให้เราซื้อกลับบ้านเหมือนกันครับ
15.00 น เราอิ่มและเช็คบิลได้ พอจะจ่ายเงิน น้องก็บอกไม่ต้องจ่ายน้องเลี้ยงเอง 555 มื้อนี้แอบเห็น ราคาน่าจะ ประมาณ $ 80 ต้องขอบคุณ น้องอีกและ และขอบคุณ ดอง หนุ่มเกาหลีที่มาด้วย ดองเป็นหนุ่มเกาหลี มาเรียนต่อที่สิงคโปร์ เลยพอจะรู้จักที่นี่ เราจะเดินมุ่งหน้าไปทางเดิน ลัดเลาะมุมตึกจุดหมายไป ย่าน Chinatown เราเดินไปเรื่อยๆเราเห็นตึกสวยงามมาก ตึกนี้ ปลูกต้นไม้และออกแบบให้มีความเป็นธรรมชาติมากๆ เราได้มองเห็นร้านไอติม สีม่วงน่ากิน ราคาก็ ประมาณ $ 4 เลยขอแวะชิมหน่อย หลังจากทานไอติม เสร็จต้องรีบทาน เพราะมัน ละลายเร็วมาก ไม่นานเราเดินมาสัก 15 นาที และเราก็ มาถึง ย่านไชน่าทาวน์
ตลาดและถนนคนเดินย่านไชน่าทาวน์(Chinatown) ของสิงคโปร์จะอยู่ที่ใจกลางของย่านเลย ถ้ามาจากรถไฟใต้ดิน MRT ให้ออกทางออก A จะเจอกับถนนคนเดินเลย โซนหลักๆจะอยู่บริเวณถนน Pagoda Street แล้วแยกย่อยไปตามซอยต่างๆทั้งซ้ายและขวา โดยจะปิดถนนไม่ให้รถวิ่งที่บริเวณ Pagoda Street แต่ร้านค้าก็จะมีกระจายตัวกันไปทั่วทั้งบริเวณนี้เลย ส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าเล็กๆ โดยเฉพาะร้านอาหาร, ร้านขนม, โรงแรม, ร้านขายฝากและร้านขายของที่ระลึก นอกจากนี้ก็จะมีการประดับดวงโคมต่างๆที่ด้านบนถนนทั่วทั้งบริเวณไชน่าทาวน์ด้วย เราเดินผ่านออกมาจาก ย่านไชน่าทาวน์ เรายังไม่แวะเราเดินผ่านเพราะเรามีแผนอีก 1 วันที่ จะมากินข้าวมันไก่ เราเดินทะลุตัดไปทายซอยแล้วเลี้ยวขวา เพื่อไปวัดพระเขี้ยวแก้ว
ตรงที่เลี้ยวขวา เดินไปทางวัด เขี้ยวแก้ว เราก็มาเห็น จุดนี้แปลกตาอีกจุดหนึ่ง คือวัดศรีมาริอัมมันต์ (Sri Mariamman Temple) ซึ่งตั้งอยู่ในย่านไชน่าทาวน์ เป็นวัดฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ เราแวะถ่ายรูป และเราเดินต่อ ไปไม่นาน สัก 5 นาที เราก็ถึง
วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว(Buddha Tooth Relic Temple)หรือที่คนไทยเรียกกันว่า วัดเขี้ยวแก้ว เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาของประเทศสิงคโปร์ที่ไม่ควรพลาด เพราะเป็นวัดทางศาสนาพุทธที่สำคัญวัดหนึ่งของชาวสิงคโปร์ อยู่ใกล้กับย่านไชน่าทาวน์ (Chinatown) เรารีบเดินถ่ายรูป ผมเห็นมุมที่สวยมุมหนึ่งซึ่งใครจะถ่ายมุมนี้ได้ต้องข้ามถนน ผมมองซ้าย มองขวารีบข้ามเพื่อถ่าย มุมนี้ สวยงาม วัดที่ตัดกับเมือง ดูแบบลงตัวกับสมัยเก่าและใหม่
16.00 เราเดินกลับทางเดิม อากาศไม่ร้อนมาก แต่ก็ไม่มีลม กล้องก็หนักเอาการ ขณะเดินกลับ เราหันไปเจอหน้าร้านมีอาหารตากแห้งไว้หลายอย่างมาก น่าจะเป็นเมนูที่ทางสิงคโปร์ชอบ เช่นตุ๊กแก ปลิง ตากแห้ง .....
เราได้เดินผ่านห้าง perennial chinatown point, เราแวะเดินเข้าไปด้านในก็มีร้านอาหารมากมาย ค่อนข้างแพงเลย เราเดินเพื่อหาซื้อกระเป๋า charles & keith ที่เพื่อฝากซื้อ แต่ก็ไม่เจอ เราเลยเดินกลับออกไปห้าง clarke quay central ตรงจุดที่ลงจากแท็กซี่
ช่วงเราเดินกลับเราเดินผ่านตึกต้นไม้สีเขียวนี้มารอบหนึ่งแล้ว สวยจริง เมืองนี้ รถน้อยมากส่วนมากมีแต่เดิน และขี่จักรยาน ให้บริการหลายที่ใช้การเช่าผ่านแอ๊ป
17.00 เรามาถึง ห้าง clarke quay central เราได้เดินเข้าเพื่อตากแอร์และพักขาแป๊บ เราต้องอยู่ยันดึกวันนี้ และโชค์ดีที่มีร้านกระเป๋าที่ต้องการ คือร้าน charles & keith จัดเลย 3 ใบ เขาว่าถูก แต่ความโชคร้านเราต้องถือยันกลับที่พัก กระเป๋ากล้องก็หนักสัก 6 กิโลและ 555 ทนๆๆ ซื้อเสร็จเรานั่งพักจนใกล้ค่ำเราคิดเมนูว่าจะทานอะไรดี น้องก็แนะนำร้านปู ที่นี่อร่อยมาแล้วต้องทานให้ได้
[CR] เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน 2 คืน แบบง่ายๆ (เที่ยวสิงคโปร์ครั้งแรก)
** fast times at Singapore
เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน 2 คืน แบบง่ายๆ (เที่ยวสิงคโปร์ครั้งแรก)
โปรแกรมทัวร์ / Holiday Tours ( เที่ยวกับทัวร์ ครึ่งวัน นอกนั้นเที่ยวเอง )
สมาชิก 4 คน / บอย.อชิรญา.พี่ตุ่ม.พี่หยก.พี่มล.พี่แอ๊ด
สถานที่พัก / Hotel Fragrance Selegie
สายการบิน Jetstar
เน็ต / เน็ต SIM2Fly Ais 399
สภาพอากาศ ร้อนชื้นเหมือนกับบ้านเราภาคใต้ มีฝนตกมากบ้างเล็กน้อย
กำหนดการเดินทาง 21-Jul-2018 – 23-Jul-2018
สิ่งที่คาดหวัง เข้าชม GARDEN BY THE BAY ชมโชว์น้ำพุริมอ่าว MARINA , WONDERFUL LIGHT สุดอลังการ ชมแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของสิงคโปร์ ตึกมารีน่า เบย์ แซนด์ โรงแรมหรู+คาสิโนระดับ 6 ดาว ถ่ายรูปคู่เมอร์ไลอ้อน ขอพรเจ้าแม่กวนอิม ช้อปปิ้งออร์ชาร์ด พิเศษ ! ลิ้มรส ข้าวมันไก่ และ SONG FA บักกุ้ดเต๋ ชมวัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic Temple)
เริ่มต้นการเดินทาง โดยย่อ
06.30 น. เราต้องพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิชั้น 4 เคาน์เตอร์ E ประตู 3 อาคารผู้โดยสารขาออกสายการบิน Jetstar Airways (3K) เช็คเอกสารและสัมภาระ
09.25 น. เดินทางสู่ สิงคโปร์ โดยเที่ยวบินที่ 3K512
12.50 น. เดินทางถึง สนามบินชางกีประเทศสิงคโปร์ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองจากนั้นรีบไปรับกระเป๋า (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง) เรารีบไปรับกระเป๋า ให้เร็วที่สุด เพราะจะมีรถตู้มารับที่สนามบิน ไปส่งโรงแรม ตามที่นัดไว้ และเดินทางเข้าสู่ตัว เมืองสิงคโปร์ จากนั้นเข้าสู่ที่พัก Fragrance Selegie ที่มีการจัดผังเมืองอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะอาด ระหว่างทางที่นั่งรถตู้มาที่พัก สวยงามที่พักใกล้ ลิตเติ้ลอินเดีย
13.30 น รีบเช็คอินเพื่อเก็บกระเป๋าเดินทาง และเตรียมตัวที่จะพร้อมเดิน ๆๆๆๆๆ เที่ยว เรามาถึงช่วงบ่ายพอดีและเราก็เริ่มหิว แต่เรามีนัดกับน้อง สาวกับหนุ่มเกาหลี อยู่ ช่วงบ่าย นางบินมาก่อน 1 วันเพื่อรอพาเราเที่ยว เรานั่งแท็กซี่ออกจากที่พัก โดยนางโทรจองรถ GrabTaxi ให้ 2 คัน มารับหน้าโรงแรมเพื่อไปลงจุดที่นางนัดไว้
เรานัดกันที่ ย่านคลากคีย์ (Clarke Quay) เป็นที่ใกล้ที่พักน้อง พักโนโวเทล และที่นี่เป็นย่าน กิน ดื่ม เที่ยว ยามค่ำคืนที่มีชื่อเสียงและคึกคักมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศสิงคโปร์ อยู่ริม 2 ฝั่งของแม่น้ำสิงคโปร์ (Singapore River) พอเราลงรถได้น้องก็มายืนรอ พวกเรา จำได้เราเดินลัดเลาะหลังห้างไปทางริมแม่น้ำแล้วข้ามถนน เพื่อไปร้าน ร้านซองฟา บักกุ๊ดเต๋ (Song Fa Bak Kut Teh) เป็นร้านขายบักกุ๊ดเต๋ เก่าแก่ชื่อดังของสิงคโปร์ พวกเราเปิดเมนูอาหารดูเพื่อสั่ง แต่คงได้ใช้ภาษาจิ้มเอา ถ้าสั่งเอง 555
เมนูแนะนำ
เมนูที่มาแล้วต้องสั่งก็คือ “Pork Ribs Soup บักกุ๊ดเต๋กระดุกหมูแบบต้นตำหรับ” รวมทั้งบักกุ๊ดเต๋เครื่องในหมู บักกุ๊ดเต๋ปลา หรือจะเป็นเมนูบะหมี่ต่างๆ ก็มีให้เลือกหลากหลาย และอย่าลืมสั่งเครื่องเคียง อย่างผัดผักชนิดต่างๆ ต้มเซี่ยงจี้กับตับหมู (อร่อยมาก), ปาท่องโก๋, ขาหมูพะโล้, คะน้าน้ำมันหอย, ฟองเต้าหู้ขาไก่, ถั่วตุ๋น, ผักดอง, ไส้หมูพะโล้ ที่จะช่วยเพิ่มอรรถรสให้มากขึ้น
เครื่องดื่มแนะนำ : น้ำแห้ว, น้ำลูกเดือย, ชามะนาว,น้ำอัดลม,น้ำส้ม
ทางร้านมีบริการเติมน้ำซุปฟรี ถ้าน้ำซุปหมด ขอพนักงานเติมได้ตลอดเลยครับ ทีนี้ก็ซดน้ำซุปกันให้สะใจไปเลย!! แล้วถ้าติดใจอยากซื้อน้ำซุปสำเร็จรูปกลับไปทำเองที่บ้าน ทางร้านก็มีขายให้เราซื้อกลับบ้านเหมือนกันครับ
15.00 น เราอิ่มและเช็คบิลได้ พอจะจ่ายเงิน น้องก็บอกไม่ต้องจ่ายน้องเลี้ยงเอง 555 มื้อนี้แอบเห็น ราคาน่าจะ ประมาณ $ 80 ต้องขอบคุณ น้องอีกและ และขอบคุณ ดอง หนุ่มเกาหลีที่มาด้วย ดองเป็นหนุ่มเกาหลี มาเรียนต่อที่สิงคโปร์ เลยพอจะรู้จักที่นี่ เราจะเดินมุ่งหน้าไปทางเดิน ลัดเลาะมุมตึกจุดหมายไป ย่าน Chinatown เราเดินไปเรื่อยๆเราเห็นตึกสวยงามมาก ตึกนี้ ปลูกต้นไม้และออกแบบให้มีความเป็นธรรมชาติมากๆ เราได้มองเห็นร้านไอติม สีม่วงน่ากิน ราคาก็ ประมาณ $ 4 เลยขอแวะชิมหน่อย หลังจากทานไอติม เสร็จต้องรีบทาน เพราะมัน ละลายเร็วมาก ไม่นานเราเดินมาสัก 15 นาที และเราก็ มาถึง ย่านไชน่าทาวน์
ตลาดและถนนคนเดินย่านไชน่าทาวน์(Chinatown) ของสิงคโปร์จะอยู่ที่ใจกลางของย่านเลย ถ้ามาจากรถไฟใต้ดิน MRT ให้ออกทางออก A จะเจอกับถนนคนเดินเลย โซนหลักๆจะอยู่บริเวณถนน Pagoda Street แล้วแยกย่อยไปตามซอยต่างๆทั้งซ้ายและขวา โดยจะปิดถนนไม่ให้รถวิ่งที่บริเวณ Pagoda Street แต่ร้านค้าก็จะมีกระจายตัวกันไปทั่วทั้งบริเวณนี้เลย ส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าเล็กๆ โดยเฉพาะร้านอาหาร, ร้านขนม, โรงแรม, ร้านขายฝากและร้านขายของที่ระลึก นอกจากนี้ก็จะมีการประดับดวงโคมต่างๆที่ด้านบนถนนทั่วทั้งบริเวณไชน่าทาวน์ด้วย เราเดินผ่านออกมาจาก ย่านไชน่าทาวน์ เรายังไม่แวะเราเดินผ่านเพราะเรามีแผนอีก 1 วันที่ จะมากินข้าวมันไก่ เราเดินทะลุตัดไปทายซอยแล้วเลี้ยวขวา เพื่อไปวัดพระเขี้ยวแก้ว
ตรงที่เลี้ยวขวา เดินไปทางวัด เขี้ยวแก้ว เราก็มาเห็น จุดนี้แปลกตาอีกจุดหนึ่ง คือวัดศรีมาริอัมมันต์ (Sri Mariamman Temple) ซึ่งตั้งอยู่ในย่านไชน่าทาวน์ เป็นวัดฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ เราแวะถ่ายรูป และเราเดินต่อ ไปไม่นาน สัก 5 นาที เราก็ถึง
วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว(Buddha Tooth Relic Temple)หรือที่คนไทยเรียกกันว่า วัดเขี้ยวแก้ว เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาของประเทศสิงคโปร์ที่ไม่ควรพลาด เพราะเป็นวัดทางศาสนาพุทธที่สำคัญวัดหนึ่งของชาวสิงคโปร์ อยู่ใกล้กับย่านไชน่าทาวน์ (Chinatown) เรารีบเดินถ่ายรูป ผมเห็นมุมที่สวยมุมหนึ่งซึ่งใครจะถ่ายมุมนี้ได้ต้องข้ามถนน ผมมองซ้าย มองขวารีบข้ามเพื่อถ่าย มุมนี้ สวยงาม วัดที่ตัดกับเมือง ดูแบบลงตัวกับสมัยเก่าและใหม่
16.00 เราเดินกลับทางเดิม อากาศไม่ร้อนมาก แต่ก็ไม่มีลม กล้องก็หนักเอาการ ขณะเดินกลับ เราหันไปเจอหน้าร้านมีอาหารตากแห้งไว้หลายอย่างมาก น่าจะเป็นเมนูที่ทางสิงคโปร์ชอบ เช่นตุ๊กแก ปลิง ตากแห้ง .....
เราได้เดินผ่านห้าง perennial chinatown point, เราแวะเดินเข้าไปด้านในก็มีร้านอาหารมากมาย ค่อนข้างแพงเลย เราเดินเพื่อหาซื้อกระเป๋า charles & keith ที่เพื่อฝากซื้อ แต่ก็ไม่เจอ เราเลยเดินกลับออกไปห้าง clarke quay central ตรงจุดที่ลงจากแท็กซี่
ช่วงเราเดินกลับเราเดินผ่านตึกต้นไม้สีเขียวนี้มารอบหนึ่งแล้ว สวยจริง เมืองนี้ รถน้อยมากส่วนมากมีแต่เดิน และขี่จักรยาน ให้บริการหลายที่ใช้การเช่าผ่านแอ๊ป
17.00 เรามาถึง ห้าง clarke quay central เราได้เดินเข้าเพื่อตากแอร์และพักขาแป๊บ เราต้องอยู่ยันดึกวันนี้ และโชค์ดีที่มีร้านกระเป๋าที่ต้องการ คือร้าน charles & keith จัดเลย 3 ใบ เขาว่าถูก แต่ความโชคร้านเราต้องถือยันกลับที่พัก กระเป๋ากล้องก็หนักสัก 6 กิโลและ 555 ทนๆๆ ซื้อเสร็จเรานั่งพักจนใกล้ค่ำเราคิดเมนูว่าจะทานอะไรดี น้องก็แนะนำร้านปู ที่นี่อร่อยมาแล้วต้องทานให้ได้
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น