ครั้งแรกเราฉีดฟิวเลอร์แทนการเสริมจมูก หลังจากนั้นสองปีเราได้ทำการเสริมจมูกพร้อมขูดฟิวเลอร์ในราคาโปรโมชั่น 16000 ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี จนครบหนึ่งปีปรากฏว่าจมูกเราเริ่มเอียง ประจวบกับเป็นช่วงที่อยากเสริมหน้าอกพอดี เราศึกษาข้อมูลตามเว็บไซต์และกลุ่มศัลยกรรมต่างๆ คลีนิคที่คนส่วนมากแนะนำและมีผู้ใช้บริการเยอะจะอยู่ที่กรุงเทพ จากการอ่านข้อมูลหลังการผ่าตัดจะต้องพักฟื้นวันสองวัน และต้องมีนัดตัดไหมหลังจากนั้นอีก เราอยู่จังหวัดเชียงใหม่เราว่ามันยุ่งยาก อยู่เชียงใหม่ยังมีคนไปรับส่งและมีคนดูแลหลังพักฟื้น เลยตัดสินใจหาคลีนิคที่เชียงใหม่ดีกว่า
เราอยากเสริมหน้าอกใต้รักแร้ เลยค้นหาข้อมูลดู มีคลีนิคหนึ่งที่เสริมนมใต้รักแร้โดยเฉพาะ เราเข้าไปนัดพบหมอ สุดท้ายเราตัดสินใจเสริมหน้าอกและทำจมูกพร้อมกัน เกริ่นมายาว ต่อจากนี้ จะเป็นเรื่องจมูกแล้วนะคะ
ราคาเสริมจมูก 75000 มีค่าซิลิโคนอเมริกา 45000 ค่าเสริมจมูกแบบ open 30000 ค่าแก้ฟรี หมอบอกว่าทำจมูก open มันดีสำหรับการแก้จมูกสำหรับคนที่มีปัญหามาก่อน และจมูกจะไม่กดทับลงมา ปัญหาเอียง เบี้ยวก็จะไม่มี
หลังจากเสริมจมูก ก็ได้เวลาตัดไหม วันที่ตัดไหม จมูกซ้ายเรามีก้อนเลือดติดหนามาก กว่าจะตัดไหมได้ใช้เวลาพอสมควรเพราะต้องเอาก้อนเลือดออกก่อนถึงจะตัดไหมได้ หลังจากตัดไหมก็จะมีเลือดซึมออกมานิดๆ ทุกเช้าที่ตื่นก็จะมีก้อนเลือดเล็กๆแข็งติดตรงปากแผลจมูกด้านซ้าย เป็นแบบนี้ปกติ เราก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเดี๋ยวคงหายเอง
เป็นแบบนี้จนถึงประมาณสองเดือนครึ่ง จู่ๆจมูกก็บวมขึ้นมา บวมจนต้องนัดพบหมอนอกจากตรวจตามนัดปกติ พอไปหาหมอ หมอก็บอกไม่เป็นไรเดี๋ยวก็หาย แต่ให้ระวังเรื่องการกินอาหาร เราก็ด้วยความที่เชื่อมั่นหมอ เพราะหมอดูเป็นคนให้ความสำคัญกับรายละเอียดกับลูกค้าเสมอ เราเลยไม่คิดอะไร
พอได้ประมาณสามเดือนอาการก็เป็นหนักขึ้น บวมๆยุบๆ เริ่มมีหนองไหลออกมาผสมกับเลือดและไหลออกมากกว่าเดิม น้องสาวบอกอาการแบบนี้ไม่ปกตินะ มันอาจเป็นอาการติดเชื้อ เราก็ใจคอไม่ดี เปิดหาข้อมูลในเน็ตแล้วขอนัดพบหมอ ถ้าเป็นจริงจะได้รีบเอาออก เพราะเราอยู่ในช่วงรอวีซ่าแต่งงานไปต่างประเทศ พอเราพบหมอ หมอบอกว่า มันเป็นอาการปกติ เดี๋ยวก็หาย หนองที่เราว่า ที่มันไหลออกมา หมอบอกว่าเป็นฟิวเลอร์ที่เราเคยฉีดไหลออกมา ร่างกายมันขับออกมา เดี๋ยวก็หาย บางคนก็เป็นแบบนี้ เราถามต้องกินยาไหม หมอก็บอกปกติไม่ต้องกิน แค่ระวังเรื่องกิน เราก็เชื่อหมอแบบงงๆ ทำตาปริบๆ
คราวนี้วีซ่าเราผ่าน เราก็ย้ายมาอยู่ต่างประเทศ อาการเราไม่ดีขึ้นเหมือนที่หมอบอกเลย เราต้องทรมาณกับอาการที่หนักขึ้น หนักขึ้น จมูกบวมทุกเช้า เราต้องคอยรูดจมูกเพื่อให้หนองไหลออก จมูกจะได้ยุบ จะได้ใช้ชีวิตได้ตามปกติ พอพิมพ์แชทกับทางคลีนิคก็บอกว่าต้องเข้ามาตรวจอย่างเดียว
รู้ไหมมันทรมานใจที่สุดยังไง
1. ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับไทย ราคาประมาณ 40000 บาท ยิ่งถ้าไม่สามารถกำหนดระยะเวลากลับได้ ราคาตั๋วจะเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ
2. คนที่แต่งงานมาอยู่ใหม่ ต้องเรียนภาษาเขาตามหลักสูตรที่กำหนด ใจห่วงเรียน สุขภาพจมูกก็ย่ำแย่ลงทุกวัน
3. ที่นี้ไม่มีคลีนิคหรือโรงพยาบาลที่สามารถเดินเข้าออกได้ตามใจเหมือนที่ไทย พลเมืองที่นี้หนึ่งคนจะมีหมอประจำตัวหนึ่งคน และไม่สามารถเดินเข้าไปหาได้เลยต้องทำการนัดก่อนเท่านั้น อาจจะได้คิววันพรุ่งนี้ อีกอาทิตย์ หรือนานกว่านั้นก็ได้ พลเมืองที่นี้ถ้าอยากซื้อยา แม้แต่ยาคุม ต้องผ่านหมอประจำตัวก่อนเท่านั้น หมอลงแจ้งใบสั่งยาในระบบ ถึงจะไปซื้อยาร้านขายยาได้ โดยร้านขายยาจะจ่ายยาตามใบสั่งยาในระบบเท่านั้น เราไปนัดพบหมอประจำตัวประมาณเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แจ้งอาการให้หมอฟัง หมอบอกว่าจมูกเราอาจได้ถอดออก หมอจะส่งต่อให้หมอจมูกอีกทีเพราะหมอประจำตัวเป็นหมอที่ตรวจอาการเบื้องต้นเท่านั้น ถ้าเป็นเฉพาะด้านหรือร้ายแรงจะส่งต่ออีกที แต่คิวอาจจะนานหน่อย ที่นี้รักษาหรือส่งตัวตามอาการ
ในที่สุดสิ้นเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา จมูกเริ่มแดง มีสีม่วงช้ำ ใบเรียกตัวจากหมอจมูกในกล่องจดหมายก็ไม่ได้ ในอีเมลล์ก็ไม่ได้รับ จนตัดสินใจนัดคลีนิคเอกชนด้านจมูก ได้คิวพบหมอเกือบสามอาทิตย์ พอพบหมอ สรุป จมูกติดเชื้อร้ายแรงค่าาาา อาการร้ายแรงแบบนี้ ระบบที่นี้เขาเชื่อมต่อกัน เข้าพบหมอประจำตัวต่อทันที พร้อมส่งตัวต่อเข้าโรงพยาบาลทันทีเช่นกัน วันเดียวรวดเร็วแบบที่คนที่นี้ยังไม่เคยได้เจอ555(จะดีใจดีไหมหนอ) สองวันได้คิวผ่าเอาจมูกออก
ประเด็นหลักเลยของเรื่องราวทั้งหมด infeksjonen อาการของเราคือ การติดเชื้อค่ะ แต่หมอเสริมจมูกให้เราบอกว่าเป็นอาการปกติเดี๋ยวก็หายเอง คุณมาเป็นหมอศัลยกรรมคุณไม่รู้จริงๆหรือว่า อาการเริ่มต้นของเราเริ่มแรกเป็นอาการจมูกติดเชื้อ จนเราต้องมาเผชิญชะตากรรมสุดวิบากที่เมืองนอก แทนที่จะแก้ไข้หรือถอดออกตั้งแต่อยู่ที่ไทย
ส่วนจะโยนความผิดให้อาหาร หรือฟิวเลอร์ก็คงไม่ได้ ขอใช้ข้อความแทนการอธิบายหล่ะกันนะคะ
ท้ายที่สุดถ้าทางคลีนิคขอโทษเรากับกรณีที่เกิดขึ้นคงจะไม่มีกระทู้นี้เกิดขึ้น ตอนนี้ผ่านมาสามอาทิตย์หลังจากผ่าตัดจากโรงพยาบาล ไม่มีแม้แต่คำขอโทษหรือคำอธิบายใดๆเลยจากหมอ แม้เราจะได้รับการผ่าตัดซิลิโคนออก จากการวินิจฉัยว่าจมูกติดเชื้อจากโรงพยาบาลประจำจังหวัดของประเทศที่เราอยู่
ขอโทษด้วยนะคะถ้าพิมพ์อะไรผิดพลาด เพราะพิมพ์จากมือถือ และเวลาอาจคลาดเคลื่อนนิดหน่อยเพราะระยะเวลาทั้งหมดหนึ่งปี อาจจะลืมเวลาที่แน่นอนไปบ้างค่ะ
ประสบการณ์กับการเสริมจมูก 75000 (อย่าคิดว่าทำศัลยกรรมแพงแล้วทุกอย่างจะดีดังใจฝัน)
เราอยากเสริมหน้าอกใต้รักแร้ เลยค้นหาข้อมูลดู มีคลีนิคหนึ่งที่เสริมนมใต้รักแร้โดยเฉพาะ เราเข้าไปนัดพบหมอ สุดท้ายเราตัดสินใจเสริมหน้าอกและทำจมูกพร้อมกัน เกริ่นมายาว ต่อจากนี้ จะเป็นเรื่องจมูกแล้วนะคะ
ราคาเสริมจมูก 75000 มีค่าซิลิโคนอเมริกา 45000 ค่าเสริมจมูกแบบ open 30000 ค่าแก้ฟรี หมอบอกว่าทำจมูก open มันดีสำหรับการแก้จมูกสำหรับคนที่มีปัญหามาก่อน และจมูกจะไม่กดทับลงมา ปัญหาเอียง เบี้ยวก็จะไม่มี
หลังจากเสริมจมูก ก็ได้เวลาตัดไหม วันที่ตัดไหม จมูกซ้ายเรามีก้อนเลือดติดหนามาก กว่าจะตัดไหมได้ใช้เวลาพอสมควรเพราะต้องเอาก้อนเลือดออกก่อนถึงจะตัดไหมได้ หลังจากตัดไหมก็จะมีเลือดซึมออกมานิดๆ ทุกเช้าที่ตื่นก็จะมีก้อนเลือดเล็กๆแข็งติดตรงปากแผลจมูกด้านซ้าย เป็นแบบนี้ปกติ เราก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเดี๋ยวคงหายเอง
เป็นแบบนี้จนถึงประมาณสองเดือนครึ่ง จู่ๆจมูกก็บวมขึ้นมา บวมจนต้องนัดพบหมอนอกจากตรวจตามนัดปกติ พอไปหาหมอ หมอก็บอกไม่เป็นไรเดี๋ยวก็หาย แต่ให้ระวังเรื่องการกินอาหาร เราก็ด้วยความที่เชื่อมั่นหมอ เพราะหมอดูเป็นคนให้ความสำคัญกับรายละเอียดกับลูกค้าเสมอ เราเลยไม่คิดอะไร
พอได้ประมาณสามเดือนอาการก็เป็นหนักขึ้น บวมๆยุบๆ เริ่มมีหนองไหลออกมาผสมกับเลือดและไหลออกมากกว่าเดิม น้องสาวบอกอาการแบบนี้ไม่ปกตินะ มันอาจเป็นอาการติดเชื้อ เราก็ใจคอไม่ดี เปิดหาข้อมูลในเน็ตแล้วขอนัดพบหมอ ถ้าเป็นจริงจะได้รีบเอาออก เพราะเราอยู่ในช่วงรอวีซ่าแต่งงานไปต่างประเทศ พอเราพบหมอ หมอบอกว่า มันเป็นอาการปกติ เดี๋ยวก็หาย หนองที่เราว่า ที่มันไหลออกมา หมอบอกว่าเป็นฟิวเลอร์ที่เราเคยฉีดไหลออกมา ร่างกายมันขับออกมา เดี๋ยวก็หาย บางคนก็เป็นแบบนี้ เราถามต้องกินยาไหม หมอก็บอกปกติไม่ต้องกิน แค่ระวังเรื่องกิน เราก็เชื่อหมอแบบงงๆ ทำตาปริบๆ
คราวนี้วีซ่าเราผ่าน เราก็ย้ายมาอยู่ต่างประเทศ อาการเราไม่ดีขึ้นเหมือนที่หมอบอกเลย เราต้องทรมาณกับอาการที่หนักขึ้น หนักขึ้น จมูกบวมทุกเช้า เราต้องคอยรูดจมูกเพื่อให้หนองไหลออก จมูกจะได้ยุบ จะได้ใช้ชีวิตได้ตามปกติ พอพิมพ์แชทกับทางคลีนิคก็บอกว่าต้องเข้ามาตรวจอย่างเดียว
รู้ไหมมันทรมานใจที่สุดยังไง
1. ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับไทย ราคาประมาณ 40000 บาท ยิ่งถ้าไม่สามารถกำหนดระยะเวลากลับได้ ราคาตั๋วจะเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ
2. คนที่แต่งงานมาอยู่ใหม่ ต้องเรียนภาษาเขาตามหลักสูตรที่กำหนด ใจห่วงเรียน สุขภาพจมูกก็ย่ำแย่ลงทุกวัน
3. ที่นี้ไม่มีคลีนิคหรือโรงพยาบาลที่สามารถเดินเข้าออกได้ตามใจเหมือนที่ไทย พลเมืองที่นี้หนึ่งคนจะมีหมอประจำตัวหนึ่งคน และไม่สามารถเดินเข้าไปหาได้เลยต้องทำการนัดก่อนเท่านั้น อาจจะได้คิววันพรุ่งนี้ อีกอาทิตย์ หรือนานกว่านั้นก็ได้ พลเมืองที่นี้ถ้าอยากซื้อยา แม้แต่ยาคุม ต้องผ่านหมอประจำตัวก่อนเท่านั้น หมอลงแจ้งใบสั่งยาในระบบ ถึงจะไปซื้อยาร้านขายยาได้ โดยร้านขายยาจะจ่ายยาตามใบสั่งยาในระบบเท่านั้น เราไปนัดพบหมอประจำตัวประมาณเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แจ้งอาการให้หมอฟัง หมอบอกว่าจมูกเราอาจได้ถอดออก หมอจะส่งต่อให้หมอจมูกอีกทีเพราะหมอประจำตัวเป็นหมอที่ตรวจอาการเบื้องต้นเท่านั้น ถ้าเป็นเฉพาะด้านหรือร้ายแรงจะส่งต่ออีกที แต่คิวอาจจะนานหน่อย ที่นี้รักษาหรือส่งตัวตามอาการ
ในที่สุดสิ้นเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา จมูกเริ่มแดง มีสีม่วงช้ำ ใบเรียกตัวจากหมอจมูกในกล่องจดหมายก็ไม่ได้ ในอีเมลล์ก็ไม่ได้รับ จนตัดสินใจนัดคลีนิคเอกชนด้านจมูก ได้คิวพบหมอเกือบสามอาทิตย์ พอพบหมอ สรุป จมูกติดเชื้อร้ายแรงค่าาาา อาการร้ายแรงแบบนี้ ระบบที่นี้เขาเชื่อมต่อกัน เข้าพบหมอประจำตัวต่อทันที พร้อมส่งตัวต่อเข้าโรงพยาบาลทันทีเช่นกัน วันเดียวรวดเร็วแบบที่คนที่นี้ยังไม่เคยได้เจอ555(จะดีใจดีไหมหนอ) สองวันได้คิวผ่าเอาจมูกออก
ประเด็นหลักเลยของเรื่องราวทั้งหมด infeksjonen อาการของเราคือ การติดเชื้อค่ะ แต่หมอเสริมจมูกให้เราบอกว่าเป็นอาการปกติเดี๋ยวก็หายเอง คุณมาเป็นหมอศัลยกรรมคุณไม่รู้จริงๆหรือว่า อาการเริ่มต้นของเราเริ่มแรกเป็นอาการจมูกติดเชื้อ จนเราต้องมาเผชิญชะตากรรมสุดวิบากที่เมืองนอก แทนที่จะแก้ไข้หรือถอดออกตั้งแต่อยู่ที่ไทย
ส่วนจะโยนความผิดให้อาหาร หรือฟิวเลอร์ก็คงไม่ได้ ขอใช้ข้อความแทนการอธิบายหล่ะกันนะคะ
ท้ายที่สุดถ้าทางคลีนิคขอโทษเรากับกรณีที่เกิดขึ้นคงจะไม่มีกระทู้นี้เกิดขึ้น ตอนนี้ผ่านมาสามอาทิตย์หลังจากผ่าตัดจากโรงพยาบาล ไม่มีแม้แต่คำขอโทษหรือคำอธิบายใดๆเลยจากหมอ แม้เราจะได้รับการผ่าตัดซิลิโคนออก จากการวินิจฉัยว่าจมูกติดเชื้อจากโรงพยาบาลประจำจังหวัดของประเทศที่เราอยู่
ขอโทษด้วยนะคะถ้าพิมพ์อะไรผิดพลาด เพราะพิมพ์จากมือถือ และเวลาอาจคลาดเคลื่อนนิดหน่อยเพราะระยะเวลาทั้งหมดหนึ่งปี อาจจะลืมเวลาที่แน่นอนไปบ้างค่ะ