Slow Life Trip
BANGKOK – CHIANG MAI
1 – 3 SEPTEMBER 2018
ทริปนี้เป็นทริปในประเทศ ที่ไปแบบ Unplan เนื่องจากจุดประสงค์ในการมาเชียงใหม่ที่แท้จริง คือ การมาแก้บนที่หลวงพ่อทันใจ ให้กับคุณแม่ค่ะ แต่เนื่องจากคุณแม่ขี้เกียจมา ทำให้ จขกท. ไปชวนเพื่อนอีกคนให้มาเป็นเพื่อน ซึ่งตอนแรก ตั้งใจจะไปแค่ เสาร์ อาทิตย์ แต่เพื่อนบอก “ นี่ แก จะไปทั้งที ก็ไปให้มันเยอะหน่อย ได้ไหม หาอะไรแบบที่กรุงเทพไม่มีให้ด้วย “ เราก็เลย OK งั้นออกนอกเมืองไปอีกวันละกัน แต่ขอไปเป็น Slow life นะ ไม่ต้องรีบร้อนอะไรนะ ไปแบบ Slow Life สุด ๆ ๆ
ทริปนี้ เราใช้เงินในการเที่ยว กิน อยู่ 4,000 บาทค่ะ รวมทุกสิ่งอย่าง (คิดเฉพาะ ค่าพาหนะ , ค่ากิน , ค่าอยู่ , ค่าอาหาร ไม่รวมของฝาก ) เราไปแบบชิล ๆ อยากกิน อยากลองอะไร ทำเลยค่ะ
รูปที่ใช้ลง จะเป็นรูปที่ จขกท. และเพื่อน ที่ไปในทริป ร่วมกันถ่าย ถ้าอันไหน เป็นเกร็ดการเที่ยว จขกท. จะขอใช้รูปอินเตอร์เน็ตประกอบ โดยจะใส่ Cr. ไว้ค่ะ
เตรียมตัวก่อนไป
ผู้ร่วมทริป : มนุษย์เงินเดือน 2 คนค่ะ
ตั๋วขาไป : รถทัวร์ VIP นครพิงก์ ของสมบัติทัวร์ วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม คนละ 759 บาท
ตั๋วเครื่องบินขากลับ : เราจองของ Lion Air เพราะต้องการโหลดของ ใต้เครื่องฟรี โดยวันที่เราจัดไปทั้งทริปทั้งหมด ก็เกิดจากตั๋ว Lion Air นี่แหละค่ะ ถูกวันไหน ก็กลับวันนั้น คนละ 650 บาท ตามคอนเซป์ของ จขกท. “ไปตามตั๋ว”
การเดินทางในเชียงใหม่ : รถประจำทาง รถแดง รถเหลือง รถ Grab สุดแล้วแต่ อันไหนถูก ก็ไปอันนั้นค่ะ
โรงแรม : จองแบบเน้น Location ค่ะ มีห้องน้ำในตัว ซึ่งของดีและถูก มันมีนะเออ
ม่อนเหนือ โฮมสเตย์ และ ที่พักในเมือง
ว่าแล้ว ก็ไปกันเลยยยยยยยยยยยยยยย
Day 1 จขกท. เดินทางออกจาก BKK โดยใช้บริการรถทัวร์ เวียงพิงค์บัส ของสมบัติทัวร์ รอบ 19.45 น. ที่หมอชิตค่ะ
ที่ จขกท. เลือกอันนี้ เพราะอยากจะลองนั่ง รถทัวร์ VIP ดู ว่าจะเป็นยังไงบ้าง ดูจากกระทู้ที่เขารีวิว เออ มันน่าไปดีแหะ
รถทัวร์ เริ่มออกเดินทางแล้วค่ะ รถเวียงค์พิงค์ บัส เป็นแบบ VIP คือมีแค่ 20 ที่นั่ง / คัน และเบาะนั่งเป็นเบาะรังไหม ที่เป็นที่นั่งเดี่ยว ทีได้รับแจก จะมีขนมปัง 2 ชิ้น และ น้ำดื่ม 1 ขวด มีผ้าห่มและที่รองคอให้ค่ะ ส่วนแอร์ เย็นสุด ๆ ไปเลยจ้า เป็นสิ่งแรก ที่จขกท. ปิด เพราะมันแรงเกินไป 555555
อีกสิ่ง ที่ จขกท. ประทับใจ คือจอทีวีค่ะ มีให้ดีระดับหนึ่งเลย มีละคร มีหนัง เกมส์โชว์ เรียกว่าเจาะตลาทุกกลุ่ม ประหนึ่งเหมือนมาขึ้นเครื่องบิน ซึ่ง จขกท. ว่ามันดีนะ ที่รถทัวร์ เพิ่มลูกเล่น Value ให้การนั่งรถทัวร์ ไม่น่าเบื่อ จขกท. ก็ดูฉลาดเกมส์โกง จบไปรอบหนึ่ง หลังจากนั้น ก็หลับ ๆ อาการรถเหวี่ยงอะไรก็ไม่มี แต่ถ้าใครที่ขายาว ก็อาจจะนั่งเหนื่อยซักหน่อยเพราะที่วางขา มานแคบ
ดูหนังจบไปเรื่องหนึ่ง เริ่มง่วงนอน ปิดจอ แล้วหลับไม่รู้ตัว
และแล้ว เราถูกปลุก !!! ด้วยข้าวต้มระหว่างทาง ที่คิวรถทัวร์ ที่จ.กำแพงเพชร ตอนเวลาเที่ยงคืน
อันนี้ ก็ถือว่าเป็นไฮไลท์ ที่ จขกท. อยากลองดู จากสมัยเด็ก เคยนั่ง คือมานดีนะ ข้าวต้มอร่อยมากกกกก ค่า
เขาให้เวลาในการพักผ่อน 30 นาทีนะค่ะ แล้วขึ้นรถบัสต่อ
เมนูที่เขามี จะประมานข้างนี้ค่ะ
หลังจากขึ้นรถมา จขกท. ก็หลับไปตลอดทาง รู้แค่ว่าฝนตกหนักมาก
และแล้ว เราก็มาถึงเชียงใหม่ ในเวลา 5.30 น. ค่ะ มาแบบ งง ๆ ก็เข้าไปล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อ และเราก็จะไปต่อที่แรก คือดอยสุเทพ ที่เราคิดว่า เช้าแค่ไหนก็เปิดแน่นอน
Cr.
https://www.busonlineticket.co.th/th/bus-terminal_th/chiang-mai-bus-terminal
เราเดินออกมาที่ด้านหน้าของอาเขตค่ะ ระหว่างนี้ รถแดง แท็กซี่ อะไรมาก็ใจแข็ง อย่าพึ่งตัดสินใจไปนะค่ะ
ตอนแรก จขกท. ตัดสินใจว่าจะนั่งรถ B1 ที่ราคา 15 บาท ไปสวนสัตว์เชียงใหม่ แต่แล้ว ก็มีรถบัสคันที่ฟ้า มาแทน พร้อมบอกผ่านนะจ๊ะ สวนสัตว์เชียงใหม่
เราก็เลยขึ้นไปก่อนค่ะ ค่อยไปว่ากันข้างหน้าอีกที
รถบัส สีฟ้า เชี่ยงใหม่ค่ะ พาเราเปิดวาร์ปมาถึงตรงคิวรถ ดอยสุเทพ ในราคาะคนละ 20 บาท
หลังจากนั้น เราก็นั่งรอ เพื่อที่จะขึ้นดอยสุเทพไปพร้อมกับคนอื่น ในราคาที่ถูกกว่า แต่เรานั่งรอ ซักพัก ก็มีคุณป้าที่ขับรถแดง เดินมาถาม ว่าจะไปไหนบ้างล่ะ จขกท. เลยบอกไปว่า จะไปขึ้นดอย แล้วจะไปคิวรถช้างเผือก คุณป้าเลย Offer ในราคาสุดพิเศษมาให้ อยู่ที่ 360 บาท ทั้งไปและ กลับ และไปส่งที่ท่ารถช้างเผือก ซึ่งเราก็โอเคค่ะ เพราะทั้งรถมีเรากันอยู่ 2 คน
ระหว่างทาง คุณป้าจอดให้ถ่ายรุป จุดชมวิวค่ะ สวยๆ อากาศสดชื่น สุด ๆ ค่ะ
วิวเมืองเชียงใหม่ ระหว่างขึ้นดอย
พระธาตุดอยสุเทพ ตอนเช้า อากาศดีมาก ไม่มีแดดเลยค่ะ รอบนี้ บอกเพื่อนว่า เดินขึ้นเอาละกันนะ เช้า ๆ อากาศดี
ทางขึ้นบันไดค่ะ ถ่ายรูประหว่างเดินก็สวยดีนะค่ะ
ไหว้พระ เอาฤกษ์ เอาชัยกันซะหน่อย
เสร็จจากการขึ้นดอยสุเทพ คุณป้าก็ขับรถพาเราไปที่คิวรถช้างเผือกค่ะ เพื่อนั่งรถเหลืองไปที่ม่อนเหนือโฮมสเตย์ค่ะ เวลาประมาน 10 โมงค่ะ
ข้อมูลของพี่ที่ม่อนเหนือ โฮมสเตย์ให้มาคือ เป็นสามแยกที่จะไปม่อนแจ่มเท่านั้น มี 7-11 อยู่ข้างหน้า
คุณป้ารถแดงก่อนหน้านี้ ก็บอกว่าเราต้องไปรถที่เขียนว่า วัดจันทร์นะ เห็นรถแล้ว เดินเข้าไปถาม คนขับรถ “ ผ่านจ๊ะ แต่รถออก 11 โมง นะ ไปกินข้าวก่อนนะ หนู ไม่ต้องรีบร้อน “ เราก็เลยจัดข้าวไปอีกคนละจาน ซื้อของที่ 7-11 ไว้นิดหน่อย
ใกล้จะ 11 โมง พร้อมออกเดินทาง แหะ ๆ
( จขกท. ทราบมาทีหลังว่า รถที่จะไป คือเขียนคำว่า สะเมิง คือ ไปได้ทุกคันค่ะ ไม่ต้องรอรถวัดจันทร์ ก็ได้ )
เดินทางด้วยรถเหลือง ค่ารถ คนละ 50 บาท สามแยกโป่งแย้ง
หลังจากลงจากรถแล้ว เราโทรเรียกโฮมสเตย์ให้มารับ ด้วยราคา 500 บาท ทั้งไป และกลับ จนถึงสามแยกโป่งแย้งเท่านั้น แวะพาไปม่อนแจ่ม 1 ครั้งแล้วแต่จะแจ้งเขา จขกท. ให้เขาพาไปตอนกลับค่ะ เพราะวันนี้แดดร้อนมากก
พามาถึง ม่อนเหนือ โฮมสเตย์แล้วค่ะ ทางเข้ามีความซับซ้อน ระยะทาง จากปากทางประมาน 8 KM ค่ะ
ขออธิบายเกี่ยวกับที่พัก ที่นี่ ซักนิดนึงค่ะ
จริง ๆ แล้ว จขกท. อยากจะไป ป่าโป่งเปียง ที่เขาว่ามันเป็นไฮไลท์ของการมาฤดูฝน ไปดูรวงข้าวเขียว ๆ แต่ที่พัก เต็ม ๆ ๆ ก็เลยต้องเปลี่ยนแผน ไปที่ไหนดี ให้มันรู้สึกฟิน เดินทางไม่ยากเกินไป จนมาเจอ ม่อนเหนือ โฮมสเตย์นี่แหละ ที่บรรยากาศดี Concept การตกแต่ง สถานที่ มีความ Slow Life เลยตัดสินใจ จองที่พัก ผ่าน FB อันนี้เลยค่ะ
ที่เรียกว่า ม่อนเหนือ โฮมสเตย์ เพราะเลยไปทางเหนื่อของม่อนแจ่มค่ะ
https://www.facebook.com/monnueahomestay/
จขกท. เลือกเป็นบ้านไม้ไผ่ ในราคาคืนละ 1,200 บาท รวมอาหารเช้า (ข้าวต้ม ) ไว้แล้ว
ราคาแต่ละเดือน จะไม่เท่ากันนะค่ะ แนะนำให้ลองคุยกันผ่าน FB ก่อนค่ะ เท่าที่ทราบคือหน้าหนาวเต็มไวมาก ๆ
ต้องจองล่วงหน้าค่ะ แม้แต่ช่วงที่ จขกท.จอง ก็เต็มเช่นกัน คืน ศุกร์ และ เสาร์ เต็มตลอด
บรรยากาศที่พักค่ะ นอนหลับเย็นสบาย
จ่ายหลักร้อย วิวหลักล้าน
ที่พัก เขาจะมีมุมถ่ายรูปให้ด้วยนะค่ะ
และไฮไลต์ที่นี่ อีกอย่างหนึ่ง คือ หมูกระทะบนดอยยยยยยยยยย มีความฟินระดับ 10 กิน 2 คน ในราคา 450 บาท
ถ้าใครต้องการอะไรเพิ่มเติม ก็สามารถแจ้งพนักงานได้เลยค่ะ จขกท. ก็ซื้อโค้ก กะน้ำแข็งเพิ่มค่ะ
ไฟแรงดีมากกกกก กินเป็นกระท่อมก็มี แต่ จขกท.กินที่ระเบียงเลยค่ะ กินไป คุยไป ชมวิวไป มานก็เพลินดี นะเออ
อีกอย่างหนึ่ง ที่จขกท. ชอบ คือ ระเบียงที่เปิดแบบนี้ เย็นธรรมชาติ และไม่มียุง มานไม่น่าเชื่อ แต่มานจริงค่ะ
[CR] [Review] +++ Slow Life Trip +++ ไปหน้าฝน แบบ คูล คูล @ Chiang Mai 3 วัน 2 คืน
BANGKOK – CHIANG MAI
1 – 3 SEPTEMBER 2018
ทริปนี้เป็นทริปในประเทศ ที่ไปแบบ Unplan เนื่องจากจุดประสงค์ในการมาเชียงใหม่ที่แท้จริง คือ การมาแก้บนที่หลวงพ่อทันใจ ให้กับคุณแม่ค่ะ แต่เนื่องจากคุณแม่ขี้เกียจมา ทำให้ จขกท. ไปชวนเพื่อนอีกคนให้มาเป็นเพื่อน ซึ่งตอนแรก ตั้งใจจะไปแค่ เสาร์ อาทิตย์ แต่เพื่อนบอก “ นี่ แก จะไปทั้งที ก็ไปให้มันเยอะหน่อย ได้ไหม หาอะไรแบบที่กรุงเทพไม่มีให้ด้วย “ เราก็เลย OK งั้นออกนอกเมืองไปอีกวันละกัน แต่ขอไปเป็น Slow life นะ ไม่ต้องรีบร้อนอะไรนะ ไปแบบ Slow Life สุด ๆ ๆ
ทริปนี้ เราใช้เงินในการเที่ยว กิน อยู่ 4,000 บาทค่ะ รวมทุกสิ่งอย่าง (คิดเฉพาะ ค่าพาหนะ , ค่ากิน , ค่าอยู่ , ค่าอาหาร ไม่รวมของฝาก ) เราไปแบบชิล ๆ อยากกิน อยากลองอะไร ทำเลยค่ะ
รูปที่ใช้ลง จะเป็นรูปที่ จขกท. และเพื่อน ที่ไปในทริป ร่วมกันถ่าย ถ้าอันไหน เป็นเกร็ดการเที่ยว จขกท. จะขอใช้รูปอินเตอร์เน็ตประกอบ โดยจะใส่ Cr. ไว้ค่ะ
เตรียมตัวก่อนไป
ผู้ร่วมทริป : มนุษย์เงินเดือน 2 คนค่ะ
ตั๋วขาไป : รถทัวร์ VIP นครพิงก์ ของสมบัติทัวร์ วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม คนละ 759 บาท
ตั๋วเครื่องบินขากลับ : เราจองของ Lion Air เพราะต้องการโหลดของ ใต้เครื่องฟรี โดยวันที่เราจัดไปทั้งทริปทั้งหมด ก็เกิดจากตั๋ว Lion Air นี่แหละค่ะ ถูกวันไหน ก็กลับวันนั้น คนละ 650 บาท ตามคอนเซป์ของ จขกท. “ไปตามตั๋ว”
การเดินทางในเชียงใหม่ : รถประจำทาง รถแดง รถเหลือง รถ Grab สุดแล้วแต่ อันไหนถูก ก็ไปอันนั้นค่ะ
โรงแรม : จองแบบเน้น Location ค่ะ มีห้องน้ำในตัว ซึ่งของดีและถูก มันมีนะเออ
ม่อนเหนือ โฮมสเตย์ และ ที่พักในเมือง
ว่าแล้ว ก็ไปกันเลยยยยยยยยยยยยยยย
Day 1 จขกท. เดินทางออกจาก BKK โดยใช้บริการรถทัวร์ เวียงพิงค์บัส ของสมบัติทัวร์ รอบ 19.45 น. ที่หมอชิตค่ะ
ที่ จขกท. เลือกอันนี้ เพราะอยากจะลองนั่ง รถทัวร์ VIP ดู ว่าจะเป็นยังไงบ้าง ดูจากกระทู้ที่เขารีวิว เออ มันน่าไปดีแหะ
รถทัวร์ เริ่มออกเดินทางแล้วค่ะ รถเวียงค์พิงค์ บัส เป็นแบบ VIP คือมีแค่ 20 ที่นั่ง / คัน และเบาะนั่งเป็นเบาะรังไหม ที่เป็นที่นั่งเดี่ยว ทีได้รับแจก จะมีขนมปัง 2 ชิ้น และ น้ำดื่ม 1 ขวด มีผ้าห่มและที่รองคอให้ค่ะ ส่วนแอร์ เย็นสุด ๆ ไปเลยจ้า เป็นสิ่งแรก ที่จขกท. ปิด เพราะมันแรงเกินไป 555555
อีกสิ่ง ที่ จขกท. ประทับใจ คือจอทีวีค่ะ มีให้ดีระดับหนึ่งเลย มีละคร มีหนัง เกมส์โชว์ เรียกว่าเจาะตลาทุกกลุ่ม ประหนึ่งเหมือนมาขึ้นเครื่องบิน ซึ่ง จขกท. ว่ามันดีนะ ที่รถทัวร์ เพิ่มลูกเล่น Value ให้การนั่งรถทัวร์ ไม่น่าเบื่อ จขกท. ก็ดูฉลาดเกมส์โกง จบไปรอบหนึ่ง หลังจากนั้น ก็หลับ ๆ อาการรถเหวี่ยงอะไรก็ไม่มี แต่ถ้าใครที่ขายาว ก็อาจจะนั่งเหนื่อยซักหน่อยเพราะที่วางขา มานแคบ
ดูหนังจบไปเรื่องหนึ่ง เริ่มง่วงนอน ปิดจอ แล้วหลับไม่รู้ตัว
และแล้ว เราถูกปลุก !!! ด้วยข้าวต้มระหว่างทาง ที่คิวรถทัวร์ ที่จ.กำแพงเพชร ตอนเวลาเที่ยงคืน
อันนี้ ก็ถือว่าเป็นไฮไลท์ ที่ จขกท. อยากลองดู จากสมัยเด็ก เคยนั่ง คือมานดีนะ ข้าวต้มอร่อยมากกกกก ค่า
เขาให้เวลาในการพักผ่อน 30 นาทีนะค่ะ แล้วขึ้นรถบัสต่อ
เมนูที่เขามี จะประมานข้างนี้ค่ะ
หลังจากขึ้นรถมา จขกท. ก็หลับไปตลอดทาง รู้แค่ว่าฝนตกหนักมาก
และแล้ว เราก็มาถึงเชียงใหม่ ในเวลา 5.30 น. ค่ะ มาแบบ งง ๆ ก็เข้าไปล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อ และเราก็จะไปต่อที่แรก คือดอยสุเทพ ที่เราคิดว่า เช้าแค่ไหนก็เปิดแน่นอน
Cr. https://www.busonlineticket.co.th/th/bus-terminal_th/chiang-mai-bus-terminal
เราเดินออกมาที่ด้านหน้าของอาเขตค่ะ ระหว่างนี้ รถแดง แท็กซี่ อะไรมาก็ใจแข็ง อย่าพึ่งตัดสินใจไปนะค่ะ
ตอนแรก จขกท. ตัดสินใจว่าจะนั่งรถ B1 ที่ราคา 15 บาท ไปสวนสัตว์เชียงใหม่ แต่แล้ว ก็มีรถบัสคันที่ฟ้า มาแทน พร้อมบอกผ่านนะจ๊ะ สวนสัตว์เชียงใหม่
เราก็เลยขึ้นไปก่อนค่ะ ค่อยไปว่ากันข้างหน้าอีกที
รถบัส สีฟ้า เชี่ยงใหม่ค่ะ พาเราเปิดวาร์ปมาถึงตรงคิวรถ ดอยสุเทพ ในราคาะคนละ 20 บาท
หลังจากนั้น เราก็นั่งรอ เพื่อที่จะขึ้นดอยสุเทพไปพร้อมกับคนอื่น ในราคาที่ถูกกว่า แต่เรานั่งรอ ซักพัก ก็มีคุณป้าที่ขับรถแดง เดินมาถาม ว่าจะไปไหนบ้างล่ะ จขกท. เลยบอกไปว่า จะไปขึ้นดอย แล้วจะไปคิวรถช้างเผือก คุณป้าเลย Offer ในราคาสุดพิเศษมาให้ อยู่ที่ 360 บาท ทั้งไปและ กลับ และไปส่งที่ท่ารถช้างเผือก ซึ่งเราก็โอเคค่ะ เพราะทั้งรถมีเรากันอยู่ 2 คน
ระหว่างทาง คุณป้าจอดให้ถ่ายรุป จุดชมวิวค่ะ สวยๆ อากาศสดชื่น สุด ๆ ค่ะ
วิวเมืองเชียงใหม่ ระหว่างขึ้นดอย
พระธาตุดอยสุเทพ ตอนเช้า อากาศดีมาก ไม่มีแดดเลยค่ะ รอบนี้ บอกเพื่อนว่า เดินขึ้นเอาละกันนะ เช้า ๆ อากาศดี
ทางขึ้นบันไดค่ะ ถ่ายรูประหว่างเดินก็สวยดีนะค่ะ
ไหว้พระ เอาฤกษ์ เอาชัยกันซะหน่อย
เสร็จจากการขึ้นดอยสุเทพ คุณป้าก็ขับรถพาเราไปที่คิวรถช้างเผือกค่ะ เพื่อนั่งรถเหลืองไปที่ม่อนเหนือโฮมสเตย์ค่ะ เวลาประมาน 10 โมงค่ะ
ข้อมูลของพี่ที่ม่อนเหนือ โฮมสเตย์ให้มาคือ เป็นสามแยกที่จะไปม่อนแจ่มเท่านั้น มี 7-11 อยู่ข้างหน้า
คุณป้ารถแดงก่อนหน้านี้ ก็บอกว่าเราต้องไปรถที่เขียนว่า วัดจันทร์นะ เห็นรถแล้ว เดินเข้าไปถาม คนขับรถ “ ผ่านจ๊ะ แต่รถออก 11 โมง นะ ไปกินข้าวก่อนนะ หนู ไม่ต้องรีบร้อน “ เราก็เลยจัดข้าวไปอีกคนละจาน ซื้อของที่ 7-11 ไว้นิดหน่อย
ใกล้จะ 11 โมง พร้อมออกเดินทาง แหะ ๆ
( จขกท. ทราบมาทีหลังว่า รถที่จะไป คือเขียนคำว่า สะเมิง คือ ไปได้ทุกคันค่ะ ไม่ต้องรอรถวัดจันทร์ ก็ได้ )
เดินทางด้วยรถเหลือง ค่ารถ คนละ 50 บาท สามแยกโป่งแย้ง
หลังจากลงจากรถแล้ว เราโทรเรียกโฮมสเตย์ให้มารับ ด้วยราคา 500 บาท ทั้งไป และกลับ จนถึงสามแยกโป่งแย้งเท่านั้น แวะพาไปม่อนแจ่ม 1 ครั้งแล้วแต่จะแจ้งเขา จขกท. ให้เขาพาไปตอนกลับค่ะ เพราะวันนี้แดดร้อนมากก
พามาถึง ม่อนเหนือ โฮมสเตย์แล้วค่ะ ทางเข้ามีความซับซ้อน ระยะทาง จากปากทางประมาน 8 KM ค่ะ
ขออธิบายเกี่ยวกับที่พัก ที่นี่ ซักนิดนึงค่ะ
จริง ๆ แล้ว จขกท. อยากจะไป ป่าโป่งเปียง ที่เขาว่ามันเป็นไฮไลท์ของการมาฤดูฝน ไปดูรวงข้าวเขียว ๆ แต่ที่พัก เต็ม ๆ ๆ ก็เลยต้องเปลี่ยนแผน ไปที่ไหนดี ให้มันรู้สึกฟิน เดินทางไม่ยากเกินไป จนมาเจอ ม่อนเหนือ โฮมสเตย์นี่แหละ ที่บรรยากาศดี Concept การตกแต่ง สถานที่ มีความ Slow Life เลยตัดสินใจ จองที่พัก ผ่าน FB อันนี้เลยค่ะ
ที่เรียกว่า ม่อนเหนือ โฮมสเตย์ เพราะเลยไปทางเหนื่อของม่อนแจ่มค่ะ
https://www.facebook.com/monnueahomestay/
จขกท. เลือกเป็นบ้านไม้ไผ่ ในราคาคืนละ 1,200 บาท รวมอาหารเช้า (ข้าวต้ม ) ไว้แล้ว
ราคาแต่ละเดือน จะไม่เท่ากันนะค่ะ แนะนำให้ลองคุยกันผ่าน FB ก่อนค่ะ เท่าที่ทราบคือหน้าหนาวเต็มไวมาก ๆ
ต้องจองล่วงหน้าค่ะ แม้แต่ช่วงที่ จขกท.จอง ก็เต็มเช่นกัน คืน ศุกร์ และ เสาร์ เต็มตลอด
บรรยากาศที่พักค่ะ นอนหลับเย็นสบาย
จ่ายหลักร้อย วิวหลักล้าน
ที่พัก เขาจะมีมุมถ่ายรูปให้ด้วยนะค่ะ
และไฮไลต์ที่นี่ อีกอย่างหนึ่ง คือ หมูกระทะบนดอยยยยยยยยยย มีความฟินระดับ 10 กิน 2 คน ในราคา 450 บาท
ถ้าใครต้องการอะไรเพิ่มเติม ก็สามารถแจ้งพนักงานได้เลยค่ะ จขกท. ก็ซื้อโค้ก กะน้ำแข็งเพิ่มค่ะ
ไฟแรงดีมากกกกก กินเป็นกระท่อมก็มี แต่ จขกท.กินที่ระเบียงเลยค่ะ กินไป คุยไป ชมวิวไป มานก็เพลินดี นะเออ
อีกอย่างหนึ่ง ที่จขกท. ชอบ คือ ระเบียงที่เปิดแบบนี้ เย็นธรรมชาติ และไม่มียุง มานไม่น่าเชื่อ แต่มานจริงค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น