Battle Royale จากหนึ่งในตำนานหนังสุดโหด สู่เเนวเกมสุดฮิต


ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากระเเส Battle Royale ในโลกตอนนี้กำลังมาแรงมากๆ เรียกได้ว่าเป็นจุดสูงสุดของกระเเสเกมในตอนนี้เลย จุดเด่นของเกมเเนวนี้คือความสนุก ความระทึก ความหวาดระแวงในโลกที่ทุกคนจ้องเเต่จะประเคนความตายให้อีกฝ่ายอย่างไม่ลังเล เเต่วันนี้เราจะไม่พูดถึงเกม ผมจะพูดถึงหนัง...Battle Royale

ย้อนกลับไปสามสี่ปีก่อน โลกได้รู้จักกับ แคทนิส เอเวอร์ดีน สาวน้อยผู้มากับไฟ จากหนังชุด The Hunger Game ที่เล่นประเด็นเกมล่าชีวิตในพื้นที่จำกัด โดยกฏหลักๆคือ ต้องรอด ต้องอยู่เป็นคนสุดท้าย จุดเด่นของหนังเรื่องนี้นอกจากคอนเซ็ฟในด้านนี้เเล้วยังมีเรื่องการเมือง เเละเสรีภาพเข้ามาเกี่ยวด้วยทำให้ผลักดันหนังเรื่องนี้เข้าไปใจของผู้คนได้ไม่ยาก เเต่กระนั้น มันยังมีหนังอีกเรื่อง ที่เรียกได้ว่าเป็นต้นตำรับการล่าเเละฆ่าให้เหลือเป็นคนสุดท้ายที่ยิ้มโหดจนเป็นที่โจษจัน เเละหนังเรื่องนี้ยังโฟกัสไปที่เรื่องนี้เเบบเพียวๆ เรื่องนั้นคือ
Batoru Rowaiaru
หรือชื่อไทย เกมนรก โรงเรียนพันธุ์โหด เเต่บางคนอาจจะจำหนังเรื่องนี้ได้จากชื่อภาษาอังกฤษซึ่งนั่นก็ครอบคลุมความหมายของเรื่องใว้ทั้งหมดนั่นคือ Battle Royale นั่นเอง

Battle Royale เป็นภาพยนต์ญี่ปุ่นที่สร้างจากหนังสือในชื่อเดียวกัน ออกฉายครั้งเเรกในปี 2543
เนื้อเรื่องกล่าวถึงอนาคตอันใกล้ ประเทศยุ่นปี่เกิดภาวะล่มสลายทางเศรษฐกิจ ผู้คนนับสิบล้านไม่มีงานทำ เด็กๆไม่ได้รับการศึกษา เเละอีกมากมายที่เสียชีวิตจากการใช้ความรุ่นเเรงภายในโรงเรียน ไม่มีใครสามารถคุมนักเรียนนักเลงได้อีกต่อไป ซึ่งหากใครได้ดูล่ะก็ อาจจะอยากลุกไปตบเกรียนพวกเด็กเวรนี่เเบบเรียงตัวกันเลยทีเดียว คือยิ้ม ยิ้มจริง เด็กเถื่อนๆเเถวบ้านเรานี่กลายเป็นเด็กน่ารักมุ้งมิ้งไปเลย เเละจากจุดนั้นเองทำให้รัฐบาลตอบโต้ด้วยการใช้ เกม "Battle Royale" มากำราบเด็กเกรียนเหล่านี้ โดยเป้าหมายคือคืนความสุขให้กับผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนั่นเอง

หลักๆของเกมนี้คือ ทุกๆปีจะมีการคัดเลือกนักเรียนอายุราวๆ 15 ปีมา 1 ชั้นเรียน ก็ได้ราวๆ 40 กว่าคน จากนั้นก็พาไปปล่อยเกาะโดยออกอุบายว่าจะพาไปทัศนศึกษา
กติกาก็ง่ายๆ ทุกคนจะมีปลอกคอติดระเบิดที่ผู้ควบคุมสามารถกดระเบิดได้ทันที(นึกภาพเทพ slipknot ใน suicidé squad ได้) ทำให้ทุกคนต้องเล่นเกมนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตาม โดยในเกาะก็จะมีโซนอันตรายที่เปลี่ยนเเปลงไปตลอด ซึ่งนักเรียนทุกคนจะต้องเอาตัวรอดให้ได้ โดยมีเพียงถุงยังชีพเเละอาวุธที่สุดเเล้วเเต่บุญเเต่กรรมเท่านั้นว่าจะได้อะไร

เกมนี้มีระยะเวลาเล่นทั้งสิ้น 3 วัน เเละจะต้องเหลือเพียงคนสุดท้ายเท่านั้น ไม่อย่างนั้นก็ตายห่ายิ้มทั้งหมดนี่ล่ะ

ใครที่อินกับ The Hunger Game จัดเเละคิดว่าหนังช่างโหดร้ายเสียเหลือเกิน ผมว่าคุณไม่ต้องดิ้นรนหา BR มาดูหรอกครับ เพราะมันโหดร้ายกว่ากันเยอะ บีบคั้น เเละให้อารมณ์การดิ้นรนจริงๆ เนื้อหามันดูรุนเเรงซะจนผู้ใหญ่ในญี่ปุ่นหลายๆคนพยายามสั่งให้ยกเลิกการขายนิยายด้วยซ้ำ เเต่ก็เปล่าประโยชน์ หลังจากหนังเรื่องนี้เข้าฉายมันได้กลายเป็นหนึ่งในภาพยนต์ญี่ปุ่นที่ทำรายได้สูงสุดเลยทีเดียว

BR ให้ความรู้สึกบีบคั้นในอารมณ์อย่างมากในเเง่ของศิลธรรมของคนดู คุณอาจจะมองในต้นเรื่องว่าเด็กพวกนี้ยิ้มสมควรโดนเเล้ว เกรียนซะขนาดนี้ เเต่พอมาอยู่บนเกาะ บางคนก็เเสดงความอ่อนเเอออกมาอย่างน่าสมเพช บางคนน่าสงสาร หรืออะไรก็เเล้วเเต่ที่สุดเเล้วใจคุณเองก็จะตัดสินเองว่ามุมมองของคุณต่อโลกใบนี้มันเป็นยังไง
คุณอาจจะมองว่าเด็กเกรียนๆที่ก่อความเสียหาย หรือความรำคานกับคุณยิ้มรกโลกเสียจริงๆ ทั้งๆที่ลึกๆเเล้วเราก็ยังไม่ได้รู้จักตัวตนของพวกนี้เลยด้วยซ้ำ เเต่ถ้าบางคนมันเลวเเบบเลวจริงๆก็คนละเรื่องกันนะ เพราะยังไงโลกนี้มันก็ต้องมีคนทุกประเภทอยู่เเล้ว

ทีนี้มาคุยกันดีกว่า ถ้าหากคุณติดอยู่บนเกาะจริงๆ เเล้วต้องเล่นเกม BR เกมนี้จริงๆ คุณสามารถฆ่าเพื่อนร่วมห้องของคุณได้ลงคอไหม?
หรือถ้าไม่ฆ่า จะเอาตัวรอดยังไงดี คอมเม้นใว้ได้เลยครับ

สำหรับใครที่ชอบหรืออยากติดตาม ผมรบกวนฝากเพจ https://www.facebook.com/KewlEntertain ใว้ในอ้อมใจด้วยนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่