https://ppantip.com/topic/38072235

ข้อมูลที่ผมคิดว่าควรจะเน้นย้ำมี ดังนี้

1.กองทุนเงินหมดไม่ได้แปลว่าตลาดต้องลงนะครับ แต่เราต้องรู้เพื่อที่จะทำความเข้าใจกับตลาดได้

2.ในเดือนหน้าจะมี TFF เปิดขาย คาดว่าจะอยู่ในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ตุลาคม

https://www.ryt9.com/s/iq05/2885706

ซึ่งขนาด 4.5 หมื่นล้าน อาจจะทำให้เม็ดเงินส่วนหนึ่งไหลออกจากตลาดหุ้นเพื่อเข้าซื้อ TFF

3.ในปีนี้มี LTF ไหลเข้ามากสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีอื่นๆ

http://www.morningstarthailand.com/th/news/168881/%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2018.aspx/

เป็นจำนวนกว่า 8000 ล้าน ทำให้ในปลายปี อาจจะมีเงินเข้าไม่มากเท่าปีที่ผ่านๆมา

เมื่อเทียบกับปริมาณ LTF ที่มียอดสุทธิประมาณ 3 หมื่นล้านในทุกๆปี

สามารถคาดการณ์ได้ว่า ในช่วงเดือน 10-12 กองทุนจะได้เงินจากส่วนนี้มาอีกประมาณ 2 หมื่นล้าน

4.กองทุนเงินหมดนั้นไม่ได้หมายความว่าทางฝั่งกองทุนจะไม่มีเงินมาซื้อหุ้นอีกเลย

แต่หมายความว่าเค้าจะไม่สามารถเข้าซื้อต่อเนื่องเป็นหมื่นๆล้านได้ในช่วงระยะเวลาสั้น

5.ข้อนี้สำคัญที่สุด คือ ผมเชื่อว่าทางฝั่งต่างชาตินั้นรู้หน้าตักกองทุน เป็นผลให้การวางแผนขายของเค้านั้นมีประสิทธิภาพมาก

กล่าวคือขายออกมา 2 แสนล้าน แต่ตลาดลงไปแค่ 200 จุด พูดให้เห็นภาพคือ ทุกๆหมื่นล้านที่ทิ้งไปตลาดลงไปแค่ 10 จุด เท่านั้นเอง


ปล.กระทู้หน้าคงจะเป็นเรื่อง LTF หรือ Block trade นะครับ

ผมจะหยุดเรื่องหน้าตักของกองทุนไว้เท่านี้เพราะคิดว่าข้อมูลตรงนี้ครอบคลุมไปถึงสิ้นปีแล้ว