ขอกำลังใจในวันที่กำลังจะตัดสินใจเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวหน่อยค่ะ

ตั้งแต่เกิดมา วาดฝันไว้ว่าอยากมีครอบครัวที่แสนสุขและอบอุ่น
อยากเจอคนที่รักเรา เข้าใจกัน มีกันและกันเพียงคนเดียวเหมือนพ่อกับแม่เรา
พอถึงอายุนึงที่คิดว่าสมควรจะแต่งงานสร้างครอบครัวได้แล้วก็เลยแต่งงาน
ชีวิตรักก็ลุ่มๆดอนๆมาตลอด ไม่ใช่เพราะเรื่องมือที่3แต่กลับเป็นเรื่องทัศนคติในการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน
ก็พยายามอดทน พยายามปรับเข้าหากันเรื่อยมา ปล่อยวางบ้างบางที
จนท้องและคลอดลูกมาได้2เดือน(สามีเป็นคนอยากมี) ปัญหาเรื่องทัศนคติในการใช้ชีวิตก็กลับมาเป็นปัญหาใหญ่

เราลาเลี้ยงลูกตามสิทธิ์หลังคลอด3เดือน เราเสียสละไม่ออกไปเจอเพื่อน ไม่ออกไปมีสังคม
เพื่อนๆนัดเจอกันเราก็ไม่ไป อยู่บ้านก้มหน้าก้มตาเลี้ยงลูกเพราะอยากใช้เวลาอยู่กับลูกให้นานที่สุด
ลูกเติบโตขึ้นทุกวัน พัฒนาการเปลี่ยนไปทุกวัน
อีกอย่างเรามองว่าอดทนไม่กี่เดือนเดี๋ยวก็คงได้พาลูกออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก
ส่วนตอนนี้ไปไหนต้องผลัดกันออกไป เราจะมีออกไปห้างซื้อของบ้างไม่กี่ครั้งแต่ก็รีบไปรีบกลับตลอด ก็ต้องอดทน
ส่วนสามีก็ออกไปซื้อข้าวบ้าง ออกไปสังสรรค์กับที่ทำงานบ้าง ออกไปบ้านญาติบ้าง

กลับกลายเป็นว่า สามีมองว่าเราเป็นคนไม่มีสังคม ไม่มีใครคบ และไม่ได้ทำงานวันๆอยุ่บ้านเลี้ยงลูกอย่างเดียว
ส่วนเขาทั้งทำงานและกลับบ้านมาก็ต้องเลี้ยงลูก สามียังอยากออกไปมีสังคมอยู่ทั้งๆที่เรายังอดทนไม่ไปไหนเพราะอยากใกล้ชิดกับลูก
โดนมองว่าอยู่บ้านเลี้ยงลูกสบาย เขาสิทั้งออกไปทำงานทั้งเลี้ยงลูก

เวลาที่เราออกไปห้างเขาสามารถอยู่บ้านเลี้ยงลูกได้อันนี้เรายอมรับ
แต่ถ้าเขาจะออกไปข้างนอกเราไม่สามารถเลี้ยงลูกได้คนเดียวเลยจริงๆ
เพราะเราต้องปั๊มนมไปด้วยแล้วลูกก็เริ่มไม่ค่อยยอมนอนไม่เหมือนช่วงเดือนแรกที่พอกินนมปุ๊ปก็หลับปั๊ป
เขาก็เลยอยากออกไปหาเพื่อนพี่น้อง ในขณะที่เรามองว่าช่วยอดทนกับเราอีกนิดได้ไหม
อีกไม่นานหรอก ก็จะได้ออกไปไหนมาไหนด้วยกันแล้ว

สรุปว่า สาเหตุหลักๆที่คิดอยากจะเลิกคือ เขากับเราคิดไม่เหมือนกัน
เขายังอยากออกไปมีสังคมและมองว่าเขาก็อดทนมามากแล้ว
ในขณะที่เรายอมทิ้งสังคมเพราะลูกมาอันดับ1ในใจ
ทั้งๆที่สามีเป็นคนบอกเองว่าอยากมีลูกแท้ๆแต่ตัวเองกลับเสียสละไม่มากพอ
ส่วนเราไม่ได้อยากมี แต่พอมีแล้วก็ก้มหน้ายอมรับเลี้ยงลูกไป

เราไม่รุ้นะว่าปัญหานี้สำหรับคนอื่นอาจจะบอกว่ามันเล็กน้อย
แต่สำหรับเรากับสามีคือระหองระแหงกันเรื่องทัศนคติมาตลอด
ส่วนใครจะว่าว่ามาแต่งงานกันได้ยังไงไม่ได้ศึกษานิสัยใจคอกันหรือ
ขอบอกเลยว่าตอนนี่ก็ได้แต่โทษตัวเองค่ะว่าทำไมถึงเลือกเชื่อฟังหัวใจมากกว่าสมอง
ตอนนั้นหลงหนักมาก อยากแต่งงานก่อน30ด้วย และก็คิดว่าคงปรับจูนกันได้
แต่พอแต่งงานแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น เราถึงขนาดเป็นโรคซึมเศร้า คิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง
พยายามฝืน พยายามทน สงสารลูกด้วย สงสารตัวเองก็ด้วย
สงสารพ่อแม่เราด้วยที่ต้องมานั่งฟังพวกเราทะเลาะกัน

ณ วันนี้เรารู้สึกหมดใจไม่รู้เป็นเพราะฮอร์โมนหลังคลอดหรือเพราะหมดใจแล้วจริงๆ
สามีพูดอะไรก็ขัดหูไปเสียหมด  เลี้ยงลูกยังไงก็ไม่ถูกใจเรา
สามีก็คงเริ่มรู้สึกว่าไม่อยากทนอีกแล้วถึงกับพูดออกมาว่าเลือกทางผิด
ก็คงต้องถึงเวลาแยกย้ายกันไปมีชีวิตของตัวเองมั้งคะ ส่วนลูกเราก็จะเลี้ยงเอง

อยากขอกำลังใจค่ะ ความฝันที่อยากมีครอบครัวอบอุ่นกำลังจะพังทลาย
เราไม่ได้อยากเลือกทางเดินนี้ ไม่ได้อยากเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว
แต่เราก็ไม่รู้จะยื้อไว้ยังไงเพราะคนรอบๆตัวเราเค้าก็พลอยอึดอัดไปด้วยเวลาที่เราทะเลาะกัน

ตั้งกระทู้จากมือถือถ้ามีคำผิดต้องขอโทษด้วยนะคะ พยายามพิมพ์ไม่ให้ผิดแล้วค่ะแต่อาจจะมีพลาดบ้าง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่