พอดีบริษัทของน้าชาย (น้องของคุณพ่อผม) เขาเปิดบริษัทด้าน Graphic Design มาได้ 5 ปีโดยประมาณ
หลังๆมานี้ พนักงานประจำลาออกกันแทบจะ 4เดือนครั้ง บางเดือนออกแบบไม่บอกไม่กล่าว
บางคนพอผ่านโปรก็ออก อ้างว่าจะไปค้าขายเพราะน่าจะเหมาะกว่า
ไปขายไก่ทอด ข้าวแกง เปิดร้านอาหารกับญาติ บลาๆๆๆ
หนักสุดเดือนที่แล้วรับพนักงาน 2 คน พอผ่านโปรทำได้อีก2เดือนแจ้งลาออกทั้งสองคนพร้อม
ให้เหตุผลว่าะจะไปค้าขายกับเพื่อน และบอกว่าเงินเดือนสองหมื่นไม่พอใช้ไปค้าขายอาจจะได้มากกว่านี้
ไม่ชอบงานสายนี้ ลองทำแล้วไม่เวิร์ค รถติดทุกวัน ขี้เกียจ walk-in เข้าออฟฟิศทุกวัน รถติดเช้าและเย็น
เดี๋ยวนี้ทำไมลาออกกันเป็นเรื่องสนุกเลย คนค้าขายของกินของใช้ก็เยอะขึ้นเยอะมาก
เด็กจบใหม่พากันมาค้าขายกันเยอะมากและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปีอย่างน่าตกใจ
มองไปทางไหนก็มีแต่คนขายของกินของใช้ ซึ่งมองว่ามันจะเยอะกว่าคนซื้ออยู่แล้ว
สมัยนี้เป็นเด็กเจนวายกันเยอะ รักอิสระ ไม่ชอบถูกบังคับและใช้งาน ไม่สามารถทนแรงกดดันได้
ไม่ชอบหัวหน้าขี้บ่น ไม่ชอบความเรื่องมากของลูกค้า เบื่อเพื่อนร่วมงาน ไม่ชอบสภาวะแวดล้อมภายในองค์กร
ก็เลยหนีไปทำอาชีพอิสระซะเลย เป็นเจ้านายตัวเอง อยากหยุดก็หยุดอยากพักก็พัก
ความคิดของเด็กเจนวาย และเจนแซดจะเป็นแบบนี้ ซึ่งจริงเท็จผมไม่รู้ ไม่อยากพูดเพื่อเป็นการเข้าข้างใคร
ซึ่งส่วนตัวผมมองว่าคนเรามีสิทธิที่จะเลือกสิ่งดีๆให้กับตัวเองอยู่แล้วเรื่องแบบนี้ แต่จำนวนมันก็ไม่น่าจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ
และคาดว่าจะมีจำนวนสูงขึ้นทุกปี เพราะสื่อในสังคมออนไลน์มันมีอิทธิพลต่อเด็กมาก
โลกมันหมุนทุกวินาที เทคโนโลยีก็ก้าวกระโดดรวดเร็วเหลือเกิน ตามบ่ทันแล้วคุณครับ
อีกหน่อยคาดว่า ธุรกิจส่วนตัวเช่นค้าขายจะเฟ้อเพราะใครๆก็อยากทำ มองข้ามอาชีพที่อยู่ตามตึกคูหาและบริษัท
พากันแห่มาขายของกันเยอะขึ้น แย่งลูกค้ากันมากขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้การขนส่งสินค้ามันง่ายมาก ไม่ว่าจะทาง ems หรือ kerry
ส่วนตัวผมก็อยู่ในแวดวงมนุษย์เงินเดือนเหมือนกัน ทำงานอยู่ในรพ.เอกชน เจอคนมากมาย
เคยทำงานอยู่ รพ.รัฐแห่งหนึ่งก็ลาออกมารักษาประจำอยู่เอกชน เมื่อเทียบกับการรักษาคนไข้ต่อวันที่มากขึ้น
ทำงานหนักขึ้นมันไม่คุ้มและมีเวลาพักผ่อนน้อย เลิกงานห้าโมงก็ต้องไปตรวจต่อที่คลินิกอีกยาวจนถึงสองทุ่มบางวันสามทุ่ม
มันจึงทำให้สโคปตารางงานเยอะขึ้น ทำงานหนักขึ้น กลับบ้านสามทุ่มทุกวัน จะตายก่อนคนป่วย
ฝากเอาไว้นะครับ อยากได้ค่าตอบแทนเยอะ
ภาระหน้าที่ที่ได้รับก็จะเยอะตาม ไม่ว่าอาชีพไหน ไม่มีหรอกครับทำงานน้อยได้เงินเดือนเยอะ
โลกมันหมุนตลอดเราแต่เราไม่รู้ตัว เราต้องตามให้ทัน
ยอมเห็นแก่ตัวในบางเรื่องก็ดี เพื่อให้ครอบครัวและตัวเองนั้นอยู่รอดต่อไปครับ
ทำไมเดี๋ยวนี้เป็นแบบนี้ครับ ฟังมาแล้วก็อยากรู้เหมือนกัน
หลังๆมานี้ พนักงานประจำลาออกกันแทบจะ 4เดือนครั้ง บางเดือนออกแบบไม่บอกไม่กล่าว
บางคนพอผ่านโปรก็ออก อ้างว่าจะไปค้าขายเพราะน่าจะเหมาะกว่า
ไปขายไก่ทอด ข้าวแกง เปิดร้านอาหารกับญาติ บลาๆๆๆ
หนักสุดเดือนที่แล้วรับพนักงาน 2 คน พอผ่านโปรทำได้อีก2เดือนแจ้งลาออกทั้งสองคนพร้อม
ให้เหตุผลว่าะจะไปค้าขายกับเพื่อน และบอกว่าเงินเดือนสองหมื่นไม่พอใช้ไปค้าขายอาจจะได้มากกว่านี้
ไม่ชอบงานสายนี้ ลองทำแล้วไม่เวิร์ค รถติดทุกวัน ขี้เกียจ walk-in เข้าออฟฟิศทุกวัน รถติดเช้าและเย็น
เดี๋ยวนี้ทำไมลาออกกันเป็นเรื่องสนุกเลย คนค้าขายของกินของใช้ก็เยอะขึ้นเยอะมาก
เด็กจบใหม่พากันมาค้าขายกันเยอะมากและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปีอย่างน่าตกใจ
มองไปทางไหนก็มีแต่คนขายของกินของใช้ ซึ่งมองว่ามันจะเยอะกว่าคนซื้ออยู่แล้ว
สมัยนี้เป็นเด็กเจนวายกันเยอะ รักอิสระ ไม่ชอบถูกบังคับและใช้งาน ไม่สามารถทนแรงกดดันได้
ไม่ชอบหัวหน้าขี้บ่น ไม่ชอบความเรื่องมากของลูกค้า เบื่อเพื่อนร่วมงาน ไม่ชอบสภาวะแวดล้อมภายในองค์กร
ก็เลยหนีไปทำอาชีพอิสระซะเลย เป็นเจ้านายตัวเอง อยากหยุดก็หยุดอยากพักก็พัก
ความคิดของเด็กเจนวาย และเจนแซดจะเป็นแบบนี้ ซึ่งจริงเท็จผมไม่รู้ ไม่อยากพูดเพื่อเป็นการเข้าข้างใคร
ซึ่งส่วนตัวผมมองว่าคนเรามีสิทธิที่จะเลือกสิ่งดีๆให้กับตัวเองอยู่แล้วเรื่องแบบนี้ แต่จำนวนมันก็ไม่น่าจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ
และคาดว่าจะมีจำนวนสูงขึ้นทุกปี เพราะสื่อในสังคมออนไลน์มันมีอิทธิพลต่อเด็กมาก
โลกมันหมุนทุกวินาที เทคโนโลยีก็ก้าวกระโดดรวดเร็วเหลือเกิน ตามบ่ทันแล้วคุณครับ
อีกหน่อยคาดว่า ธุรกิจส่วนตัวเช่นค้าขายจะเฟ้อเพราะใครๆก็อยากทำ มองข้ามอาชีพที่อยู่ตามตึกคูหาและบริษัท
พากันแห่มาขายของกันเยอะขึ้น แย่งลูกค้ากันมากขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้การขนส่งสินค้ามันง่ายมาก ไม่ว่าจะทาง ems หรือ kerry
ส่วนตัวผมก็อยู่ในแวดวงมนุษย์เงินเดือนเหมือนกัน ทำงานอยู่ในรพ.เอกชน เจอคนมากมาย
เคยทำงานอยู่ รพ.รัฐแห่งหนึ่งก็ลาออกมารักษาประจำอยู่เอกชน เมื่อเทียบกับการรักษาคนไข้ต่อวันที่มากขึ้น
ทำงานหนักขึ้นมันไม่คุ้มและมีเวลาพักผ่อนน้อย เลิกงานห้าโมงก็ต้องไปตรวจต่อที่คลินิกอีกยาวจนถึงสองทุ่มบางวันสามทุ่ม
มันจึงทำให้สโคปตารางงานเยอะขึ้น ทำงานหนักขึ้น กลับบ้านสามทุ่มทุกวัน จะตายก่อนคนป่วย
ฝากเอาไว้นะครับ อยากได้ค่าตอบแทนเยอะ
ภาระหน้าที่ที่ได้รับก็จะเยอะตาม ไม่ว่าอาชีพไหน ไม่มีหรอกครับทำงานน้อยได้เงินเดือนเยอะ
โลกมันหมุนตลอดเราแต่เราไม่รู้ตัว เราต้องตามให้ทัน
ยอมเห็นแก่ตัวในบางเรื่องก็ดี เพื่อให้ครอบครัวและตัวเองนั้นอยู่รอดต่อไปครับ