****วิเคราะห์ ข้อหา ฉ้อโกงประชาชน คือ การหลอกลวงคนจำนวนมาก เผยแพร่ โฆษณา ป่าวประกาศออกไป ปากต่อปากไปแบบลูกโซ่ โดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงอันควรบอกให้แจ้ง อันมีเจตนาทุจริตวางแผนหลอกลวงผู้อื่นมาตั้งแต่ต้น เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินของผู้ถูกหลอกลวง******
นายพีท โพสต์ล็อตเตอรี่ปลอม 90 ล้าน ลงโซเชี่ยล (มีแต่ภาพถ่าย ไม่มีของกลาง ล็อตเตอรี่ปลอมพีทอ้างว่าทิ้งไปแล้ว คำรับผู้ต้องหาศาลไม่รับฟัง ข้อหา ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ถ้าพีทต่อสู้คดี มีโอกาสชนะสูงกว่า 90%) หลังจากนายพีท โพสต์ไปแล้วว่าแผงของตนมีคนถูกรางวัลที่ 1 ได้ 90 ล้านและตนเก็บล็อตเตอรี่ไว้ให้ลูกค้า แม้ลูกค้าจะโทรมาสั่งซื้อและยังไม่ได้จ่ายเงินค่าล้อตเตอรี่ก็ตาม อันทำให้ประชาชนรู้สึกซาบซึ้งและยกย่องนายพีท มีทั้งคนได้อ่านโพสต์หรือได้ยินข่าวแล้วก็อยู่เฉยๆ บางคนเข้าไปทักทายพูดคุยกับนายพีทในเฟสบุ้ค บางคนไปหาที่แผง ไปถ่ายรูปด้วย ไปอุดหนุนล็อตเตอรี่ ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าล้อตเตอรี่ เป็นอาชีพที่เสี่ยงอาชีพหนึ่งที่สินค้าจะเหลือ และไม่สามารถขายต่อได้ สินค้าอื่น ขายไม่หมดเก็บไว้ขายต่อได้ แต่สลากกินแบ่ง ยิ่งเหลือมากก็ขาดทุนมาก ซึ่งประชาชนทั่วไปไม่ค่อยจะรู้กันว่าพ่อค้าแม่ค้าล็อตเตอรี่ เป็นอาชีพที่น่าสงสาร บางคนเหลืองวดหนึ่งหลายร้อยใบ ทำให้เครียดหนี้สินพอกพูนหมุนเงินไม่ทัน เมื่อ "กระแส" พ่อค้าหวยผู้ซื่อสัตย์ แพร่สะพัดออกไป จึงเป็นเหตุเป็นผลให้แผงล็อตเตอรี่ของนายพีท มีผู้มาเยี่ยมเยีอนจำนวนมากและหมดในพริบตา ซึ่งตามปกติจะเหลือจำนวนมากให้ขาดทุนมาหลายงวด ผลของ "กระแส" ทำให้ "ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว" เจ้าหนี้นายพีท ได้รับการใช้หนี้กันไปหลายเจ้าทีเดียว อีกทั้ง นายพีท ได้รับเชิญไปออกรายการทีวี ได้รับค่าตัว และยังได้รับรางวัล "ป้ายรวย" จากซินแสชื่อดัง ที่เอามาให้เองถึงแผงหวย เมื่อได้วิเคราะห์ว่า เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ถ้าไม่ใช่นายพีทแต่เป็นวิญญูชนทั่วไป จะสามารถคาดการณ์ได้หรือไม่ การโพสต์ดังกล่าว จะทำให้เกิดกระแสทางสังคมขึ้น จนทำให้ยอดจำหน่ายล็อตเตอรี่ถล่มถลาย "โดยเจ้าพนักงานตำรวจถือเอาการซื้อขายล็อตเตอรี่เป็นส่วนหนึ่งของวิธีการกระทำผิดของผู้ต้องหาที่ทำให้ได้ทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง , โดยถือว่าเงินที่ได้มาจากการขายล็อตเตอรี่เป็นเงินที่ได้มาจากการฉ้อโกง" อันเป็นที่มาของข้อหา "ฉ้อโกงประชาชน" โดยกุเรื่องขึ้นเพื่อเพิ่มยอดขาย ขณะเดียวกันประชาชนผู้มาอุดหนุนได้ล็อตเตอรี่ซึ่งเป็นทรัพย์สินของนายพีทไป จะถือว่าเป็นการสมประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เป็นการซื้อขายแลกเปลี่ยนกันตามปกติได้หรือไม่ นายพีทจะผิดหรือไม่ ดังนั้น จึงขอความเห็นของท่านผู้รู้กฎหมาย ทั้ง อาจารย์ นักศึกษา ทนาย ตำรวจ อัยการ ผู้พิพากษา ผู้มีความรู้ทางนิติศาสตร์ มาแลกเปลี่ยนความเห็นกันครับ กับคำถามที่ว่า "
พีท) เป็นเหตุเป็นผลหรือไม่ที่ตั้งข้อหา "ฉ้อโกงประชาชน" โดยอ้างว่า เพราะกุเรื่องขึ้นเพื่อเพิ่มยอดขายสลากกินแบ่งรัฐบาล?
"พีท" เป็นเหตุเป็นผลหรือไม่ที่ตั้งข้อหา "ฉ้อโกงประชาชน" โดยอ้างว่า เพราะกุเรื่องขึ้นเพื่อเพิ่มยอดขายสลากกินแบ่ง?
นายพีท โพสต์ล็อตเตอรี่ปลอม 90 ล้าน ลงโซเชี่ยล (มีแต่ภาพถ่าย ไม่มีของกลาง ล็อตเตอรี่ปลอมพีทอ้างว่าทิ้งไปแล้ว คำรับผู้ต้องหาศาลไม่รับฟัง ข้อหา ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ถ้าพีทต่อสู้คดี มีโอกาสชนะสูงกว่า 90%) หลังจากนายพีท โพสต์ไปแล้วว่าแผงของตนมีคนถูกรางวัลที่ 1 ได้ 90 ล้านและตนเก็บล็อตเตอรี่ไว้ให้ลูกค้า แม้ลูกค้าจะโทรมาสั่งซื้อและยังไม่ได้จ่ายเงินค่าล้อตเตอรี่ก็ตาม อันทำให้ประชาชนรู้สึกซาบซึ้งและยกย่องนายพีท มีทั้งคนได้อ่านโพสต์หรือได้ยินข่าวแล้วก็อยู่เฉยๆ บางคนเข้าไปทักทายพูดคุยกับนายพีทในเฟสบุ้ค บางคนไปหาที่แผง ไปถ่ายรูปด้วย ไปอุดหนุนล็อตเตอรี่ ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าล้อตเตอรี่ เป็นอาชีพที่เสี่ยงอาชีพหนึ่งที่สินค้าจะเหลือ และไม่สามารถขายต่อได้ สินค้าอื่น ขายไม่หมดเก็บไว้ขายต่อได้ แต่สลากกินแบ่ง ยิ่งเหลือมากก็ขาดทุนมาก ซึ่งประชาชนทั่วไปไม่ค่อยจะรู้กันว่าพ่อค้าแม่ค้าล็อตเตอรี่ เป็นอาชีพที่น่าสงสาร บางคนเหลืองวดหนึ่งหลายร้อยใบ ทำให้เครียดหนี้สินพอกพูนหมุนเงินไม่ทัน เมื่อ "กระแส" พ่อค้าหวยผู้ซื่อสัตย์ แพร่สะพัดออกไป จึงเป็นเหตุเป็นผลให้แผงล็อตเตอรี่ของนายพีท มีผู้มาเยี่ยมเยีอนจำนวนมากและหมดในพริบตา ซึ่งตามปกติจะเหลือจำนวนมากให้ขาดทุนมาหลายงวด ผลของ "กระแส" ทำให้ "ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว" เจ้าหนี้นายพีท ได้รับการใช้หนี้กันไปหลายเจ้าทีเดียว อีกทั้ง นายพีท ได้รับเชิญไปออกรายการทีวี ได้รับค่าตัว และยังได้รับรางวัล "ป้ายรวย" จากซินแสชื่อดัง ที่เอามาให้เองถึงแผงหวย เมื่อได้วิเคราะห์ว่า เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ถ้าไม่ใช่นายพีทแต่เป็นวิญญูชนทั่วไป จะสามารถคาดการณ์ได้หรือไม่ การโพสต์ดังกล่าว จะทำให้เกิดกระแสทางสังคมขึ้น จนทำให้ยอดจำหน่ายล็อตเตอรี่ถล่มถลาย "โดยเจ้าพนักงานตำรวจถือเอาการซื้อขายล็อตเตอรี่เป็นส่วนหนึ่งของวิธีการกระทำผิดของผู้ต้องหาที่ทำให้ได้ทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง , โดยถือว่าเงินที่ได้มาจากการขายล็อตเตอรี่เป็นเงินที่ได้มาจากการฉ้อโกง" อันเป็นที่มาของข้อหา "ฉ้อโกงประชาชน" โดยกุเรื่องขึ้นเพื่อเพิ่มยอดขาย ขณะเดียวกันประชาชนผู้มาอุดหนุนได้ล็อตเตอรี่ซึ่งเป็นทรัพย์สินของนายพีทไป จะถือว่าเป็นการสมประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เป็นการซื้อขายแลกเปลี่ยนกันตามปกติได้หรือไม่ นายพีทจะผิดหรือไม่ ดังนั้น จึงขอความเห็นของท่านผู้รู้กฎหมาย ทั้ง อาจารย์ นักศึกษา ทนาย ตำรวจ อัยการ ผู้พิพากษา ผู้มีความรู้ทางนิติศาสตร์ มาแลกเปลี่ยนความเห็นกันครับ กับคำถามที่ว่า "