โดยทั่วไปไวน์แดงจะมีปริมาณ alcohol สูงกว่าไวน์ขาวก็จริง  แต่ทั้งสองชนิดจะมี alcohol สูงหรือต่ำขึ้นกับรสชาติของไวน์ด้วยว่าเป็นไวน์แดงหรือขาวชนิด sweet wine หรือ  rosé wines  ซึ่งจะมี alcohol ต่ำ  ไวน์ที่มี alcohol สูงคือรสชาติ  dry   นั่นหมายถึงว่าไวน์ยิ่งมีปริมาณน้ำตาลหลงเหลืออยู่มากเท่าไหร่ยิ่งมีปริมาณ alcohol ต่ำ

และไม่ต้องแปลกใจหรอกครับว่า  ถ้าดิ่มไวน์ปริมาณ  "มาก" เป็นประจำแล้ว   ไม่พ้นกลายเป็นคน "ติดแอลกอฮอล หรือn "alcoholic"  อย่างแน่นอน   ฉะนั้นเขาถึงมีข้อแนะนำทางวิชาการอยู่ว่า   ควรจะบริโภค alcohol ไม่เกินวันละกี่กรัม   ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเพศชายไม่ควรเกิน 30 กรัมต่อ 1 วัน  และ หญิงไม่เกิน 20 กรัมต่อวัน   หรือตีง่ายๆ กว่าชายไม่ควรดื่มไวน์มากกว่า 2 แก้ว  และ หญิง 1 แก้ว (หรือ 2 แก้ว) ต่อวัน

วิธีคำนวณหาน้ำหนัก alcohol เป็นกรัม ต่อปริมาตรใน 1 แก้วไวน์หาได้ในอินเตอร์เนททั่วไป  

ไวน์เปิดแล้วเมื่อดิ่มไม่หมดสามารถเก็บได้ในตู้เย็นนานระหว่าง 3-7 วัน   อายุของไวน์ที่เปิดขวดแล้วจะเก็บได้นานมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับ 1) ชนิดของไวน์ว่าขาวหรือแดง  2)  มีปริมาณเหลืออยู่ในขวดมากน้อยแค่ไหน  ยิ่งเหลือในขวดอยู่มากเท่าไหร่เท่ากับปริมาณของอากาศในขวดน้อย   ยิ่งมีอายุเก็บได้นานขึ้น   ยิ่งเหลือน้อยติดก้นขวดเท่าไหร่อายุไวน์จะเหลือแค่ข้ามคืนเท่านั้น   และ  3)  การปิดขวดที่เปิดแล้วได้สนิทมากน้อยแค่ไหน  ยิ่งปิดสนิทมากยิ่งมีอายุการเก็บมากขึ้น

มีผลการวิจัยผลกระทบทางสุขภาพของการดื่มไวน์มากมายที่ชี้ให้เห็นว่า   การดื่มไวน์วันละ 2 แก้วส่งผลต่อระบบการทำงานของระบบเลือดในหัวใจ  การลดไขมันให้ดีขึ้น  และแม้แต่ลดโอกาสการเป็นอัลไชเมอร์   มากกว่าคนที่  "ไม่เคย" ดิ่ม alchol เลย  ผลวิจัยยังระบุด้วยว่าผู้ที่ดื่มไวน์จะ intelligent มากกว่ากลุ่มคนที่ดื่มเบียร์และเหล้า

สรุปคือ  ดื่มไวน์ได้ในปริมาณที่เหมาะสม   ดื่มมากไปเป็น alcoholic หรือเพิ่มโอกาสเป็นอัลไซเมอร์    ไม่ดื่มเลยไม่ได้หมายความว่าสุขภาพดีกว่า