นราธิวาส!!!!!.....เสียงของแม่ที่ผ่านโทรศัพท์เข้ามายังหูชั้นนอก ผ่านหูชั้นกลาง ทะลุผ่านเส้นประสาทของสมองคู่ที่8 สืบเนื่องมาจากไม่ได้บอกแม่มาก่อนว่าจะไปเที่ยวที่ไหน....โดนสวดยับไป1ยก..พร้อมคำอวยพรต่างๆนาๆอีกกว่า15นาที จากนั้นนางก็รีบวางสายพร้อมบอกว่าจะไปเตรียมเก็บดอกไม้ ธูปเทียนไหว้เจ้าที่55..เนี่ยยยย..แม่ผมมมมมมมมมมม
              จังหวัดนราธิวาส อยู่ห่างจากเชียงใหม่ประมาณ 1836.8 กิโลเมตร(ผมกดเครื่องคิดเลข+เอาเอง) ผมเดินทางออกจากเชียงใหม่แต่เช้าเพื่อให้ทันเวลาต่อเครื่องที่สนามบินดอนเมืองกับชาวคณะ แต่ละท่านก็มาจากจังหวัดต่างๆที่ได้ตอบรับการเข้าร่วมโครงการ Amazing Thailand Unseal Local 2018 ซึ่งเป็นโครงการท่องเที่ยวแบบชุมชน กินนอนแบบบ้านๆ เรียนรู้ความเป็นอยู่ ศิลปะ วัฒนธรรมท้องถิ่น และประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจของแต่ละชุมชน..สำหรับครั้งนี้เราไปกันที่ หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 12 จ.นราธิวาส เป็นหมู่บ้านที่ชาวบ้านทั้งหมดคือผู้ที่เคยร่วมอุดมการณ์พรรคคอมมิวนิสต์มาลายา และได้ยุติการต่อสู้ด้วยอาวุธ สลายกองกำลังกลายเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย....สำหรับผม แค่ประวัติก็น่าตื่นเต้นแล้ว.
12.30 น
สนามบินนราธิวาสมีขนาดไม่ได้ใหญ่มาก  1วันจะมีเพียง 3 เที่ยวบินเท่านั้น สิ่งแรกที่เห็นและประทับใจเมื่อก้าวเท้าเข้าสู่อาคารผู้โดยสาร นั้นก็คือบรรดาเจ้าหน้าที่ในสนามบินมายืนรอต้อนรับพร้อมกล่าวคำทักทาย ให้ข้อมูลต่างๆ กับผู้มาเยือนอย่างเป็นกันเอง จากนั้นก็ขึ้นรถตู้ที่ได้จัดเตรียมใว้เพื่อออกเดินทางไปยังตัวจังหวัดนราธิวาส บรรยากาศสองข้างทาง เงียบ สงบ ผู้คนใช้ชีวิตแบบปกติ เรียบง่าย พร้อมแวะพักมื้อกลางวันกันที่ร้านสวนกล้วย เป็นร้านข้าวราดแกงแบบฉบับอาหารใต้ขนานแท้ มุ่งหน้าต่อไปที่ หาดนราทัศน์ ซึ่งผมเองก็เพิ่งมารู้ว่า...จังหวัดนี้มีทะเลด้วยยย รู้สึกผิดต่อคุณครูที่เคยสอนวิชาสังคมศึกษาตอนมัธยมต้นขึ้นมาทันที ต่อด้วยไหว้พระขอพรที่วัดเขากง เป็นพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล มีสีทองอร่ามปางปฐมเทศนาขัดสมาธิเพชรที่องค์ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ เนื่องจากไม่เคยเห็นปางนี้มาก่อน บวกกับพรุ่งนี้16กันยาด้วยแล้ว..คอหวยแบบผมไม่พลาด..55...และในวันนี้ผมก็ได้รู้แล้วว่า...ท่านไม่ได้ให้เลขเด็ดอะไรกับผมเลย...คือผมที่คิดไปเอง.(หมดไปเท่าไรขอไม่ตอบนะครับ555)




ไหว้พระเสร็จก็มุ่งหน้าเข้าสู่ หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา12 เป็นชุมชนที่อยู่ในโครงการของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ อยู่ท่ามกลางหุบเขา แม่น้ำ บรรยากาศเย็นสบาย เป็นที่พักของชุมชน รูปแบบเรียบง่าย มีกลิ่นอายความเป็นพื้นบ้าน ด้านหลังเป็นธารน้ำ เวลานอนก็จะได้ยินเสียงน้ำไหล เสียงร้องของกบ นก และเสียงร้องของแมลงต่างๆ ถือว่าได้อารมณ์อีกบรรยากาศ


สำหรับมื้อค่ำของวันนี้ แน่นอนว่าต้องมีน้ำพริก ทานเสร็จก็ออกไปเดินเล่น หาชื้อของใช้ที่จำเป็น ซึ่งมักจะลืมเกือบทุกครั้งเวลาออกเดินทาง
ไม่นึกเลยว่าจะเจอหมากฝรั่งในตำนานที่นี่...จำได้ว่า20กว่าปีก่อน เคยลิ้มรสไม้แขวนเสื้อจากแม่ เพราะแอบขโมยเงินไปชื้อเจ้าหมากฝรั่งนี้แจกเพื่อนๆ เข็ดและจำมาจนถึงทุกวันนี้

วันที่2
วันนี้ตื่นเช้ามาก เพราะปกติผมเป็นคนเที่ยงตรง! ออกมาเดินเล่นในหมู่บ้าน ภาพที่เห็นคือ การใช้ชีวิตที่เรียบง่ายของคนที่นี่ ยิ้มแย้มแจ่มใสและทักทายอย่างเป็นกันเอง ส่วนใหญ่ฟังและพูดภาษาไทยได้ ถ้ารุ่นใหญ่หน่อยๆก็พอฟังได้แต่พูดไม่ค่อยเป็น..แต่นั้นก็ไม่เป็นอุปสรรค์ เดินเล่นไปเรื่อยๆ จนพบกับสวนไม้ดอกสุคิริน แต่ยังสร้างไม่เสร็จ สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือ นี่หรือ?..นราธิวาส! จังหวัดที่ไม่เคยคิดว่าจะได้มาสัมผัส ขอบรรยายด้วยภาพบรรยากาศละกันครับ












เชื่อได้เลยว่าถ้าสร้างเสร็จ 100% เมื่อไร หมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้จะกลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของภาคใต้แน่นอน..อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ฟินไม่น้อยกว่าบรรยากาศของที่นี่คือ....บรรดาน้องเหมียวที่ออกมารับแสงแดดยามเช้าเป็นเจ้าบ้านที่ดี สามารถอุ้มเซลฟี่ได้ แต่ละตัวมีใบหน้าเป็นเอกลักษ์ ขนฟูนิ่ม ขี้อ้อนด้วยยยยยย.




















สำหรับทาสแมวอย่างผมยกให้หมู่บ้านนี้คือ Cat Village ของประเทศไทย5555


มื้อเช้าวันนี้เป็นข้าวยำแสนอร่อย และคุณป้าแม่ครัวบอกว่าถ้าอยากได้อรรถรสของข้าวยำ ต้องทานด้วยมือ555 ทานเสร็จไกด์ท้องถิ่นก็ได้พาเข้าชมพิพิธภัณฑ์บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา12 จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติและความเป็นมาของหมู่บ้าน
ต่อด้วยกิจกรรมเดินป่า ศึกษาร่องรอยประวัติศาสตร์ฐานที่ตั้งพรรคคอมมิวนิสต์มาลายา ซึ่งเป็นอะไรที่น่าทึ่งมากที่จะใช้ชีวิตอย่างไรในป่าตลอดหลายสิบปี















การขุดดินเป็นที่อยู่อาศัย ขุดร่องทางเดินที่เชื่อมไปยังโถงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านของผู้นำ ห้องประชุม ห้องประกอบอาหารซึ่งออกแบบให้เป็นเตาแบบไร้ควันโดยขุดท่อให้ควันลอดผ่านไปยังโถงอีกห้องที่มีน้ำ โดยน้ำในห้องนั้นจะทำการสลายควันเอง จากนั้นก็กลับเข้าที่พัก ทานมื้อเที่ยงต่อด้วยกิจกรรมช่วงบ่ายนั้นก็คือ...การล่องแก่งชมความงามของสองข้างทางต้นน้ำสายบุรี ถ้าจำไม่ผิดระยะ กว่า 5 กิโลเมตร กลับมาถึงห้องพักแทบสลบกันเลยทีเดียว.







สำหรับกิจกรรมยามค่ำนี้เป็นการแสดงการรำพัดจากเด็กๆในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นการแสดงของอดีตสมาชิกสตรีพรรคคอมมิวนิสต์มาลายา ปิดท้ายด้วยการสอนนักท่องเที่ยวร่ายรำด้วยความสนุกสนาน

สำหรับท่านใดที่อยากลองไปสัมผัสบรรยากาศของหมู่บ้านแห่งนี้ สามารถโทรไปสอบถามได้ที่เบอร์ 088-3933519 หรือ 087-9673076 มั่นใจว่าท่านจะต้องหลงรักหมู่บ้านนี้แน่นอน.
ขอขอบคุณโครงการดีๆแบบนี้ครับ
#บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา12
#unseallocal2018 #amazingไทยเท่ #unsealdeepsouth #cbti #localalike