สวัสดีค่ะ
สถาบันเสริมความงาม
เหตุการณ์ : 28 ก.ค 61 เวลาประมาณ สองทุ่มโดยประมาณ
ดิฉันและพี่สาวได้เดินผ่านบูธความงาม ชั้น4 เซนทรัลปิ่นเกล้า โดยมีผู้ชายคนหนึ่งในบูธเดินมายื่นโถที่ใส่ไข่ไว้เพื่อจับรางวัล โดยดิฉันและพี่สาวเลี่ยง แต่ผู้ชายคนนั้นพูดว่า ได้รางวัลเฉยๆ จับเฉยๆ ไม่มีอะไร พี่สาวดิฉันได้ล้วงไข่ก่อนคนแรก ดิฉันจึงล้วงตาม พี่สาวดิฉันได้รางวัลเป็น gift vouvher มูลค่า 3000 บาท ส่วนดิฉันได้ มูลค่า 5000 แต่ไม่ใช่แบบที่เขาบอกว่าได้เฉยๆ
เขาได้ให้ดิฉันและพี่ไปนั่งกรอกประวัติ และพูดนั่นนี่ พูดถึงโปรโมชั่นรักษาหน้าแบบเนียนๆ นั่งพูดนานมาก บอกว่าสนใจให้ดิฉันและพี่สาวเป็นเคสรีวิวให้ โดยได้ราคาพิเศษ เพียง 1999 บาท
โดยคำพูดของพนักงานขายที่อธิบายโปรโมชั่น ว่ามีการรักษาอะไรบ้างมีดังนี้
“ 1999 เป็นโปรโมชั่น สำหรับเคสรีวิว มีทั้งหมด 5 เข็ม โดยแบ่งฉีดตามความเห็นคุณหมอ ว่าจะได้ฉีดได้แค่ไหน แล้วค่อยมาตามดูผล และฉีดเข็มที่เหลือ โดยทางร้านจะมีการฉายแสงให้เพื่อรักษาสิวอีกด้วย”
ได้ยินดังนั้นดิฉันและพี่สาวจึงตัดสินใจจะซื้อ เพราะโปรโมชั่นที่คุ้มโดยทางพนักงานขายบอกว่า วางเงินมัดจำไว้ก่อนก็ได้คนละ 1000 บาท และค่อยมาจ่ายที่เหลือในวันที่มาฉีดหน้า พี่สาวดิฉันได้ทำการโอนเงิน 1000 บาท และจ่ายสดสำหรับดิฉัน 1000 บาท รวมเป็น 2000 บาทให้ทางคลินิค โดยพี่ผู้หญิงที่ขายคอร์สเขียนในใบเสร็จให้เป็น จำนวนเงิน 2000 โดยอ้างว่า เขียนให้เลขสวย เดี๋ยววันมาฉีดหน้า จะทอนให้ 1 บาท
วันที่ 08 ส.ค 61 เวลาประมาณบ่ายโมงโดยประมาณ
ดิฉันเดินทางไปที่เซนปิ่นฯ ชั้น 9 ตึกB ซึ่งเป็นที่อยู่ของคลินิคนั้น ดิฉันกดเงินสดจำนวน 1000 บาทเพื่อจ่ายให้เป็นค่าค้างของคอร์สที่ซื้อไว้ พี่ผู้ชายคนเดิมที่เดินมาให้ล้วงไข่ในวันแรก ก็มาต้อนรับและพาไปนั่งที่เก้าอี้เพื่อทำสปามือซึ่งดิฉันได้ gift voucher มูลค่า 5000บาทมา
ดิฉันยื่นซองที่มีใบเสร็จและใบต่างๆ ให้พี่ผู้ชายเพื่อให้เขาจัดการ และจ่ายเงินคงค้างที่เหลือให้
วันนั้นดิฉันตั้งใจแน่วแน่ว่าจะทำแค่ครั้งเดียว เพราะไม่ค่อยมีเงิน เงินที่เหลืออยู่คือเงินเก็บซึ่งจะต้องช่วยแบ่งเบาภาระของแม่ แต่แล้ว พี่ผู้ชายก็มานั่งและเริ่มพูด
เขาถาม”จะทำแค่ครั้งเดียวหรอ” ดิฉันจึงตอบไปว่าค่ะ เขาจึงพูดต่อว่า ” สนใจทำ 5 ครั้งไหม รู้มั้ย ทำครบ 5 ครั้ง ครบคอร์สแล้ว หน้าจะใสฉ่ำวาวเลยนะ หนูอยู่มหาลัยปีไหนแล้ว “ ดิฉันบอกว่าปี 4 และตอบไปว่าไม่ค่ะ พอดีต้องใช้เงินทำอย่างอื่น เขาเงียบไปสักพัก หลังจากนั้นพี่ผู้หญิงที่ขายคอร์สให้ก็เดินมาหาดิฉันและนั่งข้างๆ เพื่อทำสปามือให้ ในระหว่างที่ทำสปามือ พี่ผู้ชายก็ได้พูดขึ้นมาอีกว่า “ ถ้าหนูไม่ต่อโปร ครั้งต่อไปถ้าหนูอยากมาฉีดอีก หนูต้องจ่ายเข็มละ 12000 เลยนะ ถ้าหนูซื้อคอร์สไว้ 5 ครั้งมัน 10000 ครั้งละ 2000เอง อันนี้คือราคาโปร ถ้าหนูไม่จ่ายไว้ เกิดหนูฉีดไปแล้ววันนี้แล้วมันดี แล้วอยากกลับมาฉีดอีกหนูจะไม่ได้ราคานี้แล้วนะ วันนี้หนูก็จ่ายก่อน พอมีเงินสัก 2000 มั้ย วางมัดจำไว้ก่อน “
ดิฉันได้ปฏิเสธไปหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่ลดละความพยายามจะขายโปรโมชั่น พี่ผู้หญิงหลังจากเงียบมานานจึงพูดเสริม
“ น้องไม่ต้องทำถึง 5 เข็มก็ได้ เพราะฉีดไป 2-3 เข็ม ก็เห็นผลชัดแล้ว ค่อยยกเลิก ถ้าน้องไม่มีเงินค่อยผ่อนทีละนิดก็ได้ วันนี้ก็จ่ายก่อน 1000 เพื่อต่อโปร เพื่อจะได้รักษาราคาสมาชิคนี้ไว้
พวกเขานั่งพูดเกลี่ยกล่อมดิฉันนานถึงครึ่ง ชั่วโมง ดิฉันเกิดความลังเลใจ อยากสิวหาย หน้าของดิฉันสิวไม่ได้ขึ้นเยอะเลย ขึ้นเม็ดสองเม็ดและมีรอยดำจากสิว แต่ขึ้นบ่อย ดิฉันจึงอยากหายและอยากหน้าฉ่ำเหมือนที่ผู้หญิงทุกคนอยากเป็น จึงตัดสินใจต่อโปรโดยจ่ายไปครึ่งหนึ่งก่อน คือเป็นจำนวนเงิน 1000บาท โดยการโอนเข้าคลินิค และยังไม่ได้เงินทอน 1 บาท เช่นเดิม
หลังจากที่ดิฉันฉีดไปเข็มแรก สิวขึ้นเยอะกว่าเดิม ดิฉันแอดไลน์พี่ผู้หญิงเพื่อปรึกษาเขาบอกว่า มันขับสิวออก เดี๋ยวอีกวันก็หาย ปรากฏว่า 1 อาทิตย์ผ่านไปก็ยังไม่หาย ดิฉันจึงต้องไปฉีดเพิ่มเพราะจ่ายเงินครึ่งนึงไปแล้ว
22 ส.ค 61
วันนี้เป็นเข็มที่ 2 ที่มาฉีด ดิฉันตัดสินใจว่าจะฉีดสามเข็ม เพราะพี่ผู้หญิงเคยบอกว่าสามเข็มก็ดีมากแล้ว และได้ทำการโอนเงินไปยังคลินิคเป็นจำนวน 2000บาท โดยที่ 1000บาทคือค่าค้างจากครั้งก่อน และอีก 1000บาท คือค่าต่อโปรในการมาฉีดครั้งต่อไป และยังไม่ได้เงินทอน 1 บาท และในใบเสร็จยังคงเขียนราคา 2000 บาท
หลังจากฉีดเข็มสองหน้าดิฉันแย่ลง สิวขึ้นแบบอักเสบ จึงได้ทักไปปรึกษาพี่สาวที่ซื้อคอร์สด้วยกัน แต่ยังไม่ได้มาทำ พี่สาวดิฉันบอกว่าไม่อยากทำแล้ว ดิฉันจึงถามพี่ที่ขายคอร์สให้ว่าโอนยอดของพี่สาวมาให้ดิฉันได้หรือเปล่า เขาบอกทำได้ ดิฉันจึงเอายอดของพี่สาวมาโปะกับค่าค้างคอร์สของดิฉันที่เหลือ 1000 บาท ในครั้งที่สาม
ดิฉันได้ได้ปรึกษาเรื่องหน้ากับผู้หญิงที่ขายคอร์สให้ดิฉันตลอด และถามเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะหายจริงๆ ดิฉันได้ถามไปว่า “ทำครบ 5 ครั้งสิวจะไม่ขึ้นเลยใช่มั้ยคะ ถ้ามันยังขึ้นอยู่ละคะ “
พี่ผู้หญิงตอบกลับมาว่า “ หายแน่นอน พี่รับประกัน ถ้าไม่หายฉีดฟรี” ดังนั้นดิฉันจึงมั่นใจว่าจะหายแน่ๆ
29 ส.ค 61
ครั้งสุดท้ายที่ดิฉันจะฉีดเป็นเข็มที่สาม โดนจ่ายค่าคงเหลือจากยอดที่พี่สาวจองไว้ 1000 บาท โดยดิฉันได้บอกทางพนักงานของร้านว่าจะทำเป็นครั้งสุดท้าย เขาก็ถามว่าทำไม อยากให้มาฉีดอีก ดิฉันบอกว่าเงินจะหมดแล้ว ไม่มีเงิน พนักงานจึงตอบว่า ถ้าอยากแวะมาฉีดอีกก็มาได้นะ โดยไม่มีการพูดถึงการวางเงินต่อโปรแบบที่พี่ผู้ชายพูดไว้เลยว่ามาครั้งหน้าถ้าไม่ต่อโปรวันนี้โดยจ่ายเงิน/ว้ก่อน ครั้งหน้ามาจะได้ฉีดราคาปกติคือเข็มละ 12000
ในวันนั้นไม่มีทั้งพี่ผู้หญิงและพี่ผู้ชายที่ขายคอร์สให้ดิฉันอยู่เลยสักคน ทางร้านได้ทำ ทรีทเม้นท์ให้ฟรี และคุณหมอมาฉีดหน้าให้ โดยฉีดยาลดรอยดำแดง และคุณหมอเองก็พูดว่าอยากให้มาฉีดอีก เพราะมันจะได้หายไปเลย ในวันนั้นหน้าดิฉันยังไม่หายจากการที่สิวขึ้น ดิฉันจึง งง ว่าทำไมฉีดลดรอยให้ ดิฉันบอกจะไม่มาฉีดอีก คุณหมอบอกว่างั้นฉีดลดสิวอีกตัวไปเลยมั้ย ถ้าจะไม่มานาน จะได้หายไง ดิฉันจึงตัดสินใจฉีดยาลดสิวอีกตัว วันนั้นดิฉีดไปสองเข็ม คือเข็มที่สาม และสี่
หลังจากฉีดหน้าเสร็จ พี่ผู้หญิงที่ขายคอร์สให้ก็มาดูแล ดิฉันโอนเงินเป็นจำนวน 2000บาทให้ทางคลินิค ดิฉันยื่นซองที่มีใบเสร็จทั้งหมดให้ หลังจากจาายเงินเขียนใบเสร็จเรียบร้อย พี่ผู้หญิงที่ขายคอร์สก็ยัดใบเสร็จใส่กระเป๋าดิฉัน ดิฉันไม่ได้ตรวจทานดู และเงินทอน 1 บาทก็ยังไม่ได้
หลังจากฉีดเข็มสามและสี่ ใตต้ตาดิฉันช้ำจากการฉีด และแผลเต็มหน้า สิวขึ้นทั่วหน้า หน้าเป็นรอยแดง ดิฉันเครียดมากและรอเวลา เพราะทางหมอบอกว่า ประมาณสองสามวันจะหายให้ดื่มน้ำเยอะๆ ดิฉันทำตามหมอสั่งทุกอย่าง แต่หน้าของดิฉันไม่ดีขึ้นเลย
ดิฉันได้ทักไปปรึกษาพี่ที่ขายคอร์ส เขาบอกให้เข้าไปที่คลินิคเพื่อให้หมอตรวจและรักษา เขานัดวัน และหลังจากนั้น เขา ลบ บัญชีไลน์หนีไป
หลังจากนั้นทางแอดมินคลินิคได้แอดดิฉันมา ดิฉันจึงไปสอบถามถึงคนที่ขายคอร์สว่าเธอหายไปไหน แอดมินบอกว่าลาออกไปแล้ว ดิฉันจึงปรึกษาแอดมินแทนว่า จะทำอย่างไรกับหน้าดิฉันตอนนี้ที่พังขนาดนี้ ทางแอดมินก็ได้บอกให้เข้าไปคลินิคเพื่อตรวจหน้า และจะฉายแสงให้ ดิฉันโกรธมาก และถามว่า เรื่องฉายแสงมันมีอยู่ตอนซื้อคอร์สว่าดิฉันต้องได้ทำ นี่ฉีดมาสี่เข็มแล้วยังไม่ได้ทำสักครั้ง แอดมินอ้างว่า “ เครื่องเพิ่งมา “
ดิฉันถามต่อว่า “ฉายแสงฟรีใช่ไหม “ ทางแอดมินตอบมาว่า ฉายฟรีแต่จะได้ฉายแสงมั้ยต้องได้อนุมัติก่อน จาก ผจก นั่นทำให้ดิฉันไม่พอใจมาก
สรุปปัญหาที่ดิฉันอยากร้องทุกข์
- ขายโปรในราคา 1999 แต่เก็บไป 2000 แค่บาทเดียวก็ถือว่าโกง
- 2000 ที่บอกว่ามี 5 เข็ม เป็นการพูดงงๆให้คนซื้อคอร์สเข้าใจผิด หลอกขาย อันที่จริงเข็มละ 2000 บาท
- ไม่มีการฉายแสงเลยสักครั้งเดียว
- หลอกให้ต่อโปร เพื่อจะได้ราคาสมาชิค โดยหลอกว่าถ้าไม่ต่อโปร จะต้องจ่ายเข็มละ 12000
- ทางร้านมีการรับผิดชอบคือให้เข้าไปตรวจหน้า แต่ไม่รับประกันว่าจะรักษาให้ เพราะต้องได้รับการอนุมัติก่อน (โดยดิฉันไม่ถือเป็นการรับผิดชอบ เพราะการฉายแสงเป็นสิ่งที่ดิฉันต้องได้ทำอยู่แล้ว เพราะตอนขายคอร์สมันมีอยู่ในคอร์สด้วย)
- ผู้ที่ขายคอร์สดิฉันไม่รับผิดชอบและหนีไป
ตอนนี้ดิฉันหมดหนทาง ไม่มีเงินรักษาหน้าตัวเอง เพราะจ่ายให้เงินไปหมดให้ทางคลินิคนั้นเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น แปดพันบาทถ้วน สี่เข็ม ซึ่งหน้าไม่ดีขึ้นแบบที่เขาได้โฆษณาไว้เลย
ดิฉันจึงอยากมาร้องเรียนในฐานะ นักศึกษา ที่ยังไม่มีรายได้และโดนหลอกขายคอร์ส ของผู้ที่ไม่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพหวังเพียงเงินอย่างเดียว โดยไม่ดูความเดือนร้อนของผู้บริโภค
ดิฉันอยากให้เป็นตัวอย่างเคสของสถาบันเสริมความงามทุกแห่ง และเตือนให้กับ นศ ทุกคน ขอบคุณค่ะ
ประสบการณ์โดนหลอกขายคอร์ส และโฆษณาเกินจริง โดนมากับตัวถึงรู้เลย
สถาบันเสริมความงาม
เหตุการณ์ : 28 ก.ค 61 เวลาประมาณ สองทุ่มโดยประมาณ
ดิฉันและพี่สาวได้เดินผ่านบูธความงาม ชั้น4 เซนทรัลปิ่นเกล้า โดยมีผู้ชายคนหนึ่งในบูธเดินมายื่นโถที่ใส่ไข่ไว้เพื่อจับรางวัล โดยดิฉันและพี่สาวเลี่ยง แต่ผู้ชายคนนั้นพูดว่า ได้รางวัลเฉยๆ จับเฉยๆ ไม่มีอะไร พี่สาวดิฉันได้ล้วงไข่ก่อนคนแรก ดิฉันจึงล้วงตาม พี่สาวดิฉันได้รางวัลเป็น gift vouvher มูลค่า 3000 บาท ส่วนดิฉันได้ มูลค่า 5000 แต่ไม่ใช่แบบที่เขาบอกว่าได้เฉยๆ
เขาได้ให้ดิฉันและพี่ไปนั่งกรอกประวัติ และพูดนั่นนี่ พูดถึงโปรโมชั่นรักษาหน้าแบบเนียนๆ นั่งพูดนานมาก บอกว่าสนใจให้ดิฉันและพี่สาวเป็นเคสรีวิวให้ โดยได้ราคาพิเศษ เพียง 1999 บาท
โดยคำพูดของพนักงานขายที่อธิบายโปรโมชั่น ว่ามีการรักษาอะไรบ้างมีดังนี้
“ 1999 เป็นโปรโมชั่น สำหรับเคสรีวิว มีทั้งหมด 5 เข็ม โดยแบ่งฉีดตามความเห็นคุณหมอ ว่าจะได้ฉีดได้แค่ไหน แล้วค่อยมาตามดูผล และฉีดเข็มที่เหลือ โดยทางร้านจะมีการฉายแสงให้เพื่อรักษาสิวอีกด้วย”
ได้ยินดังนั้นดิฉันและพี่สาวจึงตัดสินใจจะซื้อ เพราะโปรโมชั่นที่คุ้มโดยทางพนักงานขายบอกว่า วางเงินมัดจำไว้ก่อนก็ได้คนละ 1000 บาท และค่อยมาจ่ายที่เหลือในวันที่มาฉีดหน้า พี่สาวดิฉันได้ทำการโอนเงิน 1000 บาท และจ่ายสดสำหรับดิฉัน 1000 บาท รวมเป็น 2000 บาทให้ทางคลินิค โดยพี่ผู้หญิงที่ขายคอร์สเขียนในใบเสร็จให้เป็น จำนวนเงิน 2000 โดยอ้างว่า เขียนให้เลขสวย เดี๋ยววันมาฉีดหน้า จะทอนให้ 1 บาท
วันที่ 08 ส.ค 61 เวลาประมาณบ่ายโมงโดยประมาณ
ดิฉันเดินทางไปที่เซนปิ่นฯ ชั้น 9 ตึกB ซึ่งเป็นที่อยู่ของคลินิคนั้น ดิฉันกดเงินสดจำนวน 1000 บาทเพื่อจ่ายให้เป็นค่าค้างของคอร์สที่ซื้อไว้ พี่ผู้ชายคนเดิมที่เดินมาให้ล้วงไข่ในวันแรก ก็มาต้อนรับและพาไปนั่งที่เก้าอี้เพื่อทำสปามือซึ่งดิฉันได้ gift voucher มูลค่า 5000บาทมา
ดิฉันยื่นซองที่มีใบเสร็จและใบต่างๆ ให้พี่ผู้ชายเพื่อให้เขาจัดการ และจ่ายเงินคงค้างที่เหลือให้
วันนั้นดิฉันตั้งใจแน่วแน่ว่าจะทำแค่ครั้งเดียว เพราะไม่ค่อยมีเงิน เงินที่เหลืออยู่คือเงินเก็บซึ่งจะต้องช่วยแบ่งเบาภาระของแม่ แต่แล้ว พี่ผู้ชายก็มานั่งและเริ่มพูด
เขาถาม”จะทำแค่ครั้งเดียวหรอ” ดิฉันจึงตอบไปว่าค่ะ เขาจึงพูดต่อว่า ” สนใจทำ 5 ครั้งไหม รู้มั้ย ทำครบ 5 ครั้ง ครบคอร์สแล้ว หน้าจะใสฉ่ำวาวเลยนะ หนูอยู่มหาลัยปีไหนแล้ว “ ดิฉันบอกว่าปี 4 และตอบไปว่าไม่ค่ะ พอดีต้องใช้เงินทำอย่างอื่น เขาเงียบไปสักพัก หลังจากนั้นพี่ผู้หญิงที่ขายคอร์สให้ก็เดินมาหาดิฉันและนั่งข้างๆ เพื่อทำสปามือให้ ในระหว่างที่ทำสปามือ พี่ผู้ชายก็ได้พูดขึ้นมาอีกว่า “ ถ้าหนูไม่ต่อโปร ครั้งต่อไปถ้าหนูอยากมาฉีดอีก หนูต้องจ่ายเข็มละ 12000 เลยนะ ถ้าหนูซื้อคอร์สไว้ 5 ครั้งมัน 10000 ครั้งละ 2000เอง อันนี้คือราคาโปร ถ้าหนูไม่จ่ายไว้ เกิดหนูฉีดไปแล้ววันนี้แล้วมันดี แล้วอยากกลับมาฉีดอีกหนูจะไม่ได้ราคานี้แล้วนะ วันนี้หนูก็จ่ายก่อน พอมีเงินสัก 2000 มั้ย วางมัดจำไว้ก่อน “
ดิฉันได้ปฏิเสธไปหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่ลดละความพยายามจะขายโปรโมชั่น พี่ผู้หญิงหลังจากเงียบมานานจึงพูดเสริม
“ น้องไม่ต้องทำถึง 5 เข็มก็ได้ เพราะฉีดไป 2-3 เข็ม ก็เห็นผลชัดแล้ว ค่อยยกเลิก ถ้าน้องไม่มีเงินค่อยผ่อนทีละนิดก็ได้ วันนี้ก็จ่ายก่อน 1000 เพื่อต่อโปร เพื่อจะได้รักษาราคาสมาชิคนี้ไว้
พวกเขานั่งพูดเกลี่ยกล่อมดิฉันนานถึงครึ่ง ชั่วโมง ดิฉันเกิดความลังเลใจ อยากสิวหาย หน้าของดิฉันสิวไม่ได้ขึ้นเยอะเลย ขึ้นเม็ดสองเม็ดและมีรอยดำจากสิว แต่ขึ้นบ่อย ดิฉันจึงอยากหายและอยากหน้าฉ่ำเหมือนที่ผู้หญิงทุกคนอยากเป็น จึงตัดสินใจต่อโปรโดยจ่ายไปครึ่งหนึ่งก่อน คือเป็นจำนวนเงิน 1000บาท โดยการโอนเข้าคลินิค และยังไม่ได้เงินทอน 1 บาท เช่นเดิม
หลังจากที่ดิฉันฉีดไปเข็มแรก สิวขึ้นเยอะกว่าเดิม ดิฉันแอดไลน์พี่ผู้หญิงเพื่อปรึกษาเขาบอกว่า มันขับสิวออก เดี๋ยวอีกวันก็หาย ปรากฏว่า 1 อาทิตย์ผ่านไปก็ยังไม่หาย ดิฉันจึงต้องไปฉีดเพิ่มเพราะจ่ายเงินครึ่งนึงไปแล้ว
22 ส.ค 61
วันนี้เป็นเข็มที่ 2 ที่มาฉีด ดิฉันตัดสินใจว่าจะฉีดสามเข็ม เพราะพี่ผู้หญิงเคยบอกว่าสามเข็มก็ดีมากแล้ว และได้ทำการโอนเงินไปยังคลินิคเป็นจำนวน 2000บาท โดยที่ 1000บาทคือค่าค้างจากครั้งก่อน และอีก 1000บาท คือค่าต่อโปรในการมาฉีดครั้งต่อไป และยังไม่ได้เงินทอน 1 บาท และในใบเสร็จยังคงเขียนราคา 2000 บาท
หลังจากฉีดเข็มสองหน้าดิฉันแย่ลง สิวขึ้นแบบอักเสบ จึงได้ทักไปปรึกษาพี่สาวที่ซื้อคอร์สด้วยกัน แต่ยังไม่ได้มาทำ พี่สาวดิฉันบอกว่าไม่อยากทำแล้ว ดิฉันจึงถามพี่ที่ขายคอร์สให้ว่าโอนยอดของพี่สาวมาให้ดิฉันได้หรือเปล่า เขาบอกทำได้ ดิฉันจึงเอายอดของพี่สาวมาโปะกับค่าค้างคอร์สของดิฉันที่เหลือ 1000 บาท ในครั้งที่สาม
ดิฉันได้ได้ปรึกษาเรื่องหน้ากับผู้หญิงที่ขายคอร์สให้ดิฉันตลอด และถามเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะหายจริงๆ ดิฉันได้ถามไปว่า “ทำครบ 5 ครั้งสิวจะไม่ขึ้นเลยใช่มั้ยคะ ถ้ามันยังขึ้นอยู่ละคะ “
พี่ผู้หญิงตอบกลับมาว่า “ หายแน่นอน พี่รับประกัน ถ้าไม่หายฉีดฟรี” ดังนั้นดิฉันจึงมั่นใจว่าจะหายแน่ๆ
29 ส.ค 61
ครั้งสุดท้ายที่ดิฉันจะฉีดเป็นเข็มที่สาม โดนจ่ายค่าคงเหลือจากยอดที่พี่สาวจองไว้ 1000 บาท โดยดิฉันได้บอกทางพนักงานของร้านว่าจะทำเป็นครั้งสุดท้าย เขาก็ถามว่าทำไม อยากให้มาฉีดอีก ดิฉันบอกว่าเงินจะหมดแล้ว ไม่มีเงิน พนักงานจึงตอบว่า ถ้าอยากแวะมาฉีดอีกก็มาได้นะ โดยไม่มีการพูดถึงการวางเงินต่อโปรแบบที่พี่ผู้ชายพูดไว้เลยว่ามาครั้งหน้าถ้าไม่ต่อโปรวันนี้โดยจ่ายเงิน/ว้ก่อน ครั้งหน้ามาจะได้ฉีดราคาปกติคือเข็มละ 12000
ในวันนั้นไม่มีทั้งพี่ผู้หญิงและพี่ผู้ชายที่ขายคอร์สให้ดิฉันอยู่เลยสักคน ทางร้านได้ทำ ทรีทเม้นท์ให้ฟรี และคุณหมอมาฉีดหน้าให้ โดยฉีดยาลดรอยดำแดง และคุณหมอเองก็พูดว่าอยากให้มาฉีดอีก เพราะมันจะได้หายไปเลย ในวันนั้นหน้าดิฉันยังไม่หายจากการที่สิวขึ้น ดิฉันจึง งง ว่าทำไมฉีดลดรอยให้ ดิฉันบอกจะไม่มาฉีดอีก คุณหมอบอกว่างั้นฉีดลดสิวอีกตัวไปเลยมั้ย ถ้าจะไม่มานาน จะได้หายไง ดิฉันจึงตัดสินใจฉีดยาลดสิวอีกตัว วันนั้นดิฉีดไปสองเข็ม คือเข็มที่สาม และสี่
หลังจากฉีดหน้าเสร็จ พี่ผู้หญิงที่ขายคอร์สให้ก็มาดูแล ดิฉันโอนเงินเป็นจำนวน 2000บาทให้ทางคลินิค ดิฉันยื่นซองที่มีใบเสร็จทั้งหมดให้ หลังจากจาายเงินเขียนใบเสร็จเรียบร้อย พี่ผู้หญิงที่ขายคอร์สก็ยัดใบเสร็จใส่กระเป๋าดิฉัน ดิฉันไม่ได้ตรวจทานดู และเงินทอน 1 บาทก็ยังไม่ได้
หลังจากฉีดเข็มสามและสี่ ใตต้ตาดิฉันช้ำจากการฉีด และแผลเต็มหน้า สิวขึ้นทั่วหน้า หน้าเป็นรอยแดง ดิฉันเครียดมากและรอเวลา เพราะทางหมอบอกว่า ประมาณสองสามวันจะหายให้ดื่มน้ำเยอะๆ ดิฉันทำตามหมอสั่งทุกอย่าง แต่หน้าของดิฉันไม่ดีขึ้นเลย
ดิฉันได้ทักไปปรึกษาพี่ที่ขายคอร์ส เขาบอกให้เข้าไปที่คลินิคเพื่อให้หมอตรวจและรักษา เขานัดวัน และหลังจากนั้น เขา ลบ บัญชีไลน์หนีไป
หลังจากนั้นทางแอดมินคลินิคได้แอดดิฉันมา ดิฉันจึงไปสอบถามถึงคนที่ขายคอร์สว่าเธอหายไปไหน แอดมินบอกว่าลาออกไปแล้ว ดิฉันจึงปรึกษาแอดมินแทนว่า จะทำอย่างไรกับหน้าดิฉันตอนนี้ที่พังขนาดนี้ ทางแอดมินก็ได้บอกให้เข้าไปคลินิคเพื่อตรวจหน้า และจะฉายแสงให้ ดิฉันโกรธมาก และถามว่า เรื่องฉายแสงมันมีอยู่ตอนซื้อคอร์สว่าดิฉันต้องได้ทำ นี่ฉีดมาสี่เข็มแล้วยังไม่ได้ทำสักครั้ง แอดมินอ้างว่า “ เครื่องเพิ่งมา “
ดิฉันถามต่อว่า “ฉายแสงฟรีใช่ไหม “ ทางแอดมินตอบมาว่า ฉายฟรีแต่จะได้ฉายแสงมั้ยต้องได้อนุมัติก่อน จาก ผจก นั่นทำให้ดิฉันไม่พอใจมาก
สรุปปัญหาที่ดิฉันอยากร้องทุกข์
- ขายโปรในราคา 1999 แต่เก็บไป 2000 แค่บาทเดียวก็ถือว่าโกง
- 2000 ที่บอกว่ามี 5 เข็ม เป็นการพูดงงๆให้คนซื้อคอร์สเข้าใจผิด หลอกขาย อันที่จริงเข็มละ 2000 บาท
- ไม่มีการฉายแสงเลยสักครั้งเดียว
- หลอกให้ต่อโปร เพื่อจะได้ราคาสมาชิค โดยหลอกว่าถ้าไม่ต่อโปร จะต้องจ่ายเข็มละ 12000
- ทางร้านมีการรับผิดชอบคือให้เข้าไปตรวจหน้า แต่ไม่รับประกันว่าจะรักษาให้ เพราะต้องได้รับการอนุมัติก่อน (โดยดิฉันไม่ถือเป็นการรับผิดชอบ เพราะการฉายแสงเป็นสิ่งที่ดิฉันต้องได้ทำอยู่แล้ว เพราะตอนขายคอร์สมันมีอยู่ในคอร์สด้วย)
- ผู้ที่ขายคอร์สดิฉันไม่รับผิดชอบและหนีไป
ตอนนี้ดิฉันหมดหนทาง ไม่มีเงินรักษาหน้าตัวเอง เพราะจ่ายให้เงินไปหมดให้ทางคลินิคนั้นเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น แปดพันบาทถ้วน สี่เข็ม ซึ่งหน้าไม่ดีขึ้นแบบที่เขาได้โฆษณาไว้เลย
ดิฉันจึงอยากมาร้องเรียนในฐานะ นักศึกษา ที่ยังไม่มีรายได้และโดนหลอกขายคอร์ส ของผู้ที่ไม่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพหวังเพียงเงินอย่างเดียว โดยไม่ดูความเดือนร้อนของผู้บริโภค
ดิฉันอยากให้เป็นตัวอย่างเคสของสถาบันเสริมความงามทุกแห่ง และเตือนให้กับ นศ ทุกคน ขอบคุณค่ะ