สวัสดีครับพี่ๆน้องๆ ตอนที่ 3 นี้ แจ็คจะมารีวิวและให้พี่ๆดูคลิปสั้นๆ แค่นาทีกว่าๆ ของทริปที่แจ็คไปยอดภูลังกามาน่ะครับ
แจ็คไปตอนหน้าหนาวที่แล้ว เตรียมเสื้อผ้ากันหนาวไปมากมาย กะว่า ขึ้นดอยแล้วต้องหนาวมากๆๆ
พอเราไปถึงหน้าอุทยาน เราก็แวะทานอาหารเบาๆ พวกหมูปิ้ง ไส้กรอกย่าง บนนั้นครับ
เจ้าหน้าที่แนะนำว่า ให้นำอาหารและน้ำขึ้นไปเผื่อด้วย และแนะนำต่อว่า
พวกเราควรขึ้นไปตอนบ่ายสองกว่าๆ เพื่อเดินต่อขึ้นไปอีกประมาณบ่ายสาม
กว่าจะถึงยอดคงบ่ายสี่ จะได้ถ่ายรูปกับพระอาทิตย์ตกดิน และไหว้พระบนหน้าผาได้ครับ
ตอนแรกเรากะว่าจะขับรถขึ้นไปเอง เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตครับ ต้องใช้บริการรถที่ทางอุทยานจัดเตรียมเท่านั้น
หากจำไม่ผิดคือเหมา 1000 บาท เพื่อไปส่งและรอรับเรากลับลงมา ตอนแรกคิดว่า แพงจัง แค่ 5 คนกับหมา 1 ตัว
จะเดินดีไหมน่ะ แค่ไม่กี่กิโลเอง แต่พี่เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า ทางมันชันน่ะ จะไม่ไหวกันเอา เพราะมีแม่ๆ ป้าๆ ด้วย
แต่พอได้พิสูจน์เส้นทางแล้ว แม่เจ้า! โชคดีแล้วที่ไม่ได้ใช้รถตัวเองขึ้นมา ไม่งั้นรถพังและเสียค่าซ่อมบานล่ะทีนี้
และที่สำคัญคือ หากเดินเท้า คงถึงพรุ่งนี้เช้าอ่ะ เส้นทางโหดแค่ไหน ดูจากคลิปได้ครับ
พอถึงตีนดอย เราก็เริ่มเดินกันครับ เพื่อนๆอย่าลืมเอาแท่งไม้ไผ่ ที่ตรงป้ายทางขึ้นไปด้วยน่ะครับ
มันมีประโยชน์มาก ช่วยพยุงตอนที่เราเดินขี้นและลง
ส่วนแจ็ค...วิ่งฉิวเลย สนุกมาก ที่นี่ที่ไหน ต้นไม้ ทุ่งหญ้า มีให้แจ็คกระโดดเล่นเยอะไปหมด
ที่เล่ามา คือมีสายจูงรัดตัวผมตลอดเวลาน่ะครับ สิ่งที่พ่อต้องทำก็คือ ฉะลอความเร็วของฝีเท้าผมครับ
ผมว่า กลุ่มแม่ๆ ช้ามากเลยครับ เดินขึ้นดอย เดี๋ยวก็พัก เดี๋ยวก็พักอีกล่ะ
เดินไปเรื่อยๆ พวกแม่ๆ ถอดเสื้อกันหนาวกันหมดเลยครับ 555
พอถึงครึ่งทาง มีทางแยกให้ไปอีกภูหนึ่งด้วยครับ และมีพระพุทธรูปให้ไปไหว้ตรงหน้าผาด้วยครับ
แต่พวกแม่ๆ หมดแรง ก็เลยไม่ได้ไปครับ ว้าอดเลย
สุดท้าย...พวกเราก็ถึงยอดภูลังกาครับ ว๊าาาาาว...สวยมากครับ มองเห็น 360 องศาเลยครับ
เหมือนเรายืนอยู่ท่ามกลางก้อนเมฆเลยครับ เพราะมีเมฆลอยมาผ่านตัวเราตลอดเวลาเลย Amazing มาก
จากนั้น เราก็ถ่ายรูปๆๆๆๆ และค่อยๆ เดินกลับลงมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยและหิวโหย
ลองไปเที่ยวน่ะครับ...แจ็คขึ้นได้ลงได้ พี่ๆน้องๆ และเหล่ามะหมาสี่ขา ก็ต้องขึ้นได้ลงได้ครับ สู้ๆๆ
[CR] พาหมาน้อยเที่ยว...ดอยภูลังกา
สวัสดีครับพี่ๆน้องๆ ตอนที่ 3 นี้ แจ็คจะมารีวิวและให้พี่ๆดูคลิปสั้นๆ แค่นาทีกว่าๆ ของทริปที่แจ็คไปยอดภูลังกามาน่ะครับ
แจ็คไปตอนหน้าหนาวที่แล้ว เตรียมเสื้อผ้ากันหนาวไปมากมาย กะว่า ขึ้นดอยแล้วต้องหนาวมากๆๆ
พอเราไปถึงหน้าอุทยาน เราก็แวะทานอาหารเบาๆ พวกหมูปิ้ง ไส้กรอกย่าง บนนั้นครับ
เจ้าหน้าที่แนะนำว่า ให้นำอาหารและน้ำขึ้นไปเผื่อด้วย และแนะนำต่อว่า
พวกเราควรขึ้นไปตอนบ่ายสองกว่าๆ เพื่อเดินต่อขึ้นไปอีกประมาณบ่ายสาม
กว่าจะถึงยอดคงบ่ายสี่ จะได้ถ่ายรูปกับพระอาทิตย์ตกดิน และไหว้พระบนหน้าผาได้ครับ
ตอนแรกเรากะว่าจะขับรถขึ้นไปเอง เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตครับ ต้องใช้บริการรถที่ทางอุทยานจัดเตรียมเท่านั้น
หากจำไม่ผิดคือเหมา 1000 บาท เพื่อไปส่งและรอรับเรากลับลงมา ตอนแรกคิดว่า แพงจัง แค่ 5 คนกับหมา 1 ตัว
จะเดินดีไหมน่ะ แค่ไม่กี่กิโลเอง แต่พี่เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า ทางมันชันน่ะ จะไม่ไหวกันเอา เพราะมีแม่ๆ ป้าๆ ด้วย
แต่พอได้พิสูจน์เส้นทางแล้ว แม่เจ้า! โชคดีแล้วที่ไม่ได้ใช้รถตัวเองขึ้นมา ไม่งั้นรถพังและเสียค่าซ่อมบานล่ะทีนี้
และที่สำคัญคือ หากเดินเท้า คงถึงพรุ่งนี้เช้าอ่ะ เส้นทางโหดแค่ไหน ดูจากคลิปได้ครับ
พอถึงตีนดอย เราก็เริ่มเดินกันครับ เพื่อนๆอย่าลืมเอาแท่งไม้ไผ่ ที่ตรงป้ายทางขึ้นไปด้วยน่ะครับ
มันมีประโยชน์มาก ช่วยพยุงตอนที่เราเดินขี้นและลง
ส่วนแจ็ค...วิ่งฉิวเลย สนุกมาก ที่นี่ที่ไหน ต้นไม้ ทุ่งหญ้า มีให้แจ็คกระโดดเล่นเยอะไปหมด
ที่เล่ามา คือมีสายจูงรัดตัวผมตลอดเวลาน่ะครับ สิ่งที่พ่อต้องทำก็คือ ฉะลอความเร็วของฝีเท้าผมครับ
ผมว่า กลุ่มแม่ๆ ช้ามากเลยครับ เดินขึ้นดอย เดี๋ยวก็พัก เดี๋ยวก็พักอีกล่ะ
เดินไปเรื่อยๆ พวกแม่ๆ ถอดเสื้อกันหนาวกันหมดเลยครับ 555
พอถึงครึ่งทาง มีทางแยกให้ไปอีกภูหนึ่งด้วยครับ และมีพระพุทธรูปให้ไปไหว้ตรงหน้าผาด้วยครับ
แต่พวกแม่ๆ หมดแรง ก็เลยไม่ได้ไปครับ ว้าอดเลย
สุดท้าย...พวกเราก็ถึงยอดภูลังกาครับ ว๊าาาาาว...สวยมากครับ มองเห็น 360 องศาเลยครับ
เหมือนเรายืนอยู่ท่ามกลางก้อนเมฆเลยครับ เพราะมีเมฆลอยมาผ่านตัวเราตลอดเวลาเลย Amazing มาก
จากนั้น เราก็ถ่ายรูปๆๆๆๆ และค่อยๆ เดินกลับลงมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยและหิวโหย
ลองไปเที่ยวน่ะครับ...แจ็คขึ้นได้ลงได้ พี่ๆน้องๆ และเหล่ามะหมาสี่ขา ก็ต้องขึ้นได้ลงได้ครับ สู้ๆๆ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น