“ณัฐพร อินถา”
ครองใจแฟนละครจนใกล้จะถึงโค้งสุดท้ายแล้วสำหรับละครแอ๊กชั่น แฟนตาซี “อังกอร์” งานกำกับฯ ของ “เฉิดบุญ ภักดีวิจิตร” โดยค่ายอาหลอง จูเนียร์ ออกอากาศวันศุกร์-อาทิตย์ ทางช่อง 3 ซึ่งนอกจากจะสนุกกับฉากแอ๊กชั่น แฟนตาซีแล้ว ยังต้องมาลุ้นไปกับสาว “อังกอร์” ให้หลุดพ้นจากวิญญาณร้าย
วันนี้ 2 พระ-นาง “โอม”อัชชา นามปาน และ“บูม”สุภาพร วงษ์ถ้วยทอง มาถ่ายทอดความสนุกทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังการถ่ายทำ
พูดถึงบทบาทในละคร
บูม – “อังกอร์คือนักศึกษาแพทย์ปีสุดท้าย กลับมาบ้านตัวเองและเกิดเหตุการณ์ทำให้ต้องออกจากบ้าน ตัวเองก็ไม่รู้ว่ามีวิญญาณร้ายอยู่ในร่าง แต่ถ้าอายุครบ 25 ก็จะกลายเป็นเสือตลอดไป”
โอม – “ผมเป็นตำรวจ ถูกย้ายมาที่ชายแดน เพื่อมาสืบหาอาวุธที่หายไป แล้วมาเจอนางเอกเป็นพยานปากสำคัญของพวกที่ทำผิด เลยพยายามตามฆ่า เราก็ไปปกป้องเขา และไม่รู้ว่าเป็นเสือ จนมารู้ ก็เลยต้องช่วย”
ที่ได้รับการติดต่อรู้จักกันก่อนไหม
โอม – “ผมถามเลย นางเอกใครครับ จริงๆ พอบอกว่าเป็นบูม ผมก็ไปหาข้อมูล เป็นนางเอกใหม่ คือก็ไม่มีปัญหาครับ”
บูม – “ตอนแรกตกใจว่าเอาเราเล่นจริงๆ เหรอ เพราะจากที่เราไปแคสติ้งที่บ้านพี่กู๊ด (ผู้จัด) คือเราแค่แนะนำตัว พอเสร็จปุ๊บพี่กู๊ดให้กลับบ้านเลย หลังจากนั้นติดต่อให้เราลองไปทำท่าแปลงกาย ก็ผ่านไป 1 ปีเต็ม ก็ติดต่อกลับมาบอกว่าได้นะ เราก็รู้สึกดีใจที่เขาให้โอกาส พอรู้ว่าพระเอกคือพี่โอม ก็โอเค เราเคยเจอพี่โอมตอนที่ตัวเองเป็นพิธีกรแล้วพี่โอมไปร้องเพลง”
ตัดสินใจอยู่นานไหม กว่าจะรับเล่น
โอม – “ตัดสินใจรับเล่นเลยครับ แต่ไม่คิดว่ามันจะลำบากขนาดนี้นะ ไม่เคยเจอค่ายอาหลอง จูเนียร์ ไม่เคยเจอการทำงานแบบนี้ ภูมิใจมากที่ได้เล่นละครและเป็นส่วนหนึ่ง”
บูม – “คืออาหลอง จูเนียร์ เขาทุ่มเทมากกับการทำงานตรงนี้ เพราะมันเป็นเรื่องที่ลำบากจริงๆ จะไปถ่ายทำในป่าธรรมดาก็ไม่ได้ ในอุทยาน ในปางช้าง คือมันสวยมาก อย่างฉากเรือที่ผู้กองกับอังกอร์มุ้งมิ้งกัน หลายคนบอกเหมือนซีจี แต่ไม่ใช่ เราถ่ายที่จริงและยังไม่เคยมีกองถ่ายไหนไปถ่ายที่แห่งนี้”
บูมใหม่กับบทนางเอก บทก็ยาก
บูม – “ใหม่ป้ายแดงเลยค่ะ หลักๆ ที่บูมผ่านมาได้เพราะว่าพี่ๆ นักแสดงที่อยู่รอบข้าง เวลาเข้าฉากกับพี่โอม เขาส่งมา ฟีลลิ่งมันก็ได้พี่ต๊ะ (วริษฐ์) ก็ช่วยเยอะ ทุกคนจะคอยช่วยเหลือเรา ตอนแรกกดดันและกลัวว่าจะไปเป็นภาระเขา และพี่กู๊ด (เฉิด ภักดีวิจิตร) ก็ไม่ยอมปล่อย ถ้าเล่นยังไม่ดี เขาละเอียดมาก และพอยิ่งถ่ายนานความตั้งใจมันก็ยิ่งมากขึ้น เพราะถ้าฉากไหนเราเล่นไม่ได้ พี่ที่เข้าฉากด้วยก็จะเหนื่อยไปด้วย อังกอร์มันคือทีมเวิร์ก”
แต่งเอฟเฟ็กต์หน้าเสือใช้เวลานาน
บูม – “6 ช.ม. ค่ะ กับครั้งแรกที่แต่งเลย แต่มาแต่งอีกทีเวลาก็ลดลงไป เพราะไม่ได้แต่งทั้งตัวแล้ว แต่งแค่หน้ากับแขน ไม่ได้เพนต์ขาแล้วเพราะครั้งแรกที่หนัก เราต้องเพนต์ขาด้วย ติดขนที่หน้า ที่แขน ที่นิ้วด้วยหมด มันจะลำบากแค่ตรงที่นั่งอยู่เฉยๆ ห้ามขยับไปไหนเลย”
เคยเทกมากสุดกี่รอบ
โอม – “เราก็เทกตลอด มีฉากนึงที่ต้องอุ้มบูม แล้วต้องวิ่ง 20-30 รอบ เขาต้องนอนนิ่งๆ แต่ดันทำหน้ายิ้ม ก็ต้องเทกใหม่ คือกล้องมีจับหน้าด้วย แต่เขาไม่รู้ก็นอนยิ้มฉ่ำ และอีกซีนคือที่ต้องข้ามน้ำ น้ำแรง เราต้องเดินเบียดๆ เฉียงๆ เพราะทางแคบ อยู่ๆ ก็เสียหลักแล้วแทนที่จะช่วยกัน ดันกดหัวเราลงซ้ำอีก เราก็เกือบแย่นะ แต่เขาขำ”
บูม – “เราไม่รู้จริงๆ อย่างทำพิธีกร กล้องก็จะจับหน้าคนพูด แต่ละครเห็นหมดเลย (หัวเราะ)”
บทบู๊ๆ เคยเล่นมาบ้างแล้ว แต่เรื่องนี้ท้าทายกว่าเดิมยังไง
โอม – “เล่นกับนางเอกใหม่หนึ่งอย่าง เพราะอะไรที่ใหม่มันมักจะลำบากเสมอ ก้าวแรกมักจะยากแต่พอเล่นกันไปสักพักมันก็ปรับตัว จับทางกันได้ ซึ่งแต่ละคนจะมีจังหวะไม่เหมือนกันในการพูด คิวบู๊เราทุกคนต้องคอยประคับประคอง บางฉากเราเองก็ยังไม่เคยเจอ เสียงดังมาก บางทีเราต้องลากนางเอกขึ้นมาด้วยเพราะเขาล้ม”
บูม – “ต้องลากเลยค่ะเพราะถ้าเราล้มแล้วปล่อยเราไว้ตรงนั้น คือจะอันตรายกว่า บางทีเอฟเฟ็กต์มันไล่หลังเรามา ซึ่งเราต้องวิ่งหนี และเวลาวิ่งคนสุดท้ายจะเป็นพี่โอมตลอด เขาก็จะยกเรา และผลักให้เราวิ่งไปต่อ คือช่วยกันจริงๆ มันท้าทายตรงนี้”
ถ่ายทำและตัดต่อ รวมๆ 2 ปีกว่า แต่ได้ออกอากาศประมาณเดือนนึง เราเสียดายไหม
โอม – “ก็มีคุยกับเพื่อนนักแสดง ว่าเราอยากเห็นผลงานให้นานกว่านี้ แต่ก็ให้ทุกอย่างเป็นไปตามวาระครับ มันมีเหตุผลของมันทุกอย่าง”
บูม – “ไม่เสียดายค่ะ ได้ออกอากาศก็ดีแล้วค่ะ สำหรับบูมไม่ว่าจะสั้น เร็ว ยังไง แต่แค่คนดูได้เห็นสิ่งที่เราเหนื่อยกันมา เราก็แฮปปี้แล้ว”
ละครออกอากาศไปแล้วฟีดแบ็กดีมาก
โอม – “ดีมาก หายเหนื่อยเลย ปกติเป็นคนไม่ดูละครตัวเอง พ่อยังแซวเลยทำไมเรื่องนี้เราดู เราก็บอกว่ามันนานไง อยากดูผลงานตัวเองหน่อย แฮปปี้ที่ีมีเราเป็นหนึ่งในนั้นด้วย คือจริงๆ แรงกดดันอยู่ที่บูมเพราะเป็นเรื่องแรกของเขา และเป็นอังกอร์ ต้องชมเขา ผ่านตรงนี้มาได้เก่งนะ”
บูม – “ขอบคุณค่ะ (ยกมือไหว้) เราเริ่มต้นใหม่ทุกอย่างเลย เราอยากให้ผลงานออกมาดีเพราะทีมงานเขาทุ่มเทมากจริงๆ ฝากติดตามด้วยนะคะ”
ที่มา : ข่าวสด
https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_1574489
เหลืออีกตอนเดียว มาให้กำลังใจผู้กองและอังกอร์กันนะคะ วันศุกร์ 2 ทุ่ม
กระแสร้อน : “อังกอร์” มาแรง! “โอม-บูม” คุ้มค่าทุ่มเท
ครองใจแฟนละครจนใกล้จะถึงโค้งสุดท้ายแล้วสำหรับละครแอ๊กชั่น แฟนตาซี “อังกอร์” งานกำกับฯ ของ “เฉิดบุญ ภักดีวิจิตร” โดยค่ายอาหลอง จูเนียร์ ออกอากาศวันศุกร์-อาทิตย์ ทางช่อง 3 ซึ่งนอกจากจะสนุกกับฉากแอ๊กชั่น แฟนตาซีแล้ว ยังต้องมาลุ้นไปกับสาว “อังกอร์” ให้หลุดพ้นจากวิญญาณร้าย
วันนี้ 2 พระ-นาง “โอม”อัชชา นามปาน และ“บูม”สุภาพร วงษ์ถ้วยทอง มาถ่ายทอดความสนุกทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังการถ่ายทำ
พูดถึงบทบาทในละคร
บูม – “อังกอร์คือนักศึกษาแพทย์ปีสุดท้าย กลับมาบ้านตัวเองและเกิดเหตุการณ์ทำให้ต้องออกจากบ้าน ตัวเองก็ไม่รู้ว่ามีวิญญาณร้ายอยู่ในร่าง แต่ถ้าอายุครบ 25 ก็จะกลายเป็นเสือตลอดไป”
โอม – “ผมเป็นตำรวจ ถูกย้ายมาที่ชายแดน เพื่อมาสืบหาอาวุธที่หายไป แล้วมาเจอนางเอกเป็นพยานปากสำคัญของพวกที่ทำผิด เลยพยายามตามฆ่า เราก็ไปปกป้องเขา และไม่รู้ว่าเป็นเสือ จนมารู้ ก็เลยต้องช่วย”
ที่ได้รับการติดต่อรู้จักกันก่อนไหม
โอม – “ผมถามเลย นางเอกใครครับ จริงๆ พอบอกว่าเป็นบูม ผมก็ไปหาข้อมูล เป็นนางเอกใหม่ คือก็ไม่มีปัญหาครับ”
บูม – “ตอนแรกตกใจว่าเอาเราเล่นจริงๆ เหรอ เพราะจากที่เราไปแคสติ้งที่บ้านพี่กู๊ด (ผู้จัด) คือเราแค่แนะนำตัว พอเสร็จปุ๊บพี่กู๊ดให้กลับบ้านเลย หลังจากนั้นติดต่อให้เราลองไปทำท่าแปลงกาย ก็ผ่านไป 1 ปีเต็ม ก็ติดต่อกลับมาบอกว่าได้นะ เราก็รู้สึกดีใจที่เขาให้โอกาส พอรู้ว่าพระเอกคือพี่โอม ก็โอเค เราเคยเจอพี่โอมตอนที่ตัวเองเป็นพิธีกรแล้วพี่โอมไปร้องเพลง”
ตัดสินใจอยู่นานไหม กว่าจะรับเล่น
โอม – “ตัดสินใจรับเล่นเลยครับ แต่ไม่คิดว่ามันจะลำบากขนาดนี้นะ ไม่เคยเจอค่ายอาหลอง จูเนียร์ ไม่เคยเจอการทำงานแบบนี้ ภูมิใจมากที่ได้เล่นละครและเป็นส่วนหนึ่ง”
บูม – “คืออาหลอง จูเนียร์ เขาทุ่มเทมากกับการทำงานตรงนี้ เพราะมันเป็นเรื่องที่ลำบากจริงๆ จะไปถ่ายทำในป่าธรรมดาก็ไม่ได้ ในอุทยาน ในปางช้าง คือมันสวยมาก อย่างฉากเรือที่ผู้กองกับอังกอร์มุ้งมิ้งกัน หลายคนบอกเหมือนซีจี แต่ไม่ใช่ เราถ่ายที่จริงและยังไม่เคยมีกองถ่ายไหนไปถ่ายที่แห่งนี้”
บูมใหม่กับบทนางเอก บทก็ยาก
บูม – “ใหม่ป้ายแดงเลยค่ะ หลักๆ ที่บูมผ่านมาได้เพราะว่าพี่ๆ นักแสดงที่อยู่รอบข้าง เวลาเข้าฉากกับพี่โอม เขาส่งมา ฟีลลิ่งมันก็ได้พี่ต๊ะ (วริษฐ์) ก็ช่วยเยอะ ทุกคนจะคอยช่วยเหลือเรา ตอนแรกกดดันและกลัวว่าจะไปเป็นภาระเขา และพี่กู๊ด (เฉิด ภักดีวิจิตร) ก็ไม่ยอมปล่อย ถ้าเล่นยังไม่ดี เขาละเอียดมาก และพอยิ่งถ่ายนานความตั้งใจมันก็ยิ่งมากขึ้น เพราะถ้าฉากไหนเราเล่นไม่ได้ พี่ที่เข้าฉากด้วยก็จะเหนื่อยไปด้วย อังกอร์มันคือทีมเวิร์ก”
แต่งเอฟเฟ็กต์หน้าเสือใช้เวลานาน
บูม – “6 ช.ม. ค่ะ กับครั้งแรกที่แต่งเลย แต่มาแต่งอีกทีเวลาก็ลดลงไป เพราะไม่ได้แต่งทั้งตัวแล้ว แต่งแค่หน้ากับแขน ไม่ได้เพนต์ขาแล้วเพราะครั้งแรกที่หนัก เราต้องเพนต์ขาด้วย ติดขนที่หน้า ที่แขน ที่นิ้วด้วยหมด มันจะลำบากแค่ตรงที่นั่งอยู่เฉยๆ ห้ามขยับไปไหนเลย”
เคยเทกมากสุดกี่รอบ
โอม – “เราก็เทกตลอด มีฉากนึงที่ต้องอุ้มบูม แล้วต้องวิ่ง 20-30 รอบ เขาต้องนอนนิ่งๆ แต่ดันทำหน้ายิ้ม ก็ต้องเทกใหม่ คือกล้องมีจับหน้าด้วย แต่เขาไม่รู้ก็นอนยิ้มฉ่ำ และอีกซีนคือที่ต้องข้ามน้ำ น้ำแรง เราต้องเดินเบียดๆ เฉียงๆ เพราะทางแคบ อยู่ๆ ก็เสียหลักแล้วแทนที่จะช่วยกัน ดันกดหัวเราลงซ้ำอีก เราก็เกือบแย่นะ แต่เขาขำ”
บูม – “เราไม่รู้จริงๆ อย่างทำพิธีกร กล้องก็จะจับหน้าคนพูด แต่ละครเห็นหมดเลย (หัวเราะ)”
บทบู๊ๆ เคยเล่นมาบ้างแล้ว แต่เรื่องนี้ท้าทายกว่าเดิมยังไง
โอม – “เล่นกับนางเอกใหม่หนึ่งอย่าง เพราะอะไรที่ใหม่มันมักจะลำบากเสมอ ก้าวแรกมักจะยากแต่พอเล่นกันไปสักพักมันก็ปรับตัว จับทางกันได้ ซึ่งแต่ละคนจะมีจังหวะไม่เหมือนกันในการพูด คิวบู๊เราทุกคนต้องคอยประคับประคอง บางฉากเราเองก็ยังไม่เคยเจอ เสียงดังมาก บางทีเราต้องลากนางเอกขึ้นมาด้วยเพราะเขาล้ม”
บูม – “ต้องลากเลยค่ะเพราะถ้าเราล้มแล้วปล่อยเราไว้ตรงนั้น คือจะอันตรายกว่า บางทีเอฟเฟ็กต์มันไล่หลังเรามา ซึ่งเราต้องวิ่งหนี และเวลาวิ่งคนสุดท้ายจะเป็นพี่โอมตลอด เขาก็จะยกเรา และผลักให้เราวิ่งไปต่อ คือช่วยกันจริงๆ มันท้าทายตรงนี้”
ถ่ายทำและตัดต่อ รวมๆ 2 ปีกว่า แต่ได้ออกอากาศประมาณเดือนนึง เราเสียดายไหม
โอม – “ก็มีคุยกับเพื่อนนักแสดง ว่าเราอยากเห็นผลงานให้นานกว่านี้ แต่ก็ให้ทุกอย่างเป็นไปตามวาระครับ มันมีเหตุผลของมันทุกอย่าง”
บูม – “ไม่เสียดายค่ะ ได้ออกอากาศก็ดีแล้วค่ะ สำหรับบูมไม่ว่าจะสั้น เร็ว ยังไง แต่แค่คนดูได้เห็นสิ่งที่เราเหนื่อยกันมา เราก็แฮปปี้แล้ว”
ละครออกอากาศไปแล้วฟีดแบ็กดีมาก
โอม – “ดีมาก หายเหนื่อยเลย ปกติเป็นคนไม่ดูละครตัวเอง พ่อยังแซวเลยทำไมเรื่องนี้เราดู เราก็บอกว่ามันนานไง อยากดูผลงานตัวเองหน่อย แฮปปี้ที่ีมีเราเป็นหนึ่งในนั้นด้วย คือจริงๆ แรงกดดันอยู่ที่บูมเพราะเป็นเรื่องแรกของเขา และเป็นอังกอร์ ต้องชมเขา ผ่านตรงนี้มาได้เก่งนะ”
บูม – “ขอบคุณค่ะ (ยกมือไหว้) เราเริ่มต้นใหม่ทุกอย่างเลย เราอยากให้ผลงานออกมาดีเพราะทีมงานเขาทุ่มเทมากจริงๆ ฝากติดตามด้วยนะคะ”
ที่มา : ข่าวสด https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_1574489
เหลืออีกตอนเดียว มาให้กำลังใจผู้กองและอังกอร์กันนะคะ วันศุกร์ 2 ทุ่ม