สวัสดีค่ะ เราชื่อรุ้งนะคะ หลังจากอายุเข้า 25 ปีก็รู้สึกได้เลยว่าผิวหนังที่หน้าไม่เหมือนเดิมแล้ว ทำให้เริ่มหันมาศึกษาส่วนประกอบของสกินแคร์ต่างๆด้วยตัวเอง เลยมาเปิดเพจและเริ่มทำยูทูปแชนแนลเพราะอยากจะส่งต่อความรู้ต่างๆให้คนอื่นด้วยเหมือนกันค่ะ เพราะก่อนหน้านี้ก็รู้สึกสับสนกับสกินแคร์ต่างๆมากมายที่ออกมาตามท้องตลาด ลองไปอ่านไปฟังกันดูนะคะ และขออนุญาตฝากเพจ Facebook และ Youtube Channel : RainbowisRNG ด้วยค่ะ

มาค่ะ สาวกสกินแคร์ทั้งหลาย วันนี้เราจะมารีวิวสกินแคร์ทางฝั่งเกาหลีกัน เนื่องจากเห็นบล็อกเกอร์ต่างชาติเค้าวอแวกับสกินแคร์แบรนด์นี้กันมาซักพักแล้ว นั่นก็คือแบรนด์ COSRX นั่นเองค่ะ ที่เคยได้ยินมาแบรนด์นี้จะเหมาะกับคนผิวมัน และ คนที่ต้องการแก้ไขปัญหาเรื่องสิวกันนะคะ ตัวเราเองไม่ได้มีปัญหาเรื่องสิวอักเสบก็จริง แต่เนื่องจากเป็นคนผิวมัน ปัญหาพวกสิวอุดตัน หรือ สิวหัวดำต่างๆก็มารบกวนใจไม่ขาดสายเลยค่ะ เราเลยอยากจะลองใช้เผื่อว่าจะดีอย่างที่คุณๆในโซเชียลเค้าว่ากัน หลังจากใช้มา2เดือน วันนี้จะมาพูดให้ฟังกันคะว่าใช้แล้วดีหรือไม่ดียังไง มา! เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ
ใครขี้เกียจอ่านเราได้ทำคลิปไว้ให้ในยูทูปแล้วค่ะ สามารถไปฟังกันได้เลย

1. Low pH Good Morning Gel Cleanser

ที่เลือกใช้ตัวนี้เลยเนื่องจากชื่อของมันเขียนว่า Low pH แล้ว Low pH มันดียังไงหรอ? ค่า pH จะเป็นค่าที่บ่งบอกความเป็นกรดหรือเบส ซึ่งมีค่าอยู่ระหว่าง 1 ถึง 14 โดยค่าpH ที่ 7 จะแสดงถึงความเป็นกลางซึ่งพอไปดูแล้วค่า pH ของผลิตภัณฑ์นี่จะอยู่ที่ 5 ซึ่งแสดงว่ามันมีความเป็นกรดอยู่เล็กน้อยนั่นเองค่ะ
ถ้าทุกคนเคยสังเกตุสกินแคร์ต่างๆมากมาย ส่วนใหญ่แล้วมักเขียนว่ามีส่วนประกอบของ Acid นั่นเป็นเพราะ ผิวของเราจริงๆแล้วไม่ได้มีค่าเป็นกลางแต่ดันองค์ประกอบต่างๆที่มีความเป็นกรดอยู่ ดังนั้นการที่เราใช้พวกสกินแคร์ที่มีความเป็นกรดเล็กน้อยจะทำให้หน้าของเราทำงานได้ดีมากขึ้นนั่นเองค่ะ นอกจากนี้แล้วตัวนี้ยังมีส่วนประกอบของ tea tree oil ซึ่งทำหน้าที่สำคัญในการยับยั้งการเกิดสิวอีกด้วย
ความรู้สึกหลังใช้ : รู้สึกได้ว่าผิวหน้าไม่แห้งตึงตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ รุ้งเลยถือว่าตัวนี้โอเคมากๆ ทำความสะอาดผิวหน้าได้ดี และที่สำคัญราคาไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับปริมาณ เวิค เวิค เวิค ค่ะ
Score : 9.5/10
Repurchase : 👍
Price : ประมาณ 410 Baht
Size : 150 ml

2. BHA Blackhead Power Liquid

ทุกคนต้องเคยได้ยินมาแน่นอนระหว่าง BHA กับ AHA แต่มันมีความแตกต่างกันอย่างไรหรอ?
AHA และ BHA ทั้งสองเป็นตัวที่จะทำหน้าที่มาช่วยเราผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบริเวณผิวหนังชั้นนอกของเรา ทำให้หน้าเราของกระจ่างใสขึ้น ลดรอยด่างดำ มีออร่า วิ๊ง วิ๊ง ✨✨แต่ AHA จะมีโมเลกุลที่ใหญ่กว่า BHA ดังนั้นจะทำหน้าที่ได้แค่ผลัดผิวหนังชั้นนอกเท่านั้น AHA จึงเหมาะกับคนทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะมีผิวแห้ง ผิวมัน แต่ BHA ด้วยตัวมันที่มีโมเลกุลที่เล็กกว่ามากจึงสามารถชอนไชเข้าไปสู่ชั้นผิวของเราได้ลึกมากกว่า ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับคนที่ผิวมันและมีปัญหาเรื่องของสิวหัวดำ สิวอุดตันต่างๆ นั่นเองค่ะ
ความรู้สึกหลังการใช้ : สำหรับตัวเราเองไม่เห็นผลลัพธ์อะไรทั้งสิ้น แม้ว่าจะให้เวลาร่วมสองเดือนแต่สิวหัวดำที่เคยมีก็ยังคงอยู่ไม่จากไปไหน รู้สึกเฉยๆกับผลิตภัณฑ์นี้ค่ะ
Score : 7/10
Repurchase : 😐
Price : ประมาณ 630 Baht
Size : 100 ml

3. OIL-FREE Ultra Moisturizing Lotion with Birch Sap

เนื่องจากน้ำเป็นสิ่งที่สำคัญต่อร่างกายของเรามากๆ ใครบอกให้ดื่มน้ำเยอะๆ อย่าไปเบะปากใส่และก็ทำตามเค้าไปเถอะ เพราะถ้าเรามีน้ำเพียงพอในร่างกาย อวัยวะต่างๆในร่างกายเราจะสามารถทำหน้าที่ได้อย่างดี แล้วผิวเราก็จะดีตามมานั่นเองค่ะ ด้วยส่วนผสมหลักๆของเค้าคือ Birch Sap ซึ่งเป็นต้นไม้ชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่ในการเก็บกักน้ำได้อย่างดี การเติมน้ำให้ผิวเลยเป็นสิ่งที่รุ้งคิดว่าสำคัญมากๆ เลยทำให้ตัดสินใจใช้ตัวนี้เนื่องจากได้ยินจากบล็อกเกอร์ต่างชาติมาเยอะว่ามันยอดเยี่ยมมากเหลือเกิน
ความรู้สึกหลังการใช้ : เอาตามความจริงก็เฉยมากถึงมากที่สุด มันไม่ได้ใช้แล้วหน้านุ่มนวลอิ่มฟูอะไรขนาดนั้น แต่ดีหน่อยที่เอามาทาตอนเช้าได้เนื่องจากมันเป็นสูตร OIL-FREE แต่ก็เฉยๆ ไม่ตื่นเต้น
Score : 8/10
Repurchase : 🤔
Price : ประมาณ 640 Baht
Size : 100 ml

4. Ultimate Nourishing Rice Overnight Spa Mask

ตัวท็อปของแบรนด์ที่เค้าว่าจะเปลี่ยนชีวิตให้ผิว ทาทิ้งไว้โดยไม่ต้องล้างออก จากนั้นตื่นมาแล้วตะลึงในความงามของตัวเอง ด้วยส่วนผสมหลักของข้าวที่ทำหน้าที่ในการลดเลือนริ้วรอย ป้องกันการเกิดสิว และทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส
ความรู้สึกหลังการใช้ : เฉยอีกแล้ว ทาทิ้งไว้ตื่นนอนมาก็ไม่ได้วิ๊งอะไร เอ๊ะ หรือหน้าเราที่มีปัญหา แต่ก็โอเคไม่แพ้ ไม่ทำให้เกิดสิว
Score : 8/10
Repurchase : 🤔
Price : ประมาณ 512 Baht
Size : 60 ml

5. Klairs Supple Preparation Facial Toner

อ่ะ ตัวนี้แถมให้หน่อย เนื่องจากได้รางวัลมาเยอะเหลือกัน หน้าที่หลักของตัวนี้คือเป็นโทนเนอร์ ดังนั้นให้ใช้เป็นอันดับแรกหลังจากล้างหน้านั่นเอง ตัวนี้นี่คือติดท็อปจนไม่รู้จะยังไงแล้ว เราก็เลยทนไม่ไหวก็เลยต้องซื้อมาลองบ้าง
ความรู้สึกหลังการใช้ : แรกๆ เฉยจริงๆ มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับหน้าเลย แต่หลังจากที่เปลี่ยนมาใช้วิธี 7 skin method ที่ยอดฮิตในหมู่ของคนเกาหลีนั่นคือการทาโทนเนอร์ทับกับ 7 ชั้นแทนที่จะทาชั้นเดียวตามปกติ ก็รู้สึกได้ว่าผิวหน้าชุ่มชื้นขึ้นมีความเปล่งปลั่งมากขึ้น เพราะเนื้อเซรั่มบางเบาคือถ้าใช้ตัวอื่นมาทำแบบนี้หน้าต้องเมือกแน่ๆ
Score : 9/10
Repurchase : 🤔
Price : ประมาณ 704 Baht
Size : 180 ml
โดยภาพรวมของแบรนด์นี้ ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรอ่ะ เฉยๆจริงๆ แต่ก็อย่างว่าคนที่ได้ผลเค้าใช้รักษาสิวอักเสบหรือรอยสิวอะไรแบบนี้ ถ้าใครมีปัญหาพวกสิวก็ไปลองกันได้นะ แต่สำหรับเรา เฉยๆ จริงๆ เรื่องความชุ่มชื้นก็โอเคแต่ก็ไม่ได้ถึงกับโอ้โห อะไรกันนี่ 😂 นะคะ
ปล. - ราคาที่ลงไว้เป็นราคาในเว็บเมืองนอกนะคะ โดยใช้เรท US ที่ 32 บาท ดังนั้นถ้าใครสั่งที่ไทยอาจต้องเสียค่าพรีออเดอร์บวกเพิ่มขึ้นไปอีก
-ใครขี้เกียจอ่านก็สามารถเข้าไปดูลิงค์ในยูทูปที่แปะไว้ด้านบนได้เลยนะคะ