ผมเห็นหลายๆความเห็นที่น่าสนใจกล่าวถึง iPhone XR ซึ่งเรายังมีเวลาให้สนทนากันก่อนที่จะมีมือถือตัวจริงออกมาให้เห็นอีก 1-2 เดือน
ผมเห็นหลายๆคนมองกันเพียงสเป็คกระดาษเพียงอย่างเดียวและไม่ได้มองถึงเรื่องการใช้งานจริงกันเท่าที่ควร
ผมทราบว่าหลายๆคนหัวเราะกันว่ามือถือจอความละเอียดไม่ถึง 1080P ในปี 2018 ราคาเฉียด 30000 เนี่ยนะ Apple บ้าไปแล้ว ความจริงคือเราตามข่าวลือกันมานานตั้งแต่ปี 2017 แล้วว่าจะมี iPhone ที่มีจอ LCD ขนาด 6.1 นิ้วออกมาในปีหน้าที่มีความละเอียดหน้าจอต่ำกว่า iPhone X เพื่อทำให้ราคา iPhone ถูกลงมา ก็พอเข้าใจครับว่ายังมีบางท่านที่ไม่ได้ตามข่าว
https://www.iphonemod.net/tag/iphone-จอ-lcd-6-1-นิ้ว
ซึ่งผมก็คิดว่าที่ความละเอียดของจอ 820P บน iPhone XR ก็ไม่ได้แย่อะไรนะครับเพราะ
1. Nintendo Switch ที่เป็นเครื่องเล่นเกมส์ยังใช้ความละเอียด 720P ตอนที่ไม่ได้ต่อ Dock ก็ยังเล่นกันได้ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรกันเลย อีกทั้งยังเป็นข้อดีอีกด้วยครับเพราะมันช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานให้นานได้อีกเพราะความละเอียดที่น้อยลงย่อมลดการประมวลผลให้น้อยลงทำให้ iPhone XR มีแบตเตอร์รี่ที่ใช้ได้นานกว่า iPhone 8 Plus ที่เรียกได้ว่าแบตอึดมากๆอยู่แล้วถึง 1.5 ชั่วโมง
2. ผมใช้ iPhone SE อยู่ ณ ตอนนี้ที่มีความหนาแน่นของพิกเซล (ppi) เท่ากันกับ iPhone XR ก็คิดว่าหน้าจอมันก็ละเอียดดีนะครับ iPhone XR เหมือนเพิ่มขนาดของหน้าจอแต่ไม่ลดความคมของจอลง คงอดไม่สนใจไม่ได้ล่ะครับ
3. iPhone SE มีขนาดหน้าจอ 1136 x 640 พิกเซล สามารถเล่น Youtube 1080P หรือไฟล์วิดีโอที่มีขนาดใหญ่กว่าได้แต่จะ Downscale ลงมาเท่ากับขนาดของหน้าจอ ดังนั้นผมคิดว่า iPhone XR ก็สามารถเล่นไฟล์ขนาด 1080P ได้เหมือน iPhone SE แน่นอนครับ (แต่ผมคิดว่า iPhone XR มันเล่นได้ถึง 1440P เลยนะครับ)
https://www.gsmarena.com/youtube_for_ios_adds_higher_resolution_options_for_small_screen_iphones-blog-22682.php
4. ทางวิทยาศาสตร์เขามีการทดลองออกมาแล้วพบว่าถ้าหน้าจอมือถือมีความหนาแน่นของพิกเซล (DPI) เกิน 300 ซึ่ง iPhone XR มี DPI 326 ซึ่งในการใช้งานจริง สายตาของคุณแยกออกยากมากครับระหว่าง 720P กับ 1080P แต่ว่าจอ 720P ใช้พลังงานน้อยกว่า 55% โดยไม่สูญเสียความคมชัดของภาพไป
ในเรื่องของกล้อง iPhone XR มีเพียงกล้องเดียวแต่เป็นกล้องเลนส์ Wide แบบเดียวกันที่มีบน iPhone XS Max ซึ่งรองรับ Smart HDR, การถ่ายโบเก้, การควบคุมระยะชัดลึก, การถ่ายรูปในที่แสงน้อย, การถ่ายวิดีโอ 4K ที่ดียิ่งขึ้นและมี OIS ส่วนกล้องหน้าก็มีกล้อง TrueDepth เช่นเดียวกันกับรุ่นแพงๆ รวมถึงมี FaceID ด้วย ใครที่ใช้รุ่น iPhone X อยู่อาจจะไม่ว้าว แต่ผมคิดว่าคนที่ใช้ iPhone 6S, SE, 7 และ 8 (ไม่ใช่รุ่น Plus) ว้าวแน่นอนครับ
ในเรื่องของชิปการประมวลผลใช้ชิปรุ่นเดียวกันกับรุ่นตัวแพงคือ A12 Bionic แต่ความละเอียดของหน้าจอนั้นเล็กกว่ารุ่นที่ใช้จอ OLED ดังนั้นสามารถหวังผลเรื่องการประมวลผลบนหน้าจอได้ดีและรวดเร็วกว่ารุ่นที่มีจอที่มีความละเอียดมากกว่าแน่นอน เพราะจอที่เล็กกว่าย่อมต้องการพลังในการประมวลผมน้อยกว่าแต่ชิปการประมวลผลแรงเหลือเฟือครับ
โปรดอย่าลืมล่ะครับว่ารุ่นที่เป็นจอ 1080P ยังมีขายอยู่ดังนั้นใครที่รับไม่ได้กับจอที่มีความละเอียดต่ำกว่า 1080P ก็ยังมีทางเลือกอยู่นะครับ (iPhone 7 Plus, 8 Plus) แต่ก็ต้องแลกกับได้เทคโนโลยีของปีก่อนๆ ดังนั้นคนที่อยากได้เทคโนโลยีของปีนี้ iPhone XR ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ
อีกอย่าง iPhone เป็นมือถือที่มีราคาแพงกว่าคู่แข่งอยู่แล้วเพราะเหมือนกับคุณซื้อมือถือพร้อมการซัพพอร์ตซอร์ฟแวร์หลายๆปี 4-5 ปีขึ้นไป และตัวเครื่องปัญหาน้อยแน่นอนถ้ารองรับ iOS 12 เป็นต้นไป ดังนั้นใครที่สนมือถือราคาถูกแต่โดนแพการอัพเดทตั้งแต่เดินออกจากร้านค้าหรือแพหลังจากซื้อมาได้ 2-3 ปีย่อมบอกว่า iPhone ราคาแพงและไม่คุ้มค่าแน่นอนอยู่แล้วครับ
สำหรับ จขกท. คงขาย iPhone SE และซื้อ iPhone XR 128GB เพราะอยากได้มือถือที่ความจุเยอะ แบตอึดใช้ได้นานมากกว่าจอสวยๆ ยิ่งมีชิปแรงๆ กล้องดีๆ ไมค์ Stereo คู่ ลำโพง Stereo คู่ รองรับ Wireless charging สายถ่ายวิดีโอเน้นความจุเยอะๆ ถ่ายรูปปกติไม่เน้นซูมไม่พลาดแน่นอนครับ แต่ก็พอจะเข้าใจว่ามือถือรุ่นนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคน แต่มือถือรุ่นนี้คือรุ่นที่บาลานซ์ในการใช้งานทุกด้านแล้วครับ
ถ้าใครมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติม เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย สามารถพูดคุยกันได้ครับผม
เหตุผลว่าทำไมถึงควรเลือก iPhone XR
ผมเห็นหลายๆคนมองกันเพียงสเป็คกระดาษเพียงอย่างเดียวและไม่ได้มองถึงเรื่องการใช้งานจริงกันเท่าที่ควร
ผมทราบว่าหลายๆคนหัวเราะกันว่ามือถือจอความละเอียดไม่ถึง 1080P ในปี 2018 ราคาเฉียด 30000 เนี่ยนะ Apple บ้าไปแล้ว ความจริงคือเราตามข่าวลือกันมานานตั้งแต่ปี 2017 แล้วว่าจะมี iPhone ที่มีจอ LCD ขนาด 6.1 นิ้วออกมาในปีหน้าที่มีความละเอียดหน้าจอต่ำกว่า iPhone X เพื่อทำให้ราคา iPhone ถูกลงมา ก็พอเข้าใจครับว่ายังมีบางท่านที่ไม่ได้ตามข่าว
https://www.iphonemod.net/tag/iphone-จอ-lcd-6-1-นิ้ว
ซึ่งผมก็คิดว่าที่ความละเอียดของจอ 820P บน iPhone XR ก็ไม่ได้แย่อะไรนะครับเพราะ
1. Nintendo Switch ที่เป็นเครื่องเล่นเกมส์ยังใช้ความละเอียด 720P ตอนที่ไม่ได้ต่อ Dock ก็ยังเล่นกันได้ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรกันเลย อีกทั้งยังเป็นข้อดีอีกด้วยครับเพราะมันช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานให้นานได้อีกเพราะความละเอียดที่น้อยลงย่อมลดการประมวลผลให้น้อยลงทำให้ iPhone XR มีแบตเตอร์รี่ที่ใช้ได้นานกว่า iPhone 8 Plus ที่เรียกได้ว่าแบตอึดมากๆอยู่แล้วถึง 1.5 ชั่วโมง
2. ผมใช้ iPhone SE อยู่ ณ ตอนนี้ที่มีความหนาแน่นของพิกเซล (ppi) เท่ากันกับ iPhone XR ก็คิดว่าหน้าจอมันก็ละเอียดดีนะครับ iPhone XR เหมือนเพิ่มขนาดของหน้าจอแต่ไม่ลดความคมของจอลง คงอดไม่สนใจไม่ได้ล่ะครับ
3. iPhone SE มีขนาดหน้าจอ 1136 x 640 พิกเซล สามารถเล่น Youtube 1080P หรือไฟล์วิดีโอที่มีขนาดใหญ่กว่าได้แต่จะ Downscale ลงมาเท่ากับขนาดของหน้าจอ ดังนั้นผมคิดว่า iPhone XR ก็สามารถเล่นไฟล์ขนาด 1080P ได้เหมือน iPhone SE แน่นอนครับ (แต่ผมคิดว่า iPhone XR มันเล่นได้ถึง 1440P เลยนะครับ)
https://www.gsmarena.com/youtube_for_ios_adds_higher_resolution_options_for_small_screen_iphones-blog-22682.php
4. ทางวิทยาศาสตร์เขามีการทดลองออกมาแล้วพบว่าถ้าหน้าจอมือถือมีความหนาแน่นของพิกเซล (DPI) เกิน 300 ซึ่ง iPhone XR มี DPI 326 ซึ่งในการใช้งานจริง สายตาของคุณแยกออกยากมากครับระหว่าง 720P กับ 1080P แต่ว่าจอ 720P ใช้พลังงานน้อยกว่า 55% โดยไม่สูญเสียความคมชัดของภาพไป
ในเรื่องของกล้อง iPhone XR มีเพียงกล้องเดียวแต่เป็นกล้องเลนส์ Wide แบบเดียวกันที่มีบน iPhone XS Max ซึ่งรองรับ Smart HDR, การถ่ายโบเก้, การควบคุมระยะชัดลึก, การถ่ายรูปในที่แสงน้อย, การถ่ายวิดีโอ 4K ที่ดียิ่งขึ้นและมี OIS ส่วนกล้องหน้าก็มีกล้อง TrueDepth เช่นเดียวกันกับรุ่นแพงๆ รวมถึงมี FaceID ด้วย ใครที่ใช้รุ่น iPhone X อยู่อาจจะไม่ว้าว แต่ผมคิดว่าคนที่ใช้ iPhone 6S, SE, 7 และ 8 (ไม่ใช่รุ่น Plus) ว้าวแน่นอนครับ
ในเรื่องของชิปการประมวลผลใช้ชิปรุ่นเดียวกันกับรุ่นตัวแพงคือ A12 Bionic แต่ความละเอียดของหน้าจอนั้นเล็กกว่ารุ่นที่ใช้จอ OLED ดังนั้นสามารถหวังผลเรื่องการประมวลผลบนหน้าจอได้ดีและรวดเร็วกว่ารุ่นที่มีจอที่มีความละเอียดมากกว่าแน่นอน เพราะจอที่เล็กกว่าย่อมต้องการพลังในการประมวลผมน้อยกว่าแต่ชิปการประมวลผลแรงเหลือเฟือครับ
โปรดอย่าลืมล่ะครับว่ารุ่นที่เป็นจอ 1080P ยังมีขายอยู่ดังนั้นใครที่รับไม่ได้กับจอที่มีความละเอียดต่ำกว่า 1080P ก็ยังมีทางเลือกอยู่นะครับ (iPhone 7 Plus, 8 Plus) แต่ก็ต้องแลกกับได้เทคโนโลยีของปีก่อนๆ ดังนั้นคนที่อยากได้เทคโนโลยีของปีนี้ iPhone XR ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ
อีกอย่าง iPhone เป็นมือถือที่มีราคาแพงกว่าคู่แข่งอยู่แล้วเพราะเหมือนกับคุณซื้อมือถือพร้อมการซัพพอร์ตซอร์ฟแวร์หลายๆปี 4-5 ปีขึ้นไป และตัวเครื่องปัญหาน้อยแน่นอนถ้ารองรับ iOS 12 เป็นต้นไป ดังนั้นใครที่สนมือถือราคาถูกแต่โดนแพการอัพเดทตั้งแต่เดินออกจากร้านค้าหรือแพหลังจากซื้อมาได้ 2-3 ปีย่อมบอกว่า iPhone ราคาแพงและไม่คุ้มค่าแน่นอนอยู่แล้วครับ
สำหรับ จขกท. คงขาย iPhone SE และซื้อ iPhone XR 128GB เพราะอยากได้มือถือที่ความจุเยอะ แบตอึดใช้ได้นานมากกว่าจอสวยๆ ยิ่งมีชิปแรงๆ กล้องดีๆ ไมค์ Stereo คู่ ลำโพง Stereo คู่ รองรับ Wireless charging สายถ่ายวิดีโอเน้นความจุเยอะๆ ถ่ายรูปปกติไม่เน้นซูมไม่พลาดแน่นอนครับ แต่ก็พอจะเข้าใจว่ามือถือรุ่นนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคน แต่มือถือรุ่นนี้คือรุ่นที่บาลานซ์ในการใช้งานทุกด้านแล้วครับ
ถ้าใครมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติม เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย สามารถพูดคุยกันได้ครับผม