เปิดตัวไปเรียบร้อยแล้วสดๆ ร้อนๆ สำหรับสมาร์ทโฟนยอดฮิตอย่าง iPhone XS Max, iPhone XS และ iPhone XR ที่เชื่อได้เลยว่าเหล่าสาวกเตรียมทุบกระปุกรอการมาถึงของมือถือทั้ง 3 รุ่นนี้แล้ว แต่หลังจากที่ได้มาครอบครองกันแล้ว ก็น่าจะต้องลงทุนซื้อเคสดีๆ + กระจกกันรอยดีๆ มาเตรียมเอาไว้ด้วยล่ะ เพราะค่าเปลี่ยนหน้าจอและส่วนอื่นๆ ที่ Apple เผยออกมานั้น มีราคาพอๆ ซื้อมือถือ Android รุ่นท็อปได้สบายๆ
นอกจากค่าตัวที่แพงขึ้นกว่ารุ่นเดิมๆ แล้ว แน่นอนว่าค่าซ่อมหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ก็ต้องแพงตามขึ้นอีกด้วยเช่นกัน โดย iPhone รุ่นท็อปตัวก่อนหน้าอย่าง iPhone X มีค่าซ่อม (เปลี่ยน) จออยู่ที่ 279 ดอลลาร์ หรือประมาณ 9,096 บาท ส่วนค่าซ่อม “อื่นๆ” อย่างเช่นฝาหลังที่เป็นกระจกเกิดแตกขึ้นมา ก็จะเสียค่าเปลี่ยนถึง 549 ดอลลาร์ หรือประมาณ 17,887 บาท
และถ้าคิดว่านั่นแพงแล้ว ลองมาเจอกับค่าซ่อมของมือถือตัวท็อปล่าสุดอย่าง iPhone XS Max กันหน่อยดีกว่า โดยค่าเปลี่ยนหน้าจอของมือถือรุ่นดังกล่าวจะอยู่ที่ 329 ดอลลาร์ หรือประมาณ 10,723 บาท และถ้าหากต้องเปลี่ยนฝาหลังขึ้นมาก็เตรียมกระเป๋าฉีกกันได้เลย เพราะมีค่าเปลี่ยนอยู่ที่ 599 ดอลลาร์ หรือประมาณ 19,523 บาท ซึ่งถือว่าเป็นค่าซ่อมที่แพงที่สุดของมือถือทุกรุ่นในยุคนี้แล้ว (iPhone XS ค่าซ่อมเท่า iPhone X)
อย่างที่บอกไปแล้วว่าใครเตรียมจะซื้อมือถือรุ่นนี้ (และรู้ตัวว่าเป็นคนซุ่มซ่าม) ก็เตรียมหาซื้อเคสอึดๆ และกระจกกันรอยดีๆ ไว้ด้วยเลย จะได้ไม่ต้องมาน้ำตาตกกระเป๋าแฟบกันทีหลังนะจ๊ะ
ที่มา : Phonearena, Apple
https://droidsans.com/apple-repair-sets-costly-records-for-a-cracked-iphone-xs-max-back-or-display/
Apple เผย iPhone XS Max ค่าซ่อมหน้าจอและฝาหลังแพงสุด ขนาดซื้อมือถือเรือธง Android ได้สบายๆ
เปิดตัวไปเรียบร้อยแล้วสดๆ ร้อนๆ สำหรับสมาร์ทโฟนยอดฮิตอย่าง iPhone XS Max, iPhone XS และ iPhone XR ที่เชื่อได้เลยว่าเหล่าสาวกเตรียมทุบกระปุกรอการมาถึงของมือถือทั้ง 3 รุ่นนี้แล้ว แต่หลังจากที่ได้มาครอบครองกันแล้ว ก็น่าจะต้องลงทุนซื้อเคสดีๆ + กระจกกันรอยดีๆ มาเตรียมเอาไว้ด้วยล่ะ เพราะค่าเปลี่ยนหน้าจอและส่วนอื่นๆ ที่ Apple เผยออกมานั้น มีราคาพอๆ ซื้อมือถือ Android รุ่นท็อปได้สบายๆ
นอกจากค่าตัวที่แพงขึ้นกว่ารุ่นเดิมๆ แล้ว แน่นอนว่าค่าซ่อมหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ก็ต้องแพงตามขึ้นอีกด้วยเช่นกัน โดย iPhone รุ่นท็อปตัวก่อนหน้าอย่าง iPhone X มีค่าซ่อม (เปลี่ยน) จออยู่ที่ 279 ดอลลาร์ หรือประมาณ 9,096 บาท ส่วนค่าซ่อม “อื่นๆ” อย่างเช่นฝาหลังที่เป็นกระจกเกิดแตกขึ้นมา ก็จะเสียค่าเปลี่ยนถึง 549 ดอลลาร์ หรือประมาณ 17,887 บาท
และถ้าคิดว่านั่นแพงแล้ว ลองมาเจอกับค่าซ่อมของมือถือตัวท็อปล่าสุดอย่าง iPhone XS Max กันหน่อยดีกว่า โดยค่าเปลี่ยนหน้าจอของมือถือรุ่นดังกล่าวจะอยู่ที่ 329 ดอลลาร์ หรือประมาณ 10,723 บาท และถ้าหากต้องเปลี่ยนฝาหลังขึ้นมาก็เตรียมกระเป๋าฉีกกันได้เลย เพราะมีค่าเปลี่ยนอยู่ที่ 599 ดอลลาร์ หรือประมาณ 19,523 บาท ซึ่งถือว่าเป็นค่าซ่อมที่แพงที่สุดของมือถือทุกรุ่นในยุคนี้แล้ว (iPhone XS ค่าซ่อมเท่า iPhone X)
อย่างที่บอกไปแล้วว่าใครเตรียมจะซื้อมือถือรุ่นนี้ (และรู้ตัวว่าเป็นคนซุ่มซ่าม) ก็เตรียมหาซื้อเคสอึดๆ และกระจกกันรอยดีๆ ไว้ด้วยเลย จะได้ไม่ต้องมาน้ำตาตกกระเป๋าแฟบกันทีหลังนะจ๊ะ
ที่มา : Phonearena, Apple
https://droidsans.com/apple-repair-sets-costly-records-for-a-cracked-iphone-xs-max-back-or-display/