No Country for Old Men (2007) หนังสุดเดือดของพี่น้องโคเอนที่คว้ารางวัลหนังแห่งปี, สมทบชายยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, บทดัดแปลงยอดเยี่ยม เล่าถึงเลเวลีน มอสส์ (จอช โบรลิน) ชายหนุ่มที่ดันไปเก็บเงินหลายล้านมาโดยไม่รู้ว่ามีมือสังหารอย่าง แอนตัน ชิรูห์ (ฆาเบียร์ บาเด็ม) ตามล่าอยู่จนไล่ตามเก็บทุกคนที่ดูจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายไปของเงินในครั้งนี้ นำมาสู่การออกตามสืบคดีของเจ้าหน้าที่สูงอายุอย่างเบลล์ (ทอมมี ลี โจนส์)
หนังทรงพลังสุดๆ ด้วยกองทัพนักแสดงนำทั้งสาม และฝีมือการกำกับ-เขียนบทที่ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมของคอร์แม็ค แม็คคาร์ธีของสองพี่น้องโคเอนอย่างอีธานและโจเอล พร้อมฉากจำหลายฉากทั้งการใช้ “ปืนประหลาด” สังหารคนอื่น, การหนีตายของตัวละคร และสภาพแสนสิ้นหวังของคนแก่ที่หมดไฟ
1. หลังจากคว้าบทนำในหนังได้เพียงสองวัน จอช โบรลิน ก็ดันไปทำมอเตอร์ไซค์ล้มจนบาดเจ็บที่บ่าอย่างหนัก จนระหว่างการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร NOW เขาถึงกับสบถว่า “ให้ตายห่ะเหอะวะ! ผมโคตรอยากทำงานกับพวกโคเอนเลยนะเว้ย” อย่างไรก็ตาม ภายหลังโบรลินก็พบว่าไอ้แผลที่เกิดจากอุบัติเหตุนั้นมิได้ส่งผลอันใดกับหนัง เพราะตัวละครของเขาถูกปืนยิงเข้าให้ที่บ่าตั้งแต่ต้นเรื่องนั่นเอง (…) เลยได้กุมบาดแผลอย่างสมจริงไปทั้งเรื่อง
.
2.ฆาเบียร์ บาเด็ม ปฏิเสธสองพี่น้องโคเอนเป็นพัลวันเมื่อถูกทาบทามให้มารับบทเป็นแอนตัน มือสังหารระดับพระกาฬในเรื่อง โดยเขาให้เหตุผลกับสองพี่น้องไปว่า “ผมขับรถไม่เป็น พูดอังกฤษได้แย่มากๆ แถมยังเกลียดความรุนแรงเข้าไส้อีกด้วยนะ” แต่พี่น้องโคเอนดันตอบเขาว่า “ก็นั่นแหละว่าทำไมเราถึงอยากได้คุณมารับบทนี้ : ) ” สุดท้ายบาร์เด็มบอกว่า เขาตกปากรับบทนี้เพราะฝันอยากร่วมงานกับสองพี่น้องโคเอนมาตั้งนานแล้วนั่นเอง
.
3. “ตายห่ะ ผมคงมีเซ็กซ์ไม่ได้อีกอย่างน้อยสองเดือนเลยมั้งเนี่ย!” ฆาเบียร์ บาเด็มอุทานอย่างเสียขวัญเมื่อเห็นทรงผมของตัวเอง ซึ่งไม่แปลก เพราะพี่น้องโคเอนเอาผมทรงนี้มาจาก เอ่อ… ทรงผมของแมงดาคุมซ่องในยุค 80 (…) ที่ไว้ยาวแล้วปาดเฉียง และแม้ต้องกล้ำกลืนกับอีผมทรงนี้มากแค่ไหนแต่พี่บาร์เด็มของเราก็ไม่หวั่น แสดงได้อย่างอำมหิตจนคว้ารางวัลสมทบชายจากออสการ์มาครอง (“คุณไม่ต้องแสดงเป็นคนเพี้ยนตราบใดที่คุณมีทรงผมเพี้ยนๆ อยู่บนหัว” บาร์เด็มกล่าวไว้)
.
4. เกิดเรื่องป่วงๆ ระหว่างถ่ายทำเหมือนกัน เพราะทั้งกองยกไปถ่ายทำที่มาร์ฟา รัฐเท็กซัส (กับบรรยากาศแล้งๆ ชนบทสุดๆ) ซึงเป็นที่เดียวกับที่กอง There Will Be Blood ของผู้กำกับ พอล โธมัส แอนเดอร์สัน ถ่ายทำอยู่พอดี ปรากฏว่าวันหนึ่งขณะที่สองพี่น้องโคเอนถ่ายฉากแลนด์สเคปเพื่อให้เห็นเวิ้งทะเลทราย ดันไปถ่ายติดกลุ่มควันก้อนยักษ์ที่มาจากกองของแอนเดอร์สัน จนสองพี่น้องต้องยอมล่าถอย พักการถ่ายฉากนี้ไว้แล้วตามมาถ่ายวันที่ฟ้าโปร่งแล้ว (โถ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองเรื่องเข้าชิงหนังแห่งปีเวทีออสการ์ปีเดียวกัน และหนังของพี่น้องโคเอนคว้ารางวัลหนังยอดเยี่ยมไปได้จ้า)
.
5. แถมพายุเข้าระหว่างถ่ายทำอีกต่างหาก โบรลินเล่าอย่างขวัญผวาว่าอยู่ดีๆ ฟ้าก็ผ่าเปรี้ยงปร้างไปหมด “ไอ้สายฟ้านั่นน่ะของจริงนะคุณ ลมก็พัดแรงแบบ 50 ไมล์ต่อชั่วโมงได้มั้ง ฝุ่นผงงี้ปลิวว่อนไปหมด ลมมรสุมลูกยักษ์กระหน่ำมาสัก 10 นาทีได้แล้วก็จากไป ซึ่งจากนั้นฟ้าก็โปร่งสุดๆ ไปเลย” (แน่นอนว่า แนเดอร์สันเองก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเขาก็เจอได้มรสุมเจ้ากรรมลูกนี้เหมือนกัน)
.
6. ฉากที่ตัวละครของโบรลินเดินผ่านเหล่านักแสดงเอ็กซ์ตร้าที่นอนตายกันเป็นเบือนั้น เลือดปลอมที่ทำจากน้ำตาลเหนียวๆ ดันเป็นที่ปรารถนาของเหล่าแมลงและมด จนพวกมันเอาแต่ตามไต่พวกเขาอยู่นั่นเอง แม้ว่าทีมงานจะหาของหวานอย่างอื่นที่ราคาแพงกว่าน้ำเชื่อมที่เป็นเลือดปลอมเหล่านี้ แต่พวกมดแมลงก็ไม่สนใจแต่อย่างใด
.
7. การ์เร็ต ดิลลาฮันต์ นักแสดงหนุ่มที่รับบทเป็น เว็นดัลล์ นายตำรวจหนุ่มในเรื่อง เข้ามาออดิชั่นเพื่อรับบทเป็นเลเวลีนอยู่ทั้งสิ้น 5 รอบด้วยกัน แต่ไม่ผ่าน “แต่พี่น้องโคเอนบอกว่าอยากได้คนที่ดูเป็นที่รู้จักมากกว่านี้ฮะ” เขาเล่า “และถามผมว่า ‘นายอยากลองไปเล่นบทอื่นดูไหมล่ะ’ และส่งบทเว็นดัลล์ให้ผม ซึ่งเจ๋งไปเลย”
.
8. ส่วนคนที่คว้าบทเลเวลีนไปได้อย่างจอช โบรลินนั้น เล่าให้ฟังอย่างอารมณ์ดีว่าเขาอ่านบทหนังเรื่องนี้ตอนกำลังถ่ายทำ Grindhouse หนังของสองผู้กำกับบ้าดีเดือดอย่างเควนติน ทาแรนติโน่และโรเบิร์ต ร็อดริเกวซ โบรลินเลยถามทั้งสองว่าจะขอยืมกล้องสักตัวมาอัดเทปส่งไปออดิชั่นหนังเรื่อง No Country for Old Men ได้ไหม และทาแรนติโน่กับร็อดริเกวซตอบตกลง… พร้อมกำกับการออดิชั่นให้โบรลินด้วย (โหวววว)
“โรเบิร์ต ร็อดริเกวซกับเควนติน ทาแรนติโน่ถ่ายเทปออดิชั่นครั้งแรกของผมด้วยกล้องเจเนซิสราคา 1 ล้านเหรียญฯ ระหว่างพักกินมื้อเที่ยงในกอง Grindhouse มันเลยกลายเป็นการออดิชั่นที่เฉียบไม่เบาเลยครับ” โบรลินว่า
.
9. มารี โซเพรส คอสตูมดีไซเนอร์ของหนัง ออกแบบรองเท้าให้ตัวละครแอนตันโดยเฉพาะ มันคือรองเท้าหนังจระเข้หน้าตาประหลาดที่เธอบอกว่าอยากให้มันสะท้อนคาแร็กเตอร์ตัวละครให้มากที่สุด “มันต้องขรุขระ มีปลายแหลมและดูประหลาด ให้เหมือนกับว่ามันสามารถฆ่าคนได้เลยน่ะ”
.
10. ความละเอียดอย่างหนึ่งของตัวละครแอนตันของบาร์เด็ม คือเขาเป็นคนไม่ชอบเลือด สังเกตได้จาก “ทุกครั้ง” ที่มีการสังหารกัน แอนตันจะอาบน้ำ หรือไม่ก็พยายามเช็ดเลือดออกจากเนื้อตัวของตัวเอง เช่นเดียวกับการเช็คดูรองเท้าหนังคู่นั้นว่ามีเลือดจากเหยื่อกระเด็นมาเปื้อนหรือไม่
.
11. ฉากจบของหนัง ที่ทอมมี ลี โจนส์กล่าวไดอะล็อกยาวเหยียดคนเดียวนั้น ถ่ายทำเพียงรอบเดียวเท่านั้นก็ใช้ได้เลย
.
12. เจ้าเด็กผู้ชายที่ยื่นเสื้อของเขาให้แอนตันในนาทีท้ายๆ ของหนัง คือคาเล็บ แลนดรี โจนส์ นักแสดงหนุ่มจาก Get Out และ X-Men: First Class โดยหนังของพี่น้องโคเอนคือหนังเรื่องแรกของเขาเลย
ฝากเพจหนังด้วยจ้า : )
https://www.facebook.com/llkhimll/
12 เรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับ No Country for Old Men (2007)
No Country for Old Men (2007) หนังสุดเดือดของพี่น้องโคเอนที่คว้ารางวัลหนังแห่งปี, สมทบชายยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, บทดัดแปลงยอดเยี่ยม เล่าถึงเลเวลีน มอสส์ (จอช โบรลิน) ชายหนุ่มที่ดันไปเก็บเงินหลายล้านมาโดยไม่รู้ว่ามีมือสังหารอย่าง แอนตัน ชิรูห์ (ฆาเบียร์ บาเด็ม) ตามล่าอยู่จนไล่ตามเก็บทุกคนที่ดูจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายไปของเงินในครั้งนี้ นำมาสู่การออกตามสืบคดีของเจ้าหน้าที่สูงอายุอย่างเบลล์ (ทอมมี ลี โจนส์)
หนังทรงพลังสุดๆ ด้วยกองทัพนักแสดงนำทั้งสาม และฝีมือการกำกับ-เขียนบทที่ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมของคอร์แม็ค แม็คคาร์ธีของสองพี่น้องโคเอนอย่างอีธานและโจเอล พร้อมฉากจำหลายฉากทั้งการใช้ “ปืนประหลาด” สังหารคนอื่น, การหนีตายของตัวละคร และสภาพแสนสิ้นหวังของคนแก่ที่หมดไฟ
1. หลังจากคว้าบทนำในหนังได้เพียงสองวัน จอช โบรลิน ก็ดันไปทำมอเตอร์ไซค์ล้มจนบาดเจ็บที่บ่าอย่างหนัก จนระหว่างการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร NOW เขาถึงกับสบถว่า “ให้ตายห่ะเหอะวะ! ผมโคตรอยากทำงานกับพวกโคเอนเลยนะเว้ย” อย่างไรก็ตาม ภายหลังโบรลินก็พบว่าไอ้แผลที่เกิดจากอุบัติเหตุนั้นมิได้ส่งผลอันใดกับหนัง เพราะตัวละครของเขาถูกปืนยิงเข้าให้ที่บ่าตั้งแต่ต้นเรื่องนั่นเอง (…) เลยได้กุมบาดแผลอย่างสมจริงไปทั้งเรื่อง
2.ฆาเบียร์ บาเด็ม ปฏิเสธสองพี่น้องโคเอนเป็นพัลวันเมื่อถูกทาบทามให้มารับบทเป็นแอนตัน มือสังหารระดับพระกาฬในเรื่อง โดยเขาให้เหตุผลกับสองพี่น้องไปว่า “ผมขับรถไม่เป็น พูดอังกฤษได้แย่มากๆ แถมยังเกลียดความรุนแรงเข้าไส้อีกด้วยนะ” แต่พี่น้องโคเอนดันตอบเขาว่า “ก็นั่นแหละว่าทำไมเราถึงอยากได้คุณมารับบทนี้ : ) ” สุดท้ายบาร์เด็มบอกว่า เขาตกปากรับบทนี้เพราะฝันอยากร่วมงานกับสองพี่น้องโคเอนมาตั้งนานแล้วนั่นเอง
3. “ตายห่ะ ผมคงมีเซ็กซ์ไม่ได้อีกอย่างน้อยสองเดือนเลยมั้งเนี่ย!” ฆาเบียร์ บาเด็มอุทานอย่างเสียขวัญเมื่อเห็นทรงผมของตัวเอง ซึ่งไม่แปลก เพราะพี่น้องโคเอนเอาผมทรงนี้มาจาก เอ่อ… ทรงผมของแมงดาคุมซ่องในยุค 80 (…) ที่ไว้ยาวแล้วปาดเฉียง และแม้ต้องกล้ำกลืนกับอีผมทรงนี้มากแค่ไหนแต่พี่บาร์เด็มของเราก็ไม่หวั่น แสดงได้อย่างอำมหิตจนคว้ารางวัลสมทบชายจากออสการ์มาครอง (“คุณไม่ต้องแสดงเป็นคนเพี้ยนตราบใดที่คุณมีทรงผมเพี้ยนๆ อยู่บนหัว” บาร์เด็มกล่าวไว้)
4. เกิดเรื่องป่วงๆ ระหว่างถ่ายทำเหมือนกัน เพราะทั้งกองยกไปถ่ายทำที่มาร์ฟา รัฐเท็กซัส (กับบรรยากาศแล้งๆ ชนบทสุดๆ) ซึงเป็นที่เดียวกับที่กอง There Will Be Blood ของผู้กำกับ พอล โธมัส แอนเดอร์สัน ถ่ายทำอยู่พอดี ปรากฏว่าวันหนึ่งขณะที่สองพี่น้องโคเอนถ่ายฉากแลนด์สเคปเพื่อให้เห็นเวิ้งทะเลทราย ดันไปถ่ายติดกลุ่มควันก้อนยักษ์ที่มาจากกองของแอนเดอร์สัน จนสองพี่น้องต้องยอมล่าถอย พักการถ่ายฉากนี้ไว้แล้วตามมาถ่ายวันที่ฟ้าโปร่งแล้ว (โถ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองเรื่องเข้าชิงหนังแห่งปีเวทีออสการ์ปีเดียวกัน และหนังของพี่น้องโคเอนคว้ารางวัลหนังยอดเยี่ยมไปได้จ้า)
5. แถมพายุเข้าระหว่างถ่ายทำอีกต่างหาก โบรลินเล่าอย่างขวัญผวาว่าอยู่ดีๆ ฟ้าก็ผ่าเปรี้ยงปร้างไปหมด “ไอ้สายฟ้านั่นน่ะของจริงนะคุณ ลมก็พัดแรงแบบ 50 ไมล์ต่อชั่วโมงได้มั้ง ฝุ่นผงงี้ปลิวว่อนไปหมด ลมมรสุมลูกยักษ์กระหน่ำมาสัก 10 นาทีได้แล้วก็จากไป ซึ่งจากนั้นฟ้าก็โปร่งสุดๆ ไปเลย” (แน่นอนว่า แนเดอร์สันเองก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเขาก็เจอได้มรสุมเจ้ากรรมลูกนี้เหมือนกัน)
6. ฉากที่ตัวละครของโบรลินเดินผ่านเหล่านักแสดงเอ็กซ์ตร้าที่นอนตายกันเป็นเบือนั้น เลือดปลอมที่ทำจากน้ำตาลเหนียวๆ ดันเป็นที่ปรารถนาของเหล่าแมลงและมด จนพวกมันเอาแต่ตามไต่พวกเขาอยู่นั่นเอง แม้ว่าทีมงานจะหาของหวานอย่างอื่นที่ราคาแพงกว่าน้ำเชื่อมที่เป็นเลือดปลอมเหล่านี้ แต่พวกมดแมลงก็ไม่สนใจแต่อย่างใด
7. การ์เร็ต ดิลลาฮันต์ นักแสดงหนุ่มที่รับบทเป็น เว็นดัลล์ นายตำรวจหนุ่มในเรื่อง เข้ามาออดิชั่นเพื่อรับบทเป็นเลเวลีนอยู่ทั้งสิ้น 5 รอบด้วยกัน แต่ไม่ผ่าน “แต่พี่น้องโคเอนบอกว่าอยากได้คนที่ดูเป็นที่รู้จักมากกว่านี้ฮะ” เขาเล่า “และถามผมว่า ‘นายอยากลองไปเล่นบทอื่นดูไหมล่ะ’ และส่งบทเว็นดัลล์ให้ผม ซึ่งเจ๋งไปเลย”
8. ส่วนคนที่คว้าบทเลเวลีนไปได้อย่างจอช โบรลินนั้น เล่าให้ฟังอย่างอารมณ์ดีว่าเขาอ่านบทหนังเรื่องนี้ตอนกำลังถ่ายทำ Grindhouse หนังของสองผู้กำกับบ้าดีเดือดอย่างเควนติน ทาแรนติโน่และโรเบิร์ต ร็อดริเกวซ โบรลินเลยถามทั้งสองว่าจะขอยืมกล้องสักตัวมาอัดเทปส่งไปออดิชั่นหนังเรื่อง No Country for Old Men ได้ไหม และทาแรนติโน่กับร็อดริเกวซตอบตกลง… พร้อมกำกับการออดิชั่นให้โบรลินด้วย (โหวววว)
“โรเบิร์ต ร็อดริเกวซกับเควนติน ทาแรนติโน่ถ่ายเทปออดิชั่นครั้งแรกของผมด้วยกล้องเจเนซิสราคา 1 ล้านเหรียญฯ ระหว่างพักกินมื้อเที่ยงในกอง Grindhouse มันเลยกลายเป็นการออดิชั่นที่เฉียบไม่เบาเลยครับ” โบรลินว่า
9. มารี โซเพรส คอสตูมดีไซเนอร์ของหนัง ออกแบบรองเท้าให้ตัวละครแอนตันโดยเฉพาะ มันคือรองเท้าหนังจระเข้หน้าตาประหลาดที่เธอบอกว่าอยากให้มันสะท้อนคาแร็กเตอร์ตัวละครให้มากที่สุด “มันต้องขรุขระ มีปลายแหลมและดูประหลาด ให้เหมือนกับว่ามันสามารถฆ่าคนได้เลยน่ะ”
10. ความละเอียดอย่างหนึ่งของตัวละครแอนตันของบาร์เด็ม คือเขาเป็นคนไม่ชอบเลือด สังเกตได้จาก “ทุกครั้ง” ที่มีการสังหารกัน แอนตันจะอาบน้ำ หรือไม่ก็พยายามเช็ดเลือดออกจากเนื้อตัวของตัวเอง เช่นเดียวกับการเช็คดูรองเท้าหนังคู่นั้นว่ามีเลือดจากเหยื่อกระเด็นมาเปื้อนหรือไม่
11. ฉากจบของหนัง ที่ทอมมี ลี โจนส์กล่าวไดอะล็อกยาวเหยียดคนเดียวนั้น ถ่ายทำเพียงรอบเดียวเท่านั้นก็ใช้ได้เลย
12. เจ้าเด็กผู้ชายที่ยื่นเสื้อของเขาให้แอนตันในนาทีท้ายๆ ของหนัง คือคาเล็บ แลนดรี โจนส์ นักแสดงหนุ่มจาก Get Out และ X-Men: First Class โดยหนังของพี่น้องโคเอนคือหนังเรื่องแรกของเขาเลย