[CR] แชร์ประสบการณ์แผ่นดินไหวที่ Otaru Hokkaido - 7 กันยายน 2018

**** เขียนวันที่ผิด  เป็นเช้ามืดวันที่ 6 กันยายนนะคะ ขออภัยด้วยค่ะ ****

เราขอบันทึกประสบการณ์การเจอแผ่นดินไหวครั้งแรกในชีวิตที่ Hokkaido เช้ามืดวันที่ 6 กันยายน 2018

1. ทริปนี้เราเดินทางระหว่างวันที่ 1-10 กันยายน เราเดินทางกัน 2 คนกับสามีเช่ารถขับ 7 วัน เริ่มจาก Shin-Chitose > Lake Akan > Lake Kussharo > Notsuke Peninsula > Abashiri > Sounkyo Onsen > Asahikawa > Otaru

2. เรามาถึง Otaru ตอนบ่ายวันที่ 5 กันยา ก็ได้ไปเที่ยวที่ Tenguyama Ropeway ซึ่งวันนั้นเรารู้สึกตัวเองโชคดีมากที่ได้เจอรุ้ง 2 ตัวและสุนัขจิ้งจอกแบบใกล้ชิดมาก น้องรับแขกและเป็นนายแบบมากค่ะ เย็นๆ ก็มาเดินที่คลองโอตารุ กินซูชิอย่างมีความสุข นักท่องเที่ยวเยอะมากค่ะ

3. คืนนี้เราพักที่โรงแรม Hotel Sonia Otaru ได้วิวคลอง ตอนแรกอารมณ์เสียมากเพราะได้ห้องชั้น 2 วิวไม่ดีเท่าไหร่ แต่ห้องพักกว้างขวางสะดวกสบายดีค่ะ คืนนั้นเราก็นอนหลับไปกะว่าจะตื่นเช้าไปถ่ายวิวคลองโอตารุแบบไม่มีนักท่องเที่ยวให้ได้ในเช้าวันรุ่งขึ้น

4. ตอนตี 3.07 เรารู้สึกตัวตื่นเพราะแผ่นดินไหว ใช่ค่ะตื่นเพราะเตียงโยกจริงๆ ในห้องมีไฟฉุกเฉิน 1 ดวงสว่างจ้าขึ้นว่า เรากับสามีรู้สึกตัวแต่ก็ได้แต่มองหน้ากันตอนที่มันไหว ได้ยินเสียงตึกลั่น กึกกึก ความสั่นไหวมันแบบเป็นหลายทิศทาง ไม่ใช่ซ้ายขวา หรือขึ้นลงอย่างเดียว (ความรู้สึกคล้ายๆ ตอนเวลาบินแล้วเครื่องบินมันผ่านเมฆหนาๆ อ่ะค่ะที่เครื่องสั่นๆ) ตอนนั้นเราจำได้ว่าเราพยายามมองเพดานมองรอบตัวว่าจะมีอะไรหล่นลงมาไม๊ ไม่มีคำพูดอะไรออกมาจากทั้งเราและแฟน คือไม่รู้ต้องทำยังไง ต้องมุดใต้เตียงไม๊หรือยังไง สั่นอยู่นานแม้ว่าตอนหลังจะรู้ว่าสั่นอยู่ประมาณ 40 วินาที แต่ตอนนั้นคือรู้สึกว่านานมาก พอทุกอย่างหยุดเราก็ดูโทรศัพท์ทันทีเห็นนาฬิกาที่เวลา 3.09 น.

5. หลังจากสงบ เราก็ตั้งสติแล้วก็พูดกับแฟนว่า แผ่นดินไหว (พูดได้แค่นี้ 555 ใจนี่เต้นรัวมาก) แล้วเราก็เปิดผ้าม่านดูหน้าต่าง เพื่อจะดูว่ามีใครวิ่งออกไปที่ข้างนอกบ้างไม๊ เราเห็นแค่ว่าไฟฟ้าดับ แต่ก็ยังมีรถวิ่งอยู่บ้างนะคะ ทุกอย่างเงียบสงบไม่มีเสียงคน ไม่มีเสียงหวอ เงียบเป็นปกติทุกอย่าง ซักพักเราก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตูทางหนีไฟ แต่ก็ยังไม่ได้ยินเสียงคนอยู่ดี ก็เลยคุยกับแฟนว่า น่าจะมีคนใช้ทางออกฉุกเฉิน แล้วเราควรจะออกไปถามโรงแรมดีกว่าว่าควรทำอะไรต่อ ก็รีบแต่งตัวเก็บของมีค่า เอกสาร powerbank กุญแจรถ และเสื้อกันหนาวออกไป

6. เปิดประตู (ประตูเป็น key card) ก็เจอพนักงานโรงแรมเค้าอยู่ที่ทางหนีไฟ กำลังคุยกับลูกค้าชาวญี่ปุ่นอยู่ เค้าคุยอะไรกันซักอย่างโดยที่แขกก็เปิดมือถืออยู่ เข้าใจว่าเค้าคงเช็คข่าวกันแล้วแขกก็กลับขึ้นไป แฟนเราก็เลยถามเค้าต่อ ต้องให้เรา go down or stay โรงแรมบอกว่าให้ stay ค่ะ ก็เลยกลับเข้าห้องกันไป ตอนนั้นใจเราคิดว่า ที่เค้าตัดไฟคงเป็นแผน Safety เมื่อเกิดเหตุการณ์ก็ตัดไฟก่อนเพื่อป้องกันไฟไหม้อะไรงี้ ก็ยังคิดว่าเดี๋ยวไฟก็มา ก็เลยไปเปิดสวิตช์ไฟทิ้งไว้ ถ้าไฟมาจะได้รู้ แล้วก็ล้มตัวลงนอนกัน ก่อนนอนก็เปิดเน็ตหาข่าวก็รู้ว่า เกิดแผ่นดินไหวที่ Hokkaido นี้แหละ เบาะๆ ไหวระดับ 6 ตอนนั้นสัญญาณเน็ตยังพอได้ แต่ยังไม่เจอเว็บไหนที่ให้ข้อมูลมากกว่านี้

7. เอาจริงๆ ก็นอนไม่หลับ เพราะร้อนด้วยแล้วก็ระแวงว่าไฟจะมาหรือยัง จนกระทั่งประมาณ 4.49 ไฟฉุกเฉินก็ดับค่ะ ใจคิดว่าไฟมาแล้ว เย้เย้ ก็พยายามไปเปิดแอร์ เปิดไฟ เสียบ key card ใหม่ก็ไม่ติด นี่ก็หงุดหงิดล่ะอะไรเนี่ย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทุกอย่างเงียบไม่มีเสียงคนคุยไม่มีอะไรเลย ด้วยความเพลียแล้วเราต้องไป Lake Toya วันรุ่งขึ้นด้วยก็เลยข่มตานอนกันไป แต่ก็มี after shock แรงๆ อีกหนนึงตอนรุ่งเช้านะคะ เพียงแต่ว่าไม่นานแต่รู้สึกตัว

8. เช้าแล้วไฟก็ยังไม่มา เราเลยให้แฟนลงไปถามข้างล่างว่า มีข่าวไม๊ว่าไฟจะมาเมื่อไหร่ เราจะได้อาบน้ำเมื่อไหร่ คือตอนนั้นน้ำในชักโครกกดไม่ได้แล้ว มีแต่น้ำในอ่างที่ไหลเอื่อยๆ คงจะเป็นน้ำจากถังสำรองน่ะค่ะ เราก็รีบแปรงฟัน เอาน้ำลูบหน้าลูกตา แฟนเราบอกว่าไฟดับนานขนาดนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ ล่ะ แฟนลงไปถามก็เจอป้ายนี้แปะหราอยู่เลย ซึ่งก็ชัดเจนว่าทุกอย่างหยุด และบอกไม่ได้ว่าไฟฟ้าจะมาเมื่อไหร่ ที่โรงแรมเค้าเปิดวิทยุวางที่ lobby ก็คงเป็นรายงานข่าวแหละค่ะ ซึ่งเราฟังไม่ออกซักคำ พนักงานก็พูดอังกฤษได้นิดหน่อยก็เลยถามอะไรไม่ได้มาก

9. หลังจากนั้นก็เริ่มส่งข่าวให้ที่บ้านกับเพื่อนๆรู้ว่าเมื่อคืนมีแผ่นดินไหว และเราสองคนปลอดภัยดีอยู่ที่ Otaru โชคดีของเราที่จอดรถไว้ที่พื้น ไม่ใช่อาคารจอดรถแบบใช้ลิฟท์ เราเลยยังสามารถไปเก็บกระเป๋าและก็ออกเดินทางกันต่อได้ ถ้าจอดข้างบนนี่หมดทางเลือกกันเลย เพื่อนๆ พอทราบข่าวก็ช่วยเหลือเรา มีพี่คนนึงช่วยโทรไปถามที่โรงแรมที่ lake toya ให้ก็ได้ความว่าที่นั่นก็ไม่มีน้ำไม่มีไฟเหมือนกัน เราก็เลยขอให้โรงแรมทางนี้ช่วยโทรคอนเฟิร์มอีกทีเพราะต้องการ cancel (ตรงนี้กว่าจะคุยรู้เรื่องนานเลย พนักงานเค้าอาจจะไม่เก่งอังกฤษมาก แต่เรารู้สึกเลยว่าเค้าพยายามอย่างเต็มที่) ในที่สุดก็ได้คำตอบว่า โรงแรมจะ refund ให้ โดยให้เราติดต่อกลับไปที่ Agoda อีกทีนึงเพราะเงินจ่ายไปหมดแล้ว และเราก็ขอพักต่อที่โรงแรมนี้อีกคืน ซึ่งก็โอเคตกลงกันที่ราคา 10,000 เยน จังหวะนั้นเท่าไรก็จ่ายค่ะ แต่ยังไม่ได้จ่ายนะคะ

10. เรื่องที่พักเรียบร้อยเราก็ออกไปหาของกินกัน ตอนนั้นน่าจะประมาณ 9 โมงเช้า ก่อนหน้านี้เราให้แฟนไปดูที่ Lawson ก่อนแล้วตอนลงไปถาม reception ครั้งแรกซึ่งร้านปิด ตอนนั้นก็คิดละคงไม่มีร้านไหนเปิด เสบียงที่มีก็น้ำ 2 ขวด ขนมนิดหน่อยกับมาม่า 2 ถ้วยที่กินไม่ได้ หลังจากรองท้องกันเท่าที่มีก็ตัดสินใจเดินไปถ่ายรูปเล่นที่ทางรถไฟ แล้วเราก็สังเกตเห็นคนเดินพร้อมถุงหิ้ว 7-11 ก็คิดว่าต้องมีที่ไหนเปิดซักที่น่ะ ก็เลยพากันเดินย้อนสวนเค้าไป

11. และแล้วก็เจอแถว คือตอนนั้นยังไม่รู้ว่าแถวอะไรก็ให้แฟนต่อแถวไปก่อนแล้วเราเดินไปดู ก็คือห้างเค้าเอาสินค้ามาขายกันตรงประตู พวกน้ำ น้ำชา ขนมอะไรงี้ แต่เราคิดว่ามันต้องมี 7-11 เปิดสิเลยให้แฟนต่อแถว ส่วนเราเดินไปหา 7-11 กันต่อ

12. เราเจอ 7-11 ที่เปิดจริงๆ แต่เค้าจะจำกัดคนให้เค้าทีละ 10-15 คนแล้วก็ให้กระดาษมาแผ่นนึงให้เราจดว่าเราซื้ออะไรราคาเท่าไหร่ เพื่อมาคิดเงิน เราก็หยิบได้แต่น้ำโค้ก น้ำชา ขนมถุงๆ เพราะทุกอย่างเกลี้ยงชั้นไปหมดแล้ว ตอนคิดตังค์พนักงานเค้าก็จดมาให้นะคะ เราไม่แน่ใจเรื่องราคาแต่ก็เท่าไหร่ก็เท่นนั้นแหละค่ะ

นี่คือสิ่งของที่เราสองคนหามาได้

ต่อความเห็นถัดไปนะคะ
ชื่อสินค้า:   Earthquake @ Hokkaido
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่