สวัสดีชาวพันทิปค่า หลังจากรอบที่แล้วได้รีวิวสายการบินไป ก็เริ่มจะติดใจการรีวิวล่ะ แต่ติดขี้เกียจไปนิดด ฮาๆๆ
ครั้งนี้ จะมาเล่าเรื่องราวที่ได้ไปแถบคันไซ ในช่วงใบไม้ร่วงกันค่า (เรื่องราวจะยาวหน่อยนะคะ)
เดินทางช่วง วันที่ 9 – 15 พ.ย. 60 ไปกับ สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์
ดูรีวิวได้ที่
https://ppantip.com/topic/37185625
เราได้วางแผนไว้ว่าจะไป โอซาก้า เกียวโต โกเบ นารา แต่ๆๆๆ แผนที่วางไว้ไม่ตรงตามแผนไปหลายอย่าง พลาดโกเบ เสียดายมากก
เนื่องด้วย ไม่สบาย เจอฝนทั้งวันอีกก ปลอบใจตัวเอง ไว้ครั้งหน้าๆ ฮาๆๆ
เราตัดสินใจ เลือกที่จะพักโอซาก้าที่เดียวเลย จะได้ไม่ยุ่งยากกับสัมภาระ
ที่พัก คือ OSAKA GUEST HOUSE NEST อยู่ใกล้สถานี เดินทางสะดวก เดี๋ยวไว้รีวิวที่พักอีกครั้งนะคะ
เราเดินทางมาถึงสนามบินคันไซ วันที่ 10 พ.ย. ประมาณ 7 โมงเช้า พอถึงสนามบินปุ๊บ สิ่งแรกที่ทำ คือ ซื้อบัตร pass ต่างๆ
โดยซื้อที่ Information Center สัญลักษณ์รูปตัว I ส่วนบัตร JR ซื้ออีกอาคารนะจ๊ะ
บัตรที่ข้าพเจ้าซื้อ ตามนี้ ↓
เป็นบัตรเติมเงิน ICOCA ที่นำไปใช้ในการเดินทางเที่ยวคันไซพร้อมตั๋วนั่งชินคันเซน HARUKA เที่ยวเดียวในราคาถูก
และ ซื้อของในพื้นที่คันไซ โดยไม่ต้องพกเงินสดด้วยนะ เติมเงินเอา สะดวกดี
ราคา 2,000 เยน (ค่าบัตร 1,500 เยน เงินมัดจำ 500 เยน)
ตัวบัตรเติมเงิน ICOCA เลือกลายได้ 2 แบบ เราเลือกคิตตี้มา
บัตรนี้ไม่ได้ใช้เลย ที่ซื้อ เพราะตั้งใจจะไปโกเบ Rokko จ้า แต่ก็พลาดไป ราคา : 1,400 เยน (ขึ้นได้ไม่จำกัดเที่ยว)
บัตรนี้สามารถเที่ยวได้ทั้งโอซาก้าและเกียวโต เราเลือกแบบ 1 วัน ราคา 700 เยน (ขึ้นได้ไม่จำกัดเที่ยว)
บัตรนี้ใช้คุ้มมาก เหมาะสำหรับท่องเที่ยวในเมืองโอซาก้า แถมยังได้เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวในโอซาก้าฟรีด้วยนะ
ราคา : 1 วัน ราคา 2,300 เยน / 2 วัน ราคา 3,000 เยน (ขึ้นได้ไม่จำกัดเที่ยว)
ปล. ต้องบอกก่อนว่า ไปครั้งแรก เดินทางไม่ถูก กลัวว่าจะเสียค่าเดินทางเยอะ เพราะไปหลายจุด เลยซื้อมาหลายบัตรหน่อย แต่ก็ยังคุ้มอยู่นะ อย่างบัตร Osaka Amazing Pass เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวฟรีหลายจุดเลย
ระหว่างเดินไปซื้อบัตร Icoca + JR Haruka อีกอาคารนึงในสนามบินคันไซ
ตอนที่ออกจากอาคาร สัมผัสถึงความเย็น วูบมาเลยจ้า 9 องศา เป็นเมืองติดแอร์จริงๆ
หลังจากซื้อบัตรเดินทางครบล่ะ ไปขึ้น JR Haruka เข้าเมืองกันเล้ยย
เดินลงบันไดเลื่อนมารอข้างล่าง
ระหว่างรอ สำรวจรอบๆจ้า
หลังจากยืนรอสักพัก..............JR Haruka มาแล้วววว รถไฟเขาดูเท่ห์อ่ะ ใหม่จุง
(รอบเวลา ดูได้จากป้ายประกาศ มีให้เห็นหลายจุด)
แต่.....ยังขึ้นไม่ได้นะ รอพนักงานทำความสะอาดภายในรถไฟก่อน เพราะเป็นสถานีปลายทางเนอะ
ตอนที่เห็นพนักงานทำความสะอาด เป็นผู้หญิง ดูวัยรุ่น ใส่ชุดยูนิฟอร์ม ใส่หมวกแคป ดูดีเลย อุปกรณ์พร้อม
(พอมาเหยียบญี่ปุ่นปุ๊บ ได้เห็นความแตกต่าง ความมีระเบียบ ความสะอาด สุดยอดจริงๆ)
หลังจากทำความสะอาดเสร็จ เก้าอี้ทุกตัวกลับด้านอัตโนมัติ ไม่ต้องใช้เท้าเหยียบทีละตัวนะ ฮาๆๆ ดูดีมีมาตรฐาน
แล้วก็ขึ้นได้...........
ที่เก็บกระเป๋าอยู่ทางขึ้น รีบใส่ก่อนเลยจ้า เดี๋ยวเต็ม
บรรยากาศภายใน
สังเกตผ้าสีเหลืองที่พาดเบาะ จะมีกระเป๋าเล็กๆอยู่ เท่าที่มองดู น่าจะใส่ตั๋วรถไฟ เมื่อไม่ใช้แล้ว จะได้ไม่ต้องทิ้งมั่ว
แถมยังอำนวยความสะดวกผู้โดยสารอีก (จะมีเจ้าหน้าที่เดินตรวจตั๋วด้วยนะจ๊ะ)
ออกจากสนามบินล่ะ.............
เข้าเมืองไปเก็บกระเป๋า ที่ Osaka Guest House Nest ก่อน
จากสนามบินคันไซ นั่ง Haruka มาลง สถานี Tennoji แล้วเดินต่อ อีก 1 โลนิดๆ ที่พักจะอยู่ติดถนนเลยจ้า
รูป หน้าตึก ที่พัก (ไว้รีวิวที่พักรอบหน้านะคะ)
แล้วก็ออกเดินทางต่อ
วันแรก ไปไหว้พระ ที่จังหวัดนารา กันก่อนเลย
จากสถานี Tennoji จ.โอซาก้า มาถึง จ.นารา ใช้เวลาเกือบๆหนึ่งชั่วโมง
ภาพภายในสถานี Kintetsu Nara
ร้านค้าในสถานี ก็ดูดีไปอีก
โผล่ขึ้นมา ก็จะงานเปิดหมวก และแหล่งช้อปปิ้งข้างเคียง ย่าน Higashimuki ของขายเยอะมากก น่ารักทั้งน้านเลย
เมื่อเดินทะลุซอยไป จะเจอร้านโมจิชื่อดัง จะเห็นจากรีวิวบ่อยๆ แล้วก็ไม่ผิดหวัง โมจิเหนียวนุ่มมากก ไม่หวานมาก ชอบเลยค่า
ขนมโมจินี้ มีชื่อว่า Yomogimochi กล่องละ 390 เยน มี 3 อัน หรือ จะสั่งทีละอันก็ได้ อันละ 130 เยน
ตอนขากลับ กลับทางเดิมเลยได้เห็น ชายสองคน ผลัดกันตำโมจิพอดี ทั้งคู่ตำโมจิไป ส่งเสียงไป เป็นที่สะดุดหู สะดุดตา คนมาดูก็จะเยอะหน่อย
เมื่อออกจาก ย่าน Higashimuki ก็มุ่งหน้าไป วัด Kofukuji ทางที่เดินไปก็จะมีขึ้นเนินสลับกันไป
ทางขึ้นบันไดไปวัด
เมื่อเข้าวัด จะต้องมาล้างมือ ล้างปาก กันก่อนนะจ๊ะ
ไหว้พระ โยนเหรียญ ขอพรสักนิด
บางคนก็จะเขียนป้ายขอพร แล้วแขวนไว้ที่วัด
ถึงแล้ว.......วัด Kofukuji เป็นสถานที่เก่าแก่ และกว้างขวางมาก คนไม่เยอะ สบายๆ
**เราเดินถ่ายรูปรอบๆ ไม่ได้เข้าไปชมในอาคาร เลยไม่เสียค่าเข้าจ้า
วัดแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นประมาณปี ค.ศ. 710 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่นาราเป็นเมืองหลวง และเคยเป็นวัดของครอบครัวฟูจิวาระ ตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในช่วงยุคนาราและเฮอัน เรียกได้ว่าในสมัยนั้นวัดโคฟุคุจิน่าจะโด่งดังไม่เบา
Cr.
https://www.talonjapan.com/kofukuji-temple/
จากนั้น เดินๆๆๆๆไป วัด Todaiji ระหว่างทาง จะเจอสวนนารา เลยแวะให้อาหารกวางสักหน่อย ถ้าไม่ได้ให้อาหาร และถ่ายรูปกับกวาง เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงนะจ๊ะ มานาราต้องเจอกวางๆๆ เดินกันเต็มเลยจ้า
กวางเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนารา ผู้คนนารามีความเชื่อว่าเป็นพาหนะของเทพเจ้า และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองมือง
ที่หน้าสวน มีร้านขายอาหารกวาง เรียกว่า ขนมเซมเบ้ อันละ 150 เยน มีหลายแผ่นอยู่นะ
พอใกล้จะถึงประตูวัด Todaiji จะผ่านร้านค้าขายของฝาก ของกิน เรียงรายตลอดทางเลย แล้วก็จะเจอพี่กวาง เดินเล่นไปมาตลอดทาง
ใกล้จะเดินถึงประตูล่ะ นี่แค่ด่านแรกนะ จังหวะนั้น ก็มีคุณป้ากำลังเก็บ อุนจิ พี่กวาง
** ตลอดทางที่เดินมา สะอาด เรียบร้อยมากๆ
ถึงประตูทางเข้าสักที แค่ทางเข้าก็อลังแล้ว ไม้ดูเก่าแก่มากๆๆ
สองข้างของประตู จะมียักษ์ 2 ตน ยืนเฝ้าอยู่
แล้วเราก็เดินตามเขาไป.............เจอกลุ่มนร. มาทัศนศึกษาด้วย ไปกานนนน
วัดโทไดจิ(Todaiji) วัดหลวงพ่อโตแห่งเมืองนารา หรือ ไดบุตสึ(Daibutsu of Nara) เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 752 ส่วนอาคารหลัก ได้รับการยอมรับว่าเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และหลวงพ่อโต หรือ ไดบุตสึเดนที่ประดิษฐานด้านในอาคารหลัก มี ความสูงมากถึง 15 เมตรเลยจ้า
ภาพจำลองของวัดโทไดจิ และ ยักษ์ 2 ตน ที่ทำหน้าที่เฝ้าประตู
ต่อกระทู้หน้าจ้า.....
[CR] ตะลุยเดี่ยว ครั้งแรก กับ ทริปคันไซ 6 วัน 5 คืน ฟินไปกับฤดูใบไม้ร่วงงงง
ครั้งนี้ จะมาเล่าเรื่องราวที่ได้ไปแถบคันไซ ในช่วงใบไม้ร่วงกันค่า (เรื่องราวจะยาวหน่อยนะคะ)
เดินทางช่วง วันที่ 9 – 15 พ.ย. 60 ไปกับ สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์
ดูรีวิวได้ที่ https://ppantip.com/topic/37185625
เราได้วางแผนไว้ว่าจะไป โอซาก้า เกียวโต โกเบ นารา แต่ๆๆๆ แผนที่วางไว้ไม่ตรงตามแผนไปหลายอย่าง พลาดโกเบ เสียดายมากก
เนื่องด้วย ไม่สบาย เจอฝนทั้งวันอีกก ปลอบใจตัวเอง ไว้ครั้งหน้าๆ ฮาๆๆ
เราตัดสินใจ เลือกที่จะพักโอซาก้าที่เดียวเลย จะได้ไม่ยุ่งยากกับสัมภาระ
ที่พัก คือ OSAKA GUEST HOUSE NEST อยู่ใกล้สถานี เดินทางสะดวก เดี๋ยวไว้รีวิวที่พักอีกครั้งนะคะ
เราเดินทางมาถึงสนามบินคันไซ วันที่ 10 พ.ย. ประมาณ 7 โมงเช้า พอถึงสนามบินปุ๊บ สิ่งแรกที่ทำ คือ ซื้อบัตร pass ต่างๆ
โดยซื้อที่ Information Center สัญลักษณ์รูปตัว I ส่วนบัตร JR ซื้ออีกอาคารนะจ๊ะ
บัตรที่ข้าพเจ้าซื้อ ตามนี้ ↓
เป็นบัตรเติมเงิน ICOCA ที่นำไปใช้ในการเดินทางเที่ยวคันไซพร้อมตั๋วนั่งชินคันเซน HARUKA เที่ยวเดียวในราคาถูก
และ ซื้อของในพื้นที่คันไซ โดยไม่ต้องพกเงินสดด้วยนะ เติมเงินเอา สะดวกดี
ราคา 2,000 เยน (ค่าบัตร 1,500 เยน เงินมัดจำ 500 เยน)
ตัวบัตรเติมเงิน ICOCA เลือกลายได้ 2 แบบ เราเลือกคิตตี้มา
บัตรนี้ไม่ได้ใช้เลย ที่ซื้อ เพราะตั้งใจจะไปโกเบ Rokko จ้า แต่ก็พลาดไป ราคา : 1,400 เยน (ขึ้นได้ไม่จำกัดเที่ยว)
บัตรนี้สามารถเที่ยวได้ทั้งโอซาก้าและเกียวโต เราเลือกแบบ 1 วัน ราคา 700 เยน (ขึ้นได้ไม่จำกัดเที่ยว)
บัตรนี้ใช้คุ้มมาก เหมาะสำหรับท่องเที่ยวในเมืองโอซาก้า แถมยังได้เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวในโอซาก้าฟรีด้วยนะ
ราคา : 1 วัน ราคา 2,300 เยน / 2 วัน ราคา 3,000 เยน (ขึ้นได้ไม่จำกัดเที่ยว)
ปล. ต้องบอกก่อนว่า ไปครั้งแรก เดินทางไม่ถูก กลัวว่าจะเสียค่าเดินทางเยอะ เพราะไปหลายจุด เลยซื้อมาหลายบัตรหน่อย แต่ก็ยังคุ้มอยู่นะ อย่างบัตร Osaka Amazing Pass เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวฟรีหลายจุดเลย
ระหว่างเดินไปซื้อบัตร Icoca + JR Haruka อีกอาคารนึงในสนามบินคันไซ
ตอนที่ออกจากอาคาร สัมผัสถึงความเย็น วูบมาเลยจ้า 9 องศา เป็นเมืองติดแอร์จริงๆ
หลังจากซื้อบัตรเดินทางครบล่ะ ไปขึ้น JR Haruka เข้าเมืองกันเล้ยย
เดินลงบันไดเลื่อนมารอข้างล่าง
ระหว่างรอ สำรวจรอบๆจ้า
หลังจากยืนรอสักพัก..............JR Haruka มาแล้วววว รถไฟเขาดูเท่ห์อ่ะ ใหม่จุง
(รอบเวลา ดูได้จากป้ายประกาศ มีให้เห็นหลายจุด)
แต่.....ยังขึ้นไม่ได้นะ รอพนักงานทำความสะอาดภายในรถไฟก่อน เพราะเป็นสถานีปลายทางเนอะ
ตอนที่เห็นพนักงานทำความสะอาด เป็นผู้หญิง ดูวัยรุ่น ใส่ชุดยูนิฟอร์ม ใส่หมวกแคป ดูดีเลย อุปกรณ์พร้อม
(พอมาเหยียบญี่ปุ่นปุ๊บ ได้เห็นความแตกต่าง ความมีระเบียบ ความสะอาด สุดยอดจริงๆ)
หลังจากทำความสะอาดเสร็จ เก้าอี้ทุกตัวกลับด้านอัตโนมัติ ไม่ต้องใช้เท้าเหยียบทีละตัวนะ ฮาๆๆ ดูดีมีมาตรฐาน
แล้วก็ขึ้นได้...........
ที่เก็บกระเป๋าอยู่ทางขึ้น รีบใส่ก่อนเลยจ้า เดี๋ยวเต็ม
บรรยากาศภายใน
สังเกตผ้าสีเหลืองที่พาดเบาะ จะมีกระเป๋าเล็กๆอยู่ เท่าที่มองดู น่าจะใส่ตั๋วรถไฟ เมื่อไม่ใช้แล้ว จะได้ไม่ต้องทิ้งมั่ว
แถมยังอำนวยความสะดวกผู้โดยสารอีก (จะมีเจ้าหน้าที่เดินตรวจตั๋วด้วยนะจ๊ะ)
ออกจากสนามบินล่ะ.............
เข้าเมืองไปเก็บกระเป๋า ที่ Osaka Guest House Nest ก่อน
จากสนามบินคันไซ นั่ง Haruka มาลง สถานี Tennoji แล้วเดินต่อ อีก 1 โลนิดๆ ที่พักจะอยู่ติดถนนเลยจ้า
รูป หน้าตึก ที่พัก (ไว้รีวิวที่พักรอบหน้านะคะ)
แล้วก็ออกเดินทางต่อ
วันแรก ไปไหว้พระ ที่จังหวัดนารา กันก่อนเลย
จากสถานี Tennoji จ.โอซาก้า มาถึง จ.นารา ใช้เวลาเกือบๆหนึ่งชั่วโมง
ภาพภายในสถานี Kintetsu Nara
ร้านค้าในสถานี ก็ดูดีไปอีก
โผล่ขึ้นมา ก็จะงานเปิดหมวก และแหล่งช้อปปิ้งข้างเคียง ย่าน Higashimuki ของขายเยอะมากก น่ารักทั้งน้านเลย
เมื่อเดินทะลุซอยไป จะเจอร้านโมจิชื่อดัง จะเห็นจากรีวิวบ่อยๆ แล้วก็ไม่ผิดหวัง โมจิเหนียวนุ่มมากก ไม่หวานมาก ชอบเลยค่า
ขนมโมจินี้ มีชื่อว่า Yomogimochi กล่องละ 390 เยน มี 3 อัน หรือ จะสั่งทีละอันก็ได้ อันละ 130 เยน
ตอนขากลับ กลับทางเดิมเลยได้เห็น ชายสองคน ผลัดกันตำโมจิพอดี ทั้งคู่ตำโมจิไป ส่งเสียงไป เป็นที่สะดุดหู สะดุดตา คนมาดูก็จะเยอะหน่อย
เมื่อออกจาก ย่าน Higashimuki ก็มุ่งหน้าไป วัด Kofukuji ทางที่เดินไปก็จะมีขึ้นเนินสลับกันไป
ทางขึ้นบันไดไปวัด
เมื่อเข้าวัด จะต้องมาล้างมือ ล้างปาก กันก่อนนะจ๊ะ
ไหว้พระ โยนเหรียญ ขอพรสักนิด
บางคนก็จะเขียนป้ายขอพร แล้วแขวนไว้ที่วัด
ถึงแล้ว.......วัด Kofukuji เป็นสถานที่เก่าแก่ และกว้างขวางมาก คนไม่เยอะ สบายๆ
**เราเดินถ่ายรูปรอบๆ ไม่ได้เข้าไปชมในอาคาร เลยไม่เสียค่าเข้าจ้า
วัดแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นประมาณปี ค.ศ. 710 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่นาราเป็นเมืองหลวง และเคยเป็นวัดของครอบครัวฟูจิวาระ ตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในช่วงยุคนาราและเฮอัน เรียกได้ว่าในสมัยนั้นวัดโคฟุคุจิน่าจะโด่งดังไม่เบา
Cr. https://www.talonjapan.com/kofukuji-temple/
จากนั้น เดินๆๆๆๆไป วัด Todaiji ระหว่างทาง จะเจอสวนนารา เลยแวะให้อาหารกวางสักหน่อย ถ้าไม่ได้ให้อาหาร และถ่ายรูปกับกวาง เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงนะจ๊ะ มานาราต้องเจอกวางๆๆ เดินกันเต็มเลยจ้า
กวางเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนารา ผู้คนนารามีความเชื่อว่าเป็นพาหนะของเทพเจ้า และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองมือง
ที่หน้าสวน มีร้านขายอาหารกวาง เรียกว่า ขนมเซมเบ้ อันละ 150 เยน มีหลายแผ่นอยู่นะ
พอใกล้จะถึงประตูวัด Todaiji จะผ่านร้านค้าขายของฝาก ของกิน เรียงรายตลอดทางเลย แล้วก็จะเจอพี่กวาง เดินเล่นไปมาตลอดทาง
ใกล้จะเดินถึงประตูล่ะ นี่แค่ด่านแรกนะ จังหวะนั้น ก็มีคุณป้ากำลังเก็บ อุนจิ พี่กวาง
** ตลอดทางที่เดินมา สะอาด เรียบร้อยมากๆ
ถึงประตูทางเข้าสักที แค่ทางเข้าก็อลังแล้ว ไม้ดูเก่าแก่มากๆๆ
สองข้างของประตู จะมียักษ์ 2 ตน ยืนเฝ้าอยู่
แล้วเราก็เดินตามเขาไป.............เจอกลุ่มนร. มาทัศนศึกษาด้วย ไปกานนนน
วัดโทไดจิ(Todaiji) วัดหลวงพ่อโตแห่งเมืองนารา หรือ ไดบุตสึ(Daibutsu of Nara) เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 752 ส่วนอาคารหลัก ได้รับการยอมรับว่าเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และหลวงพ่อโต หรือ ไดบุตสึเดนที่ประดิษฐานด้านในอาคารหลัก มี ความสูงมากถึง 15 เมตรเลยจ้า
ภาพจำลองของวัดโทไดจิ และ ยักษ์ 2 ตน ที่ทำหน้าที่เฝ้าประตู
ต่อกระทู้หน้าจ้า.....
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้