หากพูดถึงสัญญาหยินหยางเริ่มเป็นที่นิยมหลังจากที่รัฐบาลจีนออกกฎใหม่เพื่อป้องกัน “ไม่ให้ผู้สร้างภาพยนตร์หรือซีรี่ส์ต้องทุ่มเม็ดเงินมหาศาลไปกับค่าตัวของนักแสดงมากเกินไป” โดยกำหนดว่าให้จ่ายเงินค่าตัวนักแสดงได้ไม่เกิน 40% ของทุนสร้างเท่านั้น และ 70% ในกรณีของการสร้างภาพยนตร์
(อ่านเพิ่ม : ทางการจีนยืนยัน ซุปตาร์ดัง "ฟ่าน ปิงปิง" โดนจับ ฐานเลี่ยงภาษี)

จึงเกิดการเซ็นสัญญาในรูปแบบที่เรียกว่า “สัญญาหยิน-หยาง” ขึ้น ซึ่งทางเอเจนซี่จะให้นักแสดงเซ็นต์สัญญา 2 ฉบับ ฉบับแรกเป็นสัญญาส่วนตัวไม่เปิดเผยต่อสาธารณชนโดย “ทุกฝ่ายตกลงกันในเรื่องของค่าตัวการแสดงซึ่งเป็นรายรับที่นักแสดงได้รับจริง”
แต่...สัญญาอีกฉบับจะถูกใช้เพื่อเป็นการหลบเลี่ยงภาษีเพราะจะระบุ “รายได้ค่าตัวต่ำกว่า” ที่ตกลงกันไว้และสัญญาฉบับที่สองนี้เองที่ถูกใช้เพื่อแสดงรายรับในการคำนวณภาษีต่อรัฐบาล

ซึ่งสัญญาดังกล่าวกำลังเป็นที่นิยมในเหล่านักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์ที่มีรายได้จากงานแสดงแต่ละงานหลักหลายล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ แน่นอนว่ายิ่งรายได้สูงเท่าไหร่การเสียภาษีย่อมต้องสูงตามไปด้วย
และไม่เพียงแต่วงการบันเทิงเท่านั้น การทำสัญญา หยิน-หยาง ยังแพร่หลายในวงการอสังหาริมทรัพย์และสโมสรฟุตบอลอีกด้วย

ส่วนกรณีของ ฟ่าน ปิง ปิง เธอถูกตั้งคำถามจากพิธีกรรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่งถึงรายได้ที่แท้จริง หลังเธอซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเซี่ยงไฮ้มูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันก็มีการอ้างหลักฐานจากสื่อของจีนว่า
“สัญญาที่ใช้เป็นหลักฐานในการเสียภาษีจากค่าตัวงานแสดงภาพยนตร์เรื่องหนึ่งอยู่ที่ราว 1.5 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 50 ล้านบาท แต่กลับมีสัญญาการจ่ายเงินที่ไม่เปิดเผยอีก 7.6 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบๆ 300 ล้านบาท”