อัศวินเทเลอร์กับอาณาจักรแอตแลนติส...บทที่ 5 – ความมหัศจรรย์ของประตูชัย (Part 2)

กระทู้สนทนา
....


          ทุกคนฟังสิ่งที่กลอเรียอย่างตั้งใจเช่นเดียวกับเทรซี่ที่กำลังจดเรื่องพวกนี้ด้วยความรวดเร็วเช่นกัน ถึงแม้จะมีอีกหลายทางที่จะขัดขวางคำพยากรณ์นั้นได้ แต่ผมรู้สึกว่าเลือดฉูบฉีดทั่วร่างกายราวกับว่าครีโทเนียสล้มลงอยู่ตรงหน้าแล้วผมก็ชี้ดาบไปที่หน้าเขาด้วยความกล้าหาญ
          “เมื่อกี้เธอพูดว่าอัศวินเกิดมาจากจิตวิญญานแห่งโธท ในเมื่อทุก ๆ คนคิดว่าน้องฉันเป็นอัศวินแสดงว่าเขาก็ต้องเป็นจิตวิญญานแห่งโธทใช่ไหม” ไมลีย์เริ่มถามจากที่เงียบมาพักใหญ่ เธอเก็บข้อมูลต่าง ๆ ให้ทันกับเรื่องราวนี้ ผมรู้นิสัยของพี่สาวผมดี เธอฉลาดเป็นกรด
          “ใช่” กลอเรียตอบอย่างสงบ เธอมองหน้าพวกเราชั่วอึดใจจึงพูดว่า “โธทเป็นนักปราชญ์ชาวแอตแลนติสคนหนึ่งที่ได้รับพรวิเศษจากโพไซดอน มีความสามารถสูงส่งในยุคเริ่มแรกของอาณาจักร เขาอาศัยอยู่ในช่วงพระเจ้าแอตลาสที่หนึ่งเรื่อยมาจนถึงพระเจ้าแอตลาสที่สาม กายหยาบเขาจึงดับลง เราเชื่อกันว่าจิตอันบริสุทธิ์ของโธทอยู่บนเขาคริกกรอท เพราะก่อนที่เขาจะดับสังขารของตนเอง เขาได้ให้คำมั่นกับประชาชนชาวแอตแลนติสว่าเขาจะกลับมาอีกครั้งเมื่ออาณาจักรแอตแลนติสต้องการ และเป็นอย่างที่เขาได้ให้คำมั่น จิตวิญญานแห่งโธทอุบัติขึ้นหลายครั้งในแอตแลนติสเพื่อปกป้องภัยพิบัติและตามคำพยากรณ์นี้ เราก็เชื่อเช่นนั้น”
          “งั้นเทเลอร์ก็คือโธทนะสิ” เทรซี่เงยหน้าหลังจากที่จดข้อความเสร็จสิ้น
          “เทเลอร์ไม่ใช่โธท เทเลอร์ใช้จิตส่วนเดียวที่โธทแยกให้ เพราะฉะนั้นเทเลอร์จะเก่งขึ้นถ้าได้รับการฝึกฝนแต่ไม่ใช่ว่าเทเลอร์จะทำอะไรไม่ได้ จิตเขาแข็งแกร่งมากเท่าที่ฉันสัมผัส แต่..มันไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่ฉันคิดในตอนนี้หรอก ครีโทเนียสรู้ว่าอัศวินกำเนิดแล้ว เขาต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดเทเลอร์ ไม่ให้คำทำนายเกิดขึ้น ถ้าทำได้ มันก็ไม่ยากที่เขาจะชนะในการรบสงครามของแอตแลนติสครั้งนี้”
          “แต่เมื่อกี้เธอบอกฉันว่ามีมนตร์โบราณคุ้มครองอยู่นี่”
          “มนตร์โบราณควบคุมพลังจากเวทมืด กระสุนปืนไม่ใช่อำนาจเวท มันกันเธอจากสิ่งนั้นไม่ได้หรอก”
          “ถ้าอย่างงั้นแสดงว่าฉันจะปลอดภัยเมื่อฉันอยู่ในแอตแลนติส”
          กลอเรียยิ้มออกมาหลังจากที่เธอสะดุ้งในทันที ถ้ามีใครสังเกตเหมือนกับผมนะ “ใช่ เทเลอร์จะปลอดภัยเมื่อไปที่นั่น”
          “งั้น เทเลอร์ก็ต้องรีบไปแอตแลนติสนะสิ” แมทพูดอย่างกระตือรือล้น
          “ถูกต้อง”
          “ไม่ได้ เทเลอร์ต้องไปหาพ่อฉัน อย่าลืมสิเรามีสมาคมลับแอตลาสที่นี่นะ” เทรซี่ค้านเสียงดัง เธอเดินเข้ามาจับมือผม พร้อมลากผมมาไว้ข้างหลังเธอ ผมได้แต่ยักไหล่ให้แมท
          “เทรซ...เธอก็ได้ยินว่าแอตแลนติสปกป้องเทเลอร์ได้”
          “ฉันว่ามันอาจเป็นความคิดที่แย่มากที่เราจะเชื่อกลอเรีย อย่างที่เธอบอกว่า คำพยากรณ์ยังคลุมเครือ จะรู้ได้ไงว่านั่นไม่ใช่กับดัก”
          “ฉันอยู่ข้างนายนะ เทเลอร์” กลอเรียย้ำ “พวกเธอก็รู้มีสมุนของครีโทเนียสเต็มไปหมดในสมาคมที่พ่อของเทรซี่ทำงานอยู่ มันต้องมีหนอนบ่อนไส้อยู่ภายในสมาคมนั่นเพราะอิมินอส ฉันหมายถึงศาสตราจารย์แฟรงค์จะรู้ได้ยังไงว่าเทเลอร์เป็นอัศวิน ถ้าเทเลอร์ไปที่นั่น เขาจะมีอันตรายมากกว่านี้ ไม่ว่ามนต์โบราณจะคุ้มครองเขาได้มากเพียงไหน หรือช่วยให้เขาปลอดภัยได้สักเท่าไหร่ แต่ถ้าเหตุการณ์แบบนั้นบ่อย ๆ เทเลอร์ก็อาจจะแย่ได้” กลอเรียพยายามอธิบาย
          “ฉันบอกตามตรง ฉันไม่สบายใจกับเรื่องนี้” เทรซี่พยายามลดเสียงและทำให้มันน้ำเสียงดูราบเรียบ แต่มันก็ยังแฝงไปด้วยความกังวล “ทำไมเราไม่เอาเรื่องนี้ไปปรึกษาพ่อฉันก่อน ถ้ามันไม่ได้ผลเราก็ค่อยไปแอตแลนติสก็ได้”
          “งั้นก็ต้องให้เทเลอร์เลือก ว่าเขาจะอยู่ที่นี่ รอความตาย” กลอเรียเน้นเสียง “หรือจะเข้าไปในแอตแลนติส ที่ที่คนจงรักภักดีกำลังรอคอยเขา เทเลอร์มีอำนาจเหนือสมาคมลับทุกที เขาสามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้”
          “แต่พ่อฉันสามารถคุ้มครองเทเลอร์ได้นะ” เธอพูดเสียงเบา
          “ฉันรู้ว่าเราไว้ใจพ่อของเธอได้ แต่กับคนอื่นล่ะ เทรซี่”
          “แต่...”
          “ฉันขอร้อง” ผมพูด “ฉันไม่เหลือใครแล้วนอกจากพวกเธอ เธอเป็นคนที่ฉลาดที่สุดและเธอก็คือคนที่จะอยู่เคียงข้างฉันในสงครามครั้งนี้ ฉันไว้ใจเธอนะ เทรซี่ อย่าให้การตัดสินใจครั้งนี้ผิดพลาดจนทำให้พวกเราไม่ได้เจอกันอีกเลย”
          เทรซี่ไม่พูดอะไร เธอพยักหน้าแม้ว่าแววตาเธอดูไม่สบายใจกับการตัดสินใจครั้งนี้มากนัก

          “จบเรื่องสักที” เชนนิ่งพูดพร้อมเอามือเท้าหัว เหมือนกับว่าเรื่องนี่เป็นเรื่องง่าย ๆ สำหรับเขา แต่ไม่ มันยังไม่จบหรอก เชนนิ่ง ผมนึกในใจ
          “ยัง” ผมโต้เสียงดังทำให้ทุกคนหันมามองผม “การเดินทางจะมีแค่แมท เทรซี่ กลอเรียและฉัน...นายกับไมลีย์ ไปไม่ได้”
          “ไม่มีทาง” ไมลีย์ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว “ฝันไปเลยว่าพี่จะยอมให้เธอจัดการเรื่องนี้คนเดียว”
          “ใช่” เชนนิ่งดีดตัวขึ้นอย่างว่องไว “เราทั้งสองไม่มีทางให้นายทำตามใจตัวเองหรอก ไม่มีอีกต่อไป”
          “ไม่มีใครเขาฟังนาย เชนนิ่ง” ผมพูดพร้อมพยักหน้าขอความเห็นจากทุกคน “นี่เป็นเรื่องของพวกเราที่เกี่ยวข้อง ฉันเข้ามาตามหานาย เพื่อที่จะบอกเรื่องนี้เท่านั้น”
          “อะไรนะ” ไมลีย์พูดน้ำเสียงเศร้า เริ่มจะมีคนดราม่าอีกแล้ว “อิมินอสเห็นหน้าพี่กับเชนนิ่งแล้ว พวกเขาต้องมาตามล่าเราทั้งคู่ถ้าเธอทิ้งเราไป”
          “ครีโทเนียสทำได้ทุกอย่างเพื่อหยุดเทเลอร์ ดังนั้นถ้าเขาอยู่ที่นี่ คนรอบตัวก็จะมีอันตรายไปด้วย แต่ถ้าเขาไปที่แอตแลนติส ครีโทเนียสก็ไม่จำเป็นต้องส่งใครมาที่นี่อีกแล้ว เธอทั้งคู่ก็จะปลอดภัยไปด้วย” กลอเรียแทรก
          “ขณะที่พวกเราเจอคนพวกนั้น พวกเธอไปอยู่ไหนมา เธอไม่ได้อยู่เคียงข้างเทเลอร์แม้แต่นิด” ไมลีย์โกรธจัด เธอเปลี่ยนอารมณ์ได้รวดเร็วปานลำแสง สถานการณ์ในห้องดูตึงเครียด แม้ผมจะเคยเห็นเธอจริงจังกับบางเรื่องในบางครั้ง แต่เรื่องนี้ เธอทำแสดงท่าทางว่ามันคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่เธอไม่สามารถจะยอมหรือปล่อยให้มันเลยตามเลยได้
          “ไมล์…พี่ได้ยินที่พวกเราคุยกัน พวกพี่จะปลอดภัยเมื่อผมไปแอตแลนติส ไม่มีใครทำอะไรพี่ได้”
          “แล้วทำไมพี่ต้องยอมปลอดภัยเมื่อเห็นเธอกำลังจะตาย”
          “ผมไม่ได้กำลังจะตาย ผมแค่…” ผมหยุดนึกสำหรับคำที่ผมควรจะใช้ให้มันไม่ดูแรงเกินไป “…แค่เป็นแม่ทัพเพื่อต่อสู้กับครีโทเนียส”
          “และนั่นหมายความว่าแม่ทัพอย่างนายจะถูกหมายหัวทันทีเพื่อที่จะชนะสงคราม” เชนนิ่งแทรก เขาขยับตัวเดิน มองหามุมใดมุมหนึ่งของห้องที่จะทำท่าเท่ ๆ
          “นั่นไง ถึงนายไป ฉันก็ต้องถูกหมายหัวอยู่ดี แล้วนายกับไมลีย์ก็ยังเสี่ยงอันตรายไปด้วย”
          “แล้วพี่จะยอมเห็นน้องพี่ไปเสี่ยงอันตรายแบบนั้นได้ไง” เสียงของไมลีย์เริ่มสั่นเครือหนักขึ้น
          “แต่พี่เข้าไปที่นั่นไม่ได้อยู่ดี พี่ไม่ใช่คนจากแอตแลนติส ทั้แต่ที่เทรซี่หรือแมทเข้าไปได้ เพราะพวกเขามีต้นตระกูลสืบเชื้อสายมาจากที่นั่น พวกเรามีเชื้อสายชาวแอตแลนติส”
          “ฉับกับนายก็เป็นเลือดสีเดียวกันหรือเปล่า” เชนนิ่งค้าน
          “ไม่ ฉันคิดว่าไม่...มันน่าจะเป็นแบบนั้น ใช่ไหม กลอเรีย” ผมหันไปหาเธอ เธอน่าจะมีคำอธิบายดี ๆ กลอเรียนึกอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะพูดว่า
          “จริง ๆ แล้วไม่ว่าใครก็เข้าไปแอตแลนติสได้ ทุกคนสามารถเข้าไปได้ แต่ตามความคิดของฉันพวกคุณไม่สมควรไป มันไม่ใช่เรื่องของพวกคุณ”
          “แต่นี่มันเป็นเรื่องของน้องฉัน” ไมลีย์พูดเสียงดังด้วยความโกรธ และถ้าเป็นแบบนี้ อาจจะมีเหตุการณ์อะไรสักอย่างเกิดขึ้น เพราะไมลีย์เหมือนกับผม เรามักจะไม่ยอมอะไรง่าย ๆ แต่กับกลอเรีย บทเรียนที่ผมเรียนรู้ก็คือ เราต้องยอมเธอ เพราะเธอไม่ธรรมดาและดูท่าความอดทนเธอจะมีขีดจำกัด
          “งั้นก็ต้องให้เทเลอร์ตัดสินใจ” กลอเรียแนะนำ “อย่างที่บอก อัศวินมีอำนาจในเรื่องนี้”
          “ไม่ ไมล์ พี่...” ผมอ้ำอึ้ง ไมลีย์กำลังจะร้องไห้ ผมรู้ดี เธอดื้อรั้นและเธอจะไม่มีวันยอมให้ผมออกจากที่นี่โดยที่เธอได้แค่มองอย่างแน่นอนหรือว่าผมควรจะมัดเธอไว้ดี
          “โอเค แบบนั้นก็ได้” ผมตัดสินใจ
          ไมลีย์มองหน้ามองอย่างรู้สึกขอบคุณ และ ไม่ อย่าได้คิดเข้ามากอดผมตอนนี้เด็ดขาด เพราะเธอกำลังทำท่านั้น ผมจึงเบี่ยงสายตาไปมองคนอื่นแทน เพื่อให้ความซึ้งมันไม่เกิดขึ้น แมทพยักให้เล็กน้อย เหมือนกำลังบอกว่า นายตัดสินใจถูกแล้ว

          “แล้วเราจะไปกันได้ยังไง”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่