1 วันนครนายก ใครไม่ยกเรายก (Nakhon nayok)

มีใครบางคนว่าเอาไว้ว่ายังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพที่สามารถไปเช้าเย็นกลับได้และอีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของเขื่อนที่เป็นคอนกรีตบดอัดยาวที่สุดในประเทศไทยและในโลกยุคนี้เป็นยุคของการท่องเที่ยวเหล่ามนุษย์ตั้งลงไลน์และครอบครัวกับการท่องเที่ยวที่ไม่มีที่สิ้นสุด5555 เปิดตัวแบบการ์ตูนโทริโกะไปเลยเป็นไง

สถานที่ท่องเที่ยวที่ผมกล่าวมาข้างต้นนี้ก็คือจังหวัดนครนายกนั่นเองครับที่อยู่ไม่ห่างจากตัวกรุงเทพสักเท่าไหร่ขับรถประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึง จังหวัดนครนายกมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายแต่ที่เด่นๆ ก็จะเป็นเขื่อนขุนด่านปราการชลที่ตอนนี้ฮิตติดกระแสมาก หลายๆเพจไปท่องเที่ยวถ่ายรูปกัน แต่ก็จะมีสะพานทุ่งนามุ้ยและเขาหล่นที่เพิ่งจะฮิตขึ้นมาอีกด้วย

วันนี้ผมก็เลยจะลองไปดูว่า 1 วันการไปจังหวัดนครนายกผมจะสามารถไปเที่ยวที่ไหนได้บ้างไปได้กี่ที่โดยผมเริ่มต้นขับรถออกจากกรุงเทพเวลา 9 โมงและมุ่งตรงสู่จุดหมายที่แรกผมก็คือเขาหล่น ตามแผนที่วางไว้ผมจะไปที่เขาหล่นก่อนแล้วต่อด้วยสะพานทุ่งนางมุ้ยและจบที่เขื่อนขุนด่านปราการชล 3 ที่ด้วยกัน แต่ดูจากสภาพอากาศวันที่ผมไปแล้วฝนจะตกก็เลยคิดซะว่าตามมีตามเกิดแล้วกัน ฮ่าๆๆ

สรุปทริปนี้ 1 วัน

- รถส่วนตัวใช้เวลาเดินทางไปนครนายก 2 ชม.
- ที่แรกเขาหล่นไม่เสียค่าเข้าชม แต่ถ้าใครต้องการทำกิจกรรมด้านในเขาหล่นก็มี activity ให้ทำเช่นขี่รถ ATV ปั่นจักรยานภูเขาอันนี้ผมไม่ทราบราคานะครับ
- ที่ที่ 2 สะพานทุ่งนามุ้ยบังเอิญวันที่ผมไปฝนตกพอดีก็เลยไม่ได้เข้าไปเที่ยวเสียดาย
- ที่ที่ 3 เขื่อนขุนด่านปราการชลเนื่องจากผมรอจนฝนหยุดตกจึงทำให้ภายในเขื่อนนั้นมีหมอกเกิดขึ้นสวยงามมากๆ เลยครับในเขื่อนขุนด่านปราการชลก็จะมีรถกอล์ฟให้เช่ารถนำเที่ยวที่วิ่งบนสันเขื่อนและจะมีเรือที่เราสามารถติดต่อเพื่อให้เขาพาเราเข้าไปในเขื่อนด้านในไปดูน้ำตกอัตราค่าบริการถ้าเราไปกัน 7 คนจะตกที่ประมาณ 1,500 บาทต่อลำแต่ถ้าเราไปไม่ถึง 7 คนหรือต่ำกว่านั้นเราจะต้องรอว่ามีนักท่องเที่ยวท่านอื่นมาจอยกับเราหรือไม่วันที่ผมไปมีนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มนึงพอดีรวมกับของผมเป็น 7 คนพอดีตก 1,500 บาท หารกันคนละ 200 นิดๆ

ไปดูภาพที่ผมเก็บมาฝากกันเลยครับ

Facebook fanpage : https://www.facebook.com/GoOutLetYouSee/
Instagram : https://www.instagram.com/gooutletyousee/?hl=th


เขาหล่นจะมีจุดที่เป็นวิวพ้อยที่เป็นทุ่งหญ้าสีทองตามรูปใน Google ต่างๆหรือในเว็บต่างๆอยู่แต่แนะนำว่าถึงเขาหล่นแล้วอยาก search ใน Google map นะครับว่าทุ่งหญ้าสีทองอยู่ตรงไหนเพราะ Google Map จะพาเราไปผิดที่ไปอีกจุดหนึ่งที่ไม่ใช่เพราะให้เราพอไปถึงที่ทุกที่เขาหล่นแล้วให้เราเดินเข้าไปที่จุดศึกษาธรรมชาติเลยครับที่นั่นแหละคือทุ่งหญ้าสีทองไม่ต้องเปิดใน Google map นะครับผมเดี๋ยวจะลงเหมือนทุกองค์ 5555

วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า

หลังจากลงเดินอยู่ในป่าสักพักนึงผมก็ออกกันมาพร้อมกับเมฆฝนที่มืดครึ้มรอพวกผมอยู่แล้วผมก็เจอกับทุ่งหญ้าสีทองตามในรูปครับผมแต่ก็ยืนถ่ายรูปได้แค่แป๊บเดียวฝนก็ตก

อันนี้ก็จะเป็นสะพานที่เป็นจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวส่วนมากมาถ่ายรูปกันครับคนเยอะครับผมกว่าจะได้รูปที่คนน้อยต้องยืนรออยู่สักพักนึงเลยครับฝนก็จะตกคนก็จะถ่ายฮ่าๆๆ

หลังจากนั้นพวกผมก็ขับรถออกมาจากเขาหล่นเพื่อที่จะไปที่สะพานทุ่งนามุ้ยเสียดายที่ฝนตกแรงมากจนไม่สามารถลงจากรถได้เราจึงข้ามทุ่งนามุ้ยไปเลยครับและมุ่งหน้าต่อสู่เขื่อนขุนด่านเลย

ถึงแล้วเขื่อนขุนด่านปราการชลน้ำเยอะมากๆครับ

หลังจากฝนตกภูเขาที่อยู่ภายในเขื่อนก็จะมีหมอกลอยอยู่เหนือภูเขาแบบนี้ล่ะครับ

หมอก


และก็หมอก

สิ่งที่เป็นเป้าหมายของผมในวันนี้ก็คือการนั่งเรือเข้าไปเที่ยวชมภายในเขื่อน

โดยที่เราสามารถติดต่อขอใช้บริการเรือเพื่อที่จะพาเราเข้าไปภายในเขื่อนได้นะจุดบริการขายตั๋วเรือตรงจุดบริการขายตั๋วเช่ารถกอล์ฟอะครับข้างๆกัน

หลังจากคนคบแล้วคนขายตั๋วเรือก็จะพาเรามารอที่ท่าน้ำเพื่อรอให้เรือที่เป็นคนพาเราเข้าไปมารับครับ

นี่ครับสภาพหน้าตาของเรือที่จะพาเราไป555


จากที่ผมถามลุงว่าเราจะใช้เวลาอยู่ในเขื่อนนานแค่ไหนลุงบอกว่าประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ถ้าเราเล่นน้ำด้วยแต่ถ้าไม่เล่นน้ำก็ประมาณชั่วโมงกว่าๆครับ

บรรยากาศสองข้างฝั่งก็จะเป็นภูเขาที่มีต้นไม้ขึ้นหนาทึบ และจะมีคล้ายๆ เป็นน้ำตกเล็กๆ ที่ไหลลงมาจากภูเขา

นั่งเรือมาสักพักลุงก็พาเรามาถึงน้ำตกจุดแรกนั่นก็คือน้ำตกงามงอน

เราจะต้องเดินไต่เชือกขึ้นไปจุดที่เป็นน้ำตกจริงๆ ที่อยู่ด้านบนต้องบอกก่อนเลยนะครับว่ามันลื่นมากเพราะว่าฝนเพิ่งจะหยุดตกไป

น้ำใสมากๆ เลยครับและเย็นมากๆ

ถ้าใส่รองเท้าผ้าใบมาแนะนำให้ถอดไว้ที่เรือและเดินเท้าเปล่านะครับเพราะว่าเปียกแน่นอนครับผม



มีผีเสื้ออยู่ในละแวกน้ำตกเยอะพอสมควรครับบินกันว่อนเลย


หลังจากที่ผมลงมาจากน้ำตกก็มีเรือนำเที่ยวตามลำที่ผมมาอีก 2 ลำครับ รีบไปดีกว่าคนมาละ

ภายในเขื่อนก็จะมีชาวบ้านที่มาหาปลาตกปลาอยู่เป็นระยะๆ ครับ

ในที่สุดก็ถึงน้ำตกแห่งที่ 2 ครับผมก็คือน้ำตกคลองครามน้ำตกนี้เป็นน้ำตกเล็กๆ ครับไม่ใหญ่เหมือนน้ำตกงามงอนน้ำตกแรก ลงจากเรือเดินไปแป๊บเดียวก็ถึงครับไม่ต้องปีนป่ายอะไร


น้ำเย็นเจี๊ยบบบบบ


ลุงจะเตือนให้เราใส่เสื้อชูชีพตลอดเลยครับ

อันนี้น่าจะเป็นแคมป์ที่นักหาปลามาทำไว้แน่ๆ


ต่อมาจะเป็นน้ำตกแห่งที่ 3 ครับผมก็คือน้ำตกช่องลมน้ำตกนี้จะใหญ่กว่าน้ำตกที่ 2 นิดนึงนะครับแล้วจะเป็นจุดที่สามารถลงเล่นน้ำได้นะครับถ้าเอาเสื้อมาเปลี่ยน

สะพานไม้ไผ่ที่แสนจะดูมาตรฐานฮ่าๆๆ

น้ำแรงมากๆ เลยครับ

ใครจะลงเล่นก็ลงครับน้ำแรงขนาดนี้ผมไม่ลงแน่นอน555

น้ำตกทั้ง 3 แห่งบนก้อนหินจะมีมอสขึ้นเต็มไปหมดเลยครับลื่นมากๆ ต้องระวังให้ดีครับผมล้มไปทีได้แผลเลย5555


หลังจากที่ลุงพาไปเที่ยวครบทั้ง 3 น้ำตกแล้วลุงก็พาเรากลับไปส่งที่ฝั่งใช้เวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมงกับการอยู่ในเขื่อน

หลังจากลงมาจากบนเขื่อนก็แวะมาที่จุดที่เขื่อนปล่อยน้ำลงมาก่อนที่จะกลับ น้ำเยอะมากๆ เลยครับพุ่งยังกับน้ำพุคนก็เยอะมากๆเลยด้วย

ออกจากเขื่อนประมาณ 5 โมงเย็นครับผมและก็มุ่งตรงกลับสู่เมืองใหญ่กรุงเทพฯ เลยครับถ้าใครจะมาเที่ยวก็ขอให้ดูวันที่คิดว่าฝนจะไม่ตกหรือดูจากพยากรณ์อากาศก็ได้นะครับเพราะว่าอาจจะมาแล้วไม่ได้เที่ยวเพราะเจอฝนตกหนักนะครับผม^^

ถ้าใครชอบรีวิวผม ผมก็ฝากติดตามแฟนเพจด้วยครับ^^
Facebook fanpage : https://www.facebook.com/GoOutLetYouSee/
Instagram : https://www.instagram.com/gooutletyousee/?hl=th
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่