😗~มาลาริน~ตั้งแต่เข้ามาในเวลาเกือบสี่ปี ช่วงนี้เป็นช่วงที่ดีที่สุด มาลารินชอบมากค่ะ..แล้วโอตะว่าไงคะ เฌอปรางค์ โดนถล่ม

กระทู้คำถาม
ตั้งแต่เข้ามาในเวลาเกือบสี่ปี ช่วงนี้เป็นช่วงที่ดีที่สุด มาลารินชอบมากค่ะ
บรรยากาศดีมีอะไรบ้าง

-เข้ามาก็เจอกระทู้ที่อ่านแล้วต้องยิ้ม  ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กันเลยค่ะ ทั้งตลกทั้งสนุก มีเรื่องที่ถกเถียงกันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

-แม้แต่แก้งค์ขอไข่ที่เคยได้คะแนนโหวตเยอะ  กลับตกกระป๋องได้โหวตแค่นิดหน่อย ไม่ถูกใจเจ้าแม่มะดัน อดีตอันแสนหวาน หรือจะสู้ปัจุบันที่เป็นจริง

-กระทู้อันดับหนึ่งของห้อง  เป็นของสลิ่มได้อย่างไร  แทนที่จะเป็นของแก้งค์ขอไข่อย่างอดีตที่ผ่านมา  นี่คือช่วงเวลาดี้ดีค่ะ

-ข้อเท็จจริงที่ปรากฎในทางการเมือง มั่นใจมากๆว่าแก้งค์ขอไข่ต้องกระอักบาดเจ็บจนไม่กล้าถกเถียงได้แต่เลี่ยงไปลงทะเล

-ช่วงนี้มีชาวสลิ่มออกมาเล่นมากขึ้น หรือว่าได้กลิ่นสดชื่นโอโซนในห้องนี้เลยออกมาหายใจกันนะคะ

-มาลารินมั่นใจในกัลยาณมิตรที่เข้ามาพูดคุยด้วยว่ามีความเป็นนักประชาธิปไตยคนจริง ไม่ใช่ไก่กา อย่างที่มีคนยกมือให้ตัวเอง หลงตัวเองที่กำลังเสื่อมลง

-คนที่มีความคิดเห็นเป็นกลางในห้องนี้ก็มีอยู่ไม่น้อยที่ออกมาทักท้วง อธิบาย ให้เหตุผล ไม่นิ่งเฉยมากขึ้น  พูดแล้วคิดถึงคุณเตียวหุยจูล่งมากนะคะ ถ้าได้เห็นบรรยากาศนี้คงไม่หมดกำลังใจ

-มาลารินเชียร์ลุงตู่  เปิดเผยมาตลอด มีคนเข้าใจมากขึ้น มีจุดยืนมั่นคงไม่ได้อวยทิ้งอวยขว้าง ผลงานที่ลุงตู่ทำมีทั้งประสบความสำเร็จและที่ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไม่หยุด เพราะลุงตู่ไม่ใช่เทวดา
แต่มาลารินตามข่าวมา ลุงตู่ทำอะไรไว้ท่านไม่ทอดทิ้งให้เสียของ ท่านพยายามแก้ปัญหาไม่เคยหยุด  ไม่จำเป็นต้องบอกใครทุกเรื่อง

-คนที่มาพูดคุยกับมาลารินในเรื่องใดๆไม่ต้องชอบลุงตู่ทุกคน นี่คือเรื่องที่มาลารินเข้าใจ ทุกคนมีไอดอลในใจตัวเอง คิดเองเป็น  ใครจะชี้นำให้นิ้วหักก็ไม่มีประโยชน์
คนที่มาให้กำลังใจก็มาด้วยความคิดของเขาเองอย่างบริสุทธิ์ มิตรไมตรีนี้แสนมีค่ามากมาย

บอกแล้วว่านี่คือช่วงที่ดีที่สุดเลยค่ะ....หัวใจหัวใจหัวใจหัวใจหัวใจ


มาดูข่าวนี้กันหน่อยนะคะ...โอตะว่าอย่างไร...?อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16


‘รังสีมันต์’หัวร้อน!! ถล่ม‘เฌอปราง’ร่วมพิธีกรเดินหน้าประเทศไทย เสริมภาพลักษณ์‘เผด็จการ’






8 ก.ย.61 นายรังสิมันต์ โรม แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค Rangsiman Rome ระบุว่า “ว่าด้วยเฌอปรางที่เข้าไปรับงานช่วยโปรโมต คสช.”

อันที่จริง ตอนแรกว่าจะไม่พูดอะไรในประเด็นนี้ เพราะไม่ได้นิยมชมชอบอะไรใน BNK รู้สึกเฉยๆมาโดยตลอด จนเห็นบทความของ genonline ว่าด้วย Internet Bully กรณีเฌอปราง ซึ่งพูดพาดพิงถึงผม เลยอยากแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้เสียหน่อย

1. อย่างที่เรารู้กัน ว่าระบอบของ คสช. คือระบอบเผด็จการ เป็นระบอบที่ได้มาจากการยึดอำนาจ จนส่งผลให้บรรดาสิทธิต่างๆของประชาชนถูกกระเทือน เราได้เห็นการคุกคาม การดำเนินคดีต่างๆมากมายในศาลทหารและศาลพลเรือน ย่อมเป็นสิ่งที่รู้ทั่วไปว่าระบอบการปกครองที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้รับการยอมรับ ขนาดที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ เองก็ยังยอมรับว่า ตัวเองมาอย่างไม่ถูกต้อง นี่ยังไม่นับว่าความไม่ถูกต้องเหล่านี้ยังมีแง่มุมอื่นๆที่เกี่ยวพันธ์กับการทุจริตคอรัปชั่น ตลอดจนความพยายามที่จะสืบทอดอำนาจที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในปัจจุบัน

2. ผมไม่คาดหวังว่าคนรุ่นใหม่ หรือคนทั่วๆไป จะต้องมี spirit ทางการเมืองในระดับที่เท่าเทียมกันทุกคน เราต่างรู้ดีว่าที่ประเทศไทยมาถึงจุดนี้ก็เพราะ spirit ของสังคมไทยโดยรวมยังห่างไกลจากจุดที่จะออกมาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอีกมาก ดังนั้นความคาดหวังต่อคนแต่ละคนในเรื่องนี้ ก็ต้องพิจารณาถึงฐานะ การศึกษา อายุด้วย ว่าเราจะเรียกร้อง spirit ในเรื่องนี้มากแค่ไหน

3. อย่างคนที่มีการศึกษา อายุเกิน 20 ปี กำลังศึกษาในชั้นมหาวิทยาลัย การจะคาดหวังกับคนที่อยู่ในสถานะเช่นนี้ย่อมมีความแตกต่างกับคนที่อายุต่ำกว่า 15 ปี ที่เรียนอยู่เพียงชั้น ม.2 ผมคิดว่าสำหรับคนที่เรียน และมีอายุที่มากกว่าย่อมถูกคาดหวังความรู้สึกนึกคิดมากกว่าเป็นธรรมดา ยิ่งเมื่อพิจารณาต่อไปว่า เฌอปรางเองเรียนมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ บรรลุนิติภาวะแล้ว ความคาดหวังที่จะเข้าใจสังคม(อย่างน้อยในระดับนึง) ย่อมมีมากกว่าเด็กอายุ 14 ปี จึงมีมากกว่าเป็นธรรมดา ซึ่งส่วนตัวผมเอง กับคนที่เรียนมหาวิทยาลัย

ผมจะเรียกร้องต่อคนเหล่านี้มากเป็นพิเศษ เพราะคุณควรรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ยิ่งหากนับต่อไปว่าเฌอปรางเองไม่ใช่นิสิตนักศึกษาธรรมดา หากแต่มีโอกาสสัมพันธ์อยู่ในโลกที่มีความสำคัญทางธุรกิจ และต้องรับแรงกดดันมากเป็นพิเศษ เฌอปรางจึงต้องมีรู้ความเข้าใจ รู้ว่าอะไรเป็นอะไรมากกว่าคนอื่นด้วย ความคาดหวังแบบนี้ หากจะเกิดขึ้นก็คงไม่ใช่เรื่องที่ผิดแปลกอะไร

ดังนั้นผมคิดว่าการเรียกร้องให้เฌอปรางไม่เข้าไปเกลือกกลั้วกับอำนาจเผด็จการ โดยใช้ความคาดหวังที่มากกว่าปกติทั่วไปจึงไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร อย่างน้อยๆเราสามารถพูดได้ว่า เฌอปรางรู้แน่ๆว่าสิ่งที่ตัวเองทำกำลังส่งเสริมภาพลักษณ์ของเผด็จการอยู่

4.บางคนอาจจะบอกว่า แล้วเฌอปรางจะมีทางเลือกอะไร เขาก็ต้องรับงานบริษัทที่เป็นเจ้านายของเขาอยู่ดี เรื่องนี้ผมเข้าใจ และมีความเห็นใจเฌอปราง แต่ผมก็เห็นว่า เฌอปรางไม่ใช่ และไม่ควรทำตัวเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งที่ไม่มีความรู้สึกนึกคิด เฌอปรางย่อมรู้ดีว่าอะไรถูกอะไรผิด เฌอปรางย่อมรู้ว่าการเข้าไปมีบทบาทช่วยโปรโมทรัฐบาลเผด็จการย่อมได้รับผลประโยชน์อื่นๆตามมาด้วยเช่นกัน ดังนั้นในแง่นี้เฌอปรางเองก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อการเข้าไปมีส่วนร่วมกับ คสช. ด้วย

ซึ่งหากเฌอปรางรู้สึกไม่อยากรับงานนี้ เฌอปรางก็จำเป็นที่จะต้องต่อสู้กับตัวบริษัทที่เป็นนายจ้างของตัวเองด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้เหล่าโอตะต่อสู้กับบริษัทของคุณเพียงลำพัง ผมเชื่อว่าหากเฌอปรางยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เหล่าโอตะที่เป็นแฟนคลับของคุณย่อมสนับสนุนคุณต่อไป เพราะเหล่าโอตะเขาชอบในตัว Member ไม่ใช่บริษัทหรอก ผมเชื่อจริงๆว่าเหล่าโอตะพร้อมจะยืนหยัดอยู่เคียงข้างคุณเสมอ ไม่ว่าคุณจะยังคงเป็นไอดอลหรือไม่ก็ตาม

5.สุดท้ายนี้ ผมหวังว่า จะไม่เห็นเฌอปรางถ่ายรายการของ คสช. อีกต่อไป การเข้าร่วมกับเผด็จการในวันนี้ของคุณจะเป็นตราบาปสำหรับตัวคุณเอง คุณยังต้องอยู่ในประเทศนี้อีกนาน จุดประสงค์ที่ผมตั้งสเตตัสนี้ ส่วนหนึ่งอยาก Empower ให้เฌอปรางยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้อง

“ผมรู้สึกเสียใจทุกครั้งที่เห็นคนรุ่นพวกเราต้องไปรับใช้เผด็จการ เราต่างรู้ดีว่าอะไรคือสิ่งที่ถูก และสิ่งที่ผิด ผมหวังว่าในฐานะที่อยู่ร่วมรุ่นกับเฌอปราง ไม่อยากเห็นเฌอปรางผิดพลาดไปมากกว่านี้ อย่าให้ประวัติศาสตร์ต้องจดจำวงไอดอลของเมืองไทยกลายเป็นกระบอกเสียงของรัฐเผด็จการเลย หวังว่าสเตตัสนี้เฌอปรางจะได้อ่าน”

http://www.naewna.com/politic/362878

นายอยากเลือตั้งคนนี้..คือตัวอย่างคนละเมิดสิทธิส่วนบุคคลคนอื่น
จะบังคับให้คนคิดเหมือนตัวเอง  ทำอะไรแบบตัวเอง
ตัวเองแย่แล้ว  ยังจะดึงคนอื่นให้แย่ตามอีก
คนรุ่นใหม่หัวใจเผด็จการตัวจริง ไม่ใช่นักประชาธิปไตยที่เอามาอ้าง
ประชาชนเขาจะไตร่ตรองเอง ไม่ต้องออกมาหัวร้อน
รอเลือกตั้งเถอะ..
คอยดูว่าคนส่วนใหญ่จะเลือกเหมือนตัวเองไหม....?
อย่าพาลว่าคนอื่นอีกล่ะ !!!

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่